รีวิว-Shure-MV7_1200x621

รีวิวไมโครโฟน Shure MV7 ไมค์ไดนามิกเสียงนุ่ม ยอดฮิตอันดับ 1 ในกลุ่มคนทำพอดแคสต์ ไลฟ์สด ทำวีดีโอคอนเทนต์ Leave a comment

พูดถึงไมโครโฟน หลายคนก็จะนึกถึงการร้องเพลง แต่นอกจากจะเอาไว้ร้องเพลงแล้วยังสามารถเอามาใช้ประโยชน์ได้อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการพากย์เสียง การพูดขายสินค้า การสัมภาษณ์ หรือ ที่นิยมกันสุด ๆ ในยุคนี้คือ การทำพอดแคสต์ ทำวีดีโอคอนเทนต์ การสตรีมเกมส์ ขึ้น Social media อย่าง Facebook , Youtube , Clubhouse ฯลฯ วันนี้ก็จะมาแนะนำไมโครโฟนที่ต้องบอกว่า นิยมใช้กันมากในวงการพอดแคสต์ และ คนใช้เสียงทำคอนเทนต์ นั่นก็คือไมค์ไดนามิก ” Shure MV7 ” จะเป็นยังไงบทความนี้เด่วผมป้ายยาให้ครับ ถ้าใครมีความรู้ความเข้าใจความต่างของไมค์คอนเดนเซอร์ และ ไมค์ไดนามิก สามารถข้ามไปอ่านด้านล่างในส่วนรีวิวไมค์ Shure MV7 ได้เลยครับ

ไมโครโฟนคอนเดนเซอร์ กับ ไมโครโฟนแบบไดนามิกต่างกันอย่างไร ?

ก่อนจะได้รู้ว่าเจ้าไมค์ Shure MV7 เป็นยังไง เราต้องปูพื้นฐานกันก่อน ไมโครโฟนที่เราเห็นกันทั่วไปในท้องตลาด ส่วนใหญ่จะมีอยู่ด้วยกัน 2 แบบ ก็คือ ไมโครโฟนแบบคอนเดนเซอร์ และ ไมโครโฟนแบบไดนามิก

ซึ่งทั้ง 2 แบบนี้จะมีลักษณะการใช้งาน รูปแบบการรับเสียง แตกต่างกัน แต่คนส่วนใหญ่ที่ซื้อไมโครโฟนใช้งานก็จะไม่รู้ นอกจากตัวไมค์ที่มี 2 แบบ แล้วสายเชื่อมต่อที่ใช้งานร่วมกับตัวไมค์ ก็มี 2 แบบด้วยเช่นกัน ก็คือ สายแบบ USB และ สายแบบ XLR

Maono AU A425 Professional Large Diaphragm Condenser USB Microphone SET 6

ก่อนอื่นเรามาพูดถึงไมค์ก่อน ตัวไมค์แบบคอนเดนเซอร์จะมีลักษณะการรับเสียงแบบวงกว้าง รับเสียงได้ละเอียด เสียงเล็ก เสียงน้อย เสียงบรรยากาศรอบข้างเก็บมาหมด และมีรูปบบการรับเสียงหลายแบบมาก ๆ เหมาะกับการใช้งานในสถานที่ปิด เงียบพอสมควร เช่นการทำ ASMR การทำ Sound Effect การทำพอดแคสต์ การสตรีมเกม ก็สามารถทำได้ แต่ด้วยการที่มันรับเสียงได้ดีสุด ๆ ก็เป็นดาบ 2 คม มันก็อาจจะมีเสียงพวก Noise หรือ เสียงคลื่นความถี่ต่ำเข้ามาในไฟล์เสียงของเราได้ง่ายเช่นกัน

Shure MV7 Podcast Microphone

แต่ถ้าคุณจะหาไมค์เพื่อไปใช้พูด อัดเสียงร้องเพลง เน้นการพูดใกล้ ๆ แนะนำเป็นไมโครโฟนแบบไดนามิกไปเลยครับ อย่างตัว Shure MV7 ก็เป็นไมค์ประเภทไดนามิกครับ เพราะ ไมโครโฟนแบบนี้ จะเน้นการรับเสียงระยะใกล้ แบบว่าปากเกือบติดไมค์เลย ซึ่งการรับเสียงได้ใกล้นี้เองก็เป็นจุดแข็งของการไมค์แบบนี้ เพราะ เสียง noise เสียงบรรยาการศรอบข้าง เสียงคลื่นความถี่ต่ำ ก็จะแทบไม่มีเลย กับคนที่ใช้ไมค์แบบนี้ และ อีกหนึ่งจุดเด่นคือไมค์ไดนามิกจะมีการออกแบบ ฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่ทำให้เราใช้งานแล้ว รู้สึกว่าเสียงเราดู นุ่มนวล น่าฟัง แบบว่าบอกไม่ถูกเหมือนกัน ต้องทดลองด้วยตนเองแล้วหละครับ

สาย USB vs สาย XLR ข้อดีข้อเสีย

ส่วนเรื่องของสายเชื่อมต่อ ก็จะมีไมค์บางรุ่นที่เลือกใช้เฉพาะสาย USB บางรุ่นใช้ได้เฉพาะสาย XLR หรือ ในบางรุ่น อย่างไมค์ Shure MV7 ที่มีพอร์ตที่สามารถใช้สายได้ทั้ง 2 แบบเลย

Ugreen 20882 USB 3.0 Type A male to USB Type C male 3A Fast Charge Cablel

ข้อดีของไมค์ที่ใช้สายแบบ USB

ข้อดีของไมค์ที่ใช้สาย USB ไม่ต้องใช้ Audio Interface เสียบเข้าคอมพิวเตอร์ใช้งานได้เลย เพราะ ตัวไมค์ที่ใช้แบบนี้จะมีกรออกแบบให้งมี Driver อยู่แล้ว แต่ในไมค์รุ่นเก่า ๆ บางรุ่นก็อาจจะไม่มีต้องหาดาวโหลดเพิ่มเติม และ ที่สำคัญสุด ๆ เลย คือ ราคาถูก จับต้องได้ เหมาะกับมือใหม่เริ่มต้นสุด ๆ ไม่มีความรู้เรื่องเสียงก็ใช้งานได้สบาย

ข้อเสียของไมค์ที่ใช้สายแบบ USB

  • ไฟล์เสียงที่ได้จะถูกจำกัดความละเอียดของเสียง Sample Rate และ Bitrate มาเลย เวลาเราอัดเสียงใส่ไมค์แบบ USB แล้วเอาไปใช้งานต่อ ก็จะไม่สะดวก เพราะในบางงานที่มีความซีเรียสด้านเสียงก็จะมีการกำหนดคุณภาพเสียงที่สูงมาก ๆ ซึ่งไมค์แบบ USB ก็อาจจะไม่ตอบโจทย์ เช่น การอัดเสียงร้องเพลง เป็นต้นที่บางแพลทฟอร์มมีการกำหนด Sample rate และ Bitrate ที่สูงถึงจะสามารถยอมให้อัพโหลดได้ หรือ ในบางกรณีที่เราต้องทำงานร่วมกับคนอื่น แล้วเขาทำไฟล์ Project ที่ Sample rate และ Bitrate ที่ไม่ตรงกับไมค์ USB ที่เรามี ก็จะไม่สามารถทำงานร่วมกันได้ เป็นต้น
  • เราจะไม่สามารถปรับ Gain เสียงแบบละเอียดมาก ๆ ได้สะดวกมากนัก อาจจะต้องปรับใบซอฟแวร์ หรือ เอื้อมไปรับบนตัวไมค์ที่ใช้งานอยู่ เพราะเราไม่มี Audio interface ซึ่งก็จะไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่เวลาใช้งานที่มีความซีเรียสและต้องทำงานร่วมกับผู้อื่น
  • มันจะสามารถอัดเสียงแบบ 1 ต่อ 1 เท่านั้น ไม่สามารถอัดเสียงพร้อม ๆ กันหลายไมค์ USB ได้ เวลาเราหา Source เสียงในโปรแกรม เราก็จะเจอ Driver ของไมค์ตัวใดตัวหนึ่งเท่านั้น และ ถ้าเกิดไมค์แบบนี้พัง ต้องซื้อเปลี่ยนใหม่ทั้งไมค์เลย เปลี่ยนเฉพาะส่วนไม่ได้
Saramonic LC-XLR Lightning microphone cable for SR-HM7 (4)

ข้อดีของไมค์ที่ใช้สายแบบ XLR

เป็นรูปแบบการใช้งานที่เป็นสากล ใช้ในงานระดับมืออาชีพ มีไมโครโฟนหลายแบบให้เลือก มีทั้งแบบคอนเดนเซอร์ และ ไดนามิก เหมาะกับคนที่เริ่มมีความรู้ด้านเสียงระดับหนึ่ง และ ต้องการความยืดหยุ่นในการใช้งาน ไมค์ที่ใช้งานร่วมกับสายแบบ XLR ส่วนใหญ่จะเป็นไมค์แบบ Analog ต้องใช้ Audio interface ควบคู่กันเสมอ จะไม่มีการจำกัด Sample rate และ Bitrate แต่อย่างใด สามารถทำงานที่อัดเสียงพร้อม ๆ กัน หลายไมค์ได้ เช่น อัดเสียงเครื่องดนตรี ร้องเพลง เป็นต้น

ข้อเสียของไมค์ที่ใช้สายแบบ XLR

  • จำเป็นต้องมี Audio interface และ ราคาค่อนข้างสูงกว่าไมค์แบบ USB
  • ต้องมีความรู้ ความเข้าใจเรืองของเสียงระดับหนึ่ง และ เข้าใจระบบการส่งสัญญาณ Analog to Digital ไม่เหมาะกับมือใหม่

รีวิวไมโครโฟน Shure MV7

Shure MV7 Podcast Microphone

รายละเอียดสเปก Shure MV7 (Specification)

  • Legendary Broadcast Sound in USB Format
  • USB and XLR Connections
  • Built-In Pop Filter for Plosives
  • 3.5mm Jack with Direct Monitoring
  • Companion App for Sonic Optimization
  • Cardioid Pattern Minimizes Room Pickup
  • Integrated Touch Panel for Mic Controls
  • High-Quality 48 kHz / 24-Bit Audio
  • Support ShurePlus Motiv

จุดเด่นที่น่าสนใจของไมโครโฟน Shure MV7

เป็นไมค์ไดนามิกที่ช่อง Output แบบ USB และ XLR และ มีช่องต่อหูฟังได้

จะมี Audio interface หรือป่าวไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป เพราะมีพอร์ตเชื่อต่อทั้งแบบ XLR และ แบบ USB พร้อมช่องหูฟังให้อีก 1 ช่อง และ ดีไซน์ตัวนี้เป็นแบบไม่มีปุ่มใช้การทัชสกรีนบนตัว Panel ควบคุมบนตัวไมค์ ทำให้มีดีไซน์ที่ดูคลีน ๆ minimal

Shure MV7 Podcast Microphone

มีเทคโนโลยีป้องกันเสียงรบกวน

Shure MV7 มีความพิเศษของเซ็นเซอร์โฟกัส สําหรับจับเสียงของผู้ใช้และลดการจับเสียงรบกวนรอบข้าง หรือเสียงรบกวนภายในห้องที่อาจส่งผลต่อการบันทึกเสียงของผู้ใช้งาน

Shure MV7 Podcast Microphone

ดีไซน์สวยได้แรงบันดาลใจจากไมค์รุ่นพี่อย่าง Shure SM7B ในตำนาน ที่นักร้องระดับโลก อย่าง ไมเคิล แจ็คสัน เลือกใช้ทำเพลง

คุณภาพวัสดุของ Shure mv7 ต้องบอกว่าถอดแบบมาจาก Shure SM7B เลยก็ว่าได้ แต่มีการปรับดีไซน์ขนาดแลกน้อย และ เพิ่มฟังก์ชั่นให้ใช้งานได้สะดวกขึ้นด้วย พอร์ต XLR และ พอร์ต USB ในตัวเดียวกัน และ ราคาก็ถูกลงมาด้วย แต่ได้ความโปรเท่าเดิม ที่สำคัญ แบรนด์ Shure นี้เป็นแบรนด์ที่ดารา นักร้อง คอนเทนต์ครีเตอร์ หลายท่านไว้วางใจเลือกใช้งาน

shure-sm7b-vs-shure-mv7

รองรับการใช้งานซอฟแวร์เทพ ๆ อย่าง ShurePlus Motiv เพิ่มลูกเล่นปรับแต่งเสียงมากมาย พร้อมเซฟเป็น Preset เก็บไว้ใช้งานภายหลังได้

สามารถกําหนดค่าไมโครโฟนด้วยแอพพลิเคชั่น ShurePlus Motiv เพื่อให้เหมาะกับผู้ใช้งานมากที่สุด สามารถตั้งค่าแบบอัตโนมัติหรือจะตั้งค่าแบบกําหนดเองตามต้องการ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถใช้คุณสมบัติต่างๆได้มากขึ้น

สามารถเลือกเสียงคุณและ จับโทนเสียงที่คุณเลือกในแต่ละรูปแบบ ‘Dark’, ‘Natural’ หรือ ‘Bright’ ด้วยแอพพลิเคชั่น ShurePlus Motiv ซึ่งคุณจะได้รับเสียงที่นุ่มลึกแบบ “Radio” ในแบบที่คุณต้องการ และ ยังมีลูกเล่นอีกมากมาย

ShurePlus-Motive

รีวิวการใช้งานจริงจาก Influencer มากมาย

ขอบคุณคลิปรีวิวจากช่อง GENG SITTIPONG

ขอบคุณคลิปรีวิวจากช่อง Mission to the Moon

ขอบคุณคลิปรีวิวจากช่อง ZoLKoRn

ขอบคุณคลิปรีวิวจากช่อง Awall Digital

สรุปเหตุผลทำไมต้องซื้อไมค์ Shure MV7 ทั้ง ๆ ที่มีไมค์มากมายในท้องตลาด

ถ้าใครอ่านมาถึงตรงนี้ และ ดูคลิปวีดีโอหลาย ๆ ตัวของ Shure MV7 เชื่อเลยว่า คงเริ่มจะอยากได้กันบ้างแล้วแหละ ในความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียน ก็ต้องบอกว่าเหตุผลที่ควรซื้อไมค์รุ่นนี้ ก็คือคุณภาพของสินค้า และ ซอฟแวร์ที่ให้มาเลยครับ แบรนด์ Shure เป็นแบรนด์สินค้าในอุตสาหกรรมเสียงมาอย่างยาวนาน อยู่ในระดับสินค้าราคาพรีเมี่ยม คุณภาพสินค้า และ ซอฟแวร์ที่ให้มามั่นใจได้เลย ดีกว่าไมค์ราคาประหยัดเยอะมาก โทนเสียงที่ให้กับดจ้าไมค์รุ่นนี้ก็ออกไปทางนุ่ม น่าฟัง จนเป้นที่ไว้วางใจจากเหลือครีเอเตอร์ และ Podcaster หลายท่าน ที่สำคัญสุดเลย รูปทรงสวย มินมอล ดูดี และ สุดท้ายนี้ผมจะบอกเลยว่าถ้าคุณอยากจะเริ่มต้นกับการทำคอนเทนต์ เสียงคือสิ่งสำคัญมากกว่าภาพ ถ้าเสียงดี ชัดเจน น่าฟัง ภาพไม่สวยยังไงคนก็ติดตามครับ การลงทุนกับไมค์ดี ๆ ซักหนึ่งตัวจึงสำคัญ และ Shure MV7 น่าจะเป็นหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลย

Shure MV7 Podcast Microphone

ไมโครโฟน Shure MV7 ราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

  • ไมค์ Shure MV7 (ชุดไมโครโฟนอย่างเดียว) ราคา ณ ปัจจุบัน 9,990 บาท (สินค้าประกันศูนย์ไทย)
  • ไมค์ Shure MV7 Podcast Kit (ชุดไมโครโฟน+ขาตั้ง Mini tripod) ราคา ณ ปัจจุบัน 10,900 บาท (สินค้าประกันศูนย์ไทย)

บทความเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้อง

ลูกค้าที่สนใจสั่งซื้อสินค้า สามารถติดต่อสั่งซื้อได้ผ่านช่องทางออนไลน์ของทางร้านได้ตลอด 24 ชม. หรือ โทรเข้ามาโดยตรงผ่านโทรศัพท์

แอดไลน์ ID:@ZoomCamera หรือ หน้าเว็บไซด์ ZoomCamera
083-067-7677 / 02-098-9555 ต่อ 0 (หยุดวันอาทิตย์)

วิธีการสั่งซื้อ
โค้ด Web สมัครสมาชิก 900x600 1
Banner Contact 2020 Part2 Cleaning Service
เบอร์สาขา Web 2022 900x600 1

Leave a Reply