สำหรับ Zhiyun Weebill 2 คือกิมบอลที่มีระบบกันสั่นแบบ 3 แกน ทำงานร่วมกับ Infineon Chip ที่ช่วยประมวลผลการเคลื่อนไหวช่วยให้ได้ภาพวิดีโอที่มีความนิ่งและนุ่มนวลมากขึ้น ตอบสนองรวดเร็ว มอเตอร์ใหม่ดูบึกบึนขึ้น แรงขึ้น ทำงานดีขึ้น มีจอทัชสกรีนไว้ควบคุมการทำงานของกิมบอลได้ และอุปกรณ์เสริมในแพจแกจต่าง ๆ มากมายที่ทำให้กิมบอลทำงานได้มากขึ้น เค้ามีด้วยกัน 4 แพคเกจเลย ตัวที่ผมเอามารีวิวก็เป็นแพคเกจใหญ่สุดเลยนั่นก็คือ Pro+ เพราะฉะนั้นอุปกรณ์ทุกอย่างจะครบ ๆ ถ้าอยากรู้ว่าแต่ละแพจเกจต่างกันยังไงมีอะไรเพิ่มผมทำคลิปแยกไว้ให้แล้ว ก็ตามไปดูกันได้เลย
Key Spec
- 3 axis Gimbal (Pan tilt Roll)
- Payload 4kg.
- น้ำหนัก 1.43 KG ไม่รวม tripod
- buit in แบตเตอรี่ 2600 mAh (ชาร์จผ่าน USB-C)
- ใช้งานได้ยาวนาน 9 ชม.
- เวลาชาร์จ 1.6 ชม. เมื่อใช้ PD Fast Charge 24W และสามารถชาร์จไปใช้ไปได้
วัสดุ & การออกแบบ

ผลิตด้วยอลูมิเนียมอัลลอย ที่มีความแข็งแรงทนทาน เรียบเนียนไร้รอยต่อ ทอเต็มผืน หลับเต็มตื่น ผื่นเต็มตัว แฮร่ อะไรกันครับเนี่ยะ!การออกแบบรูปแบบโดยรวมก็ยังคงเป็น Classic Underslung design เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือออกแบบในส่วนอื่น ๆ ใหม่หมด ปุ่มคอนโทรลและสวิตซ์ต่างๆ ถูกย้ายแก้ไขเพื่อให้ใช้งานได้สะดวกขึ้นจากรุ่นก่อน ๆ ที่อยู่ข้างหลังตรงกริปมือจับซึ่งเป็นตำแหน่งที่ไม่ดีเอาเสียเลยเพราะเราต้องไปกำตรงนั้น หลาย ๆ ครั้งที่มืออาจจะไปโดนทำให้ค่าเซ็ตติ้งมีการเปลี่ยนแปลงได้ จับก็ไม่เต็มไม้เต็มมือเพราะกลัวไปโดนปุ่ม ตัวใหม่จะเป็นกริปอย่างเดียวแล้วครับ ปุ่มอื่น ๆ ถูกย้ายไปหมด กำได้เต็มไม้เต็มมือ
Handheld Tripod

อันนี้มีแถมมาให้เหมือนเดิม เพียงแต่ว่าการใช้งานจะดูลำบากกว่าแบบเก่านิดหน่อยเพราะถ้าเราต้องการจะเอา Handheld Tripod มาใส่ด้านบนเพื่อถือท่า Underslung มันจะใช้เวลานานกว่าเดิมเพราะต้องหมุนเข้าออก ไม่เหมือนอันเดิมที่สามารถใส่แบบ quick Release ได้เหมือนเดิม ครั้นถ้าเราจะติดไว้ด้านบนตลอดก็อาจจะมีบางครั้งที่เราอยากจะวางกิมบอลบ้าง ก็ต้องหมุนออก เอามาหมุนใส่ข้างล่างให้มันเป็น Tripod ก็อาจจะดูเสียเวลา

เพราะงั้นถ้าใครคิดว่าแบบนี้มีปัญหาผมแนะนำเป็นชุด Combo ไปเลยครับ เพิ่มเงินอีกหน่อยให้ได้ตัวกริปจับ Sling Grip Handle เพิ่มแล้วก็ใส่ไว้ตลอดใช้เสร็จก็ถอดออก หรืออยากถอดตอนไหนก็ถอดได้เลย เพราะว่าพอมาเป็นอันนี้มันเป็น quick Release ถอดเข้าถอดออกได้สบายกว่า
จอพับ

อย่างแรกที่อยากจะพูดถึงก็คือจอ จอจะอยู่ตรงด้ามมือจับ หมุนออกมาได้ ถ้าไม่ใช้ก็พับเก็บ ตัวหน้าจอสามารถพับเก็บได้ง่าย และปรับหมุนได้ถึง 135° หน้าจอสีขนาด 2.88 นิ้ว Touch Screen สำหรับใช้ควบคุมและตั้งค่าต่าง ๆ ของกิมบอล ไม่ต้องเชื่อมต่อแอพให้วุ่นวายเหมือนรุ่นก่อน ๆ สามารถปรับได้หมด ไม่ว่าจะเป็น
Mode Settings,Balance check,Advance Features (timelapse และ Motionlapse)
Parameter Settings (motor settings,Smoothness,follow speeds,joystick responsiveness,deadband settings),Auto calibration,Parameter reset
Control wheel,Follow focus Motor,Fine-tuning
Language,device information,More Settings (video transmission charging)

มีระบบ AI Video Transmission (Real time monitoring) พูดง่าย ๆ ก็คือส่งสัญญาณภาพเข้ามาที่จอเพื่อมอนิเตอร์ผ่านจอที่กิมบอล หรือใช้งานร่วมกับ Smartfollow 3.0 ช่วยให้ติดตามวัตถุได้ โดยที่ภาพก็เป็นภาพจากกล้องการติดตามจะได้แม่นยำมากขึ้นด้วย
Wheel Control

Weebill 2 จะมี Wheel Control มาให้เหมือนในรุ่นก่อน ๆ หน้า คือถ้าเดิม ๆ มาเราไม่ตั้งอะไร จะหมุนเพื่อควบคุมให้กล้อง Roll แต่เราสามารถเข้าไปตั้งค่าเพิ่มเติมได้ที่จอทัชสกรีนนั่นแหละให้สามารถควบคุมอย่างอื่นได้เช่น Follow Focus Motor Control,Follow Zoom Motor Control และคุมกล้องได้เปลี่ยน Aperture,ISO,Shutter,Electronic focus ก็ได้ เลือกได้เพียงอย่างเดียว
Joystick

ถูกเปลี่ยนรูปแบบและตำแหน่ง โดยที่แบบเดิมจะอยู่ที่บริเวณกริปมือจับและรูปแบบจะเป็นแบบแป้นกลม แต่แบบใหม่เป็น Joystick ย้ายมาอยู่ตรงนิ้วโป้งถ้าเราจับด้วยมือขวา จะสามารถปรับแกน Pan และแกน Tilt ได้ ถ้าอยู่ในโหมด Vortex Mode จะเปลี่ยนเป็น Roll อย่างเดียว ส่วนการตั้งค่าเราจะสามารถตั้งค่าความเร็วหรือ responsiveness ได้ที่จออีกแล้ว โดยเลือกความเร็วได้ 3 ระดับ Slow,medium,Fast และสามารถ Customize แต่ละแกนให้เร็วไม่เท่ากันได้ด้วยครับ
สวิตซ์ปรับโหมด

ในส่วนของสวิตซ์ปรับโหมดจากเดิมเป็นปุ่ม ตัวนี้ถูกเปลี่ยนเป็นสวิตซ์อยู่ด้านข้าง มีให้เลือกสามโหมดที่ใช้บ่อย ๆ คือ PF หรือ Pan follow Mode , L หรือ Lock Mode และ F หรือ Follow Mode นั่นเองครับ ซึ่งผมว่าการวางตำแหน่งอาจจะลึกไปนิดนึงถือมือเดียวอาจจะใช้นิ้วโป้งดันยากหน่อยต้องถือสองมือถึงจะใช้นิ้วโป้งของมือขวามาดันได้ แต่ก็พอเข้าใจได้ใช่ว่าเราจะเปลี่ยนโหมดทันทีทันใด และก็ไม่ได้ถึงกับไม่สะดวกเพราะก็ไม่ได้ใช้เวลานานถ้าใช้สองมือ
สวิตซ์ล็อคแกน

ในส่วนของ สวิตซ์ล็อคแกน หรือ สวิตซ์ล็อคเวลาบาล้านซ์ ก็มีให้อยู่แล้วปกติ เวลาบาล้านซ์จะได้บาล้านซ์ง่าย ๆ ถูกออกแบบมาไม่ให้มีส่วนไหนยื่นออกมาแล้วไปขัดไปขีดไปถูกับส่วนอื่นก็ถือว่าปกติดีครับ
เพลท

เพลทเป็นสิ่งหนึ่งที่ผมไม่ค่อยประทับใจในตัว Weebill 2 สักเท่าไหร่ เพราะเพลตที่ให้มาไม่ใช่ Quick release หรือเพลตสองชั้นแบบอีกค่าย ที่ถอดออกเอามาใส่ใหม่ก็ไม่ต้องบาลานซ์ใหม่อีกรอบ แต่ Weebill 2 คือต้องมานั่งหมุนน็อตใหม่ บาล้านซ์ใหม่ คือมันมีแบบที่สะดวกกว่านี้ไง พอเรามาใช้แบบนี้ก็เลยรู้สึกไม่สะดวกเท่าไหร่ เวลาที่เอากล้องออกไปใช้กับอุปกรณ์อื่น ๆ เราก็ต้องกลับมาทำการบาล้านซ์ใหม่ทุกรอบ แต่ก็พอจะมีแนวทางแก้ไขคือไปซื้อเพลต Quick release จาก Manfrotto ที่เป็นตัว RC-2 หรือเพลต Quick release จากจีนก็ได้ราคาถูกหน่อยอย่างตัว Ulanzi Falcam F38 Quick Release Plate Set ที่รองรับการทำงานร่วมกับระบบ Quick release จาก Manfrotto และ Peak design มาใช้ก็ได้ราคาก็จะถูกหน่อย แล้วเอามาใส่ก่อนที่จะเอาไปใส่กับเพลตของกิมบอลที่นี้เราก็จะได้ Quick release มาใช้ถอดกล้องได้โดยไม่ต้อง บาล้านซ์ใหม่
7 Mode ให้เลือกใช้

ข้อดีอย่างนึงของ Zhiyun Weebill 2 คือการที่มีโหมดให้เลือกใช้เยอะมาก มีให้เลือกใช้ด้วยกัน 7 โหมด ซึ่งสามารถปรับได้จากจอทัชสกรีนเลยอันนี้สะดวกสุด ๆ
1. Pan Follow Mode
โหมดนี้กล้องจะแพนซ้ายขวาได้อย่างเดียว ไม่สามารถ Tilt หรือ roll ได้
2. Lock Mode
คือโหมดที่จะล็อคกิมบอลให้อยู่ตรงกลางแกนทุกแกนจะถูกล็อคเอาไว้ ไม่แพนช้ายขวาหรือขึ้นลงอะไรเลย
3. Follow Mode
ใช้ได้ทั้งแกน Pan และ Tilt แต่ไม่สามารถใช้แกน Roll ได้อย่างเดียว
4. POV Mode
ใช้ได้ทุกแกนไม่ว่าจะเป็น Pan Tilt หรือ Roll
5. Portrait Mode
พูดง่าย ๆ ก็คือถ่ายวีดีโอแนวตั้งนั่นแหละครับ
6. Go Mode
กิมบอลจะปรับความเร็วให้เร็วขึ้น เหมาะกับการถ่ายแนวแอคชั่นหรือกีฬา
7. Vortex Mode
กล้องจะเงยขึ้นแล้วเราก็จะสามารถถ่ายกล้องหมุนได้โดยการไปขยับที่จอยสติ๊ก
โหมด Timelapse , motion lapse

โหมด Timelapse , motion lapse ก็มีมาให้ สำหรับใครที่ต้งการลูกเล่นของวีดีโอเพิ่มขึ้น ก็สามารถใช้โหมดเหล่านี้ได้ โดยที่โหมด Timelapse สามารถเลือกจุดเริ่มและจุดจบได้
Zhiyun MasterEyes

ระบบการควบคุมระยะไกล มีชื่อว่า ” Zhiyun MasterEyes ” ซึ่งจะมีใช้กันในกลุ่มของกิมบอลเรือธงซีรีย์ Crane แต่นี่ถูกเอามาใส่ในรุ่นนี้ด้วย ทำให้ผู้ใช้กิมบอลที่อาจจะมีงบไม่สูงมาก แต่อย่างใช้ระบบส่งสัญญาณแบบนี้สามารถเข้าถึงการใช้งานระดับมืออาชีพได้

จะเป็นระบบที่ควบคุมผ่าน Remote Control ที่ทำขึ้นเป็นพิเศษ สามารถแชร์ภาพออกไปให้อุปกรณ์ได้สูงสุดถึง 3 อุปกรณ์ และตัวรีโมตนี้ยังสามารถปรับค่า F , ISO , Speed shutter , White Balance , ตำแหน่งของการโฟกัส ฯลฯ ได้หมด สะดวกมาก ๆ
4 Package เลือกให้เหมาะกับงานของคุณ
Zhiyun Weebill 2 จะมี Package ให้เลือกด้วยกัน 4 Package ด้วยกัน ของที่มาในแพคแกจก็ต่างกัน ใช้งานก็ต่างกันเพราะอุปกรณ์ที่เพิ่มมาก็อัพเกรดความสามารถได้มากขึ้น ซึ่งราคาก็แตกต่างกันด้วยตามของที่เพิ่มเข้ามา
1.Standard Package

2.Combo Package

3.Pro Package

4.Pro+ Package

แต่ละ Package ต่างกันยังไงดูวีดีโอนี้
Zhiyun Weebill 2 ราคา ณ วันเปิดตัว
- Zhiyun Weebill 2 standard ราคา 18,900 บาท (สินค้าประกันศูนย์ไทย)
- Zhiyun Weebill 2 Combo ราคา 21,900 บาท (สินค้าประกันศูนย์ไทย)
- Zhiyun Weebill 2 Pro ราคา 31,000 บาท (สินค้าประกันศูนย์ไทย)
- Zhiyun Weebill 2 Pro+ ราคา 37,900 บาท (สินค้าประกันศูนย์ไทย)