ลายแทง กล้อง VLOG ตัวจบ สาย Content ปี 2020 Leave a comment

เป็นอีกปีที่วงการกล้องมีการปรับเปลี่ยนไปพอสอมควรเลยละครับ โดยได้รับอิทธิพลมาจาก Social Network ที่การมีกล้อง ก็สามารถทำ Content หรือ ทำ Live ออกมาได้อย่างง่ายดาย ซึ่ง วันนี้ทีมงานได้ รวมลายแทง กล้อง VLOG ตัวจบ สาย Content ปี 2020 มาให้ดูกันครับ

Feature จำเป็น กล้อง VLOG ปี 2020

เทรนด์การทำ Live และ Content นั้น เริ่มได้รับความนิยมอย่างสูง ในช่วงสถานการณ์ Covid-19 ประจวบกับการปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานให้เป็นในลักษณะ Work From Home ทำให้คนที่มีกล้อง ต่างริเริ่มที่จะทำ Live กันมากยิ่งขึ้นไปด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้ กล้อง ทำ Content ปี 2020 นั้น ต้องยอมรับว่า นอกเหนือจากการที่ตัวกล้องจะต้องมี Feature ที่สนับสนุนการทำงานด้วยเช่นกัน ซึ่งจะมีอะไรบ้างนั้น มาดูรายละเอียดกันครับ

  • กล้องสาย Content ควรมีจอ LCD แบบ Vario Angle

กล้อง ทำ Content สิ่งแรกที่จะขาดไม่ได้เลย คือ จอ LCD แบบ Vario Angle หรือ ที่เรารู้จักกันในชื่อของจอพับนั่นเองครับ ซึ่งจะเป็นการพับในลักษณะเปิดออกด้านข้าง สามารถตอบโจทย์การทำงานของเพื่อนสาย Content ทั้งภาพนิ่ง และ Video ได้เป็นอย่างดี

รวมกล้อง content vario lcd

อีกข้อดีของ จอแบบ Vario Angle คือ สามารถออกไปทำ Content ได้ตามลำพังสะดวกยิ่งขึ้น เพียงแค่พับจอ แล้วทำการจัด Composition ตามที่เราต้องการ เอาใจสาย VLOG หรือ Live ได้เป็นอย่างดีครับผม

  • Clean HDMI ห้ามขาดสำหรับ กล้องสาย Content

ใครที่ทำ Content Video แล้วพบเจออาการที่มีค่า Setting หรือ ค่า Info ปรากฏบนจอ LCD อยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะเวลาที่เราทำ Content ในลักษณะการ Live บน Social ซึ่งชวนเราหงุดหงิดได้อย่างง่ายๆเลยละครับ

กล้อง VLOG ทำ content clean hdmi

การมี Clean HDMI นั้น จะช่วยแก้ปัญหาในส่วนนี้ได้เป็นอย่างดี แต่ทั้งนี้ไม่ใช่ว่ากล้องทุกรุ่นจะมี Clean HDMI เสมอไปนะครับ ส่วนมากจะเป็นกล้องที่ถูกออกแบบสำหรับงาน Content หรือ Video มาโดยเฉพาะ รวมถึงเป็นกล้องในระดับ Semi-Pro ซะส่วนใหญ่ครับ

  • กล้องสาย Content ควรมี Port Mic. 3.5mm.

อย่างที่เราเกริ่นไปตอนต้น ว่า กระแสการทำ Content ในรูปแบบ Video หรือ Live เริ่มได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง แต่ถึงกระนั้น การทำ Content ในลักษณะดังกล่าว โดยการอัดเสียงผ่านตัวกล้องตรงๆ แม้จะพอเพียงต่อการใช้งาน แต่คุณภาพเสียงอาจจะไม่ถูกใจเท่าไร

กล้อง VLOG ทำ content port

โดย กล้อง ทำ Content ในปัจจุบันจะมี Port Mic. ทั้งแบบ 2.5mm. หรือ 3.5mm. ซึ่งถ้าเป็น Port Mic. มาตรฐานจะเป็นขนาด 3.5mm. ครับ ซึ่งรองรับกับอุปกรณ์เสริมจำพวก Mic. ต่างได้ทันที ไม่จำเป็นต้องหา Adapter เพื่อแปลงขนาดในการใช้งานด้วยครับ

  • ระบบ Focus แบบ Face + Eye AF เอื้อต่อการทำงาน

ระบบ Focus ในกล้องปัจจุบัน ถือว่ามีการพัฒนาขึ้นเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในส่วนของ Face Detection และ Eye AF ที่จะอำนวยความสะดวกในการทำ Content ได้เป็นอย่างดี เรียกได้ว่า ปล่อยให้กล้องทำงานในส่วนของกล้องไป เราก็ทำ Content ไปเรื่อยๆครับ

mirrorless eye af

Content อื่นๆที่เกี่ยวข้อง รวมกล้องสาย Content

รวม กล้อง VLOG สาย Content ตัวจบ Canon

โดย Content นี้ จะเป็นการรวบ รวมกล้อง ทำ Content ปี 2020 ที่มีความโดดเด่น น่าสนใจ ที่สำคัญราคาเป็นมิตรภาพกับสิ่งที่จะได้ด้วยเช่นกันครับ ซึ่ง จะมีกล้องรุ่นอะไร จากค่ายไหนบ้างนั้น มาชมรายละเอียดกันได้เลยจ้า

Canon G7X III

กล้อง VLOG สาย Content ตัวจบ Canon G7X III

“จิ๋วแต่แจ๋ว” นี่คือนิยามของ กล้อง Compact Canon G7X III ที่ได้วางจำหน่ายมาซักระยะหนึ่งแล้ว พร้อมกับที่ทีมงานได้ทำ รีวิว Canon G7X III ให้เพื่อนๆได้รับชมกันไปแล้วนั่นเอง แม้จะเป็นเพียง กล้อง Compact แต่ฟีเจอร์ภายใน จัดมาให้อย่างเน้นๆเพื่องาน Video ครับ

สำหรับ ฟีเจอร์ Canon G7X III นั้น นอกเหนือจากภาพนิ่งที่เพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันแล้ว งาน Video ก็ไม่น้อยหน้าเช่นกันครับ เพราะ รองรับทั้งงาน Video 4K , FHD , Timelapse ให้มาอย่างครบๆ แต่กรณี Video 4K จะถ่ายต่อเนื่องได้ 5 นาที ครับ

หากใครจะนำเจ้า Canon G7X III มาใช้ในการถ่าย Video โดยเฉพาะการตั้งกล้อง Live ก็สะดวกแน่อนครับ เพราะ รองรับ Clean HDMI เหมือนกับกล้อง Mirrorless และ DSLR ด้วยเช่นกัน ทำให้จะไม่มี Info แสดงในหน้าจอเวลา Live นั่นเองครับ

ถ้าพิจารณา กล้อง ทำ Content จะพบว่า ส่วนมากจะมาพร้อมช่วงเลนส์ที่มีระยะเทียบเท่า 24-70mm. F1.8-2.8 บน Fullframe แต่สำหรับ Canon G7X III นั้น มาพร้อมกับช่วงเลนส์ 24-100mm. F1.8-2.8 แน่นอนว่าช่วงเลนส์ที่เพิ่มอีก 30mm. เราสามารถนำไปใช้งานได้อย่างหลากหลายยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะ Zoom ไกลขึ้น หรือ Zoom เจาะได้ใกล้ขึ้นนั่นเอง

Port MIC. ขนาด 3.5mm. ก็ถูกติดตั้งมาด้วยเช่นกันครับ ซึ่งตอบโจทย์งาน Video ได้เป็นอย่างดี เพราะ แม้ว่าตัวกล้องจะมี Internal MIC. ที่จะเก็บเสียงได้ระดับหนึ่ง แต่การได้ต่อ External MIC. จะช่วยเพิ่มคุณภาพเสียงได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะการตัดเสียงลมพัด หรือ เสียง Ambient รอบข้าง ที่บางครั้งเราไม่ได้มีความจำเป็นที่จะต้องเก็บมาด้วยนั่นเอง

ไม้เด็ดของ Canon G7X III นั้น คือ จอ LCD ที่ออกแบบในลักษณะ Flip up บางคนอาจจะเอ๊ะทำไมถึงเป็นเช่นนั้น ก่อนนั้นให้เรานึกภาพเวลายกกล้องถ่ายเซลฟี่ และ/หรือ VLOG โดยที่กล้องไม่สามารถพับจอได้ มันจะเป็นอะไรที่ลำบากสุดๆ

ทว่า เมื่อเรามี จอ LCD ที่สามารถ Flip ได้นั้น จะช่วยเพิ่มโอกาสในการจัด Composition ให้กับภาพของเราได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการเซลฟี่ก็ได้ หรือ VLOG ก็ดี โดยเฉพาะกับการถ่าย VLOG ถือเป็นข้อได้เปรียบที่เห็นได้อย่างชัดเจนเลยละครับ

นอกเหนือจาก LCD แบบ Flip แล้วนั้น ที่ตัวจอยังรองรับระบบ Touchscreen ที่เอาใจช่างภาพมือใหม่ได้เป็นอย่างดีครับ โดยให้อารมณ์เหมือนใช้งาน Smartphone เรียกได้ว่าจิ้มเป็นถ่าย สัมผัสลื่นๆ เลยทีเดียวครับ

ถ้ากล้อง Compact Canon ต้องรุ่นนี้

ณ วันที่ Canon G7X III วางจำหน่ายในตลาด คู่แข่งแทบจะมีเพียง Sony RX100 Series เท่านั้นครับ อีกทั้ง G7X mk3 จะได้เปรียบกว่า ในส่วนของ Port Mic. 3.5mm. และ Face + Eye Detection ที่ขับเคลื่อนบนระบบ Focus แบบ Dual Pixels ซึ่งมีความรวดเร็วและแม่นยำเช่นกัน

EOS 200D II

กล้อง VLOG สาย Content ตัวจบ Canon EOS 200D II

Canon EOS 200D II กล้อง DSLR ที่แจ้งเกิดได้อย่างสบายๆในช่วงกระแส Work From Home นั่นเองครับ แม้จะเป็นกล้องในระดับเริ่มต้น แต่ครบครันไปด้วยฟีเจอร์ต่างๆ ที่ครอบคลุมการใช้งานทั้งภาพนิ่ง และ วิดิโอ ครับ

จอ LCD แบบ Vario Angle หรือ ที่เราเข้าใจกัน คือ จอ LCD ที่สามารถหมุน + พับมาด้านหน้าได้ ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างหลากหลาย ทั้งเซลฟี่ , VLOG , ถ่าย Video หรือ ทำเป็นกล้อง Live ก็สะดวกสบายสุดๆครับ

ในแง่ของ Port การเชื่อมต่อ ก็จัดมาให้อย่างครบครันตามมาตรฐานครับ ไม่ว่าจะเป็น Port USB , Port MIC และ HDMI ซึ่ง Port เหล่านี้ ตอบโจทย์สำหรับงาน Content และ งาน Video ได้เป็นอย่างดีครับ

กล้อง DSLR ระดับเริ่มต้น ที่ทำ Content ได้ดีที่สุด

จริงอยู่ที่ว่า เราสามารถที่จะเพิ่มงบไปยังรุ่นที่สูงกว่านี้ได้ ไม่ว่จะเป็น 7xxD , 7xD เป็นต้น แต่ด้วยลักษณะการทำ Content ระดับเริ่มต้น อีกทั้งฟีเจอร์ต่างๆที่บรรจุลงมาในระดับราคาที่เอื้อมถึง จึงเป็นตัวเลือกลำดับแรกๆของกล้อง Canon DSLR เลยละครับ

รวม กล้อง VLOG สาย Content ตัวจบ Nikon

Nikon Z50

กล้อง VLOG สาย Content ตัวจบ Nikon Z50

กล้อง Mirrorless รุ่นล่าสุดจากค่าย Nikon แม้ว่าพื้นเพเดิมทาง Nikon จะเน้นหนักไปทางภาพนิ่งซะส่วนใหญ่ แต่ด้วยหลายๆปัจจัย รวมถึงกระแสบนโลก Social ทำให้ทาง Nikon เริ่มพัฒนาฟีเจอร์ที่เกี่ยวข้องกับงาน Video เพิ่มเติมเข้ามาด้วยเช่นกัน

ฟีเจอร์ Video ของ Nikon Z50 นั้น ก็จัดมาให้อย่างครบครัน ทั้ง Video 4K , Video FHD , Video Slowmotion รวมถึง Timelapse ด้วยเช่นกัน ส่วน Port เชื่อมต่อก็มีทั้ง HDMI , MIC. 3.5mm. ที่พร้อมตอบโจทย์งาน Content Video อย่างแน่นอนครับ

สิ่งที่ทำให้ Nikon Z50 สามารถตอบโจทย์งาน Content Video คือ หน้าจอ LCD แบบ Tilt Down ถึงแม้จะเป็นการพับจอลงด้านล่าง ไม่เหมือนกับ Vario Angle ที่เป็นการพับออกด้านข้างก็ตามที แต่ได้ข้อดีในส่วนของ Eye Contact ที่ดูธรรมชาตินั่นเองครับ

ทั้งนี้ หากต้องการนำ Nikon Z50 มาใช้งานแบบจริงจัง อาจจะต้องมีอุปกรณ์เสริมอย่าง Rig ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการต่ออุปกรณ์เสริมอย่างขาตั้ง หรือ อุปกรณ์กิมบอล เพิ่มเติม ถ้าไม่เช่นนั้นจะทำให้บดบังหน้าจอ LCD ของ Nikon Z50 อย่างเลี่ยงไม่ได้ครับ

Mirrorless จอ Flip down ที่ครบเครื่องที่สุด

ต้องยอมรับว่า การทำ Content โดยเฉพาะการถ่าย Video การมีจอ LCD ในลักษณะ Vario Angle จะตอบโจทย์การทำ Content มากกว่า แต่ จอ Tiltdown หากเราประยุกต์การใช้งานซักเล็กน้อย ประกอบกับ Feature ใน Nikon Z50 ก็เพียงพอต่อการทำ Content เช่นกันครับ

รวม กล้อง VLOG สาย Content ตัวจบ Sony

Sony ZV1

กล้อง VLOG สาย Content ตัวจบ Sony ZV1

“ยืน 1 ณ ชม.นี้” สำหรับกล้อง Compact รุ่นล่าสุดจากค่าย Sony ที่ชัดเจนใน Position ที่ต้องการเจาะกลุ่มสายงาน Content และ Video อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น ท่ามกลางกระแสความนิยมในโลก Social ที่เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นตามไปด้วยนั่นเอง

ด้วยดีไซน์ตัวกล้อง Sony ZV1 ที่มีความเล็ก เบา พกง่าย ปุ่มไม่เยอะ ทำให้หน้าตาดู Friendly กับ user มือใหม่ที่ไม่มีความรู้ในการใช้กล้องถ่ายภาพ สามารถใช้งานได้ง่ายเหมือนเราใช้กล้องจากโทรศัพท์มือถือ

แม้ Sony ZV1 จะเป็น กล้อง Compact ที่เลือกใช้ Sensor ขนาด 1″ ความะเอียด 20MP พร้อมช่วงเลนส์ที่มีทางยาวเทียบเท่า 24-70mm. บน Fullframe พร้อมค่า F 1.8 – 2.8 แต่นั่นก็เพียงพอสำหรับงาน Content ไม่ว่าจะเป็นภาพนิ่งและวิดิโอ ได้อย่างสบาย

ฟีเจอร์ต่างๆของ Sony ZV1 เน้นรองรับการถ่ายวีดีโอ เช่น มีจอฟลิบออกด้านข้างที่เป็นแบบ Touch screen มีการอัพเกรดไมค์ของตัวกล้องให้ดีกว่าการใช้ไมค์ของสมาร์ทโฟน และ ตัวซอฟแวร์ภายในตัวกล้องยังมีการทำสกินโทน หน้าเนียนในวีดีโอได้ ฯลฯ

สรุปคร่าว ๆ Sony ZV1 นั้น เกิดมาเพื่องาน Content ไม่ว่าจะเป็น Content ทั่วๆไป , Content Video หรือ จะเป็น Content ในลักษณะ VLOG ก็ตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดีครับ

Editor Choice ชม.นี้ต้องตัวเท่านั้น

ด้วยความเป็นกล้องใหม่ ที่เพิ่งเปิดตัวไปสดๆร้อนๆ อีกทั้งฟีเจอร์ต่างๆก็ส่งเสริมให้งาน Video ที่ได้จาก Sony ZV1 มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะมือใหม่ที่ริเริ่มหัดทำ Content บอกเลยไม่ผิดหวังแน่นอน

Sony RX100 VII

กล้อง VLOG สาย Content ตัวจบ Sony RX100 VII

” รุ่นพี่ ZV1 ” นิยามนี้คงไม่ผิดซักเท่าไรนัก เพราะ เดิมที กล้อง Compact ของ Sony หลายๆท่านน่าจะนึกถึงกล้องในตระกูล RX Series กันก่อนอยู่แล้วนั่นเองครับ ซึ่งรุ่นล่าสุดของตระกูลนี้ ก็จะเป็น Sony RX100 VII ครับ

ข้อดีของกล้องในตระกูล RX100 มักจะมาพร้อม Feature ใหม่แกะกล่องก่อนกล้องซีรี่อื่นๆของค่าย Sony เป็นประจำครับ อาทิเช่น การ Focus แบบ Eye AF บนงาน Video ซึ่งปกติ Eye AF จะใช้ได้เฉพาะในงานภาพนิ่งเท่านั้นครับ ทั้งนี้ระบบ Focus ของค่าย Sony ขึ้นชื่อเรื่องความรวดเร็ว แม่นยำ ในการหาโฟกัสได้เป็นอย่างดีเลยครับ

ด้วยความที่มีขนาดเล็ก กะทัดรัด การจับถือในบางครั้งอาจจะไม่สะดวกซักเท่าไรนัก แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา เพราะ ทาง Sony ก็มีอุปกรณ์เสริมอย่าง Shooting Grip ( Sony VCT-SGR1 ) ที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานกับ Sony RX100 VII โดยเฉพาะเลยครับ

ด้วยจอ LCD ที่สามารถพับขึ้นในลักษณะ Tilt Up จับคู่กับ Shooting Grip ทำให้สามารถนำ Sony RX100 VII ไปใช้ในงาน Content ได้อย่างคล่องตัวยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Content Video , Content VLOG ก็สะดวกสบายยิ่งขึ้นครับ

สาย Compact งบเหลือ ตัวนี้ไม่ผิดหวัง

แม้จะเปิดตัวและวางจำหน่ายมาซักระยะก่อนที่ Sony ZV1 จะเปิดตัว แต่ด้วยคุณภาพโดยรวม ไม่ว่าจะเป็นวัสดุ , สเปค และ ฟีเจอร์ ที่ Sony RX100 VII อาจจะดูมีภาษีดีกว่าอยู่เล็กน้อย ยิ่งได้จับคู่กับ Shooting Grip แล้ว พร้อมลุยในงาน Content ได้อย่างสบายใจละครับ

A6400

กล้อง VLOG สาย Content ตัวจบ Sony A6400

” กล้อง Mirrorless ที่จอพับพร้อมช่องมอง ” คงเป็นนิยามที่ดีสำหรับกล้อง Mirrorless รุ่นนี้ เพราะ เดิมที กล้อง Mirrorless ใน Series 6xxx จะมีจอในลักษณะ Tilt เท่านั้นครับ ซึ่งไม่ตอบโจทย์ในการทำ Content หรือ Video ซักเท่าไรนัก

ด้วยความที่ จอ LCD ของ Sony A6400 ถูกออกแบบในลักษณะ Tilt Up ที่เป็นในลักษณะจอ Flip ทำให้ตอบโจทย์การทำงาน ทั้งแบบภาพนิ่งและวิดิโอ หรือใครจะนำไปทำ Content ก็สะดวกสบาย ตอบโจทย์อย่างแน่นอนครับ

ด้าน Port เชื่อมต่อก็ให้มาอย่างครบครัน ทั้ง Mic. 3.5mm. , HDMI และ USB ซึ่ง กล้อง Mirrorless ของ Sony รองรับการชาร์จไฟผ่าน Powerbank ในระหว่างการใช้งานได้ด้วยเช่นกันครับ ทำให้สะดวกสบาย เวลาที่เราออกไปถ่าย Content หรือ Video ได้เป็นอย่างดี

จุดที่ Sony A6400 ต้องระวัง คือ ตำแหน่ง Hotshoe ที่ใช้สำหรับต่อเข้ากับอุปกรณ์เสริมอย่าง Mic. จะไปบดบังตำแหน่งจอ LCD เวลา Flip Up พอดี ซึ่งสามารถแก้ด้วยการใช้อุปกรณ์เสริมอย่าง Coldshoe ที่จะเสมือนเป็นแขนยื่นออกไปด้านข้าง ทำให้เวลาต่อ Mic. จะไม่บดบังหน้าจออีกต่อไปนั่นเองครับ

กล้อง Mirrorless สาย Content ตัวจบของ Sony

ณ ชม.นี้ กล้อง Mirrorless ของ Sony ที่มีฟีเจอร์อำนวยความสะดวกในการทำ Content นั้น คงจะหนีไม่พ้น Sony A6400 ครับ หาเลนส์ช่วง Wide อีกซักตัว ก็พร้อมจะเป็น Content Creatot ได้อย่างสบายๆละครับ

รวม กล้อง VLOG สาย Content ตัวจบ Panasonic

FZ2500

กล้อง VLOG สาย Content ตัวจบ Panasonic FZ2500

” กล้อง Hybrid เด่นทั้งภาพนิ่งและวิดิโอ ” สำหรับกล้องในซีรี่ FZxxxx นั้น แม้จะมีรูปร่างหน้าตาคล้ายคลึงกับกล้อง DSLR ไปซักหน่อย แต่ความเป็นจริง FZ2500 เป็นกล้อง Hybrid ที่มีความ Compact เพราะ เลือกใช้ Sensor ขนาด 1″ นั่นเองครับ

จุดขายของ Panasonic นั้น คือ Feature ด้าน Video ที่ผู้เขียนบอกเลยว่า ในวงการกล้องหาตัวชนแบบจริงๆกับ Panasonic ได้ยากอยู่นะครับ เพราะ เทคโนโลยี 4K , 6K ล้วนแล้วแต่มีจุดเริ่มต้นมาจากแบรนด์นี้แทบทั้งสิ้น อันจะเห็นได้จาก กล้อง Mirrorless ที่เป็นค่ายแรกที่รองรับการถ่าย Video 4K ด้วยเช่นกัน

แม้จะเป็นกล้อง Compact High-End แต่ด้วยสเปคและฟีเจอร์ ต้องบอกว่า FZ2500 เป็นกล้องที่มีความ Hybrid ในระดับนึงเลยครับ คือ ภาพนิ่งก็ได้เลนส์คุณภาพจาก Leica ส่วนงาน Video ก็จัดเต็มทั้ง 4K , FHD , Timelapse รวมถึง Feature ย่อยของ 4K อย่าง 4K Live Cropping เป็นต้นครับ

ไม้เด็ดในงาน Video ของ FZ2500 ยังมีในส่วนของ ND Filter ที่ช่วยให้คุณสามารถลากความเร็วชัตเตอร์ได้นาน ๆ สำหรับการถ่ายภาพในเวลากลางวัน โดยที่ไม่ต้องไปซื้อ ND Filter มาติดหน้าเลนส์อีกต่อไป

หรือจะเป็น Dolly Zoom / Slow zooming with out Image shift ที่ช่างภาพวีดีโอหลายคนถูกใจ ที่จะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาการบันทึกวีดีโอแบบค่อย ๆ ซูม ช่วยให้สามารถซูมได้สมูทและนุ่มนวลขึ้น

Port เชื่อมต่อ ก็จัดมาให้อย่างครบครัน ทั้ง USB , HDMI , Mic. 3.5mm. เรียกว่า งาน Video ไม่พลาดอย่างแน่นอนครับ

Hybrid ที่ All-in-one ครบในตัว

กล้อง Hybrid ในตลาด มีเพียงไม่กี่รุ่น ที่จะมีฟีเจอร์ที่เอื้อต่อการถ่าย Video อย่างครบครัน ทั้ง ND , Lock Focus , Dolly Zoom อีกทั้งการได้เลนส์ที่มีระยะ 24-480mm. บน Fullframe ตีตรา Leica ไว้ด้วย สาย Content ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง

G95

กล้อง VLOG สาย Content ตัวจบ Panasonic G95

” ดังเพียงช่วงข้ามคืน ” นี่นิยามของ Lumix G95 แม้จะเป็นรุ่นน้องของ Panasonic Lumix G9 แต่เจ้า Panasonic Lumix G95 ได้มีการผสมผสานเทคโนโลยีต่างๆของ Panasonic Lumix G85 และ Panasonic Lumix G9 เข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว พร้อมด้วย Feature ใหม่ที่เข้ากับยุคปัจจุบันได้เป็นอย่างดี

อย่างเกริ่นไว้ตอนต้นว่า Panasonic มีจุดเด่นในเรื่องงาน Video ซึ่ง Lumix G95 ก็เฉกเช่นเดียวกันครับ จัดเต็มมาให้ครบครัน ทั้ง Video 4K , FHD , Timelapse ที่พร้อมจะให้เพื่อนๆนำไปทำ Content ที่เป็น Video ทั้ง VLOG หรือ Live ได้อย่างสบายๆ

ในแง่ของงาน VLOG บางครั้งเราจำเป็นต้องเดินถือกล้องถ่ายไป แต่ไม่ใช่ปัญหาของ Lumix G95 เพราะ ภายใน Body มีการติดตั้งระบบกันสั่น 5 แกน ที่เคลมไว้สูงสุดที่ 5 Stops พร้อม ฟีเจอร์ Dual IS 2 ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของระบบกันสั่นให้ดียิ่งขึ้น

เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ใช้งานที่จะนำไปทำ Content เจ้า Lumix G95 ก็มี Weather Seal หรือ ซีลป้องกันจากสภาพอากาศต่างๆ ซึ่งมีทั้ง Splash Proof , Dust Proof ที่พร้อมจะช่วยให้เราสามารถใช้งานในสถานการณ์ต่างๆได้เป็นอย่างดีด้วยเช่นกันครับ

เด่นสุดใน ชม.นี้ ต้องยกให้เค้าหล่ะ

ท่ามกลางกระแส Work From Home ประกอบกับการทำ Content หรือ Live เริ่มได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับราคาต่อคุณภาพของ G95 นั้น ผู้ใช้งานเข้าถึงได้ง่าย จึงเป็น Editor Choice ไปโดยปริยาย

G85

กล้อง VLOG สาย Content ตัวจบ Panasonic G85

กล้อง Mirrorless สุดฮอตอีกรุ่นจากค่าย Panasonic ที่แจ้งเกิดแบบดังข้ามคืนจากสภาวะ Work From Home นั่นเองครับ ฟีเจอร์ต่างๆต้องบอกว่ามีความ Hybrid ที่ผสมผสานระหว่างงานภาพนิ่งและวิดิโอ ได้อย่างลงตัว ในขนาดที่เล็ก กะทัดรัด พกพาสะดวก

สรรพคุณต่างๆ คงไม่ต่างสาธยายกันมากนัก เพราะ Lumix G85 คือ ต้นแบบก่อนที่จะมีการพัฒนาไปเป็น Lumix G95 ฉะนั้น ฟีเจอร์ต่างๆที่อยู่ใน Lumix G85 ครบครันอย่างแน่นอน ทั้ง จอแบบ Vario Angle , กันสั่น 5 แกน , Video 4K เรียกว่า ครบ จบในตัว

ใครที่เป็น Content Creator แบบสายลุย ก็สบายใจหายห่วงได้ เพราะ ตัว Body ได้มีการออกแบบระบบ Weather Seal ให้มีซีลยางปกป้องตัวกล้อง ให้สามารถนำมาใช้งานในสถานกาารณ์ต่างๆที่ย่ำแย่ ไม่ว่าจะเป็นสภาพที่มีฝุ่นละออง หรือ ละอองน้ำ ละอองฝน ได้เช่นกัน

เก่า แต่ เก๋า งบไม่ถึง Lumix G95 มองมาที่รุ่นนี้

อะไรก็ตามที่มีใน Lumix G95 เจ้า Lumix G85 ก็มีแทบจะเหมือนกันหมดครับ อาจจะแตกต่างกันในบางรายละเอียด อาทิเช่น Sensor , Feature Video บางอย่างที่ Lumix G95 มีภาษีดีกว่า ซึ่ง ถ้าเราคิดว่าไม่ได้ Feature เหล่านั้นแน่ๆ และ ต้องการ Safe Cost เจ้า Lumix G85 ก็เพียงพอต่อการใช้งานเช่นกันครับ

รวม กล้อง VLOG สาย Content ตัวจบ Olympus

E-M5 III

กล้อง VLOG สาย Content ตัวจบ Olympus EM5 III

กล้อง Mirrorless ที่วาง Position ในระดับ Semi -Pro ที่พัฒนาต่อยอดมาจาก E-M5 II แม้ว่าจะทิ้งช่วงระยะเวลาในตลาดไปค่อนข้างนาน จากสถานการณ์ที่ย้ายฐานการผลิตก็ตามที ซึ่งแน่นอนว่าการกลับมาโฉมใหม่นี้ มีฟีเจอร์ที่ถูกอัพเกรดความสามารถอยู่หลายด้านครับ

ระบบกันสั่น 5 แกน ที่เป็น Killer Feature คู่บุญประจำค่าย ได้มีการพัฒนาขึ้น ว่ากันว่าเป็นกลไกกันสั่นชุดใหม่ที่สามารถรองรับการสั่นสะเทือนได้มากถึง 5.5 Stops พร้อมรองรับ IS Sync กับเลนส์ในระบบ M.Zuiko System จะเพิ่มขีดความสามารถถึง 6.5 Stops ซึ่งถือว่าเยอะเทียบเท่ากับ Olympus OM-D E-M1 II

งาน Video ก็รองรับนั้น มีทั้ง Video 4K , Video FHD ซึ่งอันที่จริง ถ้าไม่ได้ซีเรียสเรื่องคุณภาพในระดับ Production อาจจะเลือกเพียง FHD ก็เพียงพอแล้ว แต่สำหรับสาย Content ที่ต้องการนำไฟล์ไปทำต่อ ก็สามารถเลือก Video 4K ได้เช่นกัน

สำหรับงาน VLOG อีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือ ระบบกันสั่น เพราะ ในการเดินถ่าย VLOG นั้น ยิ่งตัวเนื้องาน Video มีความนิ่งมากเท่าไร ยิ่งดึงดูดให้ตัว VLOG มีความน่าสนใจยิ่งขึ้น ซึ่ง Olympus OM-D E-M5 III ก็มีระบบกันสั่น 5 แกน ที่รอบนี้เคลมไว้สูงสุดที่ 5.5 stops แถมยังรองรับ IS Sync กับเลนส์ที่มีระบบกันสั่นด้วยเช่นกัน

ดีสุดของ Olympus ในช่วง Segment นี้

แม้จะเป็นรองเพียง E-M1 III แต่การได้เทคโนโลยีบางอย่างมาด้วยนั้น ทำให้ E-M5 III มีความเก่งกาจไม่แพ้กัน อีกทั้ง Feature ด้าน Video ที่มีการพัฒนาให้มีความน่าใช้มากยิ่งขึ้น ประกอบ จอ LCD พับ , กันสั่น 5 แกน และ Weather Seal เพียงเท่านี้ก็พร้อมลุย Content ทุกรูปแบบละครับ

E-M5 II

กล้อง VLOG  สาย Content ตัวจบ Olympus EM5 II

กล้องรุ่นเก่า แต่ยังเก๋าเกมอยู่ เมื่อก่อนเคยสูงแต่กลับปรับราคาให้เหมาะกับปัจจุบันเลยทำให้ราคาถูกลงมาก แต่ Solution ยังตรงกับ User ที่ต้องการกล้องสำหรับงาน Video และ Photo เป็นหลัก ตัวนั้นคือ Olympus OM-D E-M5 Mark II ครับ

จุดเด่นที่จะชูโรงก็คือ “มันทนมาก” เพราะมี Weather Seal นั่นเอง ทนสภาพอากาศได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น ละอองน้ำ ละอองฝน ความชื้น ฝุ่น ได้ดีมาก แต่อย่าเอาไปจุ่มน้ำนะ แม้จะมีซีลป้องกัน แต่ความดันน้ำก็พร้อมจะทะลุทะลวงเช่นกัน

อีก 1 จุดขาย คือ กันสั่น 5 แกนใน Olympus OM-D E-M5 Mark II มีประสิทธิภาพที่ดีขึ้นกว่าเดิม ในรุ่นใหม่นี้สามารถลดการสั่นไหวได้ถึง 5 สตอป นอกจากนี้กันสั่นใหม่ใน E-M5 Mark II ยังสามารถทำงานแบบ 5 แกนได้ทั้งในภาพนิ่งและวิดีโอ ด้วยเช่นกันครับ

ราคาเป็นมิตร หาเลนส์ Wide ซักตัว อุ่นใจแน่นอน

จากการมาของ E-M5 III ทำให้ทาง Olympus ได้มีการปรับราคา E-M5 II ลง ซึ่งระดับราคาเรียกว่าน่ารักมากครับ เมื่อเทียบกับฟีเจอร์ที่ได้ แม้เจ้า E-M5 II จะเก่าแล้วก็ตามที แต่ถ้างบจำกัด ก็ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอีกรุ่นเลยครับ

รวม กล้อง VLOG สาย Content ตัวจบ Fujifilm

X-T200

กล้อง VLOG สาย Content ตัวจบ Fujifilm X-T200

กล้องรุ่นที่ 2 ต่อจาก Fujifilm X-A7 ที่เน้นการควบคุมตัวกล้องผ่าน Joystick เป็นหลัก เพราะ ถูกตัด D-Pad หรือ ปุ่มควบคุม 4 ทิศทางออกไปนั่นเอง ซึ่งปกติมักจะติดตั้งในกล้องระดับ Semi-Pro ขึ้นไปครับ

จุดแข็งของฟูจิฟิล์มที่มีมาตลอด คือ การเซลฟี่ และ สกินโทน ที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่ง Fujifilm X-T200 X-T200 ก็สามารถตอบโจทย์การเซลฟี่ได้เช่นกัน โดยตัวจอ LCD ถูกออกแบบในลักษณะ Vario Angle หรือ ที่เรารู้จักกันในชื่อจอพับนั่นเอง ซึ่งเพิ่มความสะดวกสบายในการเซลฟีได้เป็นอย่างดี รวมถึงในงาน Video & VLOG ด้วยเช่นกัน

สำหรับงาน Video ใน X-T200 นั้น มีการผสมผสาน ระหว่าง X-A7 และ X-T100 เข้าด้วยกัน แต่คราวนี้ได้มีการปรับปรุงในส่วนของ Port Mic. จากเดิมใน X-T100 จะเป็นขนาด 2.5mm. ได้ปรับเปลี่ยนให้เป็น 3.5mm. เป็นที่เรียบร้อยละครับ

หรือจะเป็น Feature อย่าง Portrait Enhanced หรือ ที่สาวๆน่าจะรู้จักในชื่อ Mode “หน้าเนียน” ที่ได้รับการอัพเกรดเช่นเดียวกันกับ X-A7 ที่สามารถใช้งานบน Video ได้แล้วนั่นเอง เรียกได้ว่า เอาใจสาวๆที่ริเริ่มจะทำ Content ได้เป็นอย่างดีครับ

ชอบความครบครันกว่า X-A7 ต้องจิ้มตัวนี้

ภาพรวมแทบจะถอดแบบจาก Fujifilm X-A7 เกือบจะทั้งหมด ยกเว้นลักษณะดีไซน์ของ X-T200 ที่จะเป็นทรง SLR มาพร้อมช่องมองภาพ EVF ติดมาให้ด้วย ซึ่ง ใครที่ต้องการกล้องทำ Content ทั้งภาพนิ่งและ Video ที่ชื่นชอบสีในแบบฉบับ Fujifilm รับรองไม่ผิดหวังครับ

X-A7

กล้อง VLOG สาย Content ตัวจบ Fujifilm X-A7

กล้อง Mirrorless รุ่นแรกในตระกูล X-Series ที่ได้มีการปรับเปลี่ยนดีไซน์ของจอ LCD จากเดิมที่เป็นจอ LCD แบบ Flip มาเป็น จอ LCD แบบ Vario Angle  ตอบโจทย์การแสดงผลของงาน Video หรือ VLOG ได้เป็นอย่างดี

เมื่อเป็น Smart Mirrorless ที่เน้นงานด้าน Video และ VLOG มากขึ้น ฟีเจอร์ภายในที่ถูกอัพเกรดเพิ่มเติมมาด้วยนั้น คือ ระบบกันสั่นแบบ Digital ที่จะช่วยเพิ่มความนิ่งยามที่เราใช้ X-A7 ในการเดินถ่าย Video หรือ VLOG ให้มีความสมูธและนิ่งยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ยังมี Killer Feature อย่าง Portrait Enhanced หรือ ที่สาวๆน่าจะรู้จักในชื่อ Mode “หน้าเนียน” ที่เดิมทีจะใช้งานได้เฉพาะภาพนิ่งเท่านั้น แต่เจ้า X-A7 สามารถนำไปใช้งานบน Video ได้ด้วยนั่นเองครับ เหมาะสำหรับสาวที่ชื่นชอบการทำ Content ในลักษณะ Video หรือ VLOG ได้เป็นอย่างดีครับ

สาย Beauty Content ห้ามพลาด

แค่ Feature อย่าง Portrait Enhanced ที่ขึ้นชื่อลือชาใน Fujifilm ก้เพียงพอต่อการดึงดูด Blogger หรือ Content สาย Beauty ได้อย่างงายดาย อีกทั้งสีสันของ Fujifilm ก็ถูกจริตสาวๆอย่างแน่นอนครับ สิ่งที่ต้องเตรียมเพิ่ม คือ Mic. ยังเป็น 2.5mm. ซึ่งต้องหา Adapter แปลงเพิ่มด้วยนะครับ

สรุป กล้อง VLOG สาย Content

การทำ Content สิ่งสำคัญที่นอกเหนือจากไอเดียและความคิดสร้างสรรค์ที่เราจะบรรจงผลิต Content ออกมา อุปกรณ์อย่างกล้อง ก็จำเป็นไม่แพ้กันครับ ทั้งนี้ กล้องสาย Content เราสามารถเลือกใช้งานได้ตามความเหมาะสมตาม Scale ของเนื้องาน

ซึ่ง ใน Content รวมกล้องสาย Content ก็ไม่ได้ระบุอย่างเจาะจงว่าจะต้องเป็นกล้อง Fullframe เสมอไปครับ ขอเพียงแค่เป็นกล้องที่มีฟีเจอร์ตอบโจทย์การทำงาน Content ของเราได้อย่างลงตัว และ เอื้อต่อการทำงานได้เป็นอย่างดีนั่นเองครับ

ลูกค้าที่สนใจสั่งซื้อสินค้า สามารถติดต่อสั่งซื้อได้ผ่านช่องทางออนไลน์ของทางร้านได้ตลอด 24 ชม. หรือ โทรเข้ามาโดยตรงผ่านโทรศัพท์

แอดไลน์ ID:@ZoomCamera หรือ หน้าเว็บไซด์ ZoomCamera
083-067-7677 / 02-098-9555 ต่อ 0 (หยุดวันอาทิตย์)

วิธีการสั่งซื้อ

Leave a Reply

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

Save