รวมกล้องท่องเที่ยว 2021 ในงบไม่เกิน 25K เล็ก เบา เน้นพกพาง่าย เที่ยวได้ถ่ายสนุก Leave a comment

อยากหากล้องไว้ไปถ่ายเที่ยวกับเพื่อน กับ ครอบครัวซักตัวแต่ไม่รู้จะเลือกอะไรดี งบก็มีจำกัด ประมาณ 25,000 บาท เลือกซื้อตัวไหนดีให้เหมาะกับการท่องเที่ยวที่สุด วันนี้เรามาอัพเดทกล้องท่องเที่ยว 2021 ที่เน้นการพกพาง่าย เล็ก เบา ใช้ได้ทุกเพศทุกวัย จะมีตัวอะไรบ้างที่ซื้อแล้วจะไม่ผิดหวัง คุ้มค่าแน่นอน

อัพเดทกล้องท่องเที่ยว 2021 ในงบไม่เกิน 25,000 บาท

1.Gopro Hero 9 Black กล้องท่องเที่ยวสายลุยตัวจบ มาพร้อมกล้องหน้าสุดเจ๋ง ถ่าย Vlog สนุกสะใจ

กล้องโกโปรเป็นหนึ่งในแบรนด์แรก ๆ สำหรับสายท่องเที่ยวแนว Adventure ด้วยข้อดีที่มีขนาดเล็กเพียง 1 ฝ่ามือ พกพาสะดวก รวมถึงอุปกรณ์เสริมที่ใช้ด้วยกันก็มีให้เลือกตามการใช้งานมากมาย ทั้งของแท้ และ ของเทียบ ซึ่งราคาค่าตัวของเจ้าโกโปร 9 นี้ก็ไม่แพง เริ่มต้นเพียงแค่ 15,999 บาทเท่านั้น และ ในบางช่วงเวลาก็มีโปรโมชั่นลดราคา หรือ แถมของแถมบ่อยครั้ง ลองหาซื้อมาใช้กันดูครับ

อ่านบทความเพิ่มเติม Gopro Hero 9 Black

• สรุปข้อมูลและภาพหลุด Gopro Hero 9 Black : Action Camera รุ่นใหม่ เพิ่มจอหน้า บอดี้และปุ่มใหญ่ขึ้นกว่าเดิม
• รีวิว GoPro Hero 9 มาใหม่พร้อมจอหน้า เปรียบเทียบ Hero 8 มีไรใหม่บ้าง?

• จอแสดงผลด้านหน้าแบบสีขนาด 1.4 นิ้ว
• วีดีโอความละเอียด 5K30
• ภาพถ่าย 20 ล้านพิกเซล
• ระบบลดการสั่นไหว HyperSmooth 3.0
• ถ่ายวีดีโอไม่มีเอียงอีกต่อไปด้วย Horizon Leveling
• ตอบโจทย์สาย Vlog ด้วย TimeWarp 3.0
• หน้าจอทัชสกรีนด้านหลังใหญ่ขึ้นด้วยขนาด 2.25 นิ้ว
• สุดยอดเทคโนโลยี HindSight ที่บันทึกวีดีโอล่วงหน้าก่อนกดชัตเตอร์นานถึง 30 วินาที
• แบตเตอรี่ใช้งานได้นานกว่าเดิมถึง 30%
• เลนส์ป้องกันด้านหน้าถอดเปลี่ยนได้ทันที
• ตั้งเวลาถ่ายล่วงหน้าด้วย Schedule Capture
• LiveStreaming เข้าสู่ Facebook หรือYoutube ได้ทันที
• เปลี่ยนกล้อง GoPro เป็น Webcam ได้ทันที
• รองรับการถ่ายภาพแบบ RAW ไฟล์
• โหมดถ่ายภาพอัจฉริยะ SuperPhoto, Liveburst, NightMode
• รองรับระบบ GPS Telemetry บันทึกการเคลื่อนไหว
• รองรับการสั่งงานคำสั่งเสียง
• ขายึดอุปกรณ์เสริมในตัวกล้อง
• ทนทานขึ้นและกันน้ำโดยไม่ต้องใส่เคสได้ลึกถึง 10 เมตร
• ตัดต่อวีดีโอได้ง่ายขึ้นด้วย GoPro แอปพลิเคชัน

2. Insta360 one R กล้องแอคชั่นตัวจบที่ยืดหยุ่นที่สุด ด้วยระบบ module ถอดเปลี่ยนเลนส์ได้ตามใจ

กล้องแอคชั่นรุ่นนี้เป็นกล้องที่เหมาะกับสายท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการ Custom แปลงกล้องเปลี่ยน Module ซึ่งเป็นกล้องที่เราสามารถใช้ถ่ายวีดีโอแบบ 360องศา แต่ต้องใช้กับ 360 mod และ กล้องมุมกว้างปกติ ในตัวเดียวกันได้เลย โดยราคาก็จับต้องได้ ไม่ถึง 25K โดยตัวนี้สามารถถ่ายวีดีโอความละเอียดสูงถึง 5.7K แบบ 360องศา และ มาเลือกมุมภาพได้เองหลังจากที่ถ่ายมาเสร็จทำให้เราไม่ต้องกังวล ไม่ต้องตั้งเฟรมเวลาถ่าย เที่ยวได้อย่างสบายใจ ได้ภาพสวย ๆ กลับบ้านแน่นอน

อ่านบทความเพิ่มเติม Insta360 one R

• มินิรีวิวเปรียบเทียบ Insta360 one R แต่ละชุดต่างกันยังไง น่าใช้ไหม เหมาะกับใคร อ่านจบ ตัดสินใจซื้อได้เลย

3. Insta360 one X2 กล้อง 360 องศาที่มีจอหน้า ดีไซน์จับถนัดมือ พกพาสะดวก สายลุยต้องมี

Insta360 one X2 เป็นรุ่นต่อยอดที่ถูกพัฒนาขึ้นให้ดีกว่าเดิม โดยชูจุดแข็งในเรื่องที่เป็นกล้องที่ถ่ายได้ 360 องศา ดีไซน์จับถือเหมือนไม่ต่างกับการถือโทรศัพท์มือถือ พวกพาง่าย และ ในรุ่นล่าสุดนี้มีการเพิ่มจอทัชสกรีนด้านหน้าเพิ่มเข้ามาทำให้เราเอาไปถ่ายเซลฟี่ได้ง่าย แบตอึดขึ้นกว่าเดิม และ กันน้ำได้ดีมากขึ้น

อ่านบทความเพิ่มเติม Insta360 one X2

• พรีวิวกล้อง 360 องศา Insta360 one X2 ปรับไซส์ใหม่ พกพาสะดวกขึ้น แบตอึด จอแสดงผลทัชสกรีน กันน้ำลึก 10 เมตร ไมค์รับเสียงรอบตัว และ ระบบ AI ที่ฉลาดขึ้นกว่าเดิม

• ใช้ระบบกันสั่น 6 แกน FlowState Stabilization
• มีฟีเจอร์ Deep Track ช่วยให้การโฟกัสง่ายขึ้น แม่นยำ ติดตามได้ดีขึ้นโดยใช้ระบบ AI เข้ามาช่วยประมวลผล
• ถ่ายแล้วสามารถเอามา Reframe เลือกมุมที่ต้องการได้ผ่านแอพพลิเคชั่น
• มีไมค์ Stereo รอบตัว แบบ 360 องศา ช่วยในเรื่องการสั่งงานด้วยเสียง และ มีระบบกำจัดเสียงลม Smart Wind Reduction
• กันน้ำได้ลึกสูงสุด 10 เมตร แบบไม่ใส่เคสกันน้ำ
• หน้าจอแสดงผลแบบ Full Touch Screen ขนาด 1 นิ้ว
• ฟีเจอร์ Lock The Horizon
• มีฟีเจอร์ใหม่สำหรับถ่ายวิว Insta Pano และ สำหรับถ่ายใต้น้ำ Aqua Vision
• กล้อง 360 องศาที่สามารถถ่ายวีดีโอความละเอียดสูงสุด 5.7K 30fps และ 4K 50fps ได้
• มีโหมดการถ่ายวีดีโอ HDR video, Timelapse, Timeshift, Bullet Time video
• มีโหมดการถ่ายภาพนิ่ง HDR photos, Burst, Interval photos, Night Shot
• มีฟีเจอร์การถ่ายวีดีโอให้สนุกมากขึ้น Shot Lab , Clone Trail , Freeze frame , Dolly Zoom , Stop motion Mix
• มีฟีเจอร์ Live Stream ผ่านแอพฯ Insta360
• มีฟีเจอร์ GPS tracking
• มีฟีเจอร์ Multiview แยกจอด้านหน้าด้านหลัง สามารถดู Preview พร้อมกันผ่านแอพฯ Insta360
• มีระบบ AI Editing เสริมการตัดต่อผ่านตัวแอพพลิเคชั่นที่ใช้กับตัวกล้องมีความฉลาดมากขึ้น
• แบตเตอรี่อึดที่สุดในตลาดกล้อง 360 องศา : 1630mAh
• ขนาดบอดี้ 46.2 x 113 x 29.8 มม. และ น้ำหนักโดยรวม 149 กรัม
• รองรับการใช้งานเมมโมรี่ Micro SD card
• ไม่มีโดรนก็ทำภาพแบบเดียวกันได้ด้วย Invisible Stick
• รองรับการสั่งการด้วยเสียงและควบคุมการทำงานผ่าน Apple Air pod และ Apple watch

4. DJI Osmo pocket 2 กล้องท่องเที่ยว 2 in 1 กล้องตัวจบและเป็นไม้กันสั่นในตัวเดียว ชุด Combo set ได้ไมค์ไวเลสด้วย ถูกใจสายท่องเที่ยว

เป็นกล้องสายท่องเที่ยวที่ไม่ได้ลุยหนัก แต่เน้นไปทางถ่ายเที่ยวในนวันเบา ๆ ไปตามคาเฟ่ หรือ เที่ยวต่างจังหวัดกับเพื่อนแบบไม่ลุยหนัก ด้วยดีไซน์ที่มีขนาดเล็กเหมือนเราถือปากกา ทำให้ไม่เป็นจุดสนใจเวลาถ่ายวีดีโอ และ ยังสามารถต่อเข้ากับสมาร์ทโฟนเพื่อเสริมการถ่ายวีดีโอด้วยให้ดีขึ้น และ ในชุดอุปกรณ์ที่ให้มานี้มีชุด Combo set ที่เราจะได้ไมค์ไวเลสมาด้วยในตัว และ อุปกรณ์เสริมที่โดยส่วนตัวคิดว่าเหมาะมากกับคนที่กำลังจะเริ่มต้นทำคอนเทนต์วีดีโอ หรือ Vlog ท่องเที่ยว ในงบที่ไม่เกิน 25K

อ่านบทความเพิ่มเติม DJI pocket 2

• รีวิว DJI osmo pocket 2 กล้องวีดีโอเล็ก เบา พกพาง่าย มีกันสั่นในตัว ถ่ายวีดีโอ 4K 60 fps ระบบบันทึกเสียงดีกว่าเดิม เหมาะกับคนรักการทำคอนเทนต์

• ขนาดตัวกล้องและน้ำหนักใกล้เคียงกับ DJI osmo pocket ตัวเก่า
• มีระบบกันสั่น 3 แกน- ขนาดเซนเซอร์ใหม่ 1/1.7 นิ้ว
• ใช้เลนส์ใหม่ 20mm F1.8
• มีระบบ Fast wake เปิดเครื่องพร้อมถ่ายวีดีโอภายใน 1 วินาที
• ซูมวีดีโอพร้อมซูมเสียงได้สูงสุด 4X และ ซูมภาพเวลาถ่ายภาพนิ่งได้สูงสุด 8X
• ถ่ายวีดีโอสูงสุด 4K 60fps และ Full HD1080 240fps
• ถ่าย Slow motion ได้สูงสุด 8X
• มีไมค์ Stereo built-in รอบตัว 4 ตำแหน่ง
• มีไมค์ Wireless มาให้เลยไม่ต้องซื้อเพิ่ม (เฉพาะในชุด Combo)
• มีฟิลเตอร์เลนส์ Wide angle มาให้เลยไม่ต้องซื้อเพิ่ม (เฉพาะในชุด Combo)
• ใหม่ Active Track 3.0
• ซอฟแวร์ DJI mimo อัพเดทให้มีฟีเจอร์ AI Editor และ Story mode รองรับการทำงานร่วมกับ DJI pocket 2
• มีจำหน่าย 2 ชุด Single / Creator Combo

5. DJI mini 2 โดรนจิ๋วราคาประหยัดที่สายท่องเที่ยวทุกคนต้องมี

สายท่องเที่ยวที่ชอบการถ่ายภาพมุมสูง และ ได้ภาพแบบอลังการต้องมีโดรนติดกระเป๋าไปเที่ยวในทุกทริปนะครับ แต่ด้วยรายคาโดรนในรุ่นใหญ่ ๆ มีราคาสูง ทาง DJI แบรนด์ผลิตโดรนอันดับ 1 ในตลาดประเทศไทย เลยพัฒนาตัว DJI mini 2 ขึ้นมา ซึ่งเป็นรุ่นต่อยอดจาก DJI mini ในรุ่นแรกที่ขายดีมาก ๆ และ รุ่นนี้ก็ได้พัฒนาฟีเจอร์ให้ดีมากขึ้น จะพกไปถ่ายวิวเขา วิวทะเล หรือ รีวิวที่พักเก๋ ๆ ก็ทำให้ได้ภาพ และ วีดีโอดูอลังการได้ ในงบไม่ถึง 25K แต่ก็จะต้องมีข้อควรระวังซักเล็กน้อยในเรื่องของพื้นที่ที่เราสามารถบินได้ ยังไงก็ลองศึกษาเพิ่มเติมก่อนทำการขึ้นบินนะ

อ่านบทความเพิ่มเติม DJI mini 2

• รีวิว DJI Mini 2 โดรน 4K จิ๋วแต่แจ๋ว เล็ก เบา 249 กรัมพร้อมบิน

• Sensor ขนาด 1/2.3″ พร้อมความละเอียด 12 megapixels
• เลนส์มีทางยาวโฟกัสเทียบเท่า 24mm. พร้อมค่ารูรับแสง F2.8
• รองรับการถ่ายไฟล์ JPG และ RAW
• อัตราส่วนภาพ เลือกได้ทั้ง 4:3 และ 16:9
• Shutter Speed ระหว่าง 4 Sec. – 1/8000 Sec.
• ระบบกันสั่นภายในแบบ 3 ทิศทาง ( 3-Axis
• รองรับการถ่าย Video 4K สูงสุดที่ 30p
• รองรับการถ่าย Video 2.7K สูงสุดที่ 30p
• รองรับการถ่าย Video FHD สูงสุดที่ 60p
• อัตรา bitrate ของ Video สูงสุดที่ 100 mbps
• อัตราความเร็วในการบิน 8.5 – 10.5 m/s และ สามารถบินในพื้นที่ที่มี
• ความเร็วลมสูงสุด 29-38 กม./ชม.( Wind Resistance Level 5 )
• สามารถบินในระยะ 10 km. (4 กม. ในไทย) เมื่อควบคุมแบบไร้สาย OcuSync 2.0 Video Transmission
• ควบคุมด้วยการระบุตำแหน่ง GPS และ Vision Sensor
• บินต่อเนื่องนานสูงสุด 31 นาที
• Mode การบินต่างๆ เช่น Panorama , Dronie , Circle , Helix , Rocket , Boomerang เป็นต้น
• น้ำหนักสุทธิ 249 กรัม
• ชาร์จแบตเตอรี่ กับ Power Bank ได้

6. Canon EOS 200D ii กล้องสายท่องเที่ยวมือใหม่ งบจำกัด แต่ฟีเจอร์ครบทุกการใช้

กล้องรุ่นนี้เป็นรุ่นเริ่มต้นสำหรับมือใหม่ เหมาะกับเป็นกล้องเริ่มต้นสำหรับถ่ายท่องเที่ยวทุกรูปแบบด้วย UI ที่ใช้งานง่ายมาก มีระบบโฟกัสดวงตา ช่วยให้ถ่ายภาพท่องเที่ยวกับเพื่อน ๆ โฟกัส สวยคมชัดแน่นอน นอกจากจะเอาไวพกไปเที่ยวแล้ว กล้องตัวนี้ยังรองรับการใช้งาน Live stream สำหรับใครที่ต้องการทำไลฟ์สด ขายสินค้า หรือ สอนออนไลน์ ตัวนี้ก็เป็นกล้องอเนกประสงค์ที่ใช้งานได้รอบด้านอีกด้วย

อ่านบทความเพิ่มเติม

• Canon EOS 200D II กล้องไลฟ์สดได้ ราคาไม่แพง

• เซนเซอร์ APS-C CMOS ความละเอียด 24.1 ล้านพิกเซล
• เทคโนโลยี Dual Pixel CMOS AF
• ระบบประมวลผล DIGIC 8
• เลือกตำแหน่งโฟกัสได้ถึง 3,975 ตำแหน่ง (ถ่ายภาพแบบ Live View)
• Creative Assist Creative Filter และ Smooth Skin
• ฟังก์ชั่นโฟกัสจับดวงตาอัตโนมัติ (Eye Detection AF)
  (One Shot & Servo AF – ถ่ายภาพแบบ Live View)
• น้ำหนักเบา : 654 ก.(สีดำ/สีเงิน) , 656 ก. (สีขาว)
• มี Clean HDMI
• มีช่องเสียบไมค์ขนาด 3.5 มม.
• มีโหมดหน้าเนียน
• หน้าจอทัชสกรีน ใช้ง่าย ฟลิบได้
• ส่งรูปได้รวดเร็วผ่าน App ในมือถือ

7. Fujifilm X-T200 กล้องมือใหม่ท่องเที่ยวเน้นถ่ายวีดีโอตัวเริ่มต้นของฟูจิฟิล์ม

กล้องตัวเล็กกระทัดรัด น้ำหนักเบา เป็นกล้องเริมต้นสำหรับคนที่จะใช้กล้องค่าย Fujifilm อาจจะเพิ่มงบอีกนิดนึงแต่ได้ของแท้ประกันศูนย์ไทย โดยตัวนี้ได้ต่อยอดมาจาก Fujifilm X-T100 ที่ทำชื่อเสียงและขายดีมากอยู่ช่วงหนึ่งของ Fujifilm สำหรับใครที่อยากรู้ ความแตกต่างระหว่าง Fujifilm X-T200 และ Fujifilm X-T100 สามารถเข้าไปอ่านเพิ่มเติมได้ครับ ความดีงามของกล้องตัวนี้คือเป็นกล้องเริ่มต้นใส่ฟังก์ชั่นวีดีโอมาให้จัดเต็ม เน้นกว่ารุ่นเริ่มต้นอย่าง Fujifilm X-A7 แถมยังมีจอทัชสกรีนพับออกด้านข้าง ช่วยให้เราถ่ายเซลฟี่ได้ง่าย ๆ เวลาออกไปท่องเที่ยวอีกด้วย

• ความละเอียด 24.2 ล้านพิกเซล
• เซนเซอร์ APS-C CMOS
• ISO 200-12800
• จอ LCD ระบบสัมผัสขนาด 3.5 นิ้ว ความละเอียด 2.76 ล้านจุด
• ช่องมองภาพ EVF 0.39 นิ้ว ความละเอียด 2.36 ล้านจุด
• ความสามารถในการโฟกัสใบหน้าและดวงตา
• จุดโฟกัส Hybrid (Phase และ Contrast) 425 จุด
• ความเร็วถ่ายภาพต่อเนื่องสูงสุด 8 ภาพ/วินาที
• สามารถถ่าย Video 4k 30p
• HDR Movie Mode แบบ Full HD
• 11 Film Simulation (จำลองภาพฟิล์มได้ 11 แบบ)
• ขนาด 121×83.7×55.1 mm
• น้ำหนัก 370 กรัม
• มี Digital Gimbal Stabilization
• ช่องเสียบไมค์ 3.5 มม. (โดยผ่านตัวแปลง Adapter)
• Function Dual สามารถปรับโหมดวิดีโอได้
• กริปจับที่ถนัดมากขึ้น

8. Sony ZV1 ตัวจบ compact size สายท่องเที่ยวที่ชอบทำรีวิวสินค้า

กล้องรุ่นนี้เป็นกล้อง Compact sensor size ที่เกิดมาเพื่อสายถ่ายรีวิวสินค้า ทำ Vlog อย่างแท้จริง ที่บอกแบบนี้ก็เพราะว่าด้วยขนาดของตัวกล้องที่เล็กเพียง 1 ฝ่ามือ พกพาง่าย ไม่ต้องซื้อเลนส์เพิ่มเพราะตัวเลนส์มีระยะที่ครอบคลุม ซูมได้ไกล และ มีค่ารูรับแสงที่กว้างถึง 1.8 ทำให้สกินโทนมีความสวยใส และ ยังช่วยทำหน้าชัดหลังเบลอได้เพิ่มขึ้น โดยจุดเด่นของรุ่นนี้จะมีฟังก์ชั่น Product Showcase และ bokeh Switch ช่วยให้ทำหน้าชัดหลังละลายได้ง่าย และ ทำให้โฟกัสของที่เราเอาทำรีวิวได้ง่ายขึ้น ใครที่เป็นสายท่องเที่ยว แล้วต้องมีสินค้าโชว์หน้ากล้องบ่อย ๆ ตัวนี้ตัวจบเลย สามารถเข้าไปอ่านบทความและรายละเอียดเพิ่มเติมใน รีวิว Sony ZV-1 จากการใช้งานจริง

• ขนาดตัวเครื่อง 60.0 mm x 105.5 mm x 43.5 mm
• เซนเซอร์ Exmor RS CMOS 1.0-type (13.2 มม. x 8.8 มม.) , สัดส่วนภาพ 3:2
• ขนาด 20.1 ล้านพิกเซล
• ระบบประมวลผลภาพ BIONZ X^TM
• บันทึก Video ได้ 4K
• ไมโครโฟนแบบทิศทาง 3 แคปซูลพร้อมตัวตัดเสียงลม
• หน้าจอ LCD ปรับได้รอบทิศทาง, กริ๊ปตัวกล้อง และหลอดไฟสำหรับการบันทึก
• ISO 100-12800
• ถ่ายภาพต่อเนื่องได้ที่ 24 FPS
• ถ่ายได้สูงสุดที่ 4K30FPS และ FHD 120FPS
• มีช่องเสียบไมค์ขนาด 3.5 มม.
• มี Clean HDMI

9. Fujifilm XA-7 ตัวจบสายท่องเที่ยวผิวสวย หน้าเนียน เน้นถ่ายรูปมากกว่าถ่ายวีดีโอ

กล้องที่หลายคนจะต้องรู้จักถ้าคิดจะเล่นกล้อง fujifilm ก็คือซีรีย์ของ XA เป็นกล้องสำหรับมือใหม่ที่มีงบไม่สูงมาก แต่อยากได้กล้องที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การถ่ายภาพ Portrait and Travel โดยมีชื่อเสียงมาตั้งแต่ยุค Fujifilm XA-2 ที่ถ่ายหน้าเนียนสวย ๆ จนเป็นกระแสอยู่พักใหญ่ จนมาถึงรุ่นนี้เป็นรุ่นที่ 7 แล้ว ซึ่งมีให้เลือกใช้หลากหลายสีมาก และมีสีสำหรับผู้ชายอย่าง Fujifilm X-A7 Navy Blue ที่ดูเท่สมาร์ท ไม่เหมือนใคร บอกเลยว่าถ้าใครเป็นสายถ่ายท่องเที่ยวแนวถ่ายคาเฟ่ ถ่ายคน ตัวนี้ตัวจบในงบประหยัด คุ้มที่สุดตัวหนึ่งเลยครับ

• เซ็นเซอร์ APS-C ความละเอียด 24.24 ล้านพิกเซล
• ถ่ายวิดีโอ 4K ที่ 30 เฟรมต่อวินาที (เป็น 4K ที่ย่อมาจาก 6K)
• ถ่ายวิดีโอ 4K ต่อเนื่อง 15 นาที และ Full HD นาน 30 นาที
• ISO 200-12800
• ถ่ายภาพต่อเนื่อง 6 fps
• มีฟีเจอร์ Countdown Video
• หน้าจอ LCD พับออกข้างแบบ Vari Angle
• หน้าจอขนาด 3.5 นิ้ว (16:9) ความละเอียด 2.76 ล้านจุด
• ความสว่างหน้าจอ สูงสุด 1000 candelas
• มี Face Detection และ Eye AF
• มีโหมดถ่ายรูปอัตโนมัติ AI
• เชื่อมต่อไร้สาย Wi-Fi, Bluetooth
• การเชื่อมต่อสาย HDMI micro, USB-C และช่องเสียบไมค์ 2.5mm
• รองรับการ์ด SD card / SDHC card / SDXC card UHS-I
• ใช้แบตเตอรี่ NP-W126S
• ถ่ายได้รูปได้สูงสุดถึง 440 ชอต ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง
• ขนาดบอดี้ 119.0mm x 67.7mm x 41.2mm
• น้ำหนักบอดี้ 320 กรัม
• มีชุดเลนส์คิท 2 ชุด ได้แก่ Kit XC 15-45mm f3.5-5.6 OIS PZ และ Kit 23mm F2
• มี Clean HDMI ไว้สำหรับการทำ Live Streaming ได้

10. Panasonic Lumix G100 กล้องที่สายวีดีโอท่องเที่ยวเริ่มต้นที่คุ้มที่สุด

สุดท้ายเป็นกล้องที่อยากจะแนะนำที่สุด และ เหมาะมากกับยุคที่วีดีโอเฟื่องฟูมากอย่างปัจจุบัน “ Panasonic Lumix G100 ” เป็นกล้องขนาดเล็กเปลี่ยนเลนส์ได้ มาพร้อมกับไม้ขาตั้งเล็ก ๆ ที่เป็นได้ทั้งขาตั้งและเป็น controller ควบคุมตัวกล้องได้ มีหน้าจอทัชสกรีนพับด้านข้าง ช่วยให้จัดองค์ประกอบภาพได้ง่ายขึ้นเวลาใช้งาน สำหรับสายท่องเที่ยวที่มีการพูดเยอะ ๆ เช่น ถ่าย Vlog พาเที่ยว ตัวนี้จะมีการใส่เทคโนโลยี OZO ช่วยให้จับทิศทางของเสียง แล้วทำการ Track เสียง ไม่ว่าจะหาไปทางไหน ก็เก็บเสียงได้ชัดเจน โดยไม่ต้องซื้อไมค์เพิ่มอีกเลย ถือได้ว่าเป็นตัวจบที่ถ่ายวีดีโอก็ดี ไมค์ builte-in ก็ใช้งานได้ในระดับหนึ่ง และ ยังมีขาตั้งกล้องให้อีกด้วย

• กล้อง Mirrorless ในระบบ Micro Fourthirds
• Sensor ขนาด Micro Fourthirds ความละเอียด 20 MP
• จอ LCD แบบ Vario Angle ความละเอียด 1840k รองรับ Touchscreen
• จอช่องมองภาพแบบ EVF พร้อมความละเอียด 3.6mp dot
• ระบบ Focus แบบ Contrast Detect พร้อม DFD Focus
• ระบบเสียง OZO ครั้งแรกในกล้อง Mirrorless ปรับรูปแบบได้ถึง 5 แบบ
• รองรับการถ่าย Video 4K 30p , FHD 60p
• Mode S&Q สำหรับการถ่าย Slowmotion และ Video รูปแบบอื่นๆ
• รองรับการถ่าย Video ในแนวตั้งได้
• REC Frame Indicator / Frame Marker เพื่องาน Video และ VLOG
• Mode Video แบบ Selfie
• ฟีเจอร์ที่เกี่ยวกับ 4K อาทิ 4K Photo , 4K Live Cropping เป็นต้น
• Port การเชื่อมต่อ อาทิ Mic. 3.5mm. / microUSB / microHDMI
• รองรับการ Live ผ่าน HDMI แบบ Clean HDMI ได้
• รองรับการชาร์จผ่าน microUSB
• ใช้งานร่วมกับ DMW-SHGR1 (Tripod Grip) เพื่อความสะดวกในการถ่าย Video / VLOG
• แบตเตอรี่ขนาด 1,025 mAh ถ่ายภาพได้สูงสุดที่ 900 ภาพ ( กรณีเปิด Power Save LVF mode ) และ 270 ภาพ ในการถ่ายแบบปกติ

อ่านบทความเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้อง

• รวม กล้อง Mirrorless สายเที่ยว ปี 2020 ในงบ 30k
• งบ 30K เลือกกล้อง Mirrorless ถ่าย Video สวยเวลาเที่ยวที่ดีที่สุด

ซื้อกล้องสายท่องเที่ยวงบไม่เกิน 25K ผ่าน Shopee ที่ร้าน ZoomCamera Official Store ตลอด 24 ชม.

ลูกค้าที่สนใจสั่งซื้อสินค้า สามารถติดต่อสั่งซื้อได้ผ่านช่องทางออนไลน์ของทางร้านได้ตลอด 24 ชม. หรือ โทรเข้ามาโดยตรงผ่านโทรศัพท์

แอดไลน์ ID:@ZoomCamera หรือ หน้าเว็บไซด์ ZoomCamera
083-067-7677 / 02-098-9555 ต่อ 0 (หยุดวันอาทิตย์)