เปรียบเทียบ Fujifilm X-A7 vs Sony A6100 vs EOS M50 Leave a comment

เปรียบเทียบ Fujifilm X-A7 vs Sony A6100 vs EOS M50

Fujifilm X-A7 กล้อง Mirrorless รุ่นใหม่จากทาง Fujifilm ก็ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในฐานะ Smart Mirrorless ที่ชูจุดเด่นเรื่องการใช้งานที่ง่าย ตอบโจทย์สายเซลฟี่และงาน Video แบบ VLOG ได้อย่างลงตัว แม้จะเป็นกล้องในระดับ Entry ก็ตามที

ประเด็นในวันนี้ที่ทีมงาน Zoomcamera รวบรวมมาเสนอให้กับเพื่อนๆนั้น จะเป็นการเปรียบเทียบความสามารถของกล้องในระดับ Entry ที่มีระดับราคาใกล้เคียงกัน โดยมีกล้อง Mirrorless 3 รุ่นที่ถูกนำมาเปรียบเทียบให้ได้ชมกัน คือ Fujifilm X-A7 , Sony A6100 และ Eos M50 หากพร้อมแล้ว เชิญชมรายละเอียดด้านล่างได้เลยครับ

Introduction : Fujifilm X-A7

Introduction : Sony A6100

Introduction : Canon EOS M50

รีวิว : Canon EOS M50

 

เปรียบเทียบ Fujifilm X-A7 vs Sony A6100 vs EOS M50

การออกแบบ

ต้องบอกว่าพฤติกรรมผู้บริโภคมีผลต่อตลาดกล้องด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะกับตลาดระดับ Entry ด้วยแล้ว จัดว่าเป็นชิ้นเค้กที่ใหญ่พอสมควร หากแบรนด์ใดต้องการยึดส่วนนี้ ต้องมีการทำการบ้านมาดีในระดับหนึ่งเลยครับ ไม่แปลกใจเท่าไรนักที่กล้องระดับ Entry ผู้บริโภค ( ต่อไปขอเลือกแทนว่า User ) มักจะจับจ้องมาที่ Fujifilm กันเป็นส่วนใหญ่ ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่ดูเป็นมิตร อีกทั้งยังได้กลิ่นอายความ Retro , Hipster อยู่บ้าง ยิ่งกับ Body ที่เป็นสีน้ำตาลตัดกับเส้นสายสีเงินแล้ว ดู Classic ลงตัวเป็นอย่างดี อีกทั้งเฉดสีก็มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจด้วยเช่นกัน

ถัดมา Sony A6100 กล้อง Mirrorless น้องใหม่จากค่าย Sony ที่แม้ว่าจะยังไม่เปิดตัวในไทยอย่างเป็นทางการ แต่ในภาพรวมหากมองแค่การออกแบบต้องบอกว่าเจ้า Sony A6100 แทบจะเสมือนเป็นการนำ Sony A6000 และ Sony A6400 มาจับควบรวมเข้าด้วยกัน ซึ่งจะเห็นได้จากลักษณะ Body ที่ใกล้เคียงกันมาก รวมไปถึงจอ LCD แบบ Tilt / Flip เหมือน Sony A6400 นั่นเอง และยังคงเอกลักษณ์ของกล้อง Mirrorless แบบ Rangefinder ไว้ได้เป็นอย่างดี

ส่วน Canon EOS M50 แม้จะออกมาทำตลาดเป็นระยะเวลานานแล้วก็ตามที แต่ยังได้รับความนิยมอย่างต่อเนือง ด้วยขนาด , การจับถือ และราคาเปิดตัวที่ถือว่าค่อนข้างจะเซอไพรส์ ประกอบกับความเป็น Canon ที่เคยเป็นยักษ์ใหญ่ในวงการกล้อง DSLR ครั้นลงมาแจมในตลาดกล้อง Mirrorless ที่ยังคงรูปทรง DSLR ไว้แต่มีขนาดที่เล็กลง

จอแสดงผล

• จอ LCD

ทั้ง Fujifilm X-A7 , Sony A6100 และ Eos M50 ต่างก็มาพร้อมจอ LCD ที่รองรับระบบ Touchscreen ด้วยกัน ซึ่งที่ดูจะแตกต่างกัน คงจะเป็นในส่วนของ Feature เพิ่มเติมของจอ LCD ครับ โดย Fujifilm X-A7 และ Eos M50 จะเป็น LCD ในอัตราส่วน 16:9 และ 3:2 ตามลำดับ อีกทั้งตัวจอออกแบบในลักษณะ Vario Angle ที่สามารถพับออกมาด้านข้างได้ โดยจอลักษณะจะช่วยให้การทำงานของ User ที่ต้องการถ่ายเซลฟี่ หรือ งาน Video แบบ VLOG สะดวกยิ่งขึ้น และ สามารถทำงานได้ด้วยตัวคนเดียว ในขณะที่ Sony A6100 จะเป็นจอ LCD แบบ Tilt + Flip ที่จะใช้การพับจอขึ้นด้านบนแทนการพับออกด้านข้าง แม้จะใช้งานในลักษณะถ่ายเซลฟี่ หรือ งาน Video แบบ VLOG ได้เหมือนกัน แต่เจ้า Sony A6100 อาจจะลำบากยามที่ต้องติดอุปกรณ์เสริมอย่าง mic. ตรงบริเวณ hotshoe นั่นเอง

• ช่องมองภาพ

เป็นที่น่าเสียดายที่ Fujifilm X-A7 เป็นกล้อง Mirrorless เพียงรุ่นเดียวใน 3 รุ่นที่นำมาเปรียบเทียบ ไม่มีช่องมองภาพ หรือ EVF เพื่อใช้ในการเล็งเวลาถ่ายภาพนั่นเอง แม้ว่า User มือใหม่อาจจะเคยชินกับการใช้งานด้วยการ Touchscreen ผ่านทางหน้าจอเฉกเช่นเดียวกับ Smartphone เพราะ ง่ายและสะดวกก็ตามที แต่ในสถานการณ์ที่ต้องถ่ายภาพกลางแดดแล้ว จอ LCD ส่วนมาก มักจะไม่สามารถสู้แสงแดดจัดๆได้นั่นเองครับ ในขณะที่ Sony A6100 และ Eos M50 มาพร้อมกับช่องมองภาพแบบ EVF ติดตกล้องที่ตัวกล้องพร้อมใช้งานควบคู่กับจอ LCD นั่นเอง

ระบบ Focus

ใน Generation นี้ ระบบการ Focus ของกล้องแต่ละค่ายนั้น ย่อมไม่ธรรมดาเหมือนแต่ก่อนแน่นอน เพื่อตอบสนองความต้องการของ Users ยิ่งแม่น ยิ่งไว ยิ่งตอบโจทย์ได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งทั้ง Fujifilm X-A7 , Sony A6100 และ Eos M50 ต่างก็ใช้ระบบ Focus แบบ Hybrid เช่นกัน ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันระหว่าง Contrast Detection และ Phase Detection ทำให้เพิ่มประสิทธิภาพในการค้นหา Focus ได้ดียิ่งขึ้น แม่นยำยิ่งขึ้น แม้ว่าจะอยู่ในสภาพแสงน้อยก็ตามที

จะมีข้อยกเว้นเฉพาะ Sony A6100 เพราะ นอกจากจะมีระบบ Focus แบบ Hybrid แล้วนั้น ยังมี Killer Feature อย่าง Eye AF ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการถ่าย Portrait ได้ดียิ่งขึ้น ( Eos M50 ก็มีเช่นกัน ) ที่พิเศษกว่านั้น คือ Eye AF ของ Sony A6100 นั้น ยังสามารถเลือกได้ว่า จะปรับเป็น Animal Eye AF หรือ Human Eye AF ได้เช่นกัน โดยเฉพาะ Animal Eye AF เรียกได้ว่า ใครที่ชื่นชอบการถ่ายสัตว์เลี้ยงเป็นงานอดิเรกอยู่แล้ว แทบจะไม่พลาด Moment น่ารักๆเลยครับ

อัตราการถ่ายภาพต่อเนื่อง

โดยธรรมชาติกล้องที่มี Buffer ในการถ่ายต่อเนื่องได้ปริมาณที่มากนั้น ส่วนมากจะเป็นกล้องในระดับ Pro เป็นอย่างน้อย แต่สำหรับกล้อง Mirrorless ในปัจจุบันต่างก็ได้รับอานิสงค์ Feature ต่างๆของกล้องในระดับ Pro ติดตั้งมาด้วยเช่นกัน 1 ในนั้นคืออัตราการถ่ายต่อเนื่อง ซึ่งแม้ว่า Fujifilm X-A7 , Sony A6100 และ Eos M50 จะเป็นกล้องในระดับ Entry แต่ก็มีความสามารถในการถ่ายต่อเนื่องได้ในระดับหนึ่ง โดย Fujifilm X-A7 สามารถถ่ายต่อเนื่องได้ 6fps , Eos M50 สามารถถ่ายต่อเนื่องได้ 10fps และ Sony A6100 สามารถถ่ายต่อเนื่องได้ 11fps

งาน Video / VLOG

ในยุคที่สื่อ Social ครองตลาดแทบจะทุกเพลตฟอร์ม ทำให้ User สามารถเสพ Content และ/หรือ ผลงานต่างๆได้ง่ายกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นภาพนิ่งหรืองาน Video โดยเฉพาะกับงาน Video ที่ปฏิเสธไม่ได้ว่า ในปัจจุบันได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก ทั้งที่ถ่ายแบบ Clip สั้นๆ , ถ่ายแบบ Video Content หรือ ถ่ายแบบ VLOG ซึ่อย่างหลังสุดนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เสมือนเป็นการเล่าเรื่องในแต่ละ Activity ผ่านทาง Video ในมุมมองของตนเอง

• Feature Video

สำหรับ Feature Video ของทั้ง Fujifilm X-A7 , Sony A6100 และ Eos M50 ต่างก็รองรับการถ่าย Video 4K ได้เช่นกัน ซึ่งจะแตกต่างในส่วนของระยะเวลาในการบันทึก โดย Fujifilm X-A7 จะบันทึกได้สูงสุด 15 นาที ส่วน Sony A6100 และ Eos M50 ได้สูงสุด 29.59 นาที

ส่วน Video ความละเอียด FullHD ของทั้ง Fujifilm X-A7 , Sony A6100 และ Eos M50 ก็รองรับการถ่ายได้สูงสุดที่ 60p , 50p , 30p ได้เหมือนกัน ยกเว้น Sony A6100 ที่สามารถ่ายได้สูงสุด 120p ครับ ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่ต้องการนำไป Process ต่อ เพื่อทำ Effect Slowmotion ได้ด้วยเช่นกัน

• Feature VLOG

ในแง่ของการใช้ Fujifilm X-A7 , Sony A6100 และ Eos M50 มาถ่าย Video แบบ VLOG นั้น ถือว่าทั้ง 3 รุ่น มีความสูสีคู่คี่กันเป็นอย่างมาก เนื่องจากตัวจอ LCD ที่ได้รับการออกแบบในลักษณะ Vario Angle / Flip ที่ตอบโจทย์การทำงานของ VLOG ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมี Port mic. ขนาด 3.5mm. ติดตั้งมาให้ด้วย ซึ่งข้อดีของการใช้ mic. แยกนั้น จะช่วยเพิ่มคุณภาพของเสียงที่จะได้รับจากการบันทึก Video ได้ดียิ่งขึ้น ทั้งนี้เมื่อมีการติดตั้ง mic. จะทำให้เจ้า Sony A6100 ดูมีอุปสรรคเพิ่มเล็กน้อย เพราะ ตำแหน่งของ Hotshoe จะไปบดบังหน้าจอ LCD ที่ทำการ Flip มานั่นเอง ซึ่งอาจจะต้องพึ่งพาอุปกรณ์เสริมเพื่อต่อแยกออกมาก็ได้เช่นกัน ในขณะที่ Fujifilm X-A7 ยังมี Port mic. ขนาด 2.5mm. เท่านั้น ซึ่งจำเป็นต้องหา Adapter แปลงเป็นขนาด 3.5mm. ก่อนใช้งานกับ mic. ด้วยนะครับ

ปริมาณแบตเตอรี่

ปฏิเสธไม่ได้ว่า กล้อง Mirrorless มีประจุแบตที่ค่อนข้างจะน้อยกว่ากล้อง DSLR ในระดับ Segment เดียวกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ส่วนหนึ่งเพราะการออกแบบให้มีขนาดที่เล็กลง กะทัดรัดด้วยนั่นเอง ซึ่งเรามาดูกันดีกว่า ว่า Fujifilm X-A7 , Sony A6100 และ Eos M50 จะมีปริมาณแบตเตอรี่มากน้อยเพียงใด

• Fujifilm X-A7 ใช้แบตเตอรี่รุ่น NP-W126s เมื่อชาร์จเต็มสามารถถ่ายต่อเนื่อง 270 ช๊อต
• Sony A6100 ใช้แบตเตอรี่รุ่น NP-FW50 เมื่อชาร์จเต็มสามารถถ่ายต่อเนื่อง 420 ช๊อต
• Eos M50 ใช้แบตเตอรี่รุ่น LP-E12 เมื่อชาร์จเต็มสามารถถ่ายต่อเนื่อง 235 ช๊อต

ราคาวางจำหน่าย

เชื่อว่า User หลายๆท่านน่าจะใช้หลักเกณฑ์ในเรื่องของราคามาประกอบการพิจารณาเลือกซื้อด้วยเช่นกัน สำหรับราคาวางจำหน่ายของ Fujifilm X-A7 , Sony A6100 และ Eos M50 ก็มีการประกาศออกมาอย่างเป็นทางการแล้ว ( ยกเว้น Sony A6100 ) ซึ่งรายละเอียดของราคานั้นมีตามนี้ครับ

• Fujifilm X-A7 Set 15-45 = 23,990.-
• Fujifilm X-A7 Set 23 F2 WR = 27,990.-
• Sony A6100 Set 16-50 = 850us ( ประมาณ 25,000.- +/- )
• Eos M50 Set 15-45 = 22,990.-

ซึ่งเมื่อพิจารณาเฉพาะราคาเพียงอย่างเดียว จะเห็นว่าเจ้า Fujifilm X-A7 Set 23 F2 WR ดูมีภาษีดีที่สุดครับ เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงเลนส์ติดกล้องจากเดิมที่เป็นเลนส์ Kit 15-45 มาเป็น Fujinon 23 F2 WR ซึ่งได้ค่ารูรับแสงที่กว้างถึง F2 ทำให้สามารถสร้าง Effect หน้าชัดหลังเบลอ และเพิ่มประสิทธิภาพในการถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อยได้ดียิ่งขึ้นนั่นเองครับ

เลือกรุ่นไหนดี

ต้องบอกว่า ทั้ง Fujifilm X-A7 , Sony A6100 และ Eos M50 ต่างก็มีจุดเด่น จุดด้อย ที่แตกต่างกันออกไปตามแต่สถานการณ์ และ/หรือ ลักษณะของงานที่ใช้ด้วยเช่นกัน หากเคยชินกับการใช้งานในลักษณะ Smartphone เน้นควบคุมผ่าน LCD ต้องการ Skintone ที่เป็นเอกลักษณ์ เลือก Fujifilm X-A7 , หากต้องการความสดใหม่ ระบบ Focus ที่รวดเร็ว ว่องไว มีระบบ eye af เลือก Sony A6100 , หากเคยชินกับการใช้งานกล้อง Canon ผนึกกับ Feature Dual Pixel AF เลือก Canon EOS M50 ครับ

ทั้ง 3 รุ่นนั้น ต่างมีความน่าใช้งานอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกัน อยู่ที่ว่าเราจะเลือกนำไปใช้งานในลักษณะใดที่ตอบโจทย์ที่สุด

สอบถามเพิ่มเติม

• 02-635-2330 ต่อ 0 / 083-067-7677 (หยุดวันอาทิตย์)
• สาขาสีลม 02-635-2330-1 / 080-271-2772
• สาขาเดอะมอลล์งามวงศ์วาน 02-951-8597 / 085-937-0123
• สาขาเมกาบางนา 02-105-1926 / 086-554-1919
• สาขาเดอะมอลล์บางแค 02-454-9598 / 084-033-0498
• สาขาฟอร์จูนทาวน์ 02-642-1291 / 083-068-2775 
• สาขา Central Festival เชียงใหม่ 052-068-787 / 096-878-4896
• สาขา Central Westgate 02-060-4362 / 097-063-4328
• สาขา Central  Festival หาดใหญ่ 095-702-7585
• สาขา Fasion Island 02-002-3894 / 096-901-7825
• สาขา Siam Paragon 02-129-4765/096-901-7826