เปรียบเทียบ : DJI Pocket vs GoPro Hero 7 Black Leave a comment

กราบสวัสดีเพื่อนๆที่ติดตาม Content ของ Zoomcamera ผ่านทางช่องทาง Facebook และ/หรือ Youtube ด้วยนะครับ ต้องบอกว่าตลาด Action Camera กลับมาคึกคักกันอีกครั้งจากการเปิดตัวของ DJI Pocket กล้อง Action Camera ขนาดเล็กที่ติดตั้งระบบกันสั่น 3 ทิศทางไว้ภายในเสมือนเป็น Action Camera + Gimbal แต่มีน้ำหนักเพียง 116 กรัม เท่านั้น ซึ่งหากจะพูดถึง Action Camera ที่เคยเป็นเจ้าตลาดก่อนหน้านี้อย่าง GoPro นั้น ก็มี GoPro Hero 7 Black ที่ได้วางตลาดไปก่อนหน้านี้นั่นเอง ซึ่ง Content นี้จะเป็นการเปรียบเทียบกันระหว่าง DJI Pocket และ GoPro Hero 7 Black ว่าแตกต่างกันมากน้อยเพียง เหมาะกับการใช้งานในลักษณะไหน ว่าแล้วไปดูรายละเอียดกันเลยครับ

DJI Pocket

เมื่อวันที่ 28/11/2018 ที่ผ่านมา ทาง DJI ได้ทำการเปิดตัว Gadget ชิ้นใหม่ล่าสุดอย่าง DJI Pocket ซึ่งเป็นกล้อง Action Camera ที่พร้อมจะตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดี ด้วยดีไซน์ที่มีขนาดเล็ก กะทัดรัด พกพาสะดวก แต่ถึงจะมีขนาดที่เล็ก แต่เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพ

ทั้งนี้เจ้า DJI Pocket  มีจอ LCD สำหรับแสดงผลขนาด 1 นิ้ว แบบ Touchscreen ใช้สำหรับสั่งงานอื่นๆและดูรูปภาพ มาพร้อมกับเซ็นเซอร์ CMOS ขนาด 1/2.3″ นิ้ว รูรับแสง F2.0 ความละเอียดภาพนิ่ง 12 ล้านพิกเซล ขนาดพิกเซล 1.55 ไมโครเมตร และยังถ่ายภาพ RAW File สำหรับปรับแต่งขั้นสูงได้ด้วย แบตเตอรี่ใช้งานต่อเนื่องได้ที่ 140 นาที หรือประมาณ 2 ชั่วโมงเศษๆ เมื่อถ่ายวิดีโอ Full HD 1080p 30 เฟรมต่อวินาที แต่ถ้าถ่ายวิดีโอ 4k 60 เฟรมเรตต่อวินาทีจะใช้งานได้ 2 ชั่วโมง ปิดท้ายด้วยขนาด 121.9 x 36.9 x 28.6 มิลลิเมตร น้ำหนักเพียง 116 กรัม

*** Key Feature  :  DJI Pocket ***

• กล้องหลักมาพร้อม Sensor CMOS ขนาด 1/2.3” ความละเอียดภาพ 12 Megapixels

• รองรับการถ่ายภาพนิ่ง ทั้งเซลฟี่ , Timelapse , Panorama

• รองรับการถ่าย Video ความละเอียดสูงสุดที่ 4K 60p

• รองรับการถ่าย Video ความละเอียด FHD 120p

• ระบบป้องกันภาพสั่นไหว 3 แกน ( Tilt / Pan และ Roll ) ทำงานทั้งภาพนิ่ง และ Video

• คอนโทรลผ่าน Joystick 4 ทิศทาง สามารถปรับขึ้น ลง ซ้าย ขวา

• แบตเตอรี่ความจุ 875 mAh สามารถถอดเปลี่ยนได้ อายุการใช้งานยาวนานถึง 2 ชั่วโมง

• Port สำหรับติดตั้งอุปกรณ์เสริม

• ควบคุมสั่งการผ่าน Application รองรับทั้งระบบ IOS และ Android

• น้ำหนัก 116 กรัม

GoPro Hero 7 Black

หากพูดถึง Action Camera แล้ว เชื่อว่า GoPro คือ ชื่อลำดับแรกๆที่จะวิ่งผ่านเข้ามาหาเพื่อนๆแน่นอนครับ โดยปัจจุบันมี GoPro Hero 7 Black ถือเป็นกล้อง Action รุ่นล่าสุดที่วางจำหน่ายในท้องตลาด ซึ่งการมาของ GoPro Hero 7 Black นั้น แทบจะเป็นหนังคนละม้วนกับ GoPro Hero 6 เลยครับ เนื่องจาก Spec และ Feature ที่ถูกบรรจุลงมาใน GoPro Hero 7 Black นั้น แทบจะถูกยกเครื่องใหม่มาแทบจะทั้งหมด โดยที่ยังคงราคาเปิดตัวที่ใกล้เคียงกับ GoPro Hero 6 ไว้ด้วยนั่นเองครับ จึงไม่แปลกใจที่เจ้า GoPro Hero 7 Black จะถูกนำมาพูดถึงอยู่บ่อยๆนั่นเองครับ

*** Key Feature  :  GoPro Hero 7 Black ***

• กล้องหลักมาพร้อม Sensor CMOS ขนาด 1/2.3” ความละเอียดภาพ 12 Megapixels พร้อมรองรับ RAW file

• รองรับการถ่ายภาพนิ่ง Timelapse , Nightlapse , TimeWarp , Panorama , HDR ( SuperPhoto )

• รองรับการถ่าย Video ความละเอียดสูงสุดที่ 4K 60p

• รองรับการถ่าย Video ความละเอียด FHD สูงสุดที่ 240p

• ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ HysperSmooth

• แบตเตอรี่ความจุ 1,220 mAh สามารถถอดเปลี่ยนได้

• รองรับ Weather Seal และ Water Proof

• รองรับการ Live ผ่าน Facebook

• รองรับการสั่งการผ่าน Voice Control

• รองรับการเชื่อมต่อผ่าน USB Type C , WIFI , Bluetooth , micro HDMI

• ควบคุมสั่งการผ่าน Application รองรับทั้งระบบ IOS และ Android

• น้ำหนัก 220 กรัม

*** เปรียบเทียบ : DJI Pocket vs GoPro Hero 7 Black ***

*** การออกแบบ และ น้ำหนัก ***

ในกลุ่มกล้อง Action Camera ด้วยกัน จะเห็นว่ากล้องในตระกูล GoPro นั้น มีขนาดที่เป็นมิตร กะทัดรัด พกพาสะดวก เฉกเช่นเดียวกับ GoPro Hero 7 Black ที่ยังคงเอกลักษณ์เดิมไว้ได้เป็นอย่างดี ทั้งดีไซน์ ขนาดและน้ำหนัก ถึงกระนั้นเมื่อมองที่ค่ายผู้ท้าชิงรายใหม่อย่าง DJI ที่ได้ทำการส่ง DJI Pocket ลงมาสู้ศึกในตลาดกล้อง Action Camera ด้วยเช่นกัน สำหรับ DJI Pocket นั้น มีการออกแบบที่ร่วมสมัยและแปลกใหม่ไปจากกล้อง Action Camera รุ่นอื่นๆ เนื่องจากเป็นการจับตัวกล้องมารวมเข้ากับกิมบอลเพื่อลดการสั่นไหว โดยยังคงไว้ซึ่งขนาดที่กะทัดรัดไว้อยู่นั่นเอง ซึ่งหากพิจารณาเฉพาะรูปร่างภายนอก จะเห็นว่าแทบไม่เป็นอุปสรรคในการพกพาลงในกระเป๋าแต่อย่างใด

** ทั้งนี้แม้ว่าน้ำหนักของ DJI Pocket จะอยู่ที่ 116 กรัม ส่วน GoPro Hero 7 จะมีน้ำหนักอยู่ที่ 220 กรัม แต่ทั้งคู่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการพกพาแต่อย่างใดครับ **

*** การควบคุม / การสั่งการ ***

กล้องที่เป็น Action Camera ส่วนมากจะสั่งการผ่านทางหน้าจอด้วยระบบสัมผัส ทั้งเจ้า DJI Pocket และ GoPro Hero 7 Black ต่างก็เน้นการใช้งานผ่านทางหน้าจอ Touchscreen เป็นหลัก โดยใช้การ Touch เพื่อเข้าสู่ Mode นั้นๆ , เปลี่ยน Mode , Setting ต่างๆ ซึ่งเป็นผลพวงมาจากขนาดของตัว Product ที่มีขนาดเล็กทำให้ Layout ในการจัดวางปุ่มนั้นไม่เพียงพอนั่นเอง แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาในการใช้งานแต่อย่างใดครับ

นอกเหนือจากการสั่งการโดยตรงที่ตัวกล้องแล้ว ทั้ง DJI Pocket และ GoPro Hero 7 Black ต่างก็สามารถสั่งการผ่าน Application บน Smartphone ได้เช่นกันครับ

*** คุณภาพของกล้อง ***

– ภาพนิ่ง

ทั้ง DJI Pocket และ GoPro Hero 7 Black ต่างก็มาพร้อม Sensor CMOS ขนาด 1/2.3” ความละเอียดภาพ 12 Megapixels เช่นเดียวกัน แต่จะมีรายละเอียดปลีกย่อยแตกต่างกันอยู่เล็กน้อยครับ เริ่มที่เจ้า DJI Pocket จะมาพร้อมค่ารูรับแสงกว้างสุดที่ F 2.0 และ FOV 80 ส่วน GoPro Hero 7 Black จะมาพร้อมค่ารูรับแสงกว้างสุดที่ F 2.8 และ FOV 170 ครับ เพื่อนๆอาจจะสงสัยว่า FOV นั้นคืออะไร หากอธิบายง่ายๆ เจ้า FOV คือ มุมองศารับภาพที่ตัวกล้องสามารถถ่ายทอดออกมานั่นเอง ยิ่งตัวเลข FOV มากเท่าไร มุมภาพก็จะยิ่งกว้างตามไปด้วยนั่นเองครับ ซึ่งจากลักษณะดังกล่าว ทำให้เจ้า GoPro Hero 7 Black มีภาษีดีกว่าในเรื่องมุมมองที่เราจะได้ โดยจะเห็นผลชัดเจนยามที่เราถ่าย Landscape หรือ Selfy นั่นเองครับ

ในด้าน Feature ของการถ่ายภาพ เจ้า GoPro Hero 7 Black ก็ได้มีการเพิ่มเติมในส่วนของ SuperPhoto ( HDR ) เข้ามา ซึ่งจะแตกต่างจาก GoPro รุ่นอื่นๆที่ไม่มี Feature ดังกล่าวนั่นเองครับ ส่วนถ้าใครที่ชื่นชอบการถ่ายภาพ Selfy ละก็ เจ้า DJI Pocket ดูจะมีภาษีดีกว่าเล็กน้อย เนื่องจากเราสามารถสั่งตัวกล้องให้หันกลับมาได้ด้วยนั่นเอง โดยที่เราไม่จำเป็นต้องซื้ออุปกรณ์อย่างไม้เซลฟี่เพิ่มเติมแต่อย่างใดครับ ซึ่งถ้าใครที่มี Skill ด้านการถ่ายภาพพื้นฐานมาบ้างแล้ว Feature ภายในของทั้ง 2 รุ่นแทบจะสูสีกันเลยครับ ไม่ว่าจะเป็น HDR / Panorama จัดมาให้พร้อมเสร็จสรรพครับ

– Video

ในด้านงาน Video ต้องบอกว่า Feature ที่บรรจุลงใน DJI Pocket และ GoPro Hero 7 Black นั้น ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว แม้ว่าทั้งคู่จะเป็นกล้อง Action Camera ก็ตามทีครับ เริ่มกันที่ DJI Pocket มาพร้อมกับงาน Video ทีรองรับการถ่าย Video ความละเอียดสูงสุดที่ 4K 60p พร้อมทั้งยังรอบรับการถ่าย Video ความละเอียด FHD ได้สูงสุดที่ 120p ซึ่งเพียงพอต่อการใช้งานทั่วๆไปแล้วครับ นอกจากนี้ภายในตัวของ DJI Pocket ยังมาพร้อมระบบกันสั่นไหวแบบ 3 ทิศทาง เสมือนว่าเจ้า DJI Pocket มีกิมบอลติดตั้งมาให้ภายในตัวเลยทีเดียวครับ จากการที่มีระบบกันสั่นและตัวกล้องสามารถพลิก – หมุนได้รอบตัวนั้น ทำให้เพื่อนๆที่เป็นสาย Blogger หรือ V-Log น่าจะตอบโจทย์เป็นที่สุดครับ

กลับมาเจ้า GoPro Hero 7 Black กันครับ สำหรับ Feature ด้าน Video ที่ถูกบรรจุลงมานั้น บอกเลยว่าไม่ธรรมดาครับ เพราะ เสมือนเป็นการยกเครื่องครั้งใหญ่จากที่เคยมีใน GoPro Hero 6 Black ก็ว่าได้ครับ เริ่มกันที่การรองรับการถ่าย Video 4K 60p เช่นเดียวกันกับ DJI Pocket ทั้งนี้ใครที่ชื่นชอบการถ่าย Video แบบ Slowmotion ละก็ GoPro Hero 7 Black รองรับการถ่าย Video Slomotion ความละเอียด FHD ได้สูงสุดที่ 240p กันเลยทีเดียวครับ หากใครคิดว่า Slowmotion ยังไม่สะใจ ชอบอะไรที่ไวๆละก็ เจ้า GoPro Hero 7 Black ก็มี Feature อย่าง TimeWarp ที่เหมือนเป็นการเร่ง Speed ของ Video ให้รวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งน่าจะถูกใจกันอยู่ไม่น้อย นอกจากนี้ยังมีทีเด็ดในส่วนของ Video Timelapse ที่นอกเหนือจาก Feature Timelapse แล้ว ยังมี Feature Nightlapse เพิ่มเข้ามาด้วยเช่นกัน

*** ตัวอย่าง : DJI Pocket – Video ***

*** ตัวอย่าง : GoPro Hero 7 Black – Video ***

*** ความทนทาน / ป้องกันน้ำ – ฝุ่น ***

หากพูดถึงเรื่องความทนทานแล้วละก็ ดูเหมือนเจ้า GoPro Hero 7 Black นั้น ดูมีสง่าราศีขึ้นมาโดยทันทีครับ เนื่องจากว่ากล้อง Action Camera ในตระกูล GoPro ส่วนมากจะมาพร้อมคุณสมบัติอย่าง Weather Resistant และ Killer Feature อย่าง Water Proof ที่พร้อมจะให้เพื่อนๆสามารถนำเจ้า GoPro Hero 7 Black ไปใช้ถ่ายภาพใต้น้ำเพื่อเปิดมุมมองการถ่ายภาพใหม่ๆได้อย่างสะดวกสบาย แต่ทั้งนี้ข้อจำกัดของ Water Proof นั้น คือ ตัวอุปกรณ์จำเป็นจะต้องปิดจุกสำคัญต่างๆ ที่ซึ่งเป็นซีลยางป้องกันน้ำเข้าภายในตัวเครื่องด้วยนะครับ รวมถึงระดับความลึกของใต้น้ำก็มีแรงดันที่พร้อมจะทำให้น้ำแทรกเข้ามาถึงภายในได้ด้วยเช่นกันครับ

กลับกันเจ้า DJI Pocket นั้น ไม่ได้มีความสามารถในด้าน Weather Resistant แต่อย่างใด ทำให้การจะนำไปใช้งานในลักษณะลุยๆในสภาพอากาศต่างๆนั้น อาจจะต้องฉุกคิดซักเล็กน้อย โดยเฉพาะละอองน้ำ , ละอองฝน หรือ ความชื้นต่างๆ ที่อาจจะส่งผลโดยตรงให้กับตัวอุปกรณ์ของเรานั่นเองครับ แต่ทั้งนี้หากเพื่อนๆที่สนใจเจ้า DJI Pocket และต้องการนำไปใช้งานในลักษณะ Adventure โหดๆด้วยแล้วละก็ จำเป็นต้องหา Option เสริมอย่าง Housing มาใช้งานคู่กับ DJI Pocket ด้วยนะครับ

*** ย้ำอีกครั้ง !! DJI Pocket ไม่ได้มี Weather Seal แต่อย่างใด ***

*** แม้ GoPro Hero 7 Black จะมี Weather Seal แต่ต้องคอยเช็คจุดซีลป้องกันทุกจุดเสมอ ***

*** แบตเตอรี่ ***

ในด้านพลังงานของ Action Camera ส่วนมากประจุแบตเตอรี่จะอยู่ได้ประมาณนึ่ง ไม่มาก ไม่น้อยจนเกินไปครับ ทั้งนี้กลุ่มผู้ใช้งานบางกลุ่มมีความจำเป็นที่จะใช้งานที่มีระยะเวลานานกว่าปกติ ทำให้แบตเตอรี่อาจจะไม่เพียงพอก็เป็นได้ครับ ทั้งนี้เจ้า DJI Pocket และ  GoPro Hero 7 Black ก็มาพร้อมประจุแบตเตอรี่ที่เพียงพอต่อใช้งานในระดับหนึ่งเช่นกัน

เริ่มที่เจ้า DJI Pocket นั้นมาพร้อมแบตเตอรี่ แบบ Built-In ประจุ 875 mAh สามารถใช้งานต่อเนื่องติดต่อกันประมาณ 2 ชม. ในฝั่งของ GoPro Hero 7 Black ดูจะมีภาษีดีกว่า เริ่มจากแบตเตอรี่ที่เปลี่ยนไปจาก Generation เดิมที่สามารถถอดเปลี่ยนได้แล้วนั่นเองครับ และ มาพร้อมกับประจุขนาด 1,220 mAh สามารถใช้งานต่อเนื่องประมาณ 2 – 4 ชม. กันเลยทีเดียวครับ จะเห็นว่านอกเหนือจากปริมาณแบตเตอรี่ที่ GoPro Hero 7 Black นั้นให้ประจุไฟที่มากกว่าแล้ว แบตเตอรี่ที่สามารถถอดเปลี่ยนได้ ถือว่าเพิ่มความสะดวกสบายได้เป็นอย่างดี เพราะ เพื่อนๆสามารถหาแบตเตอรี่สำรองพกพาติดกระเป๋า เพื่อเปลี่ยนใช้งานกะทันหันได้เป็นอย่างดีครับ ซึ่ง DJI Pocket หากต้องการจะเปลี่ยนแบตเตอรี่นั้น จำเป็นต้องนำเข้า Service ของ DJI ต่อไปครับ

*** แล้วเลือกอะไรดี ระหว่าง DJI Pocket และ GoPro Hero 7 Black  ***

เลือก DJI Pocket

• ถ้าเพื่อนๆเน้นเรื่องการเซลฟี่ และ/หรือ การทำ V-Log ได้ด้วยตัวคนเดียว เพราะ DJI Pocket สามารถพลิกตัวกล้องเพื่อถ่ายตัวเองได้ โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาอุปกรณ์เสริมอื่นๆแต่อย่างใด

• เน้นลูกเล่นแปลกใหม่ เมื่อใช้งานร่วมกับ Accessory เสริม และ Smartphone

เลือก GoPro Hero 7 Black

• เน้นการใช้งานในลักษณะ Adventure เป็นหลัก โดยเฉพาะความสามารถในด้าน Weather Seal และ Water Proof

• ให้ความสำคัญในส่วนขององศารับภาพที่กว้างกว่าปกติทั่วๆไป เพื่อให้ได้ภาพที่มีความแปลกตามากยิ่งขึ้น

• ชื่นชอบการถ่าย Timelapse / Nightlapse รวมถึง TimeWarp ที่พร้อมจะเปิดมุมมองใหม่ที่น่าตื่นตาตื่นใจ

*** ราคาทางการ  :  DJI Pocket และ GoPro Hero 7 Black ***

สำหรับเพื่อนๆที่สนใจจับจองเจ้า DJI Pocket และ/หรือ GoPro Hero 7 Black มาเป็นเจ้าของ เพื่อนๆสามารถแวะเข้าชมสินค้าจริงก่อนได้ที่หน้าสาขาของ Zoomcamera ทุกสาขา นอกจากนี้ยังทีช่องทาง Online อย่าง Facebook และ Line รองรับเพื่อนๆในการสอบถามข้อมูลและสั่งซื้อสินค้าด้วยครับ

Click  >>> DJI Pocket

 Click  >>> GoPro Hero 7 Black

ZoomCamera ตัวแทนจำหน่ายกล้องและอุปกรณ์ถ่ายภาพที่มีให้คุณเลือกมากที่สุดหาของที่ไหนไม่ได้มาหาได้ที่ ZoomCamera นะ

———– สอบถามเพิ่มเติม ————
แอดไลน์ ID:@ZoomCamera หรือหน้าเว็บไซด์ ZoomCamera
086-349-7224 / 02-635-2330 ต่อ 0 (หยุดวันอาทิตย์)

?สาขา Central Plaza เวสต์เกต 02-054-7462 / 097-063-4328
?สาขาสีลม 02-635-2330-1 / 080-271-2772
?สาขาเมกาบางนา 02-105-1926 / 086-554-1919
?สาขาเดอะมอลล์บางแค 02-454-9598 / 084-033-0498
?สาขาฟอร์จูนทาวน์ 083-068-2775
?สาขาเดอะมอลล์งามวงศ์วาน 02-951-8597 / 085-937-0123
?สาขา Central Festival เชียงใหม่ 052-068-787 / 096-878-4896
?สาขา Central Festival หาดใหญ่ 074-848-700/095-702-7585
?สาขาแฟชั่นไอส์แลนด์ 02-002-3894 / 096-901-7825
?สาขาสยามพารากอน 02-129 4765 / 096-901-7826