สรุปฟีเจอร์ Panasonic Lumix S5 น่าสนใจ ใช้งานได้จริง Leave a comment

Panasonic Lumix S5 กล้อง Mirrorless Fullframe รุ่นใหม่ล่าสุดจาก Panasonic ที่เปิดตัวไปสดๆร้อนๆ พร้อมเรียกเสียงฮือฮากับบรรดา User ของ Lumix S Series ได้เป็นอย่างดี ด้วย สเปคและฟีเจอร์ Panasonic Lumix S5 ที่ถูกอัพเกรดความสามารถให้น่าใช้งานมากยิ่งขึ้น ซึ่งใน Content ทีมงานได้รวบรวม ฟีเจอร์ Panasonic Lumix S5 ที่น่าสนใจมาให้เพื่อนๆได้ดูกันครับ ว่า มีอะไรบ้าง

Content ที่เกี่ยวข้องกับ Panasonic S5

• เปรียบเทียบ Panasonic Lumix S5 vs EOS R6 vs Sony A7 III

Introduction : Panasonic Lumix S5

Hands On : Lumix S5

สเปค Panasonic Lumix S5

• Pansonic Lumix S5 เป็นกล้อง Mirrorless Fullframe L-Mount
• มาพร้อม Sensor ความละเอียด 24 Megapixels
• ระบบกันสั่นแบบ 5 แกน เคลมสูงสุดที่ 5 – 6.5 Stops พร้อมรองรับ Dual IS
• ระบบ Focus แบบ CDAF พร้อมฟีเจอร์ DFD AF มีจำนวนจุด Focus 225 จุด
• ฟีเจอร์ระบบ Focus เลือกใช้งานได้ทั้ง Eye AF / Body AF และ Animal AF
• จอ LCD แบบ Vario Angle ขนาด 3.0″ ความละเอียด 1,840,000
• ช่องมองภาพ แบบ OLED ความละเอียด ความละเอียด 2,360,000
• รองรับการถ่าย Video 4K และ FHD พร้อม Mode S&Q ( Slow & Quick )
• ขนาดไฟล์ Video 4K สูงสุดที่ 60p
• รองรับการถ่าย Video Anamorphic 4K และ Anamorphic FHD
• ฟีเจอร์ Dual Native ISO เพื่อเพิ่มขีดความสามารถให้กับงาน Video ได้ดียิ่งขึ้น
• Shutter Speed อยู่ที่ 1/8000 – 60″ sec.
• Port เชื่อมต่อ ไม่ว่าจะเป็น microHDMI , mic 3.5 , headphone และ usb type-c
• แบตเตอรี่ พร้อมประจุไฟ 2,200 mAh ถ้าภาพต่อเนื่องได้สูงสุด 470 ภาพ
• น้ำหนักสุทธิ 715 กรัม ( Body + Batt )
• ราคาประมาณการ 2,000 us ( เฉพาะ Body )

รวมฟีเจอร์ Panasonic Lumix S5 น่าสนใจ

สำหรับ Panasonic S5 ถือเป็น กล้อง Mirrorless Fullframe รุ่นใหม่ ที่ถูกว่า Segment อยู่ในระดับเทียบเคียงกับ Lumix S1 เลยทีเดียวครับ เนื่องจาก สเปค Lumix S5 บางอย่างมีการ import มาจาก Lumix S1 นั่นเอง แต่ในด้าน ฟีเจอร์ Panasonic Lumix S5 นั้น มีบางอย่างที่ถูกเพิ่มเติมเข้ามา รวมถึงบางอย่างได้รับอัพเกรดให้มีความสามารถทัดเทียมกับ Panasonic Lumix S1H ที่ซึ่งเป็น Flagship ของ S Series เลยทีเดียว

จอ LCD แบบ Vari-Angle บนกล้อง Mirrorless Fullframe

ถ้าพูดถึงจอ LCD แบบ Vari-Angle เพื่อนๆอาจจะงงว่า มันคือจอแบบใด ถ้าบอกว่าเป็นจอที่ออกแบบในลักษณะที่สามารถพับ หมุน บิดตัวจอ LCD ได้นั่นเอง ซึ่งจะแตกต่างจาก จอ Tilt ที่ไม่สามารถพับมาด้านหน้าได้นั่นเอง ทั้งนี้จอ LCD แบบ Vari-Angle จึงมีความยืดหยุ่นสูงเมื่อนำมาใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นงานภาพนิ่งก็ดี หรือ งาน Video ในลักษณะ VLOG ก็สะดวกไม่แพ้กันครับ

ทั้งนี้ในกลุ่ม กล้อง Mirrorless Fullframe ที่วางจำหน่ายในตลาด ส่วนมากจะมาพร้อมกับ จอในลักษณะแบบ Tilt เป็นส่วนใหญ่ ยกเว้น กล้อง Mirrorless Fullframe บางรุ่น อาทิ Panasonic Lumix S1H และ Panasonic Lumix S5 ที่ได้เปลี่ยนมาใช้งาน จอแบบ Vari-Angle เป็นที่เรียบร้อย ส่วนหนึ่งมองว่าเพื่อตอบโจทย์การทำงานด้าน Video มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกับ Lumix S5 ที่ดูก้าวข้ามรุ่นพี่อย่าง Lumix S1 และ Lumix S1R ที่ใช้จอแบบ Tilt นั่นเองครับ

จอ Vari-Angle รองรับ Full Touchscreen เต็มระบบ

Panasonic S5 รองรับระบบ Touchscreen แบบ Full Touchscreen ไม่ว่าจะเป็นการ Touch AF , Touch Shutter , Touch Menu รวมไปถึงการ Touch & Drag ได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งในกลุ่มกล้อง Mirrorless Fullframe ด้วยกัน ยังหาตัวเลือกที่ใช้จอลักษณะนี้ได้น้อยอยู่นั่นเอง

ระบบ Focus ที่รองรับ Eye AF , Animal AF พร้อมระบบ Ai

สำหรับ Panasonic S5 มาพร้อมกับ ระบบ Focus แบบ CDAF ( Contrast Detection Auto Focus ) พร้อมกับฟีเจอร์เสริมอย่าง DFD AF ( Depth From Defocus ) ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการโฟกัสได้ดียิ่งขึ้น และ แม่นยำมากขึ้น อีกทั้งมีจุด Focus จำนวน 225 จุด กระจายรอบ Sensor แม้ว่าระบบ Focus ของ Lumix S5 จะไม่ใช่แบบ Hybrid AF ก็ตามทีครับ

กล้อง Mirrorless Fullframe ในระบบ S Series ไม่ว่าจะเป็น Lumix S1 , Lumix S1R , Lumix S1H รวมถึงน้องใหม่อย่าง Lumix S5 ก็ได้มีการบรรจุฟีเจอร์ในระบบ Focus อย่าง Eye AF , Animal AF รวมไปถึง ระบบ ai ที่ช่วยในการคำนวนและคิดวิเคราะห์แทนผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ในส่วนของความเร็ว ความแม่นยำ และ การ Tracking ขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของเลนส์ที่นำมาใช้ด้วยนะครับ รวมถึงสภาวะแวดล้อมก็มีผลเช่นกัน โดยเฉพาะสภาพแสงน้อย ที่อาจจะลดทอนขีดความสามารถในการหาโฟกัสลงไปด้วยเช่นกัน

น่าเสียดายที่ Lumix S5 ไม่ได้ใช้ Focus แบบ PDAF

ระบบ Focus แบบ Hybrid ซึ่งมีขีดความสามารถที่สูงกว่า CDAF ใน Lumix S Series โดยเฉพาะเรื่อง Hunting Focus ที่ CDAF มักจะพบได้เจอได้บ่อยกว่า อีกทั้งเมื่อใช้กับการถ่าย Video การ Re-Focus จากจุดหนึ่ง ไปอีกจุดหนึ่ง ต้องใช้เวลาซักเล็กน้อย ไม่ได้รวดเร็วเหมือน PDAF นั่นเอง ซึ่งต้องมาดูกันว่า Lumix S5 จะมีการปรับปรุงแก้ไขมามากน้อยเพียงใด

ระบบกันสั่น 5 แกน รองรับ Dual IS เคลมสูงสุด 6.5 Stops

กล้อง Mirrorless หลายๆรุ่น ต่างก็เริ่มมีการบรรจุ Feature อย่าง ระบบกันสั่น 5 แกน ติดตั้งไว้ภายในตัวกล้อง ซึ่ง กล้อง Panasonic Lumix S5 ก็ติดตั้งระบบกันสั่นมาให้ด้วยเช่นกัน โดยความสามารถของกันสั่นใน Body จะช่วยลดอาการสั่นไหว เวลาที่เราถ่ายภาพนิ่งและวิดิโอ โดยพื้นฐานจะลดได้ตั้งแต่ 5 Stops ไปจนถึง 6.5 Stops ด้วยกัน ขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพในกล้องแต่ละรุ่น รวมถึงการทำงานร่วมกันระหว่างระบบกันสั่นในกล้อง กับ ระบบกันสั่นในเลนส์ด้วยเช่นกันนะ

ใน กล้อง Mirrorless ของ Panasonic มาพร้อม Feature ที่เพิ่มขีดความสามารถให้กับระบบกันสั่น 5 แกน อย่าง Dual IS ที่จะช่วยให้ระบบกันสั่น 5 แกน ทำงานไปพร้อมๆกับระบบกันสั่นในตัวเลนส์ ส่งผลให้ประสิทธิภาพจะเพิ่มสูงขึ้น จาก 5 Stops เพิ่มขึ้นมากถึง 6.5 Stops ด้วยกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเลนส์ที่นำมาใช้ ที่จะต้องรองรับ Dual IS ด้วยเช่นกัน

Dual IS กับการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับระบบกันสั่น

โดยปกติ ระบบกันสั่น ไม่ว่าจะเป็นระบบกันสั่นภายในตัวกล้องก็ดี หรือ ระบบกันสั่นภายในตัวเลนส์ก็ดี มักจะทำงานที่อิสระต่อกัน ซึ่งในอดีตหากเราเปิดระบบกันสั่นพร้อมกันทั้ง 2 ที่ ระบบกันสั่นอาจจะมีอาการแแปลกๆที่ส่งผลต่อภาพของเราได้เช่นกัน ทำให้ค่ายกล้องในปัจจุบัน จึงมีการพัฒนาระบบกันสั่นที่จะสามารถเปิดใช้งานไปควบคู่กันได้ โดยมีชื่อเรียกที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็น Dual IS หรือ Sync IS เป็นต้น

High-Res Shot กับ ความละเอียกภาพนิ่งที่ 96 megapixels บน Fullframe

Panasonic นอกเหนือจะโดดเด่นในงาน Video เป็นซะส่วนใหญ่ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะทิ้งพื้นฐานภาพนิ่งไปซะทีเดียว โดย Panasonic Lumix S5 มาพร้อม Sensor ขนาด Fullframe ความละเอียด 24 Megapixels ที่เป็น Base มาตรฐานในปัจจุบันไปซะแล้ว ซึ่งความละเอียดดังกล่าว ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานทั้งงานทั่วๆไปและงานระดับซีเรียสละครับ

นอกจากนี้ Panasonic Lumix S5 ก็มีฟีเจอร์เสริมอย่าง Hi-Res Shot ที่เป็นการถ่ายภาพหลายๆภาพ เพื่อรวมเป็นภาพใหม่ที่มีความละเอียดสูงขึ้น ซึ่งใน Lumix S5 สามารถทำได้สูงสุดที่ 96 Megapixels ด้วยกัน รองรับทั้งไฟล์ JPG และ RAW สำหรับนำไป Process ต่อในภายหลังได้ด้วยนั่นเอง

High-Res Shot ครั้งแรกบน Fullframe

สำหรับ ฟีเจอร์ Hi-Res Shot อาจจะไม่ใช่ของใหม่ เพราะ เคยปรากฏอยู่บน Lumix S1 , Lumix S1R มาก่อนแล้วนั่นเอง ซึ่งใน Lumix S5 การมาของฟีเจอร์ดังกล่าว ทำให้กล้องรุ่นนี้ตอบสนองการทำงานแบบ Hybrid ได้อย่างลงตัว ทั้งภาพนิ่งและวิดิโอ

Live view composite ฉีกทุกกฏการถ่าย Long Exposure จบได้ที่หลังจอ

ถ้าพูดถึงการถ่าย Long Exposure เพื่อนๆน่าจะนึกถึงการถ่ายภาพในลักษณะ เส้นไฟบนท้องถนน หรือ การควงไฟ ที่เราจะได้เห็นเส้นไฟอย่างชัดเจน ซึ่งเป็นผลมาจากการที่เราใช้ Shutter Speed ที่ช้านั่นเอง แต่การจะได้ภาพเช่นนี้ เราจำเป็นจะต้อง Setting ต่างๆให้ถูกต้องและต้องลั่น Shutter ก่อน เพื่อที่เราจะได้เห็นผลลัพธ์นั่นเอง

แต่สำหรับ ฟีเจอร์ Live View Composite นั้น จะปดล๊อคการถ่ายภาพแนว Long Exposure แบบเดิมๆไปโดยปริยาย เพราะ เราสามารถ Setting ไว้ แล้วดูผลลัพธ์จากจอ LCD ได้ว่า ระยะเวลาของเส้นไฟที่ปรากฏในเฟรมนั้น มีมากน้อยตามความต้องการแล้วหรือยัง หากพอใจกับเส้นสายไฟแล้ว เราก็กดชัตเตอร์เพื่อเป็นการบันทึกภาพ Final ได้ทันที

Live view composite เคยมีใน Micro Fourthirds มาก่อนนะ

สำหรับเพื่อนๆที่ใช้งาน กล้อง Mirrorless ในระบบ Micro Fourthirds อย่าง Olympus ที่มีฟีเจอร์อย่าง Live Composite ที่สามารถทำภาพ Long Exposure ได้อย่างง่ายๆ เห็น Output ได้จากหลังจอทันทีครับ

6K Photo เก็บทุกอารมณ์ภาพ ได้ทุกวินาที ที่ความละเอียด 18 megapixels

สำหรับ Panasonic ชื่อนี้ หลายๆท่านน่าจะรู้จักสรรพคุณในเรื่องของ Video ได้เป็นอย่างดี เพราะ ถือเป็นค่ายลำดับต้นๆ ที่มีการบรรจุฟีเจอร์การถ่าย Video 6K และ Video 4K ลงในกล้อง Mirrorless เพื่อตอบสนองการทำงานของช่างภาพสาย Video ได้อย่างลงตัว อีกทั้งคุณภาพในเนื้อไฟล์ Video ของ Panasonic ไม่เป็นรองใครแน่นอน

ถึงกระนั้น ทาง Panasonic ก็ไม่ได้เน้นฟีเจอร์ด้าน Video เพียงอย่างเดียวนะ เพราะ ตัว Video 6K และ Video 4K ก็มีการประยุกต์ให้สามารถใช้งานบนภาพนิ่งได้ ผ่านทาง ฟีเจอร์อย่าง 6K Photo และ 4K Photo ครับ โดยจะอาศัยหลักการที่ว่า เราสามารถเลือกเฟรมที่เราต้องการในงาน Video นั้นๆ แล้ว export ออกมาเป็นภาพนิ่งได้อย่างง่ายดาย

โดย ฟีเจอร์ 6K Photo จะรองรับสูงสุดที่ 30p หรือเรียกง่ายๆว่า ใน Video 1 วินาที เราสามารถเลือกเฟรมมาเป็นภาพนิ่งได้ จากจำนวน 30 เฟรม นั่นเองครับ ทั้งนี้มีข้อแม้เล็กๆว่า ไฟล์ที่ได้จะมีความละเอียดเพียง 18mp บน 6K Photo และ 8mp บน 4K Photo อีกทั้งจะได้เป็นไฟล์ JPG เพียงอย่างเดียวครับ

ยิ่งจำนวน fps มากเท่าไร จำนวนภาพที่เลือกได้ ก็มากตามไปด้วย

วิธีสังเกตง่ายๆนั้น ให้เราดูจาก ตัว p ที่อยู่ในต่อท้ายตัวเลขของงาน Video อย่างใน Lumix S5 ถ้าเราต้องการถ่าย 6K Photo ก็จะสามารถเลือกเฟรมได้ มากถึง 30 เฟรม หรือ ถ้าเป็น 4K Photo ก็สามารถเลือกเฟรมภาพได้มากถึง 60 เฟรม นั่นเอง

Dual Native ISO เรื่อง Noise จะไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป

ฟีเจอร์เด็ดที่เคยปรากฏในกล้อง Mirrorless ของ Panasonic มาก่อนหน้านี้แล้ว ไม่ว่าจะเป็น Panasonic Lumix GH5s , Panasonic Lumix S1H รวมถึง Panasonic Lumix S1 ( อัพ Firmware ใหม่ ) นั่นเอง ซึ่งวันนี้น้องใหม่อย่าง Lumix S5 ก็ได้ฟีเจอร์นี้ด้วยเช่นกัน

สำหรับ Dual Native ISO นั้น ถ้าสรุปให้เข้าใจอย่างง่ายๆ คือ ปกติ ISO จะมีค่า Native เดิมอยู่แล้ว ถ้าเราถ่าย Video ที่ ISO สูงๆอย่าง 3200 หรือ 6400 ก็จะแสดงที่ค่า ISO นั้นๆ แต่กล้องรุ่นใดที่มี Dual Native ISO เมื่อใช้ค่า ISO สูงๆ เนื้อไฟล์ที่ได้จะไม่ใช่ค่า ISO นั้นๆ แต่จะแสดงผลที่ค่า ISO ที่ต่ำกว่านั่นเอง ทำให้เราจะได้ไฟล์ที่มีความใสเคลียร์กว่านั่นเองครับ ทั้งนี้ระบบ Dual Native ISO ในกล้องแต่ละรุ่นจะแสดงผลที่แตกต่างกันออกไปด้วยนะ ฉะนั้น ต้องปรับค่า ISO ที่แสดงผลตรงกับ Dual Native ISO ด้วยนะ

งาน Video ระดับ 4K พร้อม Anamorphic Video

เมื่อพูดถึง Panasonic เชื่อว่า หลายๆท่านน่าจะถึง เนื้อไฟล์ Video ที่ขึ้นชื่อลือชากันอย่างแน่นอน โดยเฉพาะ Video 4K ที่ต้องบอกว่า Panasonic เป็นต้นตำรับที่นำมาใช้งานบนกล้อง Mirrorless เป็นครั้งแรกใน Lumix GH4 และมีการพัฒนามาจนถึง Lumix GH5s ในปัจจุบันนั่นเอง

สำหรับ Panasonic Lumix S5 ถือเป็น กล้อง Mirrorless Fullframe ที่มีความยืดหยุ่นทั้งงานภาพนิ่งและวิดิโอ มากกว่า Lumix S1 ซะด้วยซเราสามารถเลือกปรับแต่งให้เข้ากับงานของเราได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นสกุลไฟล์อย่าง MOV หรือ MP4 , ฟีเจอร์ระดับ Cinema อย่าง Video Anamorphic 4K และ Anamorphic FHD ที่เดิมทีมักจะถูกบรรจุอยู่ในกล้อง Video ระดับ Pro หรือ จะเป็น ฟีเจอร์ Dual Native ISO ที่เสริมประสิทธิภาพ Video ให้ดียิ่งขึ้นด้วยนั่นเอง

Mode S&Q ตอบโจทย์ Video Slowmotion

Mode ใหม่ที่ปรากฏใน Dial Mode ของ Panasonic Lumix S5 เชื่อว่าหลายๆท่านอาจจะเคยเห็นชื่อนี้กันมาแล้วในกล้องรุ่นอื่นๆ ทั้งนี้ S&Q ย่อมาจาก Slow and Quick นั่นเองครับ โดยหลักการของ Mode ที่ว่านี้ จะให้เราตั้งค่าได้ว่า จะถ่าย Video ที่ความละเอียดเท่าไร เพื่อที่จะนำไป Process ต่อว่าจะ Slow หรือ Quick ต่อนั่นเอง ทั้งนี้หากต้องการทำ Video Slowmotion แล้วละก็ Panasonic Lumix S5 ก็รองรับถึง 180p เลยทีเดียวครับ

ครั้งแรกบน กล้อง Panasonic ที่ Focus บน Video Slowmotion

เดิมที ในนกล้อง Mirrorless ของ Panasonic ก่อนที่จะมี S&Q นั้น จะมี Feature ที่เรียกว่า Vario Framerate เพื่อใช้ในการปรับความละเอียดของ Video นั่นเองครับ แต่ติดตรงที่จะไม่รองรับ Auto Focus นั่นเอง ซึ่งใน Lumix S5 ได้แก้ปัญหาส่วนนี้เรียบร้อย แต่ยังมีข้อจำกัดที่ Video นั้นต้องไม่เกิน 150p ด้วยเช่นกัน

บันทึก Video แบบไม่จำกัดเวลา และไม่มีความร้อนสะสม

อย่างที่ผู้เขียนได้เกริ่นไว้ข้างต้น ว่า Panasonic เองมีจุดแข็งในเรื่องไฟล์ Video ที่เป็นเบอร์ต้นๆในวงการกล้อง Mirrorless เลยทีเดียวครับ อีกทั้งยังผู้บุกเบิกการบรรจุฟีเจอร์ Video 6K ลงในกล้อง Mirrorless ด้วยเช่นกัน

สิ่งสำคัญสำหรับงาน Video คือ ความต่อเนื่องในการถ่าย Video ซึ่งปกติ ฟังก์ชั่นดังกล่าวในกล้องบันทึกภาพ ไม่ว่าจะเป็น กล้อง DSLR หรือ กล้อง Mirrorless มักจะถูกป้องกันการถ่ายเป็นระยะเวลานานสูงสุดที่ 29.59 นาที ด้วยกัน สาเหตุที่เป็นเช่นนั้น เพราะ จำนวนภาษีที่ต้องจ่ายมีจำนวนที่ไม่เท่ากันนั่นเองครับ ซึ่ง ถ้าตัวกล้องดังกล่าวสามารถที่จะบันทึกได้ยาวนานกว่า 29.59 นาที ก็ถูกคิดอัตราภาษีที่เป็นกล้องวิดิโอแทนนั่นเองครับ

แต่ด้วยในปัจจุบัน กล้อง Mirrorless หลายๆรุ่น เริ่มมีการปรับตัวให้กับลักษณะมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกับทาง Panasonic ที่มีจุดเด่นในเรื่อง Video ทำให้มีกล้อง Mirrorless อยู่ด้วยกันหลายรุ่นที่สามารถ Record เป็นระยะเวลาที่นานกว่า 29.59 นาที นั่นเอง ไม่ว่าจะเป็น Lumix GH5s , Lumix S1H หรือ Panasonic S5 กล้อง Mirrorless Fullframe รุ่นล่าสุด ก็สามารถบันทึก Video ได้ยาวต่อเนื่องเกิน 29.59 นาที เช่นกันครับ

ประเด็นต่อมา ที่สืบเนื่องจากความสามารถในการถ่ายต่อเนื่องได้เป็นระยะเวลานาน นั่นคือ เรื่องความร้อนสะสมครับ โดยปกติ กล้อง Video ระดับ Cinema มักจะมาพร้อมพัดลมระบายความร้อน หรือ heat sync เพื่อระบายความร้อนของหน่วยประมวลต่างๆ รวมไปถึง Sensor เพื่อไม่ให้มีความร้อนสะสมที่สูงเกินไป ทั้งนี้ความร้อนสะสมนี้ ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการทำงานต่างๆลดลงไปด้วยเช่นกัน ที่เห็นได้เด่นชัด คือ ระยะเวลาการทำงานของตัวกล้องจะลดลงอย่างเห็นได้ชัด จนถึงขั้นตัวกล้องปิดการทำงานลงไป หากมีความร้อนสูงเกินไป

ซึ่งทาง Panasonic ได้เคลมว่า Lumix S5 นั้น แม้จะมีการ Record เป็นระยะเวลานานๆ จะไม่มีอาการ Heat ให้ได้พบเห็นอย่างแน่นอน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาวะแวดล้อมและลักษณะงานด้วยนะครับ

แบตเตอรี่ใหม่ พร้อมรองรับการชาร์จไปใช้ไปได้

แบตเตอรี่ของ Panasonic Lumix S5 นั้นจะเป็นรุ่นใหม่ ซึ่งมีรหัส DMW-BLK22 มาพร้อมประจุแบตที่ 2,200 mAh ด้วยกัน ซึ่งอาจจะดูน้อยกว่าแบตเตอรี่ของ Lumix S1 , S1R และ S1H ที่มีชื่อรุ่น DMW-BLJ31 อยู่ประมาณ 1,000 mAh ด้วยกัน

ทั้งนี้แบตเตอรี่ DMW-BLK22 จะมีความพิเศษตรงที่มีขั้วแบต 2 แบบครับ โดยขั้วแบตด้านหนึ่งจะรองรับการใช้งานกับ Panasonic Lumix S5 ส่วนอีกด้านหนึ่งจะรองรับกับ Panasonic Lumix GH5 เรียกได้ว่า ซื้อหนึ่งได้สองต่อเลยทีเดียว

นอกจากนี้ Panasonic Lumix S5 ยังรองรับการชาร์จไฟตรงผ่าน USB ด้วยเช่นกัน เหมาะสำหรับเพื่อนๆที่เดินทางไกล ก็สามารถนำ Powerbank มาชาร์จในระหว่างเดินทางหรือพักผ่อนได้อย่างลงตัว

Firmware ในอนาคต

หลังจากที่ได้มีการเปิดตัว Panasonic Lumix S5 กันไปแล้ว ไม่กี่วันถัดมา ทาง Panasonic ได้เตรียมที่จะปล่อย Firmware เพื่อที่จะปรับปรุง แก้ไข และเพิ่มขีดความสามารถให้กับ กล้อง Mirrorless Fullframe ทั้ง Lumix S1 , Lumix S1R รวมถึง Lumix S5 ด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะ Lumix S5 นั้น จะมีการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่เข้ามาพอสมควรเลยละครับ รวมถึงปลดล๊อคบาง Feature ให้ใช้งานได้เต็มความสามารถมากยิ่งขึ้น ซึ่งรายละเอียดของ Firmware ใหม่นั้น จะมีตามนี้ครับ

Lumix S5 จะรองรับการถ่าย Video 5.9K

ณ วันที่ผู้เขียนทำ Content นี้ ต้องบอกว่า ค่อนข้างคลายข้อสงสัยลงมาบ้าง เนื่องจากว่า Panasonic Lumix S5 นั้น มีฟีเจอร์ที่เรียกว่า 6K Photo ติดตั้งมาให้ใช้งาน แต่ในงานของการถ่าย Video ความละเอียด 6K นั้น ไม่รองรับนั่นเอง ซึ่ง Video 5.9K ใน กล้อง Mirrorless Fullframe ด้วยกัน จะมีเพียง Lumix S1H ที่ยืนหนึ่งเรื่อง Video มาโดยตลอดนั่นเองครับ อีกทั้ง Lumix S1 และ Lumix S1R ก็ไม่ได้รับฟีเจอร์นี้ด้วยเช่นกัน

อีกทั้ง ฟีเจอร์ Video 5.9K ที่จะถูกเพิ่มเข้ามาให้กับ Panasonic Lumix S5 นั้น ยังรองรับ ProRes RAW ด้วยเช่นกัน โดยจะต้องต่อผ่าน HDMI ซึ่งผ่านอุปกรณ์เสริมอย่าง Atomos Ninja เป็นต้นครับ

เพิ่มฟีเจอร์ Shutter Angle

เดิมที Shutter Angle เคยปรากฏให้ใช้งานบนกล้อง Mirrorless อย่าง Lumix GH5 และ Lumix GH5s มาก่อนแล้วนั่นเอง ซึ่งถ้าสรุป Shutter Angle อย่างง่ายๆนั้น จะเสมือนกับ Shutter Speed นั่นเองครับ ซึ่งในงาน Video เรามักจะคำนึงถึง Shutter Speed อยู่เสมอ เพื่อให้เนื้องาน Video มีความสัมพันธ์กับ Framrate ที่เรากำหนดนั่นเองครับ โดยเจ้า Shutter Angle นี้ จะเป็นตัวช่วยอย่างดี ยิ่งถ้าเรารู้จักกฏ Shutter 180 Degree ด้วยแล้ว ยิ่งทำงานได้อย่างสบายๆเลยละครับ

สรุป

Panasonic Lumix S5 ถือเป็น กล้อง Mirrorless Fullframe ที่น่าจับตามองอีกรุ่นหนึ่ง แม้ว่าก่อนหน้านี้จะถูกมองว่าเป็น กล้องในระดับ Entry ก็ตามที แต่ด้วยสเปคและฟีเจอร์ภายใน ที่มีการพัฒนาให้มีความสามารถทัดเทียมและ/หรือสูงกว่า Lumix S1 ได้อย่างน่าประหลาดใจ โดยเฉพาะด้าน Video ที่เรียกได้ว่า Lumix S5 เป็นเสมือนร่างอวตารของ Lumix S1H เลยทีเดียวครับ

ลูกค้าที่สนใจสั่งซื้อสินค้า สามารถติดต่อสั่งซื้อได้ผ่านช่องทางออนไลน์ของทางร้านได้ตลอด 24 ชม. หรือ โทรเข้ามาโดยตรงผ่านโทรศัพท์

แอดไลน์ ID:@ZoomCamera หรือ หน้าเว็บไซด์ ZoomCamera
083-067-7677 / 02-098-9555 ต่อ 0 (หยุดวันอาทิตย์)