รีวิว Panasonic LX100 II กล้อง Compact คู่แฝดเดียวกันกับ LEICA D-Lux Typ 109 โดย Panasonic Lumix LX100 Mark II จริง ๆ ได้ทำกล้องตัวนี้ให้กับทาง LEICA เพื่อวางขายด้วย โดยส่วนของบอดี้จะได้กลิ่นอารมณ์ของ Panasonic Lumix และเลนส์จะใช้เลนส์แบบไลก้า โดยรวมการออกแบบจะไปทางเรียบหรู คนที่ชอบกล้องสะท้อนความเรียบหรู ของตัวเองก็จะชอบกล้องสไตล์นี้กัน ถ้าใครรู้จัก LEICA อยู่แล้ว มองทุกมุมแทบจะเหมือน LEICA D-Lux Typ 109 แบบเป๊ะ ๆ กันเลย
นอกจากนี้กล้อง Panasonic Lumix LX100 Mark II ได้ออกแบบให้อยู่ในกล้องระดับ Compact Flagship เพราะใช้เซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ระดับ Micro 4/3 แบบเดียวกับระดับกล้อง Mirrorless Flagship ของทางค่าย Panasonic เลย
รีวิว Panasonic LX100 II กล้อง Compact จิตวิญญาณแห่ง LEICA ทั้งการออกแบบและคุณภาพเลนส์
ภาพรวมกล้อง Panasonic LX100 II ตัวนี้น่าจะเหมาะกับใครบ้าง?
- เหมาะกับคนที่ต้องการกล้องง่าย ๆ ได้ภาพสวย ถ่ายสนุก จบในตัวเดียวไม่ต้องเปลี่ยนเลนส์
- คาดหวังจะได้กล้องคุณภาพสูงระดับ Flagship เซ็นเซอร์ใหญ่ Mircro 4/3 ในรูปร่างที่เล็ก
แล้วก็ดูดี ภูมิฐาน สะท้อนรสนิยมของตัวเอง เป็นกล้องระดับ High End ในรูปร่าง Compact เน้นจริงจัง - กล้องตัวเดียวที่ใช้ง่าย ๆ แล้วไปได้จบทั้งทริปเที่ยว ได้ทั้งภาพนิ่งและวีดีโอ
- กล้องที่ใช้เลนส์ในแบรนด์ที่อยู่ในระดับหรูอย่าง LEICA ดูดีทั้งภาพลักษณ์แบรนด์ และคุณภาพ
- มีฟังก์ชั่นการใช้งานเต็มระบบเหมือนกล้อง Mirrorless ที่เปลี่ยนเลนส์ได้
- ถ่ายภาพหน้าชัด หลังเบลอ ได้ภาพคม ไฟล์ใส สีสันตรง จบหลังกล้องได้
- มีระบบ 4K เหมือนกล้อง Panasonic Lumix รุ่นพี่ ทั้ง 4K Photo และ 4K Video
รีวิว Panasonic LX100 II แบบแกะกล่องกันก่อน ให้อะไรมาในกล่องบ้าง
เพื่อให้ได้อรรถรสในการรีวิวผมเขียนเรื่องแกะกล่องด้วยแล้วกันครับ ตัวกล่องเขาทำสไตล์เรียบ ๆ มา สิ่งที่เขาเน้นย้ำจะอยู่มุมด้านซ้ายคือ 4K แล้วก็ LEICA DC VARIO-SUMMILUX 24-75mm F1.7-2.8 Power O.I.S ตัวนี้จะเป็นเลนส์ LEICA ที่จะอยู่ประจำกล้องตัวนี้เลย แล้วมีระบบกันสั่นมาครบจบในตัวนั่นแหละ
เปิดออกมาจะเจอคู่มือด้านในครับ ซึ่งคู่มือตัวนี้ก็จะมีการกำกับไว้ชัดว่าเป็นเวอร์ชั่นก่อนวางขาย มีรายละเอียดการใช้งานเหมือนคู่มือทั่วไป ซึ่งปกติผมจะอ่านคร่าว ๆ เกี่ยวกับโหมดต่าง ๆ ครับ เวลางง ๆ แนะนำว่าให้อ่านคู่มือก่อนโพสต์ถามตามกลุ่มจะได้ไม่รบกวนคนอื่นเนอะ
เปิดออกมาก็จะมีกล้องห่อด้วยซองดำ ๆ อยู่ ก็แกะให้มันดูตื่นเต้นนิดนึง แต่คนอ่านรีวิวอาจจะเซ็ง ๆ ได้ว่าเมื่อไหร่จะแกะออกมาสักกะที
ในที่สุดก็แกะออกมาละ ตัวบอดี้จะปิดฝาดำมาเลย มีโลโก้ว่า Lumix เรียบร้อย สังเกตด้านซ้ายมือในภาพตัวกริ๊บทำได้เนี๊ยบ ผิวสัมผัสโอเคครับ เหมือนบุด้วยหนัง
สุดท้ายก็จะมีหัวปลั๊กมาให้สำหรับต่อชาร์จไฟต่อเข้าเข้ากล้อง เป็นหัว micro USB ครับ แล้วก็มี Flash แยกให้ กับสายคล้องกล้อง
รีวิว Panasonic Lumix LX100 II ด้านการออกแบบและดีไซน์
ก่อนหน้านี้เกริ่นไปข้างต้น การออกแบบและดีไซน์ของ Panasonic Lumix LX100 II ตัวนี้จะให้ฟิลลิ่งของความเรียบหรู เพราะตัวเลนส์ยกของ LEICA มาด้วย รวมถึงมาตรฐานของ Panasonic จะเป็นสไตล์เรียบหรูเป็นหลัก บุคลิกเขาเป็นแบบนั้น
ส่วนบอดี้รอบ ๆ จะเป็นการออกแบบในสไตล์ของ Panasonic ด้านบนจะมี Dial หมุนปรับ Shutter Speed สูงสุดที่ 4000 ไปจนถึง T ถัดไปจะเป็น Dial สำหรับซูมด้วยไฟฟ้า ดันไปด้านซ้ายซูมออก ดันไปด้านขวาคือซูมเข้า มี Dial ชดเชยแสงให้ แล้วก็ปุ่ม Fn1 กับ iA
ถัดมาด้านหน้าอีกนิดนึงตรงส่วนเลนส์ จะมีอัตราส่วนของภาพที่เราสามารถเลือกได้คือ 3:2 16:9 1:1 และ 4:3 โดยเซ็นเซอร์ตัวนี้ออกแบบมาให้เป็น Multi Aspect สามารถเลือกการปรับสเกลภาพได้ตามต้องการ
ด้านหลังมีแผง Dial หมุนได้วนรอบที่ด้านขวามือแล้วก็ชุดคำสั่งปุ่ม Menu การปรับ ISO, White Balance การปรับ Display ส่วนปุ่มด้านบนของ Monitor ก็จะมี AF/AE Lock มีปุ่มอัดวีดีโอให้ และปุ่ม Fn ไว้เซ็ตอัพได้เองครับ
สุดท้ายก็เป็นช่องมองภาพ EVF ขนาดเล็ก ตัวนี้เขาให้สีที่ค่อนข้างเที่ยงตรงมากครับ น่าใช้งาน
ต่อมาคือการออกแบบตอนที่เปิดเครื่อง และการซูม จะมีการขยับของกระบอกเลนส์ยื่นออกมา ยิ่งซูมไกล ก็จะยื่นออกมาเยอะครับ ระหว่างที่ซูมการทำงาน เงียบ และเบา สิ่งที่ผมจะรู้สึกแปลก ๆ หน่อยคือเลนส์ยื่นออกมาได้เยอะมาก
เพราะระยะครอบคลุมนั่นแหละ แต่ผมแอบขัดใจอยู่นิดหน่อย ตรงระยะเลนส์ที่ยื่นออกมายาว แต่เข้าใจได้เพราะเขาทำบอดี้เล็ก ให้สวย แล้วซูมครอบคลุมได้ คงต้องทำแบบนี้แหละ แต่ก็อยากให้สวยกว่านี้อยู่ดี
การออกแบบเมนูการใช้งาน และฟังก์ชั่นการใช้งานภายในตัวกล้อง
เรื่องของการออกแบบเมนูการใช้งานตัว Panasonic LX100 II ตัวนี้ ทำ Interface หรือส่วนที่ให้ผู้ใช้ได้สั่งงานง่าย ๆ แบรนด์นี้ทำได้ค่อนข้างดี ใช้ง่ายสม่ำเสมอมาตลอด เมนูมีการแบ่งแยกออกเป็นหมวดต่าง ๆ และสามารถที่จะทำความเข้าใจกับสีที่ใช้แบ่งกลุ่มเมนูออกมาด้วย
ความสามารถที่น่าสนใจคือสามารถปรับแต่ง Curve สีได้จากในตัวกล้องเลย และมี Picture Style หลากหลายแบบให้ได้ปรับตามต้องการด้วย ทั้งแบบ Standard, Natural, Monochrome, L.Monochrome, L.Monochrome D Scenery, Portrait, Custom Standard
ในส่วนของ Color Space มีให้ทั้งค่าสีแบบ sRGB และ AdobeRGB ครบเลย เหมือนกล้องรุ่นท็อปของค่ายนี้ ถ้าใครถ่ายภาพแนวซีเรียส กล้องตัวนี้ยังให้ไฟล์สีที่ละเอียดได้
ระบบวัดแสงมี 3 แบบให้เลือกตามมาตรฐานคือ วัดแสงเฉพาะจุด, วัดแสงแบบตรงกลางภาพ, และวัดแสงเฉลี่ยทั้งภาพ
ที่ต้องพูดถึงคือระบบ 4K Photo ซึ่งกล้องตัวนี้ได้ใส่ความสามารถของ 4K Photo ในแบบที่ Panasonic ทำได้เก่งเข้ามาด้วย จริง ๆ 4K Photo ถ้าให้พูดตามตรง บางคนก็ได้ใช้บ่อย บางคนอาจจะใช้บ้างเล็กน้อย อันนี้แล้วแต่เนอะ สิ่งสำคัญคือ 4K Photo เป็นเทคโนโลยีที่ให้จุดเด่นอย่างนึงคือได้เฟรมภาพต่อวินาทีสูงมาก เหมาะกับการเอาไปถ่ายภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเร็ว ๆ แล้วมันได้เฟรมที่นิ่ง เหมาะสำหรับคนที่ชอบ Snap ภาพเร็ว ๆ
ทีนี้เดี๋ยวเรามาเล่ากันถึงความสามารถอื่น ๆ กันบ้างดีกว่าเดี๋ยวจะเบื่อตรงเมนูซะก่อน กล้องตัวนี้ใช้เซ็นเซอร์ที่มีความละเอียด 17 ล้านพิกเซล แต่ตัวเซ็นเซอร์จะมี 21.77 ล้านพิกเซล ซึ่งเซ็นเซอร์ตัวนี้เป็นแบบ Multi Aspect ที่สามารถปรับอัตราส่วนได้ โดยเลือกได้ที่ 4:3, 3:2, 16:9, 1:1 ซึ่งการที่เป็น Multi Aspect Sensor จะทำให้เวลาเราเปลี่ยนอัตราส่วน จะได้พื้นที่ความละเอียดที่มากกว่าการเปลี่ยนอัตราส่วนภาพตามกล้องทั่วไปที่ไม่ได้ใช้ Multi Aspect Sensor (แต่เอาจริง ๆ ส่วนใหญ่คนทั่วไปผมว่าไม่ค่อยได้เปลี่ยนสักเท่าไหร่นะ) แต่ก็น่าจะเป็นจุดขายของเขาแหละ
เดี๋ยวเรามาดู ภาพตัวอย่าง จากกล้อง Panasoic LX100 II กันดีกว่าว่าออกแบบมาแล้วเป็นยังไงบ้างครับ อันนี้เป็นไฟล์ JPEG ทั้งหมดนะ
อันนี้เป็นภาพตัวอย่างที่เดี๋ยวเราจะมีทดสอบกับภาพ Portrait เพิ่มขึ้นมา ตอนนี้ที่ทดสอบมาได้เท่านี้ก่อนครับ ซึ่งภาพรวมเรารู้สึกว่ามันดีในระดับนึงนะ ใน Low Light แสงน้อย ๆ ตอนแรกคิดว่าจะแย่แต่ก็ไม่เลย เพราะกันสั่นมันชดเชยไว้ได้ดี ทำให้เราใช้ความเร็วชัตเตอร์ต่ำเพื่อเก็บแสงได้เหมือนกัน
นอกจากนี้การละลายหลัก็โอเคกว่าที่คิดไว้ ซึ่งตอนแรกไม่คิดว่าจะทำได้เยอะ แต่ด้วยตัวเลนส์มัน F1.7-2.8 พอใช้ระยะซูมสุดแล้วเข้าใกล้ ๆ จุดโฟกัสก็ละลายหลังได้ดีเหมือนกัน
ข้อดีที่เป็นเหตุผลในการจะซื้อมาใช้
- ดีไซน์สวย แล้วใช้ถ่ายรูปได้คุณภาพสูงในระดับใช้งานได้ดีที่สุดในกลุ่มกล้อง Compact ของค่ายเพราะใช้เซ็นเซอร์ Micro 4/3
- พกพาค่อนข้างง่าย ไปไหนก็ได้ ใส่กระเป๋ากางเกง กระเป๋าเสื้อคลุม เสื้อกันหนาวได้
- คุณภาพเลนส์ กับการโฟกัสโอเคเลย ใช้แล้วไม่รู้สึกว่าน่าจะเอากล้องตัวใหญ่ที่บ้านมาอะไรแบบนั้น
- หน้าตาไม่น่ากลัว เลยทำให้ถ่าย Snapshot ไปทั่ว ไม่มีใครสังเกต มี Silent Mode แอบถ่ายเงียบ ๆ ได้ เวลาไปรีวิวร้าน หรือถ่ายในบางร้านที่เราไม่แน่ใจว่าเขาให้ถ่ายไหม
- มีโหมด 4K ค่อนข้างเต็มระบบ เยอะพอจนไม่ได้ใช้ก็ยังมีมาให้ อันนี้แล้วแต่คน เราว่ามันก็ดีสำหรับบางคน แต่บางคนอาจจะเฉย ๆ (แต่เชื่อเหอะว่ามีข้อดีมากถ้าได้ใช้นะ)
- มันคือ Compact ที่ตีตรา LEICA เป็นมาตรฐานเลนส์เกรดสูงอยู่ สบายใจได้เรื่องคุณภาพ
ข้อสังเกตที่อาจจะต้องคิดก่อนซื้อ
- ส่วนตัวแอบคาใจกระบอกเลนส์ที่มันยื่น ๆ ยาว ๆ ตอนซูม แต่ด้วยที่บอดี้จะทำให้มันเล็กขนาดนั้น ก็มีวิธีเดียวอันนี้เข้าใจ แค่ส่วนตัวมันแบบ แปลก ๆ หน่อย
- การถ่ายภาพได้ช่วงเลนส์ตามที่ให้มาคือ 24-75 ค่อนข้าง Normal ผสม Telephoto นิด ๆ ครอบคลุมประมาณนึง แต่ถ้าเกินนี้ก็ต้องทำใจ
แล้วคิดว่าซื้อ Panasonic LX100 II ดีไหม?
เราว่าถ้าคอมแพคในช่วงราคานี้ ดีไซน์สวย ๆ ได้คำว่า LEICA แล้วไฟล์ภาพมันดี สวยคมจริง ๆ มีกำลังซื้อ + ความอยากได้ เราแนะนำนะ มันโอเคเลยสำหรับการถ่ายภาพเที่ยวสนุก ๆ แล้วไฟล์มันใช้งานได้จริง นี่ถ้าเอาไปต่างประเทศจะเป็นกล้องสไตล์นักท่องเที่ยวที่ถ่ายได้เกือบทุกที่โดยไม่เตะตาชาวบ้านเลย
แต่เราผู้อ่านเป็นคนไม่ชอบ Compact เราว่าปล่อยผ่านสำหรับกล้องตัวนี้ดีกว่า เพราะว่ามันอาจจะยังไม่ได้ตอบโจทย์ความต้องการเราแต่แรก
Panasonic Lumix LX100 II ราคา 31,990 บาท เริ่มจำหน่าย 9 พฤศจิกายน 2561 ครับ แต่ตอนนี้สามารถสั่ง Pre-Order ได้ที่ ZoomCamera บนสาขา Online หรือสามารถเป็นเจ้าของได้ที่ร้าน ZoomCamera ทุกสาขา
สั่งจอง Panasonic Lumix LX100 II ออนไลน์ได้ที่นี่ : https://goo.gl/forms/6WsDglD02w0YcZJ83
แอดไลน์ ID:@ZoomCamera
http://line.me/ti/p/~@zoomcamera
———– สอบถามเพิ่มเติม ————
ส่ง EMS ทั่วประเทศ
Line@ : @zoomcamera
086-349-7224 / 02-635-2330 ต่อ 0 (หยุดวันอาทิตย์)
?สาขา Central Plaza เวสต์เกต 02-054-7462 / 097-063-4328
?สาขาสีลม 02-635-2330-1 / 080-271-2772
?สาขาเมกาบางนา 02-105-1926 / 086-554-1919
?สาขาเดอะมอลล์บางแค 02-454-9598 / 084-033-0498
?สาขาฟอร์จูนทาวน์ 083-068-2775
?สาขาเดอะมอลล์งามวงศ์วาน 02-951-8597 / 085-937-0123
?สาขา Central Festival เชียงใหม่ 052-068-787 / 096-878-4896
?สาขา Central Festival หาดใหญ่ 074-848-700/095-702-7585
บทความนี้เขียนเมื่อวันที่ 30/10/2018