ทำภาพ HDR ได้ง่าย ๆ ด้วย Lightroom ภายใน 5 นาที Leave a comment

HDR หรือ High Dynamic Range

ก่อนอื่นคำว่า Dynamic Range ว่ากันง่าย ๆ มันคือช่วงของจุดที่สว่างที่สุดของแสงไปจนถึงส่วนเงาที่มืดที่สุดซึ่งปกติแล้วตาคนเราจะมี Dynamic Range ที่กว้างมากทำให้สามารถเห็นรายละเอียดวัตถุที่อยู่ในแสงสว่างมาก ๆ และวัตถุที่อยู่ในเงามืดได้พร้อมกันตัวอย่าง เช่น เมื่ออยู่ในห้องเราสามารถกวาดตาดูเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ได้ชัดเจนและยังสามารถมองเห็นวิวนอกหน้าต่างได้ชัดเจนเช่นกัน

แต่กล้องนั้นไม่ใช่ Dynamic Range ของกล้องมีช่วงแคบกว่าตาคนเรามากสังเกตง่าย ๆ ตอนเราถ่ายภาพวิวหากเราจะเก็บแสงท้องฟ้าให้พอดีเงาที่พื้นด้านล่างจะจมหายกลับกันถ้าจะเก็บพื้นให้พอดีท้องฟ้าก็ขาวสว่างจนหลุดรายละเอียดซึ่งนี่เป็นข้อจำกัดของกล้องแม้เราจะใช้กล้องที่ดีที่สุดและการวัดแสงที่ดีที่สุดแล้วการจะเก็บทั้งฟ้าและพื้นให้พอดีพร้อม ๆ กันนั้นเป็นไปไม่ได้

เทคนิคถ่ายภาพ HDR

ด้วยสาเหตุน่าปวดใจจากด้านบนทำให้เกิดเทคนิคการทำภาพแบบ HDR หรือ High Dynamic Range ขึ้นมาด้วยวิธีการรวมภาพถ่ายหลาย ๆ ใบที่มีค่าแสงต่างกันให้เป็นภาพเดียวหมายความว่าเราจะมีทั้งภาพที่วัดแสงเก็บพื้นได้พอดีแต่ฟ้าสว่างจนหลุดกับภาพที่เก็บฟ้าได้พอดีแต่พื้นดำมืดจนมองไม่เห็น เมื่อนำจุดที่ดีของทุกภาพมารวมกันด้วยโปรแกรมเราจะได้ภาพหนึ่งใบที่มีข้อมูลครบทั้งส่วนมืดและสว่างคล้ายกับที่ตาเราเห็น

เมื่อเราจะถ่ายภาพเพื่อทำ HDR วิธีการที่เราใช้คือการถ่ายคร่อมแสง ในกล้องจะมีโหมดนี้ให้เราเลือกใช้ได้แทบทุกตัวโดยใช้ชื่อว่า Bracketing หรือ BKT เมื่อเข้าโหมดนี้กล้องจะถ่ายภาพต่อเนื่องที่มีค่าแสงต่างกันให้โดยแต่ละภาพจะมีค่าแสงห่างกันแค่ไหนเราสามารถตั้งค่าได้(ต่างกันทีละ 0.3EV, 1EV, 2EV)และกล้องส่วนใหญ่ในยุคนี้ก็สามารถรวมภาพทำ HDR ให้ในกล้องได้เลยเพียงแต่อาจจะยังไม่เนียนเท่าการทำด้วยโปรแกรมในภายหลัง

สำคัญเลยคือตอนถ่ายภาพอย่าลืมใช้ขาตั้งกล้องนะครับเพราะภาพแต่ละใบจะต้องตรงกันเป๊ะ ๆ จะดีที่สุด สำหรับสตอปแสงที่ควรถ่ายคร่อมมาขึ้นอยู่กับสถานการณ์แต่แนะนำว่าถ่ายไว้ตั้งแต่ -3EV จนถึง +3EV(เพิ่มทีละ 1EV ก็ได้) ค่อนข้างปลอดภัยครับ ถ้าแสงมีความเปรียบต่างมากอาจจะกดมาสัก 5EV เลยก็ได้

สร้างภาพ HDR ง่าย ๆ ด้วย Lightroom

โปรแกรมสำหรับสร้างภาพ HDR มีอยู่หลายโปรแกรมครับแต่ Lightroom นั้นทำได้ดีและง่ายแถมน่าจะเป็นโปรแกรมที่ช่างภาพส่วนใหญ่คุ้นเคยกันอยู่แล้ว เราสามารถนำภาพมารวมกันเป็นสิบ ๆ ภาพก็ยังได้(แต่ยิ่งเยอะก็ยิ่งใช้เวลารวมนานนะครับ)แนะนำให้รวมขั้นต่ำสัก 3 ภาพขึ้นไปครับจะเป็น 5, 7 ภาพก็ได้

ขั้นตอนที่ 1: 

ทำการเลือกภาพที่เราจะใช้ทำ HDR

ขั้นตอนที่ 2: 

คลิกขวาเลือก Photo Merge > HDR

ขั้นตอนที่ 3: 

โปรแกรมจะสร้าง Preview ภาพมาให้เราดูก่อนซึ่งขั้นตอนนี้ถ้าจำนวนภาพเยอะก็จะใช้เวลานานขึ้นครับ

ขั้นตอนที่ 4: HDR Option

• Auto Align ถ้าเกิดตอนถ่ายเราไม่ได้ตั้งขาตั้งกล้องภาพแต่ละใบอาจจะเหลื่อม ๆ กันอยู่ถ้าเลือก Auto Align ไว้ Lightroom จะครอปภาพให้อัตโนมัติ
• Auto Tone Lightroom จะทำการปรับโทนภาพให้ตามความเหมาะสม(สามารถกดรีเซ็ตค่าหลังจากรวมภาพไปแล้วได้)
• Deghost Amount บางครั้งในภาพอาจจะมีสิ่งที่เคลื่อนไหวอยู่ซึ่งรวมกันแล้วอาจจะทำให้เกิดเอฟเฟคเบลอ ๆ หรือภาพขาด ๆ บ้างตัว Deghost จะเข้ามาช่วยแก้ไขให้ซึ่งสามารถตั้งระดับการทำ Deghost ได้ตามต้องการ

ขั้นตอนที่ 5: 

ตั้งค่าใน Preview เสร็จแล้วก็กด Merge แล้วเราก็จะได้ภาพ HDR มา ซึ่งข้อดีของการรวมภาพ HDR ใน Lightroom คือเราจะได้ไฟล์ RAW มาทำให้สามารถนำไปปรับแต่งต่อได้มาก

ตัวอย่างภาพ

ภาพด้านล่างนี้ถ่ายด้วยโหมด A วัดแสงที่ค่า 0EV จะเห็นว่าด้วยความที่แสงลอดผ่านหน้าต่างเข้ามามากทำให้ภายในค่อนข้างติด Under และหากจะวัดแสงให้ภายในสว่างขึ้นก็จะยิ่งเสียรายละเอียดบริเวณหน้าต่างไป

แต่เมื่อทำ HDR รายละเอียดภายในจะถูกเปิดขึ้นรวมทั้งยังสามารถเก็บรายละเอียดบริเวณหน้าต่างเอาไว้ได้ด้วยแม้แต่ต้นไม้ด้านนอกก็ยังสามารถเก็บรายละเอียดสีบางส่วนมาได้ช่วยเสริมอารมณ์ให้กับบรรยากาศในภาพเล็กน้อย

ตัวอย่างการใช้ฟังก์ชัน Deghost

ภาพแรกผมตั้ง Deghost ในระดับ Low จะเห็นว่ามีคนเบลอ ๆ อยู่ซึ่งจริงๆเบลอ ๆ นี่ก็แอบให้ผลคล้ายความเร็วชัตเตอร์ช้าได้ดีแต่มันไม่เป็นอย่างนั้นทั้งหมดนี่สิ คนในภาพบางคนหัวหาย ขาหาย แขนหาย กลายเป็นหลอนไปเลย

เมื่อตั้ง Deghost ในระดับ Medium ตัว Lightroom ก็จัดการย้ายคนเบลอ ๆ ออกไปทั้งหมด

เกร็ดเพิ่มเติม HDR

หลายคนที่มีประสบการณ์แต่งภาพมาระดับหนึ่งแล้วอาจจะสงสัยว่าดึงเปิดเงาประมาณนี้ภาพไฟล์ RAW ปกติก็น่าจะพอไหวซึ่งก็ ถูกต้องครับ เปิดเงาอย่างในตัวอย่างนี้ไฟล์ RAW อาจสามารถทดแทนได้แต่เรื่องดึงรายละเอียดส่วนสว่างกลับมาแทบจะทำไม่ได้เลยเพราด้านนอกนั้นสว่างกว่าด้านในมาก

จะเห็นว่าส่วนของต้นไม้ด้านนอกในภาพทั้งสองเก็บรายละเอียดมาได้ต่างกันมาก โชคดีที่ในภาพนี้ต้นไม้แค่ช่วยเสริมบรรยากาศเล็กน้อยเท่านั้น แต่หลายครั้งสิ่งที่อยู่ในส่วนสว่างอาจเป็นส่วนที่ช่วยเสริมภาพเป็นอย่างมากถ้าเราไม่ได้ถ่ายคร่อมมาเผื่อไว้การจะดึงรายละเอียดกลับมาก็หมดสิทธิเลย

อีกจุดที่ต่างคือการไปดึงภาพเปิดเงาขึ้นมาอาจจะทำให้ Noise ขึ้นชัดตามมาด้วย ในภาพตัวอย่างด้านล่างผมลองปรับภาพถ่ายปกติเทียบกับภาพ HDR จะเห็นว่าภาพ HDR มี Noise ที่เนียนกว่าพอสมควร

ผมได้ทดสอบรวมภาพทั้งแบบ 5, 7, และ 11 ภาพซึ่งแน่นอนว่าภาพเยอะกว่าให้รายละเอียดส่วนสว่างตรงหน้าต่างมากกว่า แต่มากกว่าแค่เล็กน้อยเท่านั้นฉะนั้นถ้าคุณไม่ได้ซีเรียสกับการเก็บทุกส่วนขนาดนั้นก็รวมซัก 3-5 ภาพก็พอครับเพื่อความรวดเร็ว

ส่งท้าย…

ถ้าคุณเป็นคนชอบถ่ายวิวและยังไม่เคยทำ HDR ล่ะก็บอกเลยว่าคุณพลาดความสนุกไปมาก อยากให้ไปลองใช้วิธีนี้กันดูนะครับ และแม้คุณจะไม่ใช่สายวิวก็เก็บวิชา HDR นี้ไว้ติดตัวได้เพราะมันใช้ได้กับหลากหลายสถานการณ์แล้วแต่ตัวช่างภาพและผมเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์และทำให้ทุกท่านถ่ายภาพสนุกขึ้นแน่นอน

ลูกค้าที่สนใจสั่งซื้อสินค้า สามารถติดต่อสั่งซื้อได้ผ่านช่องทางออนไลน์ของทางร้านได้ตลอด 24 ชม. หรือ โทรเข้ามาโดยตรงผ่านโทรศัพท์

แอดไลน์ ID:@ZoomCamera หรือ หน้าเว็บไซด์ ZoomCamera
083-067-7677 / 02-098-9555 ต่อ 0 (หยุดวันอาทิตย์)