กราบสวัสดีเพื่อนๆที่ติดตามเพจของ Zoomcamera ทุกท่านด้วยครับ ช่วงนี้วงการกล้องโดยเฉพาะค่าย Sony น่าจะคึกคักเป็นพิเศษ เพราะ เมื่อ 27/2/2018 ทางค่าย Sony ได้มีการเปิดตัวกล้อง Mirrorless Fullframe รุ่นใหม่อย่าง Sony A7III กล้องที่ชาวอารยธรรมต่างรอคอยการมาอย่างใจจดใจจ่อ ท่ามกลางกระแสข่าวลือที่ลือมาเป็นระยะเวลาที่นานข้ามปีกันเลยทีเดียว แน่นอนว่าการมาของ Sony A7III นั้น ไม่ทำให้ชาวอารยธรรมผิดหวังแน่นอน เพราะเจ้า Sony A7III นั้นมาพร้อมกับสเปคและฟีเจอร์ที่จัดหนัก จัดเต็ม อารมณ์ลูกผสมระหว่าง Sony A7II กับ Sony A9 ในราคาเพียง 1999$ เท่านั้น (Updated 6เมษ.2561: A7 Mark III Body ราคา 68990 บาท) ทำให้พี่ๆร่วมต่างอิจฉากันเบาๆ ซึ่งหากพิจารณาเฉพาะราคาแล้ว เจ้า Sony A7III จะมีราคาที่ใกล้เคียงกับรุ่นพี่อย่าง Sony A7RII นั่นเองครับ ซึ่งในวันนี้ทีมงาน Zoomcamera จะขอนำเจ้า Sony A7III มาเทียบกับ Sony A7RII กันครับว่า ต่างกันแค่ไหน เลือกตัวไหนกันดีครับ
*** เปรียบเทียบ Sony A7III VS Sony A7RII ***
Sensor Gen ใหม่ กับความละเอียดที่ต่างกัน
Sony A7III ถือว่าเป็น Generation ใหม่ของ A7 Series ที่ตามรอยรุ่นพี่ๆอย่าง Sony A7RIII และ Sony A9 นั่นเองครับ ซึ่งเจ้า Sony A7III แม้จะเปิดตัวช้ากว่าเจ้า Sony A7RIII ก็ตาม แต่ไม่ทำให้ชาวอารยธรรมต้องผิดหวัง เพราะเจ้า Sony A7III นั้นมาพร้อม Sensor ขนาด Fullframe ความละเอียด 24 Megapixels โดยเปลี่ยนมาใช้ Sensor แบบใหม่อย่าง Exmor R BSI CMOS Sensor ที่เป็น Sensor แบบเดียวกับ Sony A7RII นั่นเองครับ ดังนั้นด้าน Output และ Performance ที่ได้นั้น หายห่วงแน่นอนครับ แต่สิ่งที่แตกต่างกันคือ เจ้า Sony A7RII นั้น มาพร้อมความละเอียดสูงถึง 42 Megapixels แน่นอนว่าความละเอียดที่สูง ย่อมส่งผลดีต่องานที่ต้องการความละเอียด ความปราณีต แม้จะต้องแลกกับขนาดไฟล์ที่ใหญ่โตมโหฬารขึ้นก็ตามที ยิ่งเพื่อนๆที่ชอบถ่ายเป็นไฟล์ RAW , RAW + Uncompress ด้วยแล้ว อาจจะต้องเตรียมหา HDD เพิ่มเติมไว้ด้วยนะครับ
จอ Touchscreen
อีกสิ่งหนึ่งที่เจ้า Sony A7III มีความแตกต่างจาก Sony A7RII คือ หน้าจอ LCD ที่ทั้งคือเลือกใช้หน้าจอแบบ Tilting ขนาด 3 นิ้ว ความละเอียด 922,000 เหมือนกัน แต่สิ่งที่มีเพิ่มเติมใน Sony A7III คือ เพิ่มความสามารถในการ Touchscreen เข้ามาครับ ซึ่งเจ้า Touchscreen นี้ สามารถช่วยให้เราเลื่อนจุดโฟกัสได้อย่างรวดเร็ว ว่องไว โดยเฉพาะเวลาถ่าย Video ด้วยแล้ว การจิ้มเลือกจุดโฟกัสได้ทันทีนั้น ยิ่งทำให้การทำงานมีความไหลลื่นมากยิ่งขึ้นครับ
Auto Focus ระดับพระกาฬจาก Sony A9 + Sony A7RIII
แม้ว่าก่อนที่เจ้า Sony A7III จะเปิดตัวนั้น ชาวอารยธรรมต่างเป็นกังวลว่า เจ้า Sony A7III จะใช้ระบบ Auto Focus แบบใด เพราะเดิมทีระบบ Focus ใน Sony A7II จะแบ่งเป็น Phase Detection 117 จุด และ Contrast Detection 25 จุด ซึ่งในอดีตถือว่าเพียงพอต่อการใช้งาน แต่เมื่อกาลเวลาเปลี่ยน Generation แน่นอนว่าการพัฒนาไม่มีวันหยุดเช่นกัน โดยการมาของ Sony A7III นั้น ได้มีการปรับปรุงระบบ Auto Focus ชนิดที่ว่าทิ้งห่างเจ้า Sony A7II กันเลยทีเดียวครับ ซึ่ง Sony A7III นั้น ใช้ระบบ Focus แบบ Phase Detection 693 จุด และ Contrast Detection 425 จุด ซึ่งถือเป็นการพัฒนาแบบก้าวกระโดดกันเลยทีเดียวครับ ในทางกลับกันรุ่นพี่อย่าง Sony A7RII นั้น ใช้ระบบ Focus แบบ Phase Detection 399 จุด และ Contrast Detection 25 จุด ถือว่ามีจำนวนที่แตกต่างกันค่อนข้างจะชัดเจนเลยทีเดียวครับ ต้องจับตาดูกันอีกครั้ง ว่า เจ้า Sony A7III จะทำผลงานออกมาได้น่าประทับใจมากน้อยแค่ไหนกันครับ
Joystick เพิ่มขีดความสามารถในการควบคุม
เดิมทีในกล้อง Mirrorless Sony จะใช้การควบคุมกล้องหลัก ผ่านทาง Jog Wheel ที่เป็นแป้นควบคุม 4 ทิศทางนั่นเองครับ ซึ่งเป็นการควบคุมหลักในกล้องหลายๆรุ่นของ Sony จนกระทั่งการมาของ Sony A9 ซึ่งเป็นรุ่นแรกที่มีการปรับเปลี่ยนการควบคุม โดยเพิ่ม Joystick เข้ามาเป็นการควบคุมหลักเป็นครั้งแรกครับ และถูกนำมาใช้อีกครั้งใน Sony A7RIII รวมไปถึงเจ้า Sony A7III ที่ได้รับอาณิสงค์นี้ไปด้วยเช่นกันครับ เท่ากับว่า ใน Sony A7III จะใช้ Joystick ในการย้ายจุด Focus ไปโดยปริยายครับ และให้แป้นควบคุม 4 ทิศทาง ตั้งเป็น FN อื่นๆอย่างอิสระครับ ซึ่งในส่วนนี้เจ้า Sony A7RII ยังไม่มีการใส่ Joy Stick เข้ามาแต่อย่างใดครับ
อัตรา Burst Shot
อย่างที่เกริ่นไปข้างต้น ว่าเจ้า Sony A7III นั้น ได้มีการใช้ระบบ Auto Focus เหมือนกับรุ่นพี่อย่าง Sony A9 และ Sony A7RIII ซึ่งนอกจากระบบโฟกัสแล้ว ยังพ่วงอัตราการถ่ายต่อเนื่องมาด้วยเช่นกันครับ โดยเจ้า Sony A7III นั้นสามารถถ่ายภาพต่อเนื่องได้ 10fps ด้วยกัน โดยแบ่งเป็น ไฟล์ jpg 24 MP สามารถถ่ายต่อเนื่องสูงสุดที่ 177 เฟรม , ส่วนไฟล์ RAW สามารถถ่ายภาพต่อเนื่องสูงสุดที่ 89 เฟรม ครับ ถือว่าเป็นจำนวนที่สูงใน Format Fullframe ซึ่งต่างจากรุ่นพี่ Sony A7RII ที่สามารถถ่ายภาพต่อเนื่องได้ 5fps โดยสามารถถ่ายได้สูงสุด 22 เฟรม ครับ
รองรับ Video 4K และ FHD Slowmotion
นอกจากจะมีจุดเด่นในเรื่องของภาพนิ่งแล้ว เจ้า Sony A7III ยังมีความสามารถในด้านวิดิโอด้วยเช่นกันครับ โดยรองรับการถ่าย Video FHD ที่ 60fps แล้ว ยังถ่ายที่ 120fps ได้เช่นกัน นอกจากนี้ เจ้า Sony A7III ยังรองรับการถ่าย Video 4K ได้ที่ 30fps พร้อมกับ S-Log3 Gammas เรียกได้ว่าครบเครื่องทั้งภาพนิ่งและวิดิโอเลยทีเดียวครับ ซึ่งมองในมุมกลับกันเจ้า Sony A7RII นั้น ก็รองรับการถ่าย Video 4K เหมือนกัน แต่จะต่างในส่วนของ Video FHD ที่สามารถถ่ายได้สูงสุดที่ 60fps เท่านั้นครับ
Generation ใหม่ กับ Application ที่หายไป
แม้เจ้า Sony A7III จะเป็นกล้อง Mirrorless Fullframe รุ่นใหม่ ที่มี Spec และ Feature ต่างๆ ที่เสมือนนำข้อดีบางส่วนของ Sony A9 และ Sony A7RIII มารวมเข้าด้วยกัน แต่มีสิ่งหนึ่งที่เจ้า Sony A7III ถูกตัดออกไป คือ Application เสริมที่สามารถเพิ่มความสามารถต่างๆลงในตัวกล้องได้อย่างมากมาย อาทิเช่น Application Smooth Reflex, Sky HDR, Digital Filter, Timelapse เป็นต้น ซึ่งหากเพื่อนๆที่สนใจเจ้า Sony A7III ละก็ อาจจะต้องชั่งใจซักเล็กน้อยนะครับ ซึ่งถ้าซีเรียสเรื่อง Application อาจจะต้องมองไปที่ Sony A7RII แทน แต่ถ้าไม่ Worry กับเรื่อง Application แล้วละก็ เลือกไปที่ Sony A7III ได้เลยครับ
รองรับ Dual Slots เป็นที่เรียบร้อย
โดยปกติ Feature ดังกล่าว มักจะปรากฏอยู่ในกล้องระดับ Flagship ทั้งของฝากฝั่ง DSLR และ Mirrorless ซึ่งก่อนหน้านี้ Sony เคยมีการใช้ Dual Slots กับ Body ระดับ Flagship อย่าง Sony A9 และ Sony A7RIII นั่นเองครับ ซึ่งการมาของ Sony A7III นั้น ถือว่าเป็นเรื่องที่เหนือความคาดหมาย เพราะเจ้า Sony A7III นั้น ถูกวางในตำแหน่งกล้อง Mirrorless Fullframe ในระดับ mid-level นั่นเองครับ แต่ก็เป็นการส่งสัญญาณไปในตัวว่า อนาคตกล้อง Mirrorless จาก Sony จะรองรับ Dual Slots เพิ่มมากขึ้นนั่นเองครับ
แบตใหม่ อึด ถึก ทน
หากจะพูดถึง Sony เชื่อว่าเพื่อนๆหลายท่าน คงจะนึกถึงเรื่องแบตเตอรี่ตัวกล้อง ที่บางครั้งให้ประจุมาน้อยนิดไม่เพียงพอต่อการใช้งานใน 1 วัน ยิ่งกับผู้ที่ใช้งานจริงจังหรือผู้ที่รับงานเป็นอาชีพ อาจจะต้องมีแบตเตอรี่สำรองมากถึง 3 – 6 ก้อน ต่อการออกงาน 1 ครั้งก็ว่าได้ครับ ซึ่งการพกพาแบตเตอรี่ครั้งละมากๆ ก็ต้องพกที่ชาร์จเพิ่มเติมไปด้วยเช่นกันครับ แต่ใน Sony A7III จะเปลี่ยนภาพลักษณ์เดิมๆนั้นออกไปให้หมด เพราะ ใน Sony A7III นั้นได้มีการปรับเปลี่ยนแบตเตอรี่มาใช้แบตเตอรี่แบบเดียวกันกับ Sony A7RIII และ Sony A9 ( คาดว่าจะเป็น Z Battery NP-FZ100 ) โดยมีผลเทสว่าเจ้า Sony A7III สามารถถ่ายต่อเนื่องได้สูงสุดที่ 710 เฟรม ต่อประจุแบตที่ชาร์จเต็มครับ ซึ่งถือว่าลบจุดอ่อนไปได้อย่างไร้ข้อกังขาครับ
ราคาเปิดตัว ( ณ 27/2/2018 )
เป็นเรื่องแรกๆที่เชื่อว่าชาวอารยธรรมต่างมุ่งให้ความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าสเปคและฟีเจอร์ต่างๆนั่นเองครับ โดยน้องใหม่ที่เปิดตัวไปล่าสุดอย่าง Sony A7III สำหรับราคาเปิดตัวเฉพาะ Body นั้นอยู่ที่ 1,999$ (Updated 6 เมย. 2561 A7 III ราคา 68990 บาท)หรือประมาณการเป็นค่าบาทอยู่ที่ 6x,xxx บ. ( รอราคาทางการอีกครั้ง ) ซึ่งถือว่ามีราคาที่ต่ำกว่าเจ้า Sony A7RII อยู่บ้างครับ โดยราคาปัจจุบันของ Sony A7RII นั้นเฉพาะ Body (Update 6 เมย. 2561 A7R II ราคา 69990 บาทหลังหักโปรโมชั่นส่วนลด) อยู่ที่ 2,399$ ( ประมาณ 79,990 บ. ) ซึ่งเพื่อนๆที่ลังเลระหว่าง 2 รุ่นนี้อาจจะต้องชั่งใจว่า ตัวเองเน้นการใช้งานด้านไหนเป็นหลัก
Update 6เมย.2561:
โปรโมชั่นล่าสุดทำให้ราคาของ A7RII ปรับลงมาใกล้เคียง A7III รุ่นใหม่มากๆ หากจะตัดสินใจจากการใช้งานทั่วๆไป คงปฏิเสธไม่ได้ว่า A7 Mark III เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจกว่า ทั้งในเรื่องเทคโนโลยีและฟังก์ชั่นที่เพิ่มเข้ามาและเรื่องแบตเตอรี่ที่ความจุสูงขึ้นเยอะ แต่ถ้าใครสนใจจริงจังกับการถ่ายภาพแนวแลนด์สเคปแล้วละก็ A7R Mark II ก็เป็นตัวเลือกที่ยังไร้เทียมทาน เพราะได้ความละเอียดที่สูงมาก เหมาะกับการ process ภาพ เก็บรายละเอียดภาพได้เต็มที่ และยังอยู่ได้ยาวๆอีกหลายปี อีกทั้งคุณภาพไฟล์ก็ยังถือว่าเป็นอันดับหนึ่งอยู่ ไม่แพ้รุ่นใหม่อย่าง A7III หรือรุ่นใหญ่อย่าง A9 แค่อาจต้องเตรียมความพร้อมเรื่องแบตเตอรี่ให้เพียงพอ
เพื่อนๆชอบรุ่นไหนยังไงหรือสนใจสั่งซื้อ สามารถสอบถามโดยตรงได้ทุกสาขาหรือ inbox และสามารถส่งสินค้าทาง DHL ได้ทั่วประเทศนะครับ ทางร้านยังมีโปรโมชั่นส่วนลดพิเศษเมื่อซื้อพร้อมเลนส์และผ่อน 0% พร้อม Cashback อีกด้วย
*** สอบถามเพิ่มเติม ***
inbox : http://www.facebook.com/messages/zoomcamera
02-635-2330 ต่อ 0 / 083-067-7677 (หยุดวันอาทิตย์)
สาขาสีลม 02-635-2330-1 / 080-271-2772
สาขาเดอะมอลล์งามวงศ์วาน 02-951-8597 / 085-937-0123
สาขาเมกาบางนา 02-105-1926 / 086-554-1919
สาขาเดอะมอลล์บางแค 02-454-9598 / 084-033-0498
สาขาฟอร์จูนทาวน์ 083-068-2775
สาขา Central Festival เชียงใหม่ 052-068-787 / 096-878-4896
สาขา Central Westgate 02-060-4362 / 097-063-4328
สาขา Central Festival หาดใหญ่ 095-702-7585
บทความนี้เขียนเมื่อ วันที่ 06/04/2018 14:44:13