สวัสดีครับท่านผู้อ่าน วันนี้เรามาแกะกล่องของใหม่กำลังร้อนๆกันดีกว่า Canon EOS M3 ซึ่งในครั้งนี้ผมจะยังไม่ลงลึกเรื่องของสเปคต่างๆนะครับ เราจะมาแกะกล่องแล้วก็นั่งวนดูรอบตัวกันแบบสบายๆบทความนี้จึงมีแต่ภาพ ภาพ แล้วก็ ภาพ และคำเตือน WB เพี้ยนอมฟ้าเยอะหน่อยนะครับ ฮ่าๆ
สำหรับใครที่อยากดูสเปคสามารถไปดูกันได้ที่บทความเปิดตัว : เปิดตัวใหม่ Canon EOS M3 เจาะกลุ่มผู้ใช้งานจริงจังมากขึ้น และ Canon Thailand
อุปกรณ์ที่ให้มาด้านในก็ตามมาตราฐานครับผม คู่มือ, แผ่นซีดี, สายคล้องคอ, สาย USB, แบตฯ, แท่นชาร์ต, ซองใส่ช่องมองภาพ EVF พร้อมกล้องกับเลนส์อีก 2 ตัวและ EVF(สำหรับชุดสองเลนส์)
ปุ่ม Dial ด้านบนเพิ่มขึ้นมาเยอะครับ รุ่นก่อนทั้ง M และ M2 ด้านบนไม่มีปุ่มหมุนพวกนี้เลย ช่วยให้เราปรับค่าแสงต่างๆได้เร็วขึ้น สะดวกขึ้น
แฟลช Pop-up ซ่อนอยู่ด้านบน โดยมีสวิตซ์เปิดแฟลชอยู่ด้านข้างใกล้ๆกันครับ เราสามารถะเอานิ้วเกี่ยวแฟลชเพื่อเงยหน้ายิงแฟลช Bounce เพดานได้
จุดเด่นสำคัญที่พัฒนาขึ้นมาจากรุ่นก่อน จอหลังที่สามารถพับถ่าย Selfie ได้พับขึ้นได้ 180 องศา
กริปจับของรุ่นนี้ดีขึ้นกว่ารุ่นก่อนมาก จับกล้องถนัดขึ้นเยอะเลยครับ
ช่องมองภาพ EVF-DC1 รุ่นเดียวกับที่เป็นอุปกรณ์เสริมให้กับ Canon Powershot G1X Mark II
ที่อยู่ของเซนเซอร์ APS-C CMOS 24.2 ล้านพิกเซล
สำหรับเลนส์ EF-M 22mm ที่มาในชุดนั้นถ้าเป็นกล้องสีขาวเราจะได้เลนส์สีเงินครับ ถ้ากล้องสีดำเลนส์ก็จะดำด้วย เฉพาะ 22mm นะครับเลนส์รุ่นอื่นยังคงมีแต่สีดำเหมือนเดิม
ผิวของกล้องก็จะต่างกันครับ สีขาวจะได้ผิวแบบมันๆเงาๆ สีดำจะได้ผิวด้านบนพ่นทรายแบบเดียวกับ DSLR ของ Canon
ถ้าใครยังจำได้ EOS M รุ่นก่อนหน้านี้จะใช้หูสายคล้องคอแบบเฉพาะตัวครับทำให้ใช้สายคล้องทั่วไปไม่ได้ พอมารุ่น M3 เค้าเปลี่ยนกลับมาใช้หูคล้องแบบปกติแล้วครับ
สรุปโดยรวม…การจับถือดีขึ้นเยอะเลยครับ ผมว่า Canon มาถูกทางแล้วที่เปลี่ยนมาใช้ดีไซน์แบบนี้แถมดูหล่อขึ้นอีกด้วย การวางปุ่มต่างๆเหมาะกับการปรับค่าต่างๆอย่างรวดเร็วมากขึ้น เรื่องภายนอกผมถือว่าสอบผ่านเลยครับที่เหลือก็คงต้องรอดูว่าข้อด้อยเดิมๆอย่างการโฟกัสที่ช้าและแบตเตอรี่ที่หมดไว Canon จะแก้ไขได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งถ้าผมได้มีโอกาสทำรีวิวในคราวหน้าก็จะลองทดสอบให้ชมกันนะครับ(ถ้าได้ทำเน้ออ)
บทความนี้เขียนเมื่อวันที่ 11/04/2015