หากจะพูดถึงเลนส์ในช่วง Normal Zoom ที่ใช้งานกับกล้อง Mirrorless Fullframe ของ Sony นั้น เพื่อนๆน่าจะนึกถึงเลนส์ค่ายอย่าง Sony GM หรือ เลนส์คุณภาพจาก Zeiss ซึ่ง ณ ตอนนี้ Sigma ก็ได้เข้าร่วมผลิตเลนส์เช่นกัน 1 ในนั้น คือ Sigma 24-70 F2.8 DG ART FE

Video Review

Key Feature

ออกแบบสำหรับกล้อง Mirrorless Fullframe E-Mount
ทางยาวเทียบเท่า 24-70mm. บน Fullframe
สามารถใช้กับ APS-C ได้ โดยทางยาวจะเป็น 36-105mm.
ปุ่ม AF-L สำหรับ Setting เพิ่มเติมในการใช้งาน
ตัวกระบอกติดตั้ง Weather Seal เพื่อป้องกันละอองน้ำ ละอองฝุ่น
โครงสร้างชิ้นแก้ว 19 ชิ้น 15 กลุ่ม
กลับรูรับแสง 11 กลีบ
ขนาดฟิลเตอร์ 82 mm.
น้ำหนัก 835 กรัม

Gallery

Focal Length

ด้วยทางยาวโฟกัสเทียบเท่า 24-70mm. ทำให้เลนส์รุ่นนี้ใช้งานได้อย่างคล่องตัว ทั้งในช่วง Wide และ Normal ซึ่งเป็นระยะที่เทียบเคียงกับเลนส์คิทนั่นเอง

การเป็น Normal Zoom ทำให้เป็นตัวเลือกลำดับแรกๆของผู้ใช้งาน ที่จะเลือกมาใช้อย่างไม่ลังเล รวมถึงยังเป็น 1 ใน 3 ระยะ 3 king ของช่วง zoom ด้วยนั่นเอง

ข้อดี คือ ด้วยความที่เลนส์มีค่ารูรับแสง F2.8 ตลอดช่วง จึงทำให้เสมือนถือเลนส์ Fix ตั้งแต่ระยะ 24mm. ไปจนถึง 70mm. ซึ่งปกติเลนส์ zoom มักจะมีค่ารูรับแสงไม่คงที่นั่นเอง

ภาพตัวอย่าง : ระยะ Focal Length ต่างๆ

Vignette

Vignette หรือ อาการขอบดำภายในภาพ เป็นอาการที่เรามักจะพบได้มากยามที่เราใช้ค่ารูรับแสงกว้างๆ ซึ่งการ Test อาการ Vignette อย่างง่ายๆนั้น สามารถ Test โดยถ่ายผ่านฉากหลังสีขาวล้วน จะปรากฏอาการได้เป็นอย่างดี

ทั้งนี้อาการดังกล่าวจะค่อยๆลดลง เมื่อเราเริ่มหรี่ค่ารูรับแสงแคบลงนั่นเอง

ภาพตัวอย่าง : อาการ Vignette

Distortion

อาการภาพบวมป่อง หรือ ที่เรารู้จักกันในชื่อของ Distortion สำหรับ Sigma 24-70 F2.8 DG ART FE นั้น วันที่ได้รับมาทดสอบ ( 4/1/2020 ) ยังไม่มี Profile สำหรับแก้ไขความคลาดเคลื่อน ทั้งในส่วน RAW หรือ JPG

ภาพตัวอย่าง : อาการ Distortion

ถึงอย่างนั้น เพื่อนๆสามารถแก้ไขเบื้องต้น ด้วยการใช้ Len Profile ของ Sigma 24-70 F2.8 DG ART ที่เป็น Mount Canon EF หรือ Mount Nikon F ทดแทนไปก่อนครับ

ภาพตัวอย่าง : การแก้ไขอาการ Distortion

Ghost / Flare

สำหรับเพื่อนๆที่นิยมการถ่ายภาพย้อนแสง อาจจะเจออาการแสงแปลกๆภายในภาพ ซึ่ง อาการนี้เรียกว่า Ghost / Flare นั่นเองครับ ซึ่งมักจะปรากฏภายในภาพ เมื่อเราถ่ายภาพย้อนแสงแบบจังๆ โดยจะมีประกายเป็นสีน้ำเงิน สีม่วง หรือ สีรุ้ง

ภาพตัวอย่าง : อาการ Ghost / Flare

Star Effect

เพื่อนๆทราบหรือไม่ว่า การที่เราเปิดค่า F แคบๆนั้น นอกเหนือจะเพิ่มการควบคุมความชัดลึกทั่วทั้งภาพแล้วนั้น ยังมีส่วนช่วยเรื่อง Star Effect หรือ อาการไฟแฉก ภายในภาพด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้ลักษณะ Star Effect ของเลนส์แต่ละรุ่นนั้น จะมีความแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับการออกแบบโครงสร้างเลนส์นั้นๆด้วยเช่นกันครับ