Sony-FX6-Cinema-Fullframe

พรีวิว Sony FX6 กล้องฟูลเฟรมสาย Cinema ระดับเริ่มต้นตัวใหม่ เล็ก เบา ถ่ายวิดีโอสูงสุด 4K 120p 10-bit 4:2:2 แบบ Internal Leave a comment

เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วเรียบร้อยกับกล้องถ่ายภาพยนต์ 4K ที่ใช้เซนเซอร์ฟูลเฟรม Sony FX6 โดยกล้องตัวนี้เป็นการผสมผสานเทคโนโลยีของกล้อง 2 ซีรีย์ อย่างการบันทึก 4:2:2 10 bit และ คาแร็กเตอร์สีแบบ Cinema ฯลฯ ผสมผสานกับ คาแร็กเตอร์กล้องฟูลเฟรมมิเรอร์เลสที่เราคุ้นเคยกัน เช่น ความเร็วในการโฟกัส Face / Eye Detection และ ความคล่องตัว ฯลฯ ได้อย่างลงตัวทำให้ได้กล้องถ่ายวีดีโอที่มีระบบโฟกัสที่ดีแบบซีรีส์ Alpha และ มีการถ่ายวีดีโอระดับสูงแบบสาย Cinema

กล้องรุ่นนี้จะเป็นกล้องสาย Cinema รุ่นเล็กสุดตัวแรกที่เป็นกล้อง Cinema Line ที่เปลี่ยนเลนส์ได้ ถ้าใครอยากจะเดินทางสายวีดีโอ แล้วไปสุดทางกับกล้องมิลเลอร์เรสแล้วอยากไปให้สูงกว่านั้น คงต้องเริ่มขยับมาหาซีรีย์นี้ได้เลยครับ ซึ่งจุดเด่นของซีรีย์ FX6 คือกล้อง Cinema ที่เน้นความ Compact ใช้งานง่าย ประสิทธิภาพสูง ทั้งในเรื่องของการโฟกัส และ คุณภาพของการถ่ายวีดีโอระดับสูง สุดท้ายยังสามารถใช้งานเลนส์ E-mount ได้ด้วย แต่เอ๋ ! แล้วทำไมไม่ซื้อกล้องมิลเลอร์เรสสายวีดีโอตัวท็อปอย่าง Sony A7S III ไปเลยหละ ซึ่งถ้าถามความเห็นของผู้เขียน ก็ต้องบอกว่า ทั้ง 2 รุ่นนี้มีความเหมือนและความต่างกันอยู่พอสมควรเลย ในส่วนที่เหมือนกัน คือ เขาจะใช้ที่หน่วยประมวลผล Sony Bionz XR เหมือนกัน ซึ่งจะประมวลผลได้ไวมากและให้ Dynamic range ได้กว้างถึง 15 stop เวลาถ่ายในที่แสงน้อย และ มีการปรับค่า ISO ที่สูงมากพอกัน แต่ในส่วนที่แตกต่างจะเป็นในเรื่องของเซนเซอร์ที่ FX6 จะใช้ full-frame 10.2 MP แบบ backside-illuminated CMOS Exmor R ซึ่งจะให้คาแร็กเตอร์ของแสง สีสัน และ ความละเอียดของข้อมูลที่ดีกว่า แม้ว่าจะมีความละเอียดของพิกเซลที่น้อยกว่าก็ตาม และ จะมีในเรื่องของคาแร็กเตอร์ของภาพ การควบคุม อุปกรณ์เสริมอื่น ๆ ที่ไม่เหมือนกันอย่างสิ้นเชิง ถ้าเน้นการถ่ายวีดีโอมาก ๆ กล้องสาย Cinema ก็จะตอบโจทย์การทำงานได้ดีกว่าครับ

Sony FX6-Cinema Line

สำหรับคนที่อยากทำความรู้จักกล้อง Cinema Line up ตัวใหม่นี้ของ Sony เด่วผมจะพาทุกคนไปทำความรู้จักไปพร้อมกันให้มากขึ้น และ มาดูกันว่าถ้าคุณกำลังจะหากล้องถ่ายวีดีโอคุณภาพสูงระดับ Professsional ซักตัว Sony FX6 จะตอบโจทย์ และ คุ้มค่าหรือไม่

สรุปข้อมูลสเปคและรายละเอียด Sony FX6

  • เซนเซอร์ Exmor R 10.2MP CMOS ฟูลเฟรม และ ใช้หน่วยประมวลผล BIONZ XR Processor
  • จุดโฟกัสครอบคลุมกว้าง 627 จุด รองรับ Eye AF และ Face Detection แบบเรียลไทม์
  • ถ่ายวีดีโอสูงสุด DCI 4K60p | UHD 4K120 | 1080p240
  • Dynamic Range 15 stops เมื่อใช้ S-Log 3
  • ขนาดกะทัดรัดน้ำหนักเพียง 890 กรัม
  • มี Phase Detection AF / Face Tracking / Eye AF
  • มี Electronic Variable ND built-in มาให้ในตัว
  • Base ISO 800 / 12,800 และ สามารถปรับ High Sensitivity ได้
  • มีโปรไฟล์สี S-Cinetone, S-Log3, โหมด HLG
  • 10-Bit 4: 2: 2 XAVC-I / 16-Bit Raw Output
  • ช่องเสียบการ์ด CFexpress ประเภท A / SDXC แบบคู่
  • มี built-in Wi-Fi และ มีระบบเสียง 4ch (XLR Interface, Multi-Interface Shoe และ built-in Stereo Mic)
  • รองรับการใช้งานร่วมกับโปรแกรม Catalyst ของโซนี่
  • จอแสดงผล LCD ระบบทัชสกรีน
  • ใช้มือถือเป็น monitor หรือ ควบคุมกล้องได้

15 ฟีเจอร์เด่นที่น่าสนใจ Sony FX6

1.ขนาดเล็ก น้ำหนักเบา สามารถเอาไปประกอบขึ้นกับอุปกรณ์เสริม กิมบอล และ โดรนได้สบาย นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์เสริมให้ใช้งานได้ถนัดมากขึ้นด้วย

ด้วยความเป็นกล้องสาย Cinema การ Custom อุปกรณ์ก็เป็นสเน่ห์อย่างหนึ่งที่น่าสนใจไม่น้อยเลย โดยผู้ใช้สามารถเลือกใส่ Grip / Viewfinder หรือ แม้แต่ handle ต่าง ๆ ที่ถนัดได้เลย หรือ ในบางคงอาจจะเอาไปขึ้น Gimbal หรือ โดรนก็ยังได้ เพราะตัวกล้องมีน้ำหนักที่เบาเพียง 890 กรัม (ไม่รวมน้ำหนักเลนส์) ทำให้การถ่ายวีดีโอในงานต่าง ๆ มีความยืดหยุดมาก

2.สามารถบันทึกฟอร์แมตความละเอียดสูงสุด DCI 4K แบบ XAVC Intra 4:2:2 10 bit พร้อมกันบนการ์ด CF Express Type A

ถ้าใครที่ถ่ายวีดีโอแล้วต้องการคุณภาพไฟล์วีดีโอที่ดีแบบมาก ๆ ระดับมืออาชีพ ในบางสถานการณ์กล้องมิลเลอร์เรสสายวีดีโอ อาจจะตอบโจทย์ไม่ได้เต็มที่ ซึ่งในปัจจุบันกล้องมิลเลอร์เรสสายวีดีโอที่สามารถถ่ายวีดีโอ 4K แบบ 4:2:2 10 bit แบบ Internal หรือ External ก็ตาม ในตลาดจะมีตัวเลือกอยู่ไม่กี่ตัว และมีราคาที่ค่อนข้างสูงมาก ๆ เทียบเท่ากล้องระดับ Cinema เริ่มต้นเลยก็ว่าได้ และ การถ่ายวีดีโอไฟล์คุณภาพสูงก็มีระยะเวลาที่จำกัดเพื่อป้องกันปัญหา Overheat ซึ่งนี่เป็นข้อจำกัดที่ปัจจุบันกล้องมิลเลอร์เรสสายวีดีโอ ยังไม่สามารถสู้กับกล้องสาย Cinema ได้ ถ้างานของคุณเน้นมากทางงานวีดีโอ การที่ใช้กล้อง cinema ไปเลยก็จะตอบโจทย์ได้ดีกว่ามาก ซึ่งการบันทึกไฟล์ DCI 4K แบบ XAVC Intra 4:2:2 10 bit ได้จะช่วยให้เนื้อไฟล์ สีสัน ของภาพในวีดีโอมีความสวยสดใส และ ยืดหยุ่นมาก กับงาน Post Production และ งาน Grading สี

3.สามารถทำ 16-bit Raw output with 12G-SDI กับอุปกรณ์ต่อพ่วงภายนอกได้ เช่น จอมอนิเตอร์ต่าง ๆ เป็นต้น

ถ้าใครที่จะเอากล้อง Soy FX6 ไปต่อกับอุปกรณ์เสริมอย่างจอมอนิเตอร์เพื่อทำ External Record กล้องตัวนี้จะสามารถทำ 16bit Raw ouput ได้ด้วยนะเมื่อต่อผ่าน 12G-SDI ซึ่งจอมอนิเตอร์ที่รองรับตอนนี้จะเป็น Atomos Shogun 7 ฯลฯ

4.ได้ Bokeh ที่สวยงามแบบกล้องฟูลเฟรม และ ทำหน้าชัดหลังละลายได้ง่าย และ สามารถใช้เลนส์ Sony E-mount ที่มีมากกว่า 50 รุ่นได้

ได้คาแร็กเตอร์โบเก้แบบกล้องฟูลเฟรมในซีรีย์ Alpha เพราะสามารถใช้เลนส์ E-mount ที่มีออกมามากกว่า 50 รุ่น และ นอกจากนี้ยังใช้เลนส์นอกค่ายที่เป็น E-mount ได้อีกด้วย

5.มี Base ISO 800 และ 12800 เมื่อใช้ S-Log 3 และ มีฟังก์ชั่น High Sensitivity ปรับได้สูงสุด 409600

6.ใช้เซนเซอร์ฟูลเฟรมความละเอียด 10.2 ล้านพิกเซล แบบ Back Illuminate และ ใช้ชิปประมวลผลรุ่นใหม่ล่าสุด Bionz XR

พิกเซลขนาดใหญ่ให้ความไวแสงสูงและสัญญาณรบกวนต่ำ เพราะว่าใช้เซนเซอร์ภาพ Exmor R™ CMOS 10.2 เมกะพิกเซลแบบฟูลเฟรม นอกจากนี้ยังใช้หน่วยประมวลผล Bionz XR ที่เป็น Processor ตัวใหม่ล่าสุดที่มีใช้ในกล้อง Sony Alpha รุ่นท็อปอย่าง Sony A7S iii

7.Dynamic Range 15 สต็อป เมื่อใช้ใน S-Log 3

เนื่องจากใช้เซนเซอร์ฟูลเฟรมที่แบบ Back illuminate ทำให้มี Dynamic Range สูงถึง 15 สตอป เมื่อใช้โปรไฟล์ S-log 3 ช่วยให้เวลาเอามา Grading สี ดึงแสง เงา เก็บรายละเอียดได้ดีมาก แม้ว่าจะอยู่ในที่มืดมาก ๆ หรือ สว่างจ้า

8.มี Profile สีโทน Cinematic ที่เป็นเอกลักษณ์ โดดเด่น ไม่เหมือนใครอย่าง S-Cinetone

มีโหมดถ่ายภาพที่มีโปรไฟล์สีแบบ S-Cinetone ที่จะให้อารมณ์เหมือนในหนังภาพยนต์ในสไตล์ sony นอกจากนี้ยังมี S-Log3 / S-Gamut3 ที่มีโหมด Cine-EI เพื่อนำไปทำต่อในขั้นตอน Post Production และ Grading อีกด้วย

9.มีจุดโฟกัส 627 จุด และ มี Real time Eye AF / Face Detection

มีระบบโฟกัสดวงตาแบบเรียลไทม์และตรวจจับใบหน้าช่วยให้โฟกัสได้อย่างแม่นยำเหมือกนับกล้องมิลเลอร์เลสในตระกูล Alpha ของ Sony ความเร็วติดตามได้เหนียวแบบสุดไว้ใจได้แม้ว่าอยู่ในที่แสงน้อย ทำให้กล้องสาย Cinema โฟกัสได้รวดเร็วกว่ากล้องสาย Cinema ในท้องตลาด นอกจากนี้ยังมีจุดโฟกัสมากถึง 627 จุด ครอบคลุมพื้นที่ 95% ในแนวนอน และ 94% ในแนวตั้ง

10.สามารถถ่ายวีดีโอ 4K 120fps (QFHD) ได้ และ Full HD 1080p 240 fps

สามารถถ่ายวีดีโอได้สูงถึง 120 เฟรม/วินาที (fps) ที่ความละเอียด 4K (QFHD) โหมดสโลว์และควิก (S&Q) ช่วยให้คุณควบคุมอัตราเฟรมที่ถ่ายได้อย่างสมบูรณ์แบบตั้งแต่ 1 ถึง 120fps ช่วยให้เล่าเรื่องการเคลื่อนไหวได้อย่างเที่ยงตรง และซูเปอร์สโลว์โมชั่นที่สวยงามได้สูงถึง 5x (เอาต์พุต 24fps)

11.มี Electronic Variable ND ในตัว เริ่มต้น 1/4 – 1/128 ช่วยลดแสงที่เข้าเซนเซอร์ทำให้เวลาถ่ายมีความยืดหยุ่นมากขึ้น

FX6 มีฟิลเตอร์ Electronic Variable Neutral Density (ND) ในตัวซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของ Sony สิ่งที่ต่างจากฟิลเตอร์ ND ออปติคอลทั่วไปคือ ฟิลเตอร์ ND อิเลกทรอนิกส์บน FX6 นั้นสามารถควบคุมได้ตั้งแต่ ND 1/4 ถึง 1/128 ซึ่งสามารถให้ปรับตั้งเป็นอัตโนมัติได้เหมาะกับสภาวะแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว และ ซับซ้อน

12.มีจอแสดงผลแบบทัชสกรีนความละเอียด 2.76 ล้านจุด

ควบคุมเมนูได้อย่างรวดเร็วด้วยระบบสัมผัส บนหน้าจอ LCD ควบคุมการเข้าถึงเมนูอย่างรวดเร็ว ด้วยการแตะเพียงครั้งเดียว สามารถเปลี่ยน Codec,โหมดสแกนภาพ,ขนาดภาพและความถี่,ISO,โหมดถ่ายภาพ และ ระดับเสียงได้ ได้เร็วมากขึ้น

13.มีระบบระบายความร้อนดี ลดการเกิดอาการค้าง และ ดับของตัวกล้อง

มีระบบระบายอากาศ และ มีการออกแบบตัวเครื่องให้ช่วยป้องกันการ Overheat จนเครื่องดับเนื่องจากความร้อน ที่มาจากการถ่ายวีดีโออัตราเฟรมสูงและความละเอียด 4K (QFHD)

14.สามารถควบคุมตัวกล้องด้วยโทรศัพท์มือถือได้ผ่าน CBM mobile Application

สามารถเชื่อมต่อ Wi-Fi เพื่อใช้งานไร้สายควบคุมระยะไกลด้วยสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต และแอป Content Browser Mobile (CBM)

15.รองรับการใช้งานร่วมกับโปรแกรม Catalyst Browse ของโซนี่

FX6 จะสามารถบันทึก Metadata 3 ชนิด คือ การป้องกันภาพสั่นไหว, clip flag และ การหมุนกล้อง ข้อมูลเหล่านี้จะใช้สำหรับไว้แก้ไขด้วยซอฟต์แวร์ Catalyst Browse แบบฟรีหรือ Catalyst Prepare

Sony FX6 ราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

Sony FX6 จะวางขายในเดือนธันวาคม 2563 ในราคาประมาณ $5,998 หรือประมาณ 180,000 บาท และแบบชุด Kit รวมเลนส์ FE 24–105mm F4 G ที่ $7,200 หรือประมาณ 217,000 บาท (ราคาไทยอย่างเป็นทางการจะมีการประกาศอีกครั้ง เร็ว ๆ นี้)

สรุปกล้องตัวนี้เหมาะกับใคร ?

กล้องตัวนี้เหมาะกับคนที่ต้องการหากล้องวีดีโอคุณภาพสูงระดับมืออาชีพที่ไม่เน้นการถ่ายภาพนิ่ง มีเลนส์ E-mount อยู่ประมาณหนึ่ง ต้องการก้าวไปใช้กล้อง Cinema โดยไม่ต้องเปลี่ยนอะไรเยอะ และ ต้องการไฟล์วีดีโอที่มีความยืดหยุ่นเพื่อเอาไปทำงาน Post Production และ Grading ซึ่งในกล้องมิลเลอร์เรสสายวีดีโอไม่สามารถตอบโจทย์ได้

นอกจากนี้ก็จะเหมาะกับกลุ่มทำงาน Production House ระดับเริ่มต้นที่งบประมาณมีจำกัด แต่ต้องใช้กล้อง Cinema ในการถ่ายทำ ตัวนี้ก็ตอบโจทย์แน่นอน

อ่านบทความเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้อง

ลูกค้าที่สนใจสั่งซื้อสินค้า สามารถติดต่อสั่งซื้อได้ผ่านช่องทางออนไลน์ของทางร้านได้ตลอด 24 ชม. หรือ โทรเข้ามาโดยตรงผ่านโทรศัพท์

แอดไลน์ ID:@ZoomCamera หรือ หน้าเว็บไซด์ ZoomCamera
083-067-7677 / 02-098-9555 ต่อ 0 (หยุดวันอาทิตย์)

วิธีการสั่งซื้อ

Leave a Reply

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

Save