กราบสวัสดีเพื่อนๆที่ติดตาม Content ของ Zoomcamera ผ่านทางช่องทางของ Facebook และ Youtube ทุกๆท่านด้วยนะครับ Content ก่อนหน้านี้ได้แนะนำเลนส์ตัวที่ 2 สำหรับกล้อง Mirrorless จากค่าย Fujifilm กันไปแล้ว ในวันนี้ขอเอาใจช่างภาพมือใหม่ทางฝั่ง Micro Fourthirds กันบ้าง ไม่ว่าจะเป็น Panasonic หรือ Olympus เชื่อว่าช่างภาพมือใหม่เมื่อได้ทำการซื้อกล้องมา คงอยากจะได้ภาพสวยๆเก็บเอาไว้อย่างแน่นอน แต่ในบางสถานการณ์เลนส์ที่มาพร้อมกับตัวกล้อง หรืออีกชื่อว่า เลนส์คิทนั้นอาจจะไม่สามารถตอบโจทย์ได้ทั้งหมด ทำให้ช่างภาพมือใหม่หลายๆท่านต่างอยากได้เลนส์ตัวใหม่ที่สามารถตอบโจทย์และทดแทนได้ดีกว่าเลนส์คิทนั่นเองครับ แต่ทีนี้เลนส์ตัวถัดไป เพื่อนๆน่าจะมีคำถามอยู่ในหัวกันแน่นอนว่า แล้วเลือกเลนส์อะไรดี ซึ่งวันนี้ทีมงานมี Content มาแนะนำอย่าง ” งบ 20K : เลนส์ตัวที่ 2 ของชาว Micro Fourthirds “ ซึ่งเลนส์ตัวที่ 2 ที่จะแนะนำนั้นมีอะไรบ้าง มาชมกันเลยครับ

* งบ 20K : เลนส์ตัวที่ 2 ของชาว Micro Fourthirds *

อันดับแรกถามตัวเองก่อนว่าเน้นถ่ายอะไร ??

เป็นคำถามลำดับต้นๆของบรรดาช่างภาพมือใหม่ก็ได้ครับ เพราะ บางท่านอาจจะมองแค่ว่าซื้อกล้องมาเพื่อเก็บภาพบันทึกความจำในแต่ละวันเพียงเท่านั้น แต่ละบางท่านที่มี Skill พื้นฐานในการถ่ายภาพอาจจะค้นหาแนวทางในารถ่ายภาพที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ซึ่งการถ่ายภาพในแต่ละรูปแบบนั้น ต่างมีแนวทางที่ค่อนข้างชัดเจน รวมถึงการเลือกใช้งานเลนส์เพื่อให้เหมาะสมกับงานที่เราต้องการด้วยเช่นกันครับ แม้ว่าเลนส์คิทที่มาพร้อมกับตัวกล้องจะเพียงพอในการตอบโจทย์พื้นฐาน แต่อาจจะไม่ได้ตอบโจทย์ในการถ่ายแต่ละรูปแบบนั่นเอง ซึ่งทีมงาน Zoomcamera ก็ได้สรุปออกมาเป็น 4 รูปแบบด้วยกันครับ มาดูกันเลยครับว่า แต่ละรูปแบบนั้นเลนส์อะไรเหมาะสมบ้าง

1. เน้นถ่าย Snap / Street / Food

– Olympus M.Zuiko 12-50 F3.5-6.3 EZ

เลนส์คิตคู่บุญของ Olympus Om-D E-M5 แม้จะไม่ได้ถูกจัดเป็น Set kit ให้กับกล้องทุกรุ่น แต่เจ้า Olympus M.Zuiko 12-50 F3.5-6.3 EZ ก็มีความสามารถที่ดูโดดเด่นกว่าเลนส์คิทด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นทางยาวโฟกัสที่มีระยะ 24-100mm. เทียบเท่าบนกล้อง Fullframe , ความสามารถในการ Zoom ทั้งแบบ Manual หรือ Electronic ได้อย่างสมูธ หรือ จะเป็นความสามารถในด้าน Splash Proof ที่พร้อมจะลุยในสถานการณ์ที่ย่ำแย่ ทั้งจากฝุ่นละออง , ละอองน้ำ , ละอองฝน หรือ ความชื้นต่างๆ ได้เป็นอย่างดี

ทีนี้ด้วยความที่มีช่วงการใช้การที่ยืดหยุ่น ทำให้เหมาะสำหรับเป็นเลนส์ติดกล้อง ที่พร้อมตอบโจทย์ทั้ง Snap , Street หรือ Food ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งสามารถ Zoom ได้ทำให้มีความยืดหยุ่นในการใช้งาน ประกอบกับ Micro Fourthirds นั้น เป็น System ที่มีขนาดเล็กทำให้ตัวเลนส์ไม่เป็นที่น่าสงสัยยามที่เรายกกล้องขึ้นมาถ่ายด้วยนั่นเองครับ

– Olympus M.Zuiko 17 F1.8

เลนส์ขวัญใจชาว Snap / Street / Food ที่แท้ทรูก็ว่าได้ครับ ด้วยทางยาวโฟกัสเทียบเท่ากับ 35mm. บนกล้อง Fullframe ถือว่าเป็นระยะที่เหมาะสำหรับเป็นเลนส์ติดกล้อง เนื่องจากมุมรับภาพไม่ได้กว้างจนเกินไป หรือ แคบจนเกินไปนั่นเอง หากใครนึกภาพตามไม่ออกละก็ ระยะทำการจะใกล้เคียงกับกล้องจาก Smartphone นั่นเองครับ ทำให้แทบไม่ต้องปรับตัวในการใช้งานเลย ซึ่งเรามักจะเห็นเพื่อนๆที่ใช้งานเลนส์รุ่นดังกล่าวถ่ายภาพแทบจะทุกรูปแบบ ทั้งนี้ยังมาพร้อมทีเด็ดอย่างค่ารูรับแสงที่กว้างถึง F1.8 ยิ่งช่วยเพิ่มความสามารถในการถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดียิ่งขึ้น แม้ตัวเลนส์จะไม่มีระบบกันสั่นไหว แต่ขึ้นชื่อ Olympus แล้ว ระบบกันสั่นจากตัวกล้องก็พร้อมทดแทนในส่วนที่ขาดไปได้เป็นอย่างดี

– Olympus M.Zuiko 25 F1.8

เลนส์ระยะ Normal ขวัญใจมหาชนชาว Olympus อย่างแน่นอนครับ ที่เรียกว่าเลนส์ Normal นั้น เพราะ มีระยะเทียบเท่า 50mm. บนกล้อง Fullframe ประกอบกับองศารับภาพนั้นใกล้เคียงกับสายตาที่เรามองเห็นอยู่ หากนึกภาพไม่ออกละก็ ลองนำตามองผ่านช่องมองภาพ แล้ว ตาอีกข้างมองสิ่งที่อยู่ตรงหน้า จะเห็นว่าองศารับภาพใกล้เคียงกันสุดๆครับ ทั้งนี้ระยะเทียบเท่า 50mm. ดูจะเหมาะกับการถ่าย Food ได้เป็นอย่างดีครับ ทั้งระยะโฟกัสและระยะ Close-Up ที่แทบจะประชิดกับอาหารที่เราจะถ่ายเลยทีเดียว นอกจากนี้ค่า F1.8 ก็ยังอำนวยให้การถ่ายภาพในที่แสงน้อยทำได้ดียิ่งขึ้นอีกไป เนื่องจากร้านอาหารบางร้านสภาพแสงอาจจะดูมืดๆทึมๆไปบ้างนั่นเองครับ

– Olympus M.Zuiko 30 F2.8 Macro

เพื่อนๆบางท่านอาจจะสงสัย ว่า Olympus M.Zuiko 30 F2.8 Macro ทำไมเข้ามาอยู่ใน Choice กลุ่มนี้ด้วย จริงๆแล้วการถ่ายภาพอาหาร หรือ Food ที่เรามักพบเจอใน Social นั้น ส่วนมากจะนิยมถ่ายแบบเต็มๆเฟรม หรือ เห็น 2/3 ของภาพ ทั้งนี้ยังมีการถ่าย Food แบบ Close-Up ด้วยเช่นกันครับ การ Close-Up อาหารนั้น ส่วนมากจะเน้นให้เห็นรายละเอียดบนตัวอาหารให้ดูรายละเอียดยิ่งขึ้น หรือ ส่วนประกอบที่ใช้ในการปรุงอาหารอย่าง เกล็ดน้ำตาล , พริก , เกลือ ที่มีขนาดเล็กมากจนตาเราไม่สามารถมองเห็นรายละเอียดต่างๆได้อย่างชัดเจน ฉะนั้นจึงไม่แปลกว่า Olympus M.Zuiko 30 F2.8 Macro จึงเข้ามาอยู่ใน Choice นี้ด้วยเช่นกันครับ

– Panasonic Leica Summilux 15 F1.7 DG

เลนส์มหาชนของชาว Lumix อีก1 รุ่น มาพร้อมทางยาวโฟกัสเทียบเท่า 30mm. บนกล้อง Fullframe อาจจะดูกว้างกว่าระยะ 35mm. ซักเล็กน้อย แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใด ความพิเศษของเลนส์รุ่นนี้เป็นการร่วมกันระหว่าง Panasonic และ Leica ซึ่ง Leica ถือเป็นแบรนด์ยักษ์ใหญ่ที่มีกล้องและเลนส์เป็นของ รวมถึงอัตลักษณ์เฉพาะทางของเลนส์แต่ละรุ่นอยู่ด้วยนั่นเองครับ ซึ่งกลุ่มเลนส์ Panasonic Leica Series พร้อมจะถ่ายทอดความใส ความหวาน รวมถึงความคมที่เป็นธรรมชาติให้กับผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดีครับ นอกจากนี้ที่ตัวเลนส์ยังมาพร้อมแหวนค่ารูรับแสงให้ผู้ใช้งานปรับค่า F ได้ที่ตัวเลนส์ทันที แต่ทั้งนี้ Feature ดังกล่าวจะทำงานเฉพาะบน Body Panasonic เท่านั้นนะครับ และไม้เด็ดที่สุดนั้น ยังมาพร้อมกับค่ารูรับแสงที่กว้างถึง F1.7 ทำให้เป็น Choice ทางเลือกแรกๆสำหรับเพื่อนๆที่ต้องการเลนส์ติดกล้องในวันเบาๆ แต่มีคุณภาพสูง

– Panasonic Leica Summilux 25 F1.4 DG

” ใครไม่มี แม่ตีตาย ” อาจจะเป็นวลีที่ใช้กับเลนส์ตัวนี้ได้เป็นอย่างดี สำหรับเจ้า Panasonic Leica Summilux 25 F1.4 DG จัดว่าเป็นเลนส์ระยะ Normal ขวัญใจมหาชนชาว Micro Fourthirds มาหลาย Generation แล้วก็ว่าได้ครับ ด้วยทั้งระยะเทียบเท่ากับ 50mm. บนกล้อง Fullframe และ มาพร้อมค่ารูรับแสงที่กว้างถึง F1.4 จึงไม่แปลกใจว่า หากจะพูดถึงเลนส์ที่มีคนกล่าวขานถึง ต้องมี Panasonic Leica Summilux 25 F1.4 DG ติดโผมาอย่างแน่นอนครับ เป็นเลนส์ที่เก่งในหลายๆด้านไม่ว่าจะเป็น Snap , Street , Food หรือ Portrait ก็สามารถทำได้เช่นกันครับ อีกทั้งการแปะตรา Leica ไว้ ยิ่งการันตีได้ว่า คุณภาพของภาพที่เราจะได้ออกมานั้นสมราคาค่าตัวแน่นอนครับ

– Panasonic Lumix G 20 F1.7 II

เลนส์แพนเค้กในตำนานของ Panasonic ก็ว่าได้ครับ เพราะ เป็นอดีตเลนส์คิทที่เคยเปิดตัวออกมาพร้อมกับ Panasonic Lumix GF1 นั่นเองครับ โดยปัจจุบันที่วางจำหน่ายอยู่นั้นเป็นเลนส์รุ่นที่ 2 แล้ว แต่ Optic หรือ Performance ต่างๆ ยังสมคำร่ำรือ โดยเฉพาะความคมนั้น คมกริบมาก คมตั้งแต่ F1.7 เลยทีเดียวครับ ประกอบกับมีขนาดเล็ก กะทัดรัด เล็กเทียบเท่ากับเลนส์คิทก็ว่าได้ครับ ทำให้เพื่อนๆหลายท่านนำมาติดกล้องแทนเลนส์คิทไปโดยปริยาย

– Panasonic Lumix G 30 F2.8 Macro OIS

บางท่านอาจจะสงสัยว่าทำไมทีมงานถึงแนะนำเลนส์ Macro มาใน Choice สำหรับถ่าย Street , Snap , Food แต่บอกก่อนว่าหน้าที่ของเลนส์ Macro นอกเหนือจากถ่ายของสิ่งเล็กๆแล้วนั้น เลนส์ Macro มักจะมาพร้อมกำลังขยายที่สูงกว่าเลนส์ทั่วๆไป โดยเฉพาะการ Close-Up ยิ่ง Close-Up ได้มากเท่าไร ยิ่งถ่ายทอดรายละเอียดต่างๆได้เป็นอย่างดีด้วยนั่นเองครับ สำหรับ Panasonic Lumix G 30 F2.8 Macro OIS นั้น หากจะนำมาถ่ายภาพอาหาร หรือ Food นั้น อาจจะเน้นเป็นการถ่ายเจาะรายละเอียดเฉพาะส่วนลงไป หรือ ส่วนประกอบต่างๆที่เราต้องการถ่ายทอดรายละเอียดเชิงลึกภายในออกมาให้เห็นเด่นชัด อย่าง เม็ดพริก , น้ำตาล เป็นต้น

– Sigma 16 F1.4 DC DN

เลนส์ Third Party จากค่ายอิสระอย่าง Sigma โดยทาง Sigma ได้มีการทำเลนส์ในตระกูล DC ซึ่งออกแบบสำหรับใช้งานกับกล้อง Mirrorless ทั้ง Micro Fourthirds และ APS-C โดยเจ้า Sigma 16 F1.4 DC DN คือ 1 ในนั้นครับ ความโดดเด่นนั้น คงจะหนีไม่พ้นค่ารูรับแสงที่กว้างถึง F1.4 ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกเวลาถ่ายในสภาพแสงน้อยนั่นเองครับ ส่วนทางยาวโฟกัสนั้นเทียบเท่า 32mm. บนกล้อง Fullframe วึ่งตอบโจทย์สำหรับการถ่ายแนว Street , Snap หรือ Food ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้อัตลักษณ์ของเลนส์ Sigma นั้น คือ ความคม ที่พร้อมจะขุดคุ้ย Detail ต่างๆออกมาได้อย่างน่าอัศจรรย์ ใครที่ชอบของมีคมละก็ ห้ามพลาด Sigma นะครับ

2. เน้นถ่าย Landscape / Cityscape

– Olympus M.Zuiko 12-50 F3.5-6.3 EZ

เข้ามาเป็น Choice อีกที่หนึ่งนะครับ สำหรับ Olympus M.Zuiko 12-50 F3.5-6.3 EZ ด้วยความที่ระยะช่วง Wide นั้นเริ่มที่ 12mm. เทียบเท่ากับ 24mm. บนกล้อง Fullframe ซึ่งในช่วง Wide นี้ การที่ Wide เพิ่มขึ้นเพียง 1 – 2 mm. นั้นก็ส่งผลถึงมุมมองหรือองศารับภาพด้วยนั่นครับ ยิ่งมุมรับภาพกว้างขึ้น ยิ่งเพิ่มโอกาสในการเก็บภาพต่างๆได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะกับการถ่าย Landscape ยิ่งมีเลนส์ที่มีองศารับภาพกว้างอยู่กับตัวด้วยแล้ว ยิ่งเพิ่มโอกาสในการเก็บภาพที่มีความอลังการได้ดียิ่งขึ้น ทั้งนี้แม้ว่า Olympus M.Zuiko 12-50 F3.5-6.3 EZ จะไม่ใช่เลนส์ Wide , Ultra Wide ก็ตามที แต่ก็สามารถทดแทนในบางสถานการณ์ได้ครับ

– Olympus M.Zuiko 17 F1.8

โดยปกติเราจะคิดว่าการถ่ายภาพแนว Landscape / Cityscape นั้น จะต้องใช้แต่เลนส์ Wide , Ultra Wide เพียงอย่างเดียว ซึ่งก็เป็นเรื่องจริง แต่ทั้งนี้ใช่ว่าจะต้องเป็นเลนส์ Wide เสมอไป เพราะ ในบางสถานที่นั้นเมื่อเราใช้เลนส์ Wide ภาพที่ได้อาจจะโหลงเหลง ชวนเหงาไปถนัดตา ดังนั้นอีกทางเลือก คือ เลนส์ในช่วง Normal ซึ่งหากเป็นค่าย Olympus ขอแนะนำเป็น Olympus M.Zuiko 17 F1.8 เลนส์ Fixed เกรด Premium ที่มีความโดดเด่นโดยเฉพาะค่ารูรับแสงที่กว้างถึง F1.8 ซึ่งนอกจากจะถ่าย Landscape / Cityscape ได้แล้วนั้น ค่า F1.8 ยังช่วยอำนวยความสะดวกในการถ่าย Landscape ในระดับ Advanced มากขึ้นอย่าง Nightscape , Startrail , Milky Way ได้เป็นอย่างดีด้วยครับ

– Panasonic Leica Summilux 15 F1.7 DG

ข้ามมาที่ฝั่งของ Panasonic กันบ้างครับ หากเพื่อนๆต้องการจะถ่าย Landscape / Cityscape แต่งบจำกัดอยู่เพียง 20k แล้วละก็ ทีมงานขอแนะนำ Panasonic Leica Summilux 15 F1.7 DG ครับ เนื่องจากว่า ระยะเทียบเท่า 30mm. บนกล้อง Fullframe แม้อาจจะไม่ได้ Wide เหมือนกับเลนส์ Ultra Wide ก็ตามที แต่ไม้เด็ดที่ทำให้เจ้า Panasonic Leica Summilux 15 F1.7 DG ติดเข้าชาร์ตมานั้น คงจะหนีไม่พ้นเรื่องค่ารูรับแสง ที่กว้างถึง F1.7 ซึ่งช่วยให้เราถ่ายภาพในสภาพแสงน้อยได้เป็นอย่างดี แม้ว่าตัวเลนส์จะไม่มีระบบกันสั่นไหว แต่เมื่อใช้งานบนกล้อง Olympus หรือ Panasonic ที่มีระบบกันสั่นไหว เพื่อนๆแทบจะไม่ต้องใช้ขาตั้งกล้องกันเลยทีเดียว และ ยังเพิ่มทางเลือกที่นอกเหนือจากการถ่าย Landscape / Cityscape ได้เพิ่มขึ้น ทั้งการถ่าย Nightscape , Startrail หรือ Milkyway ได้เป็นอย่างดีด้วยครับ

– Panasonic Lumix G 20 F1.7 II

เห็นเป็นเลนส์แพนเค้ก แต่คุณภาพไม่เล็กนะเออ เจ้า Panasonic Lumix G 20 F1.7 II นั้น แม้จะมีระยะเทียบเท่า 40mm. บนกล้อง Fullframe อาจจะเป็นเลนส์ในช่วง Normal ซะมากกว่า แต่ทีทีมงานเลือกเเจ้านี่ส่งเข้าประกวดนั้น ด้วยเหตุผลที่ว่าค่า F ครับ ค่า F 1.7 ในราคาไม่เกิน 20k และ เป็นเลนส์ในช่วงเกือบ Wide นั้น แทบจะไม่มีตัวเลือกเลยก็ว่าได้ครับ แม้จะเป็นเลนส์ Normal แต่ก็พร้อมถ่ายได้ทั้ง Landscape / Cityscape / Nightscape , Startrail หรือ Milkyway ได้เช่นกัน

– Sigma 16 F1.4 DC DN

แม้ว่าทาง Sigma จะทำเลนส์สำหรับกล้อง Mirrorless ออกมาแล้ว แต่ก็ยังไม่มีเลนส์ Wide หรือ Ultra Wide แต่อย่างใดครับ ทั้งนี้เจ้า Sigma 16 F1.4 DC DN ก็สามารถตอบโจทย์ในการถ่าย Landscape / Cityscape / Nightscape , Startrail หรือ Milkyway ได้เช่นกัน แม้ว่าทางยาวโฟกัสจะเทียบเท่า 32mm. บนกล้อง Fullframe แต่จุดเด่นที่สุดในราคาไม่เกิน 20k นั้น เห็นจะเป็นค่ารูรับแสงครับ เพราะมาพร้อมกับค่า F1.4 ซึ่งทำให้เจ้า Sigma 16 F1.4 DC DN มีความเก่งกาจและต่อกรในการถ่ายภาพในสภาพแสงน้อยได้ดียิ่งขึ้นนั่นเองครับ

3. เน้นถ่าย Portrait

– Olympus M.Zuiko 45 F1.8

” เลนส์มหาชน ชาว Portrait ” จะบอกชื่อนี้ก็คงไม่ผิดซักเท่าไรนัก สำหรับเจ้า Olympus M.Zuiko 45 F1.8 มาพร้อมทางยาวโฟกัสเทียบเท่า 90mm. บนกล้อง Fullframe ซึ่งจัดว่าเป็นช่วงที่เหมาะสำหรับการ Portrait ทีเดียวเชียวครับ พร้อมทั้งยังมีค่ารูรับแสง F1.8 แน่นอนว่าสามารถสร้าง Effect ในการเบลอชัดหลัง รวมถึงโบเก้ได้อย่างสวยงามลงตัว และ เจ้า Olympus M.Zuiko 45 F1.8 มีขนาดที่เล็ก กะทัดรัด พกพาสะดวกมาก ซึ่งเป็นผลมาจากระบบ Micro Fourthirds นั่นเองครับ ถือว่าเป็นเลนส์ในลำดับต้นๆที่ชาว Olympus น่าจะจับจองเป็นเจ้าของ ถ้าเน้นการถ่าย Portrait ครับ

– Panasonic Leica Summilux 25 F1.4 DG

” ของมันต้องมี ” นิยามนี้อาจจะไม่ผิดคาดซักเท่าไรนัก สำหรับเลนส์มหาชนคู่ขวัญของระบบ Micro Fourthirds อย่าง Panasonic Leica Summilux 25 F1.4 DG ที่ดูจากทางยาวโฟกัสแล้ว อาจจะดูเหมือนเลนส์ระยะ 50mm. ทั่วๆไป แต่ความพิเศษที่ซ่อนอยู่นั้น คือ ตรา Leica ที่ประทับไว้นั่นเองครับ ซึ่งเกิดจากความร่วมมือกันของ Panasonic และ Leica ในการผลิตเลนส์ขึ้นมือ โดยอยู่ในความดูแลและควบคุมคุณภาพของ Leica แน่นอน ชื่อชั้นของ Leica แบรนด์สัญชาติเยอรมัน ไม่ทำให้ผิดหวังอย่างแน่นอน โดยเฉพาะโทนสีที่มีความเป็นธรรมชาติ ออกโทนหวานๆ รวมถึงความใสเคลียร์ของภาพที่ได้ รวมถึงค่ารูรับแสงที่กว้างมากถึง F1.4 ที่จะทำให้ถ่ายในที่แสงน้อยได้เป็นอย่างดียิ่งขึ้น แม้ว่าเจ้า Panasonic Leica Summilux 25 F1.4 DG อาจจะไม่ใช่เลนส์สำหรับการถ่าย Portrait โดยตรงก็ตามทีครับ

– Panasonic Lumix G 42.5 F1.7 OIS

” เล็กพริกขี้หนู ” ใครจะไปเชื่อว่าเลนส์ที่มีระยะเทียบเท่า 85mm. บนกล้อง Fullframe จะมีขนาดที่เล็ก กะทัดรัด เทียบเท่ากับเลนส์คิทก็ว่าได้ครับ แน่นอนว่าทางยาวโฟกัสระยะดังกล่าว เหมาะสำหรับการถ่าย Portrait ได้อย่างลงตัวครับ มาพร้อมค่ารูรับแสงกว้างถึง F1.7 ก็เพียงพอสำหรับการถ่าย Portrait ที่จะสร้าง Effect หน้าชัด หลังเบลอ พร้อมโบเก้ ได้ในระดับหนึ่งครับ นอกจากนี้แม้ตัวเลนส์จะมีขนาดที่เล็ก แต่ภายในก็มีระบบกันสั่นติดมาด้วยนะครับ โดยระบบกันสั่นของ Panasonic Lumix G 42.5 F1.7 OIS นั้น สามารถทำงานควบคู่กับระบบกันสั่นภายในตัวกล้อง หรือ ความสามารถ Dual IS ได้เป็นอย่างดีครับ

– Sigma 30 F1.4 DC DN

” ของมีคม ” นิยามนี้ที่แท้ทรู สำหรับเจ้า Sigma 30 F1.4 DC DN นั้น เป็นเลนส์ที่ทาง Sigma ออกแบบสำหรับใช้งานร่วมกับกล้อง Mirrorless เป็นรุ่นแรกที่มีค่ารูรับแสงกว้างถึง F1.4 ประกอบกับทางยาวโฟกัสเทียบเท่า 60mm. บนกล้อง Fullframe จึงไม่แปลกที่จะเห็นเพื่อนๆนำมาถ่าย Portrait กัน ด้วยระยะที่ไม่ต้องถอยไกลจากแบบมากนัก และ อัตลักษณ์ของเลนส์ Sigma นั้น คือ ความคม โดยที่ความคมนั้นมาตั้งแต่ F1.4 โดยทันทีครับ แต่ทั้งนี้ถ้าหากนำมาถ่าย Portrait อาจจะต้องลด Sharpness ลงบ้าง ไม่งั้นนางแบบมีเคืองแย่เลยนะครับ

– Sigma 56 F1.4 DC DN

เลนส์ใหม่แกะกล่องจากค่าย Sigma ที่เปิดวางจำหน่ายในช่วง Photofair 2018 ที่ผ่านมาครับ ซึ่งเจ้า Sigma 56 F1.4 DC DN ก็มีให้เลือกใช้งานทั้ง Sony E-Mount และ Micro Fourthirds ซึ่งหากนำมาใช้งานบนกล้อง Mirrorless ในระบบ Micro Fourthirds จะมีทางยาวโฟกัสเทียบเท่า 112mm. บนกล้อง Fullframe แต่มีขนาดที่เล็ก เบากว่าอย่างเห็นได้ชัดครับ ทีเด็ดของ Sigma 56 F1.4 DC DN นั้น คือ ค่ารูรับแสงที่กว้างถึง F1.4 เมื่อประกอบกับทางยาวโฟกัสแล้ว จึงถูกจัดอยู่ในกลุ่มเลนส์ Portrait ไปโดยปริยาย แม้จะมีขนาดที่เล็กกะทัดรัด แต่ Optic ภายในต้องบอกว่าจัดเต็ม ซึ่งทาง Sigma เคลมว่า Performance ของภาพที่ได้เทียบเท่ากับกลุ่มเลนส์ Art เลยทีเดียวครับ

4. เน้นถ่าย Macro

– Olympus M.Zuiko 30 F2.8 Macro

” เลนส์ Macro ที่ Focus ไวที่สุด ” นี่คือนิยามของเลนส์ Macro รุ่นนี้ สำหรับเจ้า Olympus M.Zuiko 30 F2.8 Macro ถือเป็นเลนส์ Macro น้องเล็กสุดในตระกูลเลนส์ M.Zuiko มาพร้อมทางยาวโฟกัสเทียบเท่า 60mm. บนกล้อง Fullframe ซึ่งก็ถือว่าเป็นระยะที่เคยมีบนกล้องฟิล์มนั่นเองครับ ความเด็ดขาดของ Olympus M.Zuiko 30 F2.8 Macro นั้น นอกจากเรื่อง Focus ที่ไวแทบจะที่สุดในกลุ่มเลนส์ Macro ด้วยกันแล้ว ยังมาพร้อมการ Focus ที่ใกล้มากครับ โดยสามารถ Close-Up ได้ใกล้ถึง 9.5 cm. ( นับจากตำแหน่ง Subject มาที่ Sensor ) พร้อมด้วยกำลังขยาย 1.25x ที่จะถ่ายทอด Subject ที่มีขนาดเล็กนั้น ออกมาได้อย่างเต็มตา น่าสนใจมากยิ่งขึ้นไปด้วยนั่นเองครับ

– Olympus M.Zuiko 60 F2.8 Macro

เลนส์ Macro ระดับจริงจัง สำหรับชาว Micro Fourthirds ไม่ว่าจะเป็น Olympus หรือ Panasonic ครับ ด้วยระยะเทียบเท่า 120mm. บนกล้อง Fullframe ซึ่งอาจจะดูไกลไปซักเล็กน้อย แต่กลับงาน Macro แล้ว ยังมีประโยชน์ซ่อนอยู่นะครับ เพราะ ทำให้เราไม่ต้องเข้าประชิด Subjct มากเกินไปด้วยนั่นเอง แม้จะเป็นระยะ Close-Up แล้วก็ตามที สิ่งที่ดูจะแตกต่างจาก Olympus M.Zuiko 30 F2.8 Macro นั้น เห็นจะเป็นสวิตซ์สลับ Mode ที่อยู่บนตัวเลนส์ โดยที่ว่าเจ้า Olympus M.Zuiko 60 F2.8 Macro สามารถตั้งได้ 4 รูปแบบ ซึ่งเลือกได้ว่าจะถ่ายแบบ 1:1 , แบบ Close-Up ใกล้สุด 19cm. , ถ่ายทั่วไป หรือ ถ่าย Landscape เป็นต้น รวมถึงยังมาพร้อมกับ Weather Seal ที่พร้อมจะให้เจ้า Olympus M.Zuiko 60 F2.8 Macro สามารถใช้งานได้ในสถานการณ์ที่ย่ำแย่ ทั้งละอองน้ำ , ละอองฝุ่น ซึ่งงาน Macro ที่จริงจังแทบจะเลี่ยงเรื่องดังกล่าวได้ค่อนข้างยากนั่นเองครับ

– Panasonic Lumix G 30 F2.8 Macro

Macro น้องเล็กจากค่าย Panasonic แม้จะมีขนาดเล็ก กะทัดรัด แต่พิษสงนั้นจัดเต็มเช่นกันครับ มาพร้อมทางยาวโฟกัสเทียบเท่า 60mm. บนกล้อง Fullframe แต่สิ่งที่เพื่อนๆที่สนใจงาน Macro มักจะพิจารณาเป็นลำดับต้นๆนั้น จะเป็นในส่วนของการ Close-Up โดยเจ้า Panasonic Lumix G 30 F2.8 Macro สามารถ Focus ได้ใกล้มากสุดถึง 10.5 cm. เลยทีเดียวครับ รวมถึงอีกไม้เด็ดที่ถูกบรรจุมาด้วยนั้น คือ ระบบกันสั่นไหว Mega O.I.S ที่พร้อมจะลดอาการสั่นไหวขณะถ่ายได้เป็นอย่างดี โดยทั้งนี้หากนำมาใช้งานควบคู่กับ Body Panasonic ก็จะได้รับความสามารถเพิ่มอย่าง Dual IS ที่จะทำห้ระบบกันสั่นทำงานควบคู่กับในกล้องและเลนส์นั่นเองครับ

*** สอบถามเพิ่มเติม ***

inbox : http://www.facebook.com/messages/zoomcamera

02-635-2330 ต่อ 0 / 083-067-7677 (หยุดวันอาทิตย์)

สาขาสีลม 02-635-2330-1 / 080-271-2772

สาขาเดอะมอลล์งามวงศ์วาน 02-951-8597 / 085-937-0123

สาขาเมกาบางนา 02-105-1926 / 086-554-1919

สาขาเดอะมอลล์บางแค 02-454-9598 / 084-033-0498

สาขาฟอร์จูนทาวน์ 02-642-1291 / 083-068-2775

สาขา Central Festival เชียงใหม่ 052-068-787 / 096-878-4896

สาขา Central Westgate 02-060-4362 / 097-063-4328

สาขา Central Festival หาดใหญ่ 095-702-7585

งบ 20K เลนส์ตัวที่ 2 ของชาว Micro Four thirds Leave a comment