หลังจากที่ผมออกรีวิว A6600 ไป ก็มีคำขอให้ทำรีวิวเลนส์ 16-55mm f2.8 มาเยอะเลยครับ เลยไปยืมเลนส์ตัวนี้จาก Sony มาลองให้ทุกคนได้ดูครับ ต้องขอบคุณ Sony Thai ไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ ส่วนภาพที่ไปถ่ายมาก็อาจจะไม่ใช่ภาพที่สวยมากนะครับเนื่องด้วยเรื่องระยะเวลา และภาพที่เห็นในรีวิวนี้เป็นจะเป็นภาพ JPEG จากกล้อง A6600และเลนส์ 16-55mm F2.8 นะครับ ถ้าพร้อมแล้วไปชมกันเลยครับ
รูปร่างหน้าตา
เริ่มที่รูปร่างหน้าตากันก่อน เลนส์ Sony 16-55mm f2.8 G ตัวนี้ขนาดไม่ใหญ่ไม่โตครับ เพราะถูกออกแบบมาสำหรับกล้อง APS-C ตระกูล A5xxx A6xxx นั่นเองครับ
เมื่อคูณเข้าไปแล้วจะได้ระยะ 24-82.5mm นั่นเอง เป็นเลนส์ช่วงระยะ Normal Zoom F2.8 ตัวท็อปสำหรับกล้องตัวคูณนั่นเองครับ ส่วนน้ำหนักก็อยู่ที่ 494 กรัมเท่านั้นครับ
งานออกแบบวัสดุดูแข็งแรงดี ผิวเลนส์มีการเคลือบยิงทรายเหมือนกับเลนส์เกรดโปรของ Sony ตรงท้ายเลนส์จะมีกระจกที่เปรียบเสมือนฟิลเตอร์กันอยู่ เวลาเราหมุนซูมจะสังเกตเห็นว่าชิ้นเลนส์จริง ๆ จะขยับอยู่ข้างใน ทำให้ฝุ่นไม่สามารถเข้าไปในกระบอกเลนส์ได้ง่าย ๆ และทำความสะอาดได้ง่ายกว่าด้วยครับ
เลนส์ตัวนี้เป็น External ซูมนะครับ เวลาที่เราหมุนซูมจะมีกระบอกเลนส์ยื่นออกมาประมาณภาพที่เห็น วงแหนซูมจะอยู่ด้านหลัง วงแหวนโฟกัสจะอยู่ด้านหน้าครับ Hood ก็มีมาให้นะครับ แต่เป็นฮูดแบบไม่มีปุ่มล็อคซะงั้นแอบเสียใจ 555 ส่วนเส้นผ่าศูนย์กลางหน้าเลนส์อยู่ที่ 67mm เป็นฟิลเตอร์หน้ามาตรฐานครับ
ในส่วนปุ่มกับสวิทซ์ต่าง ๆ มีมาให้ไม่เยอะครับ จะเห็นในส่วนของสวิทซ์ AF/MF แล้วก็ปุ่ม Focus Hold ที่เราสามารถ custom ได้ว่าอยากให้เป็นอะไร ก็จะมีมาให้สองปุ่มเท่านั้น
สังเกตว่าจะไม่มีปุ่มเปิด/ปิดกันสั่นนะครับเพราะเลนส์ตัวนี้ไม่มีกันสั่น ให้ใช้กันสั่น 5 แกนที่กล้องแทนนั่นเองครับ แต่ถ้าเป็นรุ่นที่ไม่มีกันสั่นในตัวกล้องอย่าง A6300 A6400 A5100 ก็จะไม่มีกันสั่นให้ใช้นั่นเองครับผม
คุณภาพความคม
ถัดมาเรามาดูกันที่ความคมและเลนส์พิเศษกันบ้างครับ เลนส์ 16-55 F2.8 ถือว่าเป็นเลนส์ Normal Zoom ที่คมมาก ๆ ตัวหนึ่งเลยครับ คมตั้งแต่ F2.8 เลยทีเดียวครับ ซึ่งการทดสอบนี้ผมก็ทดสอบเองด้วย แล้วก็อ้างอิงตามค่า MTF Chart ของเลนส์ตัวนี้ด้วย ถ้าใครอ่านค่าชาร์จ MTF เป็นจะเห็นคาแรคเตอร์ของเลนส์ตัวนี้คร่าว ๆ ก่อนทดสอบได้เลยครับ
ในส่วนของการทดสอบส่วนความคมจากกลางภาพไล่ไปขอบภาพ จากการทดสอบที่ 16mm F2.8 กลางภาพถือว่าเก็บรายละเอียดมาได้ดีมากครับ ตรงขอบเองภาพแทบจะไม่ดรอปเลยดรอบลงไปน้อยมาก ๆ ครับ และเมื่อหรี่ F ให้แคบลงความคมกลางภาพก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนไปถึงราว ๆ F5.6-F8 ก็จะเริ่มแยกไม่ค่อยออกแล้วครับว่าอันไหนคมกว่ากัน เพราะฉะนั้นกลางภาพ คมสุดอยู่ที่ราว ๆ F5.6-8 แต่ว่าขอบภาพเท่าที่ลองเปรียบเทียบหลาย ๆ F แล้ว ความเห็นส่วนตัว รู้สึกว่าไม่ค่อยต่างกันเท่าไหร่เลยครับแทบจะเท่าเดิมตลอด
ส่วนการทดสอบที่ 55mm นั้น ทั้งกลางภาพและขอบภาพจะคมน้อยกว่า 16mm ครับ ดูจากภาพตัวอย่างตอนนี้ที่เปรียบเทียบทั้งกลางภาพและของภาพของทั้งสองช่วงก็จะเห็นได้เลย แล้วก็ที่ขอบภาพของ 55mm จะดรอปจากกลางภาพชัดเจนกว่าตอนที่เทส 16mm ครับ เมื่อหรี่ F ที่ช่วง 55mm จะเห็นว่าที่ขอบภาพจะมีการเปลี่ยนแปลงมากกว่าตอนเทสที่ 16mm นะจะคมขึ้นชัดเจนกว่า หลังจากลองเปรียบเทียบดูก็จะเห็นว่าที่ 55mm กลางภาพจะคมสุดที่ประมาณ F11 ครับ และขอบภาพจะไปคมที่สุดราว ๆ F8-11 ครับ
บทสรุปนะครับ จากการเปรียบเทียบความคมที่ 16mm และ 55mm จะเห็นว่าที่ 16mm จะมีความคมมากกว่า 55mm ทั้งกลางภาพและขอบภาพ ตามปกติของเลนส์ที่เป็นเลนส์ Zoom ที่ยิ่งซูมไปไกลความคมอาจจะลดลง แต่สำหรับผมมองว่าก็ยังเป็นเลนส์ที่คมเลยทีเดียวในทั้งสองช่วง ส่วนขอบภาพที่เห็นว่าดรอปลงคือก็ปกติของเลนส์ทั่วไปแหละครับ ส่วนใหญ่ก็ดรอปลงอยู่แล้ว ส่วนตัวยังมองว่าเลนส์ตัวนี้ขอบภาพก็ยังถือว่าทำได้ดีและถือว่าเลนส์ตัวนี้อยู่ในระดับท็อป ๆ ของเลนส์ช่วงประมาณครับ
การละลายหลังและ Bokeh
ด้วยความที่เลนส์ 16-55mm สามารถเปิดรูรับแสงกว้างสุดที่ F2.8 ตลอดช่วง แน่นอนว่าสามารถทำชัดตื้น หรือ หน้าชัดหลังเบลอได้นะครับ เพียงแต่ว่าฉากหลังอาจจะไม่ได้เบลอมากแบบหายไปเลย คือยังพอรู้ได้ว่าเราอยู่ที่ไหนยังมีเรื่องราวอยู่
ผมได้ทดสอบโดยการถ่ายคนนะครับโดยให้ท็อปเป็นนายแบบถ่ายที่ช่วง 16mm และเปิด F กว้างสุดที่ 2.8 การละลายหลังเวลาถ่ายเต็มตัวก็จะละลายได้ไม่เยอะมาก เห็นลายละเอียดฉากหลัง พอเราขยับเข้าใกล้มากขึ้นถ่ายประมานครึ่งตัวจะเห็นว่าละลายหลังได้มากขึ้นครับ
ที่นี้เรามาลองถ่ายที่ 55mm เปิดกว้างสุด F2.8 บ้าง ถ่ายเต็มตัวก็ยังพอละลายหลังได้นิดนึงครับ และเมื่อเราขยับเข้าใกล้มากขึ้นที่ช็อตประมานหัวเข่าหรือช็อตครึ่งตัวก็ละลายหลังมากขึ้นตามลำดับครับ
ส่วนโบเก้ที่ได้ ก็เป็นโบเก้ที่กลม เนียนสวย ดีทีเดียวครับ ก็จะมีอาการ Cat eye ที่โบเก้จะเป็นวงรี ๆ อยู่บ้างเวลาถ่ายไฟ บริเวณขอบ ๆ ภาพ ส่วน Onion Ring ที่โบเก้เป็นชั้น ๆ ก็เจอเช่นเดียวกันครับ แต่ก็ถือว่ายังไม่มากจนเกินไปครับ
ขอบม่วง ขอบมืด
ในส่วนของขอบม่วงครับ จากการทดสอบถ่ายย้อนแสงมา ผมว่าอาการขอบม่วงหรือการเหลื่อมของสีมีน้อยมาก ๆ แทบจะไม่เจอเลยดีกว่า แล้วก็เวลาที่เราถ่ายภาพย้อนแสงก็ยังถือว่ารายละเอียดยังดีอยู่มาก ไม่ฟุ้งจนเสียรายละเอียดไปถือว่า 16-55mm F2.8 ทำได้ดีมาก ๆ เวลาที่ถ่ายย้อนแสงครับ
ความบิดเบี้ยว
ทีนี้เรามาดู Distortion หรือความบิดเบี้ยวกันบ้าง เลนส์ 16-55mm F2.8 ผมทดสอบมาให้ดูสองระยะครับคือ ที่กว้างสุด 16mm และ 55mm ซึ่งเท่าที่ดูคืออาการบวมแทบจะไม่เห็นเลยครับ จะมีบวมกลางนิดหน่อยแบบน้อยมาก ๆ ที่ 16mm แบบต้องสังเกตเยอะ ๆ แบบจับผิดเลยครับ แต่ก็ยังถือว่าน้อยมาก ๆ แทบไม่เบี้ยวเลยครับ ส่วนที่ 55mm นี่ไม่รู้สึกว่าเบี้ยวเลยครับ รวมทั้งพวกขอบมืดผมเองก็มองว่าไม่ค่อยเห็นจากเลนส์ตัวนี้ครับ
ระบบโฟกัส
ส่วนเรื่องความเร็วโฟกัสนี่หายห่วงครับ เลนส์ตัวนี้ใช้ XD Linear Motor ก็จะมีความรวดอยู่แล้ว และส่วนใหญ่ความเร็วของการโฟกัสจริง ๆ ก็ขึ้นอยู่กับกล้องซะเยอะ ส่วนเลนส์จะเป็นส่วนประกอบมากกว่า ถ้ามอเตอร์เร็วพอก็จะสามารถแสดงพลังการโฟกัสของกล้องออกมาเต็มที่นั่นเองครับ
สำหรับราคา Sony 16-55mm F2.8 G ตัวนี้ก็อยู่ที่ 43,990 บาทครับ ส่วนโปรโมชั่นสามารถสอบถามเข้ามาที่หน้าร้าน หรือ Inbox มาที่เพจ zoomcamera ได้เลยครับ
-
Sony E 16-55mm f/2.8 G Lens SEL1655G (ประกันศูนย์ 1 ปี)Product on sale฿35,192
฿43,990