รวมเทคนิค Long Exposure กับการสร้างสรรค์ผลงานในแบบต่างๆ Leave a comment

กราบสวัสดีเพื่อนๆที่ติดตามเพจของ Zoomcamera ทุกท่านด้วยครับ หากจะพูดถึงเทคนิคการถ่ายภาพแบบ Slow Shutter หรือ แบบ Long Exposure ที่เป็นเทคนิคอีกขั้นหนึ่งที่ตากล้องสาย Landscape นิยมนำมาใช้ในการถ่ายภาพเป็นจำนวนมาก ซึ่งเพื่อนๆทราบหรือไม่ว่า เจ้าเทคนิค Long Exposure นี้ เราสามารถนำไปประยุกต์ในการสร้างสรรค์ผลงานของเราได้อย่างหลากหลาย โดยไม่จำเป็นต้องถ่าย Landscape เท่านั้น โดย Admin ขอแนะนำบทความ ” Long Exposure กับการสร้างสรรค์ผลงานในแบบต่างๆ “ ซึ่งจะมีอะไรบ้างนั้น ติดตามชมกันได้เลยครับ

 

Long Exposure คืออะไร

Long Exposure หรือ Long Shutter Speed Exposure คือหนึ่งในรูปแบบการถ่ายภาพ ซึ่งจะมีขั้นตอนเปิดหน้ากล้องทิ้งเอาไว้เป็นเวลานาน ทำให้ได้ภาพที่มีการเคลื่อนไหวเกิดขึ้น และถ่ายภาพของวัตถุที่มีการเคลื่อนไหวได้ ซึ่งแน่นอนว่าแต่ละภาพจะต้องเปิดหน้ากล้องเอาไว้นานต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับการเคลื่อนไหวของวัตถุว่าช้าหรือเร็วแค่ไหน ภาพที่ได้ออกมาจะให้ความสวยงามในอีกมุมมองหนึ่ง ดูเหมือนชิ้นงานศิลปะที่โดดเด่น แต่สำหรับมือใหม่ การถ่ายภาพด้วยวิธีนี้อาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายเท่าใดนัก เพราะต้องใช้ประสบการณ์ในการฝึกฝนกันพอสมควรเลยครับ

 

อุปกรณ์สำหรับถ่าย Long Exposure

 

การถ่ายภาพแบบ Long Exposure หรือ Slow Shutter Speed นั้น หลักส่วนใหญ่จะเน้นการถ่ายภาพด้วยการใช้ค่า Speed Shutter ที่ต่ำ ซึ่งเสน่ห์ในการถ่ายภาพด้วย Speed Shutter ต่ำๆ แบบนี้ กลายเป็นการบันทึกภาพที่จะช่วยสร้างงานศิลปะที่โดดเด่น ที่ทำให้เกิดความหลากหลายในการสร้างผลงาน ว่าแล้ว เรามาดูกันดีกว่า ว่า ต้องมีการเตรียมตัวอย่างไรกันบ้าง

 

– ขาตั้งกล้อง

อุปกรณ์ชิ้นนี้ ถ้าไม่มีไปด้วย ถือว่าพลาดเป็นอย่างมาก เพราะถือว่าอุปกรณ์ดังกล่าวเป็นหัวใจหลักอย่างหนึ่งของการถ่ายภาพ Long Shutter Speed เลยก็ว่าได้ครับ ซึ่งขาตั้งที่ควรเลือกใช้นั้น ควรเป็นขาตั้งกล้องที่มีความมั่นคง แข็งแรง สามารถรับน้ำหนักได้มากที่สุดเท่าที่จะจัดหามาได้เลย เนื่องจากเมื่อนำกล้องขึ้นขาตั้งแล้ว การสั่นไหวเพียงเล็กน้อย อาจจะทำให้ภาพที่เราลั่นชัตเตอร์ไปนั้น กลายเป็นภาพเสีย ขาดความคมชัดไปทันทีครับ หรือ หากเลือกใช้ขาตั้งที่มีน้ำหนักเบาด้วยแล้วละก็ ควรพกถุงทรายเล็กๆ ไว้ใช้ในการถ่วงน้ำหนักของขาตั้งด้วยครับ

 

– รีโมตชัตเตอร์ / สายลั่นชัตเตอร์

ถัดจากขาตั้ง ก็เป็น รีโมตชัตเตอร์ ซึ่งในปัจจุบันมีทั้งแบบปกติ และ แบบไร้สาย ถึงแม้เราจะใช้ขาตั้งแล้ว แต่เมื่อเรากดชัตเตอร์ก็อาจจะทำให้กล้องสั่นได้ โดยทั่วไปหากเราเลือกใช้ค่า Shutter Speed ที่ต่ำสำหรับการถ่าย Long Exposure ด้วยแล้ว ก็คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องใช้สายลั่นชัตเตอร์รุ่นที่สามารถล็อคการเปิดรับแสงไว้ตามที่เราต้องการได้ แต่ถึงจะไม่มีอุปกรณ์ทั้งสองอย่างนั้น หากจะถ่ายภาพด้วยเทคนิคนี้จริงๆ ก็ยังคงทำได้ ด้วยฟังก์ชั่นการหน่วงเวลาสั้นๆ ในกล้อง ( ส่วนใหญ่จะนิยมตั้งหน่วงไว้ 2 วินาที ก่อนที่ชัตเตอร์จะทำงาน )

 

– แบตเตอรี / Power bank

ความสำคัญ จัดว่าสำคัญสุดๆก็ว่าได้ครับ เหตุเพราะ การถ่าย Long Exposure ในบางช๊อตเราจำเป็นต้องเปิดการรับแสงของกล้องเป็นระยะเวลายาวนานหลายวินาทีติดต่อกัน ซึ่งส่งผลต่อการบริโภคแบตเตอรี่ของตัวกล้องไปในตัวนั่นเอง ดังนั้นช่างภาพทั้งมือเก่า และ ทั้งมือใหม่ ควรพกแบตเตอรีสำรองติดตัวไว้อย่างน้อยๆ 1-2 ก้อน เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสดีๆนั่นเอง

 

– ฟิลเตอร์เฉพาะทาง

สำหรับเพื่อนๆที่ต้องการผลงานจากการถ่ายภาพ Long Exposure แบบซีเรียส ถึงจริงจังแล้วละก็ อาจจะต้องพกอุปกรณ์เสริมเฉพาะทางเพิ่มเติมติดกระเป๋าไว้ อาทิเช่น ND Filter , CPL Filter เป็นต้น โดยอุปกรณ์เหล่านี้ มักจะให้ Output ที่ค่อนข้างจะตื่นตา ตื่นใจ เมื่อมีการ Setting ที่ถูกต้อง และ ลงตัว โดยราคามีอยู่ด้วยกันหลากหลายตามคุณภาพเช่นกันครับ

 

ผลลัพธ์ของ Long Exposure กับการสร้างสรรค์ผลงาน

Long Exposure นั้น เป็นเทคนิคที่ใช้ถ่ายภาพได้หลากแล้วแล้วแต่จะเอาไปประยุกต์สร้างสรรค์ แต่ที่ช่างภาพนิยมถ่ายกันมากๆ หลักๆจะเป็นการถ่าย Landscape ที่เน้นการหยุดการเคลื่อนไหว อาทิ เช่น

 

– ในสถานการณ์ที่ Subject บางอย่างมีการเคลื่อนไหวอยู่ โดยในขณะที่บางอย่างหยุดนิ่ง เช่น น้ำไหล คลื่นซัดสาด เมฆเคลื่อนไปบนท้องฟ้า แสงไฟจากยานพาหนะ ฯลฯ ซึ่งส่วนใหญ่จะพบเห็นได้ในลักษณะของความเคลื่อนไหวผสมกับความหยุดนิ่งของสิ่งอื่นๆ

 

– ในสถานการณ์ที่แสงน้อย และไม่สามารถจัดแสง รวมถึงการจัดไฟหรือควบคุมแสงได้ตามใจ โดยเติมลูกเล่น หรือ จินตนาการเพิ่มเติมลงไป เช่น ถ่ายภาพอาคารขนาดใหญ่หรือทิวทัศน์ที่กว้างขวาง ก็ต้องอาศัยเทคนิคนี้เข้ามาช่วย รวมถึงการวาดแสงด้วยไฟฉายหรือแหล่งกำเนิดแสงที่เราต้องการ

 

ทีนี้เรามาดูกันครับว่า เราสามารถนำเทคนิค Long Exposure มาสร้างสรรค์ผลงานในรูปแบบใดได้บ้าง

 

– Long Exposure กับ แสงไฟ

แสงไฟ ที่ว่านี้ เราสามารถหาแหล่งกำเนิดแสงจากสภาพแวดล้อมที่อยู่รอบข้างเรา ไม่ว่าจะเป็น แสงรถวิ่งตามท้องถนนในตัวเมือง รวมถึงแสงประดิษฐ์อย่าง แสงไฟจากไฟฉายแรงสูง หรือ จะเป็นไม้เหวี่ยงสะเก็ดไฟ ซึ่งเมื่อรวมเข้ากับการใช้เทคนิค Long Exposure ด้วยแล้ว การใช้ Speed Shutter ที่ลาก Speed นานๆ จะทำให้เราสามารถเก็บภาพเส้นไฟ มาได้อย่างง่ายๆ ซึ่งแนะนำว่าควรตั้ง Speed Shutter ประมาณ 3 – 10 Sec. ยิ่งลาก Speed นานเท่าไร เส้นไฟก็จะยิ่งยาวยิ่งขึ้นครับ

– Long Exposure กับ พื้นน้ำ

 

นอกเหนือจากแสงไฟ ทั้งจากสภาพแวดล้อมหรือจากที่ประดิษบ์ขึ้นเอง เรายังสามารถประยุกต์ใช้งาน Long Exposure กับการถ่ายพื้นน้ำได้เช่นกันครับ ปกติแล้วพื้นน้ำโดยเฉพาะกับทะเลตามชายฝั่ง จะมีการเคลื่อยไหวในลักษณะเป็นคลื่นซัดเข้าฝั่งอยู่ตลอดเวลา ซึ่งถ้าเราถ่ายภาพในลักษณะปกติ เราก็จะได้ภาพชายทะเลที่มีคลื่นกระทบ แต่ภาพอาจจะไม่ได้สื่อารมณ์มากซักเท่าไรนัก แต่ถ้าเราประยุกต์ใช้ Long Exposure กับการถ่ายพื้นน้ำ เราจะได้ภาพน้ำ / คลื่นกระทบฝั่ง ที่มีลักษณะฟุ้งๆราวกับคลื่นน้ำมีการเคลื่อนไหวอยู่นั่นเองครับ ทั้งนี้การถ่าย Long Exposure กับ พื้นน้ำ การ Setting จะคล้ายๆกับการ่ถ่ายเส้นแสงเช่นกัน แต่จะ Advance มากขึ้น ตรงที่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์เสริมอย่าง ND Filter เข้ามาช่วยในการถ่าย Long Exposure เหตุเพราะ การถ่าย Long Exposure จำเป็นต้องใช้ Speed Shutter เป็นระยะเวลานาน ทำให้สภาพแสงสว่างกว่าปกติ ทำให้ไม่สามารถถ่ายในเวลาช่วงเช้าได้นั่นเองครับ

– Long Exposure กับ ทิวทัศน์

โดยปกติแล้ว การถ่าย Long Exposure ส่วนมากจะเน้นหนักไปทาง Landscape ซะส่วนใหญ่ ซึ่งเทคนิค Long Exposure สำหรับการถ่ายวิวนั้น สามารถถ่ายภาพ Landscape ได้มากมายหลายรูปแบบ อาทิเช่น การถ่าย Long Exposure เพื่อเก็บริ้วเมฆ , ทะเลหมอก หรือ ที่นิยมถ่ายกันมากในหมู่ช่างภาพ Landscape อย่าง การถ่าย Milky Way หรือ การถ่ายทางช้างเผือก ซึ่งจำเป็นต้องเปิด Speed Shutter เป็นระยะเวลาที่นานควบคู่กับการใช้ค่ารูรับแสงและค่า ISO หรือ การถ่าย Landscape ระดับ Advance ที่ช่างภาพหลายท่านต้องหวังจะไปซักครั้ง อย่าง การถ่ายแสงเหนือ นั่นเองครับ

– Long Exposure กับ Motion Blur

เป็นอีกรูปแบบการถ่ายภาพที่ไม่ค่อยได้พบเห็นซักเท่าไรนัก กับการถ่าย Long Exposure คู่กับ Motion Blur โดยให้ Subject ที่เราต้องการนั้นหยุดนิ่งอยู่กับที่ โดยปล่อยให้สิ่งรอบข้ามมีการเคลื่อนไหวบ้างเล็กน้อยเป็นบริบทประกอบในเฟรมภาพ ซึ่งการเคลื่อนไหวของสิ่งรอบข้ามนี้ จะช่วยเพิ่มอารมณ์ให้กับภาพได้เป็นอย่างดี โดยเทคนิค Motion Blur จะเน้นการใช้ Speed Shutter ที่ต่ำ อาจจะเริ่มตั้งแต่ 1/10 Sec. เป็นต้นไป แต่ไม่ควรมากเกินกว่า 10 Sec. เพราะยิ่งเปิด Speed Shutter นานมากเท่าไร สิ่งรอบข้างที่เดินผ่าน Subject เรา อาจจะไม่ปรากฏให้เห็นในเฟรมภาพนั่นเองครับ

ข้อควรระวังในการถ่าย Long Exposure

– เช็คระบบกันสั่นที่ตัวกล้อง / เลนส์

ปกติแล้วระบบกันสั่นของกล้องจะทำงานโดยการขยับชิ้นเลนส์หรือเซนเซอร์รับภาพชดเชยทิศทางการเคลื่อนไหวของกล้องเพื่อลดโอกาสที่ภาพจะสั่นไหวแต่ในการถ่ายภาพ Long Exposure เราจำเป็นต้องตั้งกล้องบนขาตั้งกล้องหรือพื้นที่ๆ มั่นคงอยู่แล้วกล้องของเราจะนิ่งไม่มีการขยับการเปิดระบบกันสั่นไหวทิ้งเอาไว้อาจเป็นสาเหตุทำให้ภาพเราสั่นซะเอง ฉะนั้นจะต้องระวังเรื่องนี้ให้ดีด้วยครับ หรือ ไม่มั่นใจแนะนำว่าปิดระบบกันสั่นไหวที่ตัวกล้อง และ/หรือ ตัวเลนส์ ด้วยก็ได้ครับ

 

– พิจารณาค่ารูรับแสง ณ สถานการณ์นั้นๆ

โดยปกติแล้ว เมื่อเราต้องการถ่ายภาพ Landscape เรามักจะถ่ายด้วยค่ารูรับแสงที่แคบ เพื่อหวังผลเรื่องความคมและค่า Speed Shutter ที่ต่อยอดเทคนิค Long Exposure ซึ่งจริงอยู่ว่า F22 จะทำให้เราได้ความเร็วชัตเตอร์ที่นานมากขึ้นเพื่อสร้างสรรค์ภาพ Long Exposure มันสามารถเปลี่ยนความเร็วชัตเตอร์จาก 30 วินาทีให้เป็น 2 นาทีได้แค่เปลี่ยนจาก f/11 ไป f/22 แต่อย่าลืมสิ่งที่ตามมาคือปรากฏการณ์ Diffration ซึ่งจะทำให้ภาพของเราเสียความคมไปมากขึ้นตามความแคบของ F ที่เราใช้ ฉะนั้นถ้าเป็นได้หากต้องการลดความความชัตเตอร์ให้ใช้การลด ISO หรือเลือก ND Filter ที่ตัดแสงมากขึ้นจะดีกว่า

 

– Set ค่า ISO ให้น้อยที่สุด

สำหรับการถ่าย Long Exposure ในหลายๆครั้งเรามักจะเผลอหรือลืมไปว่า ISO ที่ใช้สามารถลดลงได้อีกเพราะมัวแต่เล่นกับรูรับแสงและ ND Filter ที่ช่วยลดแสงได้นานเหลือเฟือจนลืมคิดถึงเรื่อง ISO ไปในบางครั้ง ทั้งนี้ ISO ที่ให้คุณภาพใกล้เคียงจนเกือบจะเหมือนกัน ในกล้อง High-end ช่วง ISO นี้จะอยู่แถว ๆ ISO50-200 หมายความว่าเรามีช่วง ISO ให้เล่นได้ถึง 2 สตอปและ 2 สตอปในการถ่ายภาพ Long Exposure นั้นอาจนานเป็นนาที และยิ่งใช้อุปกรณ์เสริมอย่าง ND Filter ด้วยแล้ว ยิ่งทำให้ใช้ Speed Shutter ในการลาก Long Exposure ได้นานยิ่งขึ้นครับ

 

– ราคา Filter ก็มีผลต่อภาพนะ

Filter ก็เสมือนแว่นตา ยิ่งราคาที่สูง ยิ่งมีคุณภาพสูงขึ้นตามไปด้วย ฉะนั้นเพื่อนๆที่จะใส่ฟิลเตอร์ราคาถูก 200-300 บาทไว้หน้าเลนส์ราคาหลายหมื่น จำไว้ว่าทุกครั้งที่คุณใส่ฟิลเตอร์ที่หน้าเลนส์มันจะลดคุณภาพของแสงที่ผ่านเข้าไปแต่สำหรับฟิลเตอร์ Protector นั้นน้อยมากจนไม่ได้จะสังเกตเห็นได้ง่ายๆ แต่กับฟิลเตอร์ ND เบอร์เยอะ ๆ ราคาถูก นั้นอาจทำให้สีเพี้ยนจนคุณต้องปวดใจกับขั้นตอนการแก้สีของภาพ หรือ ถึงขั้นถอดใจลบภาพนั้นๆถึง เพราะคุณภาพเกินเยียวยานั่นเองครับ

 

– สิ่งสกปรกที่รบกวน

การถ่ายภาพ Long Exposure โดยเฉพาะกับสถานการณ์ที่แวดล้อมเต็มไปด้วยธรรมชาตินั้น เราอาจเจอสถานการณ์มากมายที่จะลดคุณภาพไฟล์ของเราอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อาทิเช่น น้ำฝน หรือน้ำทะเลที่กระเด็นมาโดนหน้าฟิลเตอร์ หยดน้ำที่เกาะบนฟิลเตอร์อาจทำลายภาพที่ดีของคุณได้เลย ดังนั้นอย่าลืมที่จะพกอุปกรณ์ทำความสะอาดไปกับคุณด้วย มิฉะนั้นเพื่อนๆอาจจะได้ภาพ Long Exposure ที่มีหยดน้ำ หรือ เม็ดฝุ่นในภาพมาเป็นของแถมด้วยนั่นเองครับ

 

– ปัจจัยแวดล้อมภายนอก

ต่อจากข้อด้านบน อย่างที่บอกไปว่าร้อยละ 90% การถ่าย Long Exposre แบบซีเรียสส่วนมากจะอยู่กันท่ามกลางธรรมชาติ ซึ่งธรรมชาติก็พร้อมจะเป็นมิตรและศัตรูกับเหล่าช่างภาพเสมอ ซึ่งแน่นอนว่าช่างภาพอย่างเราๆคงไม่สามารถประเมินพลังของธรรมชาติที่จะส่งผลในการถ่ายภาพ Long Exposure ของเราได้ อาทิเช่น แรงลมที่ปะทะกับเรา ยิ่งแรงลมบนที่สูงด้วยแล้วยิ่งมีแรงลมที่สูง สามารถทำให้กล้องที่อยู่บนขาตั้งมีอาการสั่นไหวได้ เป็นต้น แม้ว่าอาจจะเป็นเรื่องไกลตัว แต่ยามที่เราไปยืน ณ จุดๆนั้น ก็ต้องพร้อมที่จะรับมือด้วยเช่นกันครับ

 

*** สอบถามเพิ่มเติม ***

inbox : http://www.facebook.com/messages/zoomcamera

02-635-2330 ต่อ 0 / 083-067-7677 (หยุดวันอาทิตย์)

สาขาสีลม 02-635-2330-1 / 080-271-2772

สาขาเดอะมอลล์งามวงศ์วาน 02-951-8597 / 085-937-0123

สาขาเมกาบางนา 02-105-1926 / 086-554-1919

สาขาเดอะมอลล์บางแค 02-454-9598 / 084-033-0498

สาขาฟอร์จูนทาวน์ 02-642-1291 / 083-068-2775

สาขา Central Festival เชียงใหม่ 052-068-787 / 096-878-4896

สาขา Central Westgate 02-060-4362 / 097-063-4328

สาขา Central  Festival หาดใหญ่ 095-702-7585