Cannon 800D VS Canon EOS 80D ตัวไหนคุ้มค่าน่าซื้อกว่ากัน ?
หลายคนคงมีข้อสงสัยเกี่ยวกับ Canon EOS 800D กับ Canon Eos 80D ว่าจะซื้อรุ่นไหนดี หน้าตา ราคา สเป็คก็ใกล้กันมาก วันนี้จะมาคลายข้อสงสัย
ในเรื่องนี้กันแบบ ชัดๆ ไปเลย เทียบกันหมัดต่อหมัด จะได้เป็นประโยชน์ในการตัดสินใจให้กับเพื่อน ๆ หลาย ๆ คนที่กำลังลังเลอยู่ในตอนนี้
ผมจะพูดใน 3 ประเด็นหลัก ๆ ไว้ให้เพื่อน ๆ เก็บไปคิดกันนะครับ ได้แก่ จุดที่แตกต่างกันที่น่าสนใจ จุดที่เหมือนกันของทั้ง 2 รุ่น
และ กล้องแต่ละรุ่นเหมาะกับนักถ่ายภาพแนวไหน ถ้าพร้อมแล้วเราไปเริ่มกันเลย
จุดที่แตกต่างกันของ Canon 800D VS Canon EOS 80D
เรื่องของสปีดชัตเตอร์ ต้องให้คะแนนกับ 80D ชนะไปเลยครับ เพราะสามารถทำได้ดีกว่า 800D และ 80D ถึงหนึ่งเท่า แล้วมันดียังไงหละ
มันดีกับคนที่ชอบถ่ายภาพอะไรที่เคลื่อนที่เร็ว เช่น การถ่ายภาพแนวกีฬาเอ็กซ์สตรีม ถ่ายภาพรถแข่ง หรือ แม้แต่ถ่ายภาพนก
ก็ต้องใช้สปีดชัตเตอร์ที่เยอะพอสมควร ถ้ามีให้มาเยอะก็ได้เปรียบแน่อน
หันมาพูดถึง ISO บ้างกันดีกว่า ประเด็นนี้ต้องให้คะแนนกับ 800D ชนะไปเลย เพราะ สามารถดัน ISO ได้ถึง 25600 ซึ่ง 80D ทำได้เพียง 12800
ส่งผลให้การถ่ายภาพในที่แสงน้อยของ 800D ทำได้ดีกว่า หากใครที่ชอบถ่ายภาพกลางคืน คงชื่นชอบในจุดนี้
เรื่องของสัมผัสการจับถือที่กระชับ ถนัดมือ น้ำหนักเบา พกพาสะดวก หลายคนคงจะซีเรียสน่าดู แต่ลองมานั่งดูกันละเอียดจริง ๆ ทั้ง 2 รุ่นนี้มีน้ำหนักที่ไม่ต่างกันมานัก
เวลาจับถือ หลายคนไม่รู้สึกถึงความต่างกันซักเท่าไหร่ แต่ในเรื่องของการจับถือ 800D จะมีบอดี้และน้ำหนักที่เบา เล็ก เหมาะกับคนที่มีขนาดมือเล็กจับถนัดมือ เช่น
มือของผู้หญิง ส่วน 80D จะมีบอดี้ที่ใหญ่ และ น้ำหนักที่เพิ่มอีกนิดหน่อย เหมาะกับคนที่มีมือใหญ่หน่อย เช่น มือของผู้ชาย ก็จะได้สัมผัสที่ถนัดมือ แต่ในเรื่องวัสดุที่
ใช้ผลิต 80D จะใช้วัสดุที่ดูทนทานแข็งแรงมากกว่า นอกจากนี้ 80D จะมีวงแหวน dial ปรับค่า 2 จุดและจอ LCD บน Top plate ซึ่ง 800D ไม่มีในจุดนี้
ในส่วนของระบบกันสั่นสำหรับกล้องรุ่นเล็กอย่าง 800D มีระบบกันสั่นแบบครอปในตัวกล้องมาให้
ซึ่งกล้องรุ่นพี่อย่าง 80D จะไม่มีระบบกันสั่นในตัวกล้อง ต้องใช้ระบบกันสั่นจากตัวเลนส์เข้ามาช่วยในส่วนนี้แทน
ส่งผลให้ประสิทธิภาพการถ่ายในที่แสงน้อย ๆ ของกล้อง Canon EOS 800D ทำได้ดีกว่า โดยที่คุณอาจจะไม่ต้องพกขาต้องเลยก็เป็นได้
ถามว่าในปัจจุบันระบบ Bluetooth ยังจำเป็นอยู่มั้ย ก็ต้องบอกเลยว่า ก็ไม่ได้เป็นสาระสำคัญซักทีเดียว
เพราะในปัจจุบันในกล้องหลาย ๆ รุ่นก็เปลี่ยนมาใช้การรับส่งภาพผ่านระบบ Wifi กันหมดแล้ว
แต่การที่มีระบบ Bluetooth ด้วยก็จะช่วยเสริมทำให้รับส่งข้อมูลภาพได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น
ใครที่ถนัดการถ่ายภาพโดยมองผ่านช่องมองภาพ Optical View Finder ก็จะซีเรียสซัหหน่อยกับประเด็นนี้ เพราะ 800D ให้การมองภาพเพียง 95%
แต่ 80D ให้มา 100% เลยทีเดียว ซึ่งช่วยให้เราสามารถจัดองค์ประกอบของภาพได้สะดวก และ สบายตามากขึ้น
ความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่องจะสัมพันธ์กับสปีดชัตเตอร์ ยิ่งมีสปีดชัตเตอร์ที่เยอะ ก็จะสามารถรัวชัตเตอร์ได้เยอะตามไปด้วย
เหมาะกับคนที่ชอบถ่ายภาพอะไรเร็ว ๆ เน้นจับจังหวะ ได้ภาพแน่นอน ใครที่ถ่ายภาพแนว Event หรือ Concert ควรให้ความสำคัญในเรื่องนี้นะครับ
ซึ่ง 800D ทำได้ 6 fps ส่วน 80D ทำได้ 7 fps คนที่ชอบรัวชัตเตอร์ คงชอบ 80D มากกว่าแน่นอน
การใช้งานได้ยาวนานกว่าก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญ การถ่ายภาพได้นาน ก็ทำให้เราไม่ต้องพกแบตหลาย ๆ ก้อน
เวลาออกไปถ่ายภาพ ซึ่ง 80D มีแบตเตอรี่ที่อึดกว่า ใช้ได้นานกว่า 800D
หากคุณเป็นคนที่ชอบออกไปถ่ายภาพในสถานที่ที่สมบุกสมบันหน่อย ก็แนะนำ 80D ดีกว่านะครับ
เพราะ มีการซีลป้องกันละอองฝุ่นละอองน้ำ ซึ่งใน 800D จะไม่มีในจุดนี้
เรื่องของระบบประมวลผลภาพ 800D จะได้เปรียบในจุดนี้มากกว่า เพราะใช้ระบบที่รุ่นใหม่กว่าอย่าง Digic 7 ซึ่ง 80D ที่ออกมาก่อนก็ใช้เพียง Digic 6 เท่านั้น
หากคนที่ชอบถ่ายวีดีโอคงจะอยากได้ช่องเสียบหูฟังเพื่อเช็คเสียงในวีดีโอ ซึ่ง 800D ไม่มีช่องนี้ให้แต่ 80D มีให้นะครับ
ราคาทั้ง 2 รุ่นนี้ ขึ้นอยู่กับความคุ้มค่าเมื่อเปรียบเทียบกับการใช้งานของเราและจุดเด่นของแต่ละรุ่นที่กล่าวมา ซึ่งราคาในปัจจุบันในแต่ละรุ่นก็ต่างกันค่อนข้างมาก
แต่ก็มีจัดโปรโมชั่นพิเศษ บ่อยมากสำหรับ 2 รุ่นนี้ เราไหวกับรุ่นไหน เลือกให้เหมาะกับเรามากที่สุดเนอะ (ราคาในภาพเป็นราคาโปรโมชั่นช่วงเดือนสิงหาคม 2561)
จุดที่มีเหมือนกันของ Canon 800D VS Canon EOS 80D
– เซนเซอร์รูปแบบ APS-CMOS ขนาด 24 ล้านพิกเซล เหมือนกัน
– ระบบโฟกัส Dual Pixel 45 จุด แบบ Cross-type ทั้งหมด เหมือนกัน
– มีระบบ Face detection จับใบหน้าขณะถ่ายภาพ เหมือนกัน
– มีจอทัชสกรีน หมุนพับได้ เหมือนกัน
– ความสามารถในการถ่ายวีดีโอ FullHD สูงสุด 1920×1080 / 60p เหมือนกัน
– มีระบบ Wifi NFC เหมือนกัน
Canon EOS 800D
Canon EOS 80D
บทความนี้เขียนเมื่อวันที่ 14/08/2018