เปรียบเทียบ DJI Ronin RS2 vs Zhiyun Crane 2s

เปรียบเทียบ DJI Ronin RS2 vs Zhiyun Crane 2S เลือกใครดี Leave a comment

เปรียบเทียบ DJI Ronin RS2 vs Zhiyun Crane 2S เมื่อไม่นานมานี้ทาง DJI ได้มีการเปิดตัวอุปกรณ์กิมบอล หรือ ไม้กันสั่นรุ่นใหม่ อย่าง DJI Ronin RS2 ซึ่งในรุ่นใหม่นี้พัฒนาให้ตอบโจทย์คนรักการถ่ายวีดีโอระดับมืออาชีพ มีการออกผลิตภัณฑ์อุปกรณ์เสริมให้ปรับแต่งได้หลากหลายยิ่งขึ้น

โดยใน Content นี้ จะเป็นการเปรียบเทียบ DJI Ronin RS2 vs Zhiyun Crane 2S ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่อยู่ในระดับ Segment มี่ใกล้เคียงกันมากที่สุด ซึ่งไปดูกันว่า มีความแตกต่างกันมากน้อยเพียงใด และจะเลือกใครมาใช้งานดี

content ที่เกี่ยวข้อง

Introduction : DJI Ronin RS2

Introduction : Zhiyun Crane 2S

เปรียบเทียบ DJI Ronin RS2 vs Zhiyun Crane 2S

เปรียบเทียบ DJI Ronin RS2 vs Zhiyun Crane 2s

ดีไซน์ ตอบโจทย์กับ กล้อง Mirrorless และ DSLR

เจ้า DJI Ronin RS2 มีการปรับตัวดีไซน์ plate ที่ไว้ใช้ตั้ง Balance ใหม่ ให้ดูทันสมัยมากขึ้น แต่ก็จะเป็นรูปแบบ Quick Release เหมือนเดิม การล็อคแกนใช้รูปแบบบานพับ สะดวก ง่าย รวดเร็วในการ Set up ในส่วนวัสดุที่ใช้ผลิตทำจาก Carbon fiber สัมผัสได้ถึงความแข็งแรงกว่า Ronin S ตัวเดิมอย่างมาก และ เบากว่า Zhiyun Crane 2S ซะด้วยซ้ำครับ

DJI Ronin RS2 มีการดีไซน์ตัว Plate ที่ใช้ในการดตั้งในลักษณะที่เป็น Dual-layer Plate ซึ่งรองรับทั้ง Arca-Swiss และ  Manfrotto ข้อดี คือ ผู้ใช้งานสามารถติดตั้งอุปกรณ์กล้องเข้ากับตัวกิมบอลได้ทันที โดยไม่จำเป็นต้องตั้ง balance กิมบอลใหม่ ซึ่งเป็นจุดที่ผู้เขียนมองว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก เพราะ การตั้ง balance หากไม่ใช่ผู้ที่ใช้งานบ่อยๆ อาจจะเสียเวลาไปโดยใช่เหตุครับ อีกทั้งยังมี Nato พอร์ต ซึ่งเป็นช่องสำหรับใส่อุปกรณ์เสริมอย่าง Monitor เป็นต้นครับ

ในแง่ของการ Operate ในระหว่างใช้งาน ก็สามารถควบคุมผ่านจอ LCD ที่รองรับระบบ Touchscreen และ Focus Wheel ที่มีการ Re-Design ใหม่ ที่ผู้ใช้สามารถ Operate ได้อย่างง่ายๆได้ด้วยมือเดียว

สำหรับ Zhiyun Crane 2s ถือเป็น Gimbal ขนาดกลาง มาพร้อมฟีเจอร์เด่นให้เลือกใช้งาน อาทิเช่น การปรับโฟกัสและซูมได้ผ่านตัวกิมบอลได้โดยทันที , ระบบกันสั่น 3 ทิศทาง , รูปแบบการถ่ายวีดิโอได้ถึง 6 แบบเพื่อความแปลกใหม่ในการทำงาน หรือ แบตเตอร์รี่ที่รองรับการใช้งานต่อเนื่อง 12 ชั่วโมง

Zhiyun Crane 2s มีความสามารถที่ช่วยให้การถ่ายภาพเเนวตั้งทำได้ง่ายดาย เพียงปรับหมุนโดยมีปุ่มล็อคเพื่อความปลอดภัยในการวางกล้องในเเนวตั้ง ก็ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการใช้งานมากขึ้น

นอกจากนี้ ยังมาพร้อม FlexMount System ซึ่งเป็นผู้ช่วย ที่จะทำหน้าที่ในการล๊อคตัวกล้องเข้ากับกิมบอลให้มีความแน่นหนาและปลอดภัยที่สุด ทั้งนี้ผู้ใช้งานก็สามารถปรับความแน่นของตัวล๊อคดังกล่าวได้ด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้ในส่วนของน้ำหนักเฉพาะตัว DJI Ronin RS2 จะอยู่ที่ 1.29 kg. ในขณะที่ Zhiyun Crane 2S จะมีน้ำหนักอยู่ที่ 1.88 kg. ครับ

DJI Ronin RS2 ทำได้ดีกว่า โดยเฉพาะเรื่องน้ำหนัก

ธรรมชาติของอุปกรณ์กิมบอล ในสายตาของผู้ที่พบเห็นมักจะคิดว่า หนัก ใช้งานลำบาก อีกทั้งเป็นอุปสรรคในการพกพา แม้ว่าจะช่วยทุ่นแรงในการทำงานได้ ทั้งนี้เจ้า DJI Ronin RS2 กลับสร้างความประหลาดใจด้วยน้ำหนักสุทธิเพียง 1.29 kg เท่านั้นครับ ถือว่าเบามาก เมื่อเทียบกับ อุปกรณ์กิมบอล ในระดับ Segment เดียวกัน

กิมบอลยุคใหม่ มาพร้อม จอ LCD พร้อม Touchscreen

สิ่งที่ถูกเพิ่มเข้ามาใน DJI Ronin RS2 อีกสิ่งหนึ่งก็คือ จอ LCD ขนาด 1.4″ พร้อมรองรับระบบ Touch screen ซึ่งแต่เดิมอุปกรณ์กิมบอลมักจะ Setting ต่างๆผ่านทาง Application กันเป็นหลัก ทำให้เจ้าจอ LCD ที่ถูกเพิ่มเข้ามานี้สามารถใช้เช็ค Setting ต่างๆที่เราตั้งค่าไว้ได้ทันที แถมสะดวกสบายมากเลยหละครับ

ส่วน Zhiyun Crane 2S ก็มีจอ LCD เฉกเช่นเดียวกันกับ DJI Ronin RS2 แต่ จอ LCD ของ Zhiyun Crane 2S จะมีขนาดอยู่ที่ 0.96″ ซึ่งอาจจะดูเล็กกว่า DJI Ronin RS2 อยู่บ้างครับ

DJI Ronin RS2 ได้จอที่ใหญ่กว่า Touchscreen ได้ มีความยืดหยุ่นในการใช้งาน

จริงอยู่ที่ DJI Ronin RS2 และ Zhiyun Crane 2S ต่างก็มีจอ LCD ให้ใช้เช่นกัน ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีนะ แต่ทว่า จอแสดงผลของ DJI Ronin RS2 มีขนาดที่ใหญ่ ทำให้เมื่อถึงคราวต้องใช้งาน แน่นอนว่าจอที่ใหญ่ สามารถตอบสนองการใช้งานได้ดีกว่าจอเล็กนั่นเองครับ

DJI Ronin RS2 มาพร้อม Port เชื่อมต่อมากถึง 3 จุดด้วยกัน

DJI Ronin RS2 มาพร้อมกับ Port USB Type-C ที่ติดตั้งมาให้ใช้งานมากถึง 3 Port เลยทีเดียวครับ ซึ่งทำให้ประยุกต์ใช้งานได้อย่างหลากหลายยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเชื่อมต่อเข้ากับ DJI Focus , DJI Ronin RavenEye Transmission หรือ จะต่อเข้ากับ Smartphone เพื่อใช้เป็นจอแสดงผลก็สะดวกไม่น้อยเลยทีเดียวครับ และ การที่เป็น พอร์ต USB Type-C แล้วทำให้การส่งข้อมูลทำได้ดี รวดเร็ว และ เสถียรกว่า USB Type-A

ในขณะที่ Zhiyun Crane 2S จะมาพร้อมกับ Port USB Type-C เช่นกันครับ แต่จะมีให้ใช้งานเพียง 1 Port เท่านั้นครับ ซึ่งความยืดหยุ่นในการใช้งาน อาจจะน้อยกว่า DJI Ronin RS2 ไปบ้างครับ

Port ที่มากถึง 3 จุด เสริมการทำงานของ DJI Ronin RS2 ได้อย่างยืดหยุ่น

โดยปกติ Port เชื่อมต่อ โดยเฉพาะ USB ในแทบจะทุกอุปกรณ์มักจะมีมาให้ใช้งานอย่างน้อย 1 Port ทั้งนี้ใน DJI Ronin RS2 น่าจะเป็นอุปกรณ์กิมบอลลำดับแรกๆ ที่มี Port USB Type-C ที่ให้มามากถึง 3 Port ด้วยกัน แน่นอนว่า สามารถใช้งานทั้งชาร์จไฟ และ ต่อกับอุปกรณ์เสริมต่างๆ เพื่อให้การทำงานมีความยืดหยุ่นได้เป็นอย่างดีครับ

กันสั่น 3 ทิศทาง เพิ่มความมั่นใจในระหว่างใช้งาน

DJI Ronin RS2 มาพร้อมระบบกันสั่นแบบ 3 ทิศทาง โดยใช้เทคโนโลยี Titan Stabilization Algorithm ซึ่งเป็นชุดกันสั่นเดียวกันกับ DJI Ronin S นั่นเอง นอกจากนี้ได้ความฟีเจอร์ SuperSmooth ที่หากระบบกันสั่น 3 ทิศทางยังนิ่งไม่พอละก็ มีเจ้านี่เสริมเข้าไปอีก รองรับเนียบกริ๊บอย่างแน่นอนครับ

ทางด้าน Zhiyun Crane 2S ก็เลือกใช้ระบบกันสั่นแบบ 3 ทิศทางเช่นกันครับ อีกทั้งยังรองรับการหมุนของตัวกล้องได้มากถึง 360 องศาเลยทีเดียว ในส่วนนี้ผู้เขียนมองว่าตอบโจทย์กับผู้ถ่าย Video ที่ต้องการการเคลื่อนไหวที่มีอิสระ หลากหลายรูปแบบ อีกทั้งได้มุมองที่แปลกใหม่ไม่จำเจด้วยนั่นเอง

แง่ประสิทธิภาพ ถือว่า เทียบเคียงกันครับ

ต้องยอมรับว่า อุปกรณ์กิมบอลในปัจจุบัน มักจะทำการบ้านในเรื่องของระบบกันสั่นมาได้ค่อนข้างดีทีเดียวในแทบจะทุกรุ่น รวมไปถึง DJI Ronin RS2 และ Zhiyun Crane 2S ก็ถือว่าพัฒนาขีดความสามารถในส่วนนี้ด้วยเช่นกันครับ

DJI Ronin RS2 รับส่งสัญญาณสั่งการง่ายๆ ผ่าน RavenEye Image Transmission System

RavenEye Image Transmission System คือตัวส่งสัญญาณ HDMI แบบไร้สายนั่นแหละครับ แต่มันจะมีความเสถียรและใช้งานร่วมกับตัวแอพพลิเคชั่น และ อุปกรณ์อื่น ๆ ของทาง DJI ได้ดีกว่า HDMI ไร้สาย Third party โดยประโยชน์ของเจ้าระบบนี้ มันจะช่วยให้เราควบคุมภาพ มุมกล้อง การโฟกัส ฯลฯ ได้โดยไม่ต้องถือกิมบอล ใช้เพียง Smart phone หรือ Tablet ในการควบคุมแทน ระยะการส่งสัญญาณไกลสูงสุด 100 เมตรกันเลยทีเดียว

ในขณะที่ Zhiyun Crane 2S ก็มีฟีเจอร์ที่เพิ่มความสะดวกให้กับผู้ใช้ได้มากยิ่งขึ้นก็คือสามารถส่งสัญญาณแบบไร้สายไปยัง Monitor ช่วยทำให้การทำงานมีความรวดเร็ว นอกจากนี้ยังสามารถควบคุมการทำงานของกิมบอลผ่านสมาร์ทโฟนก็ได้เพียงแค่โหลดแอพพลิเคชั่น ZY play ก็สามารถควบคุมอุปกรณ์จากระยะไกล

ทั้งคู่ถือว่ามี Feature ที่เทียบเคียงกัน

ทั้ง DJI Ronin RS2 และ Zhiyun Crane 2S ต่างก็รองรับการควบคุมและสั่งการผ่านทาง Wireless ที่อำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้กิมบอลและผู้ที่ Monitor ให้มีความอิสระแยกการทำงานอย่างชัดเจน ซึ่งข้อดีส่วนนี้ เรามักจะพบเห็นได้ใน Scene ที่ ไม่สามารถเข้าไปสั่งการในระยะใกล้ได้นั่นเอง

3D Focus System ไม้ตายเสริมพลัง Focus ให้กับ DJI Ronin RS2

อุปกรณ์ใหม่ชิ้นนี้เป็นระบบการวัดระยะของวัตถุมาสู่ตัวกิมบอล ถ้าใครนึกไม่ออกมันคือการใช้เทคโนโลยี TOF (Time of flight) ระบบการวัดระยะด้วยการยิงแสงอินฟาเรดไปที่วัตถุ ซึ่งเราจะเห็นกันแบบคุ้นชินในพวกกล้องของ Smartphone รุ่นใหม่ ๆ ในปัจจุบัน การมีเจ้า 3D focus system นี้ จะช่วยเสริมให้การถ่ายวีดีโอด้วยกิมบอลของ DJI ผ่านแอพพลิเคชั้น DJI Ronin มีการโฟกัสติดตามมวัตถุที่แม่นยำ และ รวดเร็วมากขึ้น

ส่วน Mode อื่นๆก็มีให้เลือกใช้งานเพิ่มเติมเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น หมุน HyperLapse 360°, Panorama,TimeLapse,MotionLapse และ Roll 360° เป็นต้น

ทางด้าน Zhiyun Crane 2S จะมี Mode ต่างๆ เพื่อเสริมประสิทธิภาพให้กับงาน Video ในรูปแบบต่างๆเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น Pan Following, Locking, Following, Full-Range POV, Vortex และ Go mode ทั้งนี้ แต่ละ Mode ต่างก็ตอบโจทย์ลักษณะการทำงานที่แตกต่างกันออกไปด้วยนะครับ

อีกทั้ง เจ้า Zhiyun Crane 2S ยังมีลูกเล่นที่สามารถปรับหมุนกล้องได้ถึง 360 องศา ทำให้ Video มีมุมที่แปลกใหม่ ถึงเเม้จะเคลื่อนที่ หรือเคลื่อนไหวในระหว่างการถ่ายทำก็ตาม

ฟีเจอร์เด็ด ที่ทำให้เจ้า DJI Ronin RS2 มีความน่าใช้เป็นอย่างมาก

จริงอยู่ที่ว่า การถ่าย Video ถ้าเป็นผู้ที่เชี่ยวชาญ มักจะใช้การ Manual Focus เพื่อให้ตัว Video มีความ Smooth ไม่ดูแข็งจนเกินไป แต่สำหรับมือใหม่อาจจะยังถนัดกับการใช้ Auto Focus เฉกเช่นเดียวกันกับภาพนิ่ง และการได้ เทคโนโลยี TOF (Time of flight) เข้ามาเสริม ยิ่งทำให้ผู้ใช้งานระดับมือใหม่ ทำงานได้อย่างไหลลื่นยิ่งขึ้นไปด้วยนั่นเองครับ

แบตรุ่นใหม่ ใช้งานต่อเนื่องได้นานยิ่งขึ้น

แบตใน DJI Ronin RS2 ใช้แบตเตอรี่ขนาด 1,950 mAh ใช้งานได้นานสูงสุด 12 ชม. ใช้เวลาในการชาร์จเต็ม 1 ชั่วโมง 30 นาที รองรับการชาร์จไว 24W และ ตัวแบตเตอรี่มีขนาดเล็ก และ เบาขึ้น 50% จาก DJI ronin S ตัวเดิม

ทางด้าน Zhiyun Crane 2S มาพร้อมกับแบตเตอรี่แบบ 18650 Li-ion จำนวน 3 ก้อน ขนาดเท่ากับแบตเตอรี่ AAA ใช้งานได้ยาวนานถึง 12 ชม. รองรับการชาร์จไฟผ่าน Powerbank ด้วยเช่นกัน อีกทั้งเจ้า Zhiyun Crane 2S ยังสามารถเปลี่ยนตัวเองเป็นแบตเตอรี่สำรองให้กับกล้อง และ/หรือ Smartphone ได้ด้วยเช่นกันนะครับ ถือว่ามีความยืดหยุ่นดีทีเดียว

Zhiyun Crane 2S ยืดหยุ่นในเรื่องแบต เพราะ สามารถชาร์จไฟให้อุปกรณ์อื่นได้

ต้องบอกว่า ไม่ค่อยได้พบเห็นซักเท่าไรนัก ที่อุปกรณ์กิมบอลสามารถที่จะจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์อื่นๆได้ ซึ่งเจ้า Zhiyun Crane 2S นั้น แม้จะใช้แบตเตอรี่ AAA แต่สามารถที่จะแบ่งไฟ เพื่อนำไปชาร์จให้กับ Smartphone หรือ กล้อง ในระหว่างใช้งานได้ด้วยนะครับ

น้ำหนักสูงสุดที่รองรับ

สำหรับ DJI Ronin RS2 แม้ขนาดอาจจะดูไม่ได้ใหญ่โตเหมือนกับกิมบอลรุ่นอื่นๆ แต่ทั้งนี้ DJI Ronin RS2 สามารถรองรับการ Payload ได้สูงสุด 4.5 กิโลกรัม เลยทีเดียวครับ ตอบโจทย์ทั้งกล้อง Mirrorless และ DSLR อย่างแน่นอน ทั้งนี้เพื่อนๆที่ใช้งานอาจจะต้องเช็คอุปกรณ์ที่เราใช้งานอยู่ด้วยนะ ว่าเมื่อบวกลบคูณหารแล้ว จะต้องเทียบเคียงและไม่เกิน 4.5 กิโลกรัม เพื่อป้องกันไม่ให้มอเตอร์ทำงานหนักจนผิดปกติไปนะครับ แน่นอนว่า ใครมีกล้อง Cinema อย่าง Blackmagic หรือ RED บางตัวก็สามารถขึ้นกิมบอลตัวนี้ได้สบายๆครับ

ด้าน Zhiyun Crane 2S ก็สามารถรองรับน้ำหนักกล้อง DSLR ขนาดใหญ่ได้เช่นกัน รวมไปถึงกล้อง Mirrorless ทำให้สะดวกในการที่จะใช้กล้องไม่ว่าจะเป็นรุ่นเล็กรุ่นใหญ่ได้ตลอดเวลา เพียงมีแค่กิมบอลเพียงตัวเดียวก็สามารถที่จะเปลี่ยนใช้งานกับกล้องหลายรูปแบบได้อย่างสบาย โดยที่ Zhiyun Crane 2S มี Payload ได้สูงสุด 3.5 กิโลกรัม

payload เจ้า DJI Ronin RS2 ทำได้ดีกว่าครับ

เรื่องน้ำหนัก payload ถือเป็นอีกเรื่องที่ผู้ใช้งานกิมบอล และ/หรือ จะซื้อกิมบอลรุ่นนั้นๆมาใช้งาน ต้องรู้ด้วยนะ เพราะ น้ำหรัก payload นี้ เป็นการบ่งบอกว่า สามารถนำกล้องและเลนส์ของเรา ขึ้นใช้งานได้อย่างสมบูรณ์มากน้อยแค่ไหน ที่สำคัญห้าม payload เกินกว่าที่กำหนดไว้นะครับ เพราะ มีโอกาสที่จะทำให้มอเตอร์ของกิมบอลทำงานหนักเกินไป จนอาจจะเสียหายได้เลยนะ

ราคาวางจำหน่าย

ทั้ง DJI Ronin RS2 และ Zhiyun Crane 2S ต่างก็เปิดตัวออกมาในช่วงเวลาที่ไล่เลี่ยกันครับ สิ่งหนึ่งที่จะช่วยประกอบการตัดสินใจได้เป็นอย่างดี คือ ราคาวางจำหน่าย ครับ ซึ่งทีมงานก็มีข้อมูลในส่วนนี้มาเปรียบเทียบให้เพื่อนๆดูด้วยเช่นกันครับ

สำหรับ DJI Ronin RS2 ที่ประกาศวางจำหน่าย จะมีให้เลือกอยู่ด้วยกัน 2 set ซึ่งมีราคาที่แตกต่างกันด้วยนะครับ โดยราคา DJI Ronin RS2 ชุด Standard อยู่ที่ 23,990.- และ DJI Ronin RS2 ชุด Combo จะมีราคาอยู่ที่ 27,990.- ครับ

ทางด้าน Zhiyun Crane 2S นั้น จะมีราคาวางจำหน่ายอยู่ที่ 20,900.- ในชุด Standard และ ราคา 22,700.- ในชุด Combo ครับ

ราคา Zhiyun Crane 2S ทำออกมาได้น่าสนใจกว่าคร้บ

แม้ว่า Zhiyun Crane 2S จะเปิดตัวออกมาก่อน DJI Ronin RS2 แต่ด้วยราคาที่ไม่ได้สูงมากนัก อีกทั้งการได้ฟีเจอร์รูปแบบการถ่ายวีดิโอได้ถึง 6 แบบ ยิ่งทำให้เข้าถึงผู้ใช้งานโดยเฉพาะผู้ใช้งานระดับเริ่มต้นได้เป็นอย่างดีคัรบ

สรุป DJI Ronin RS2 vs Zhiyun Crane 2S เลือกใครดี

เปรียบเทียบ DJI Ronin RS2 vs Zhiyun Crane 2s

มาถึงตรงนี้ ผู้เขียนคิดว่าเพื่อนๆน่าจะมีคำตอบอยู่ในใจกันแล้วอย่างแน่นอน หรือ อาจจะยังพิจารณาอยู่ว่าเลือกรุ่นไหนดี ทั้งนี้ขอสรุปเป็นทางเลือกให้กับเพื่อนๆนะครับ

  • เลือก DJI Ronin RS2

ถ้าชื่นชอบความสดใหม่ของตัวผลิตภัณฑ์ รวมไปถึงชื่อชั้นของอุปกรณ์จำพวกกิมบอล อย่าลืมว่า ในอดีต DJI ถือเป็นแบรนด์ลำดับแรกๆที่สร้างชื่อเสียงด้วยอุปกรณ์กิมบอลเหล่านี้ จนมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจวบจนมาถึงทุกวันนี้ รวมไป Application ที่มีความเสถียรในระหว่างการใช้งานด้วยเช่นกันครับ

  • เลือก Zhiyun Crane 2S

ถ้ามีงบที่จำกัด แต่จำเป็นต้องใช้งานอุปกรณ์ในการถ่าย Video ถือว่า Zhiyun Crane 2S น่าสนใจอยู่ไม่น้อย เพราะด้วย ฟีเจอร์ที่เสมือนเป็น Template ให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกได้ว่า จะให้กิมบอลทำงานและตอบสนองอย่างไร ได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งนี้อย่าลืมว่าอุปกรณ์กิมบอล ไม่ว่าจะรุ่นใดจำเป็นจะต้องมีทักษะการใช้งานเบื้องต้นด้วยนะครับ

ลูกค้าที่สนใจสั่งซื้อสินค้า สามารถติดต่อสั่งซื้อได้ผ่านช่องทางออนไลน์ของทางร้านได้ตลอด 24 ชม. หรือ โทรเข้ามาโดยตรงผ่านโทรศัพท์

แอดไลน์ ID:@ZoomCamera หรือ หน้าเว็บไซด์ ZoomCamera
083-067-7677 / 02-098-9555 ต่อ 0 (หยุดวันอาทิตย์)

วิธีการสั่งซื้อ

Leave a Reply

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

Save