Content-Compare-Nikon-Z5-ForWeb-Thumbnail

เปรียบเทียบ Nikon Z5 vs EOS RP vs Sony A7 II ใครดีสุดในรุ่น Leave a comment

เมื่อไม่กี่วันนี้ ทาง Nikon ได้เปิดตัว กล้อง Mirrorless Fullframe รุ่นใหม่อย่าง Nikon Z5 อย่างเป็นทางการ โดยถอดความสามารถหลายๆด้านมาจาก Nikon Z6 แต่ยังคงความเป็น กล้อง Mirrorless Fullframe Z-Mount ไว้ได้อย่างเหนียวแน่น ซึ่ง Content นี้จะเป็นการ เปรียบเทียบ Nikon Z5 vs EOS RP vs Sony A7 II ซึ่งเป็นกลุ่มกล้องที่อยู่ใน Segment ที่เทียบเคียงกันครับ

Content ที่เกี่ยวข้องกับ เปรียบเทียบ Nikon Z5

Introduction Nikon Z5

เปรียบเทียบ Nikon Z5

Nikon Z5 จะเป็น กล้อง Mirrorless Fullframe ที่วาง Position อยู่ระหว่าง Nikon Z50 และ Nikon Z6 ซึ่งแน่นอนว่า Nikon Z5 จะเป็น กล้อง Mirrorless Fullframe Z-Mount ในระดับ Entry Level ไปโดยปริยาย

เปรียบเทียบ Nikon Z5

หากพิจารณาภาพรวมของฟีเจอร์ และ สเปค Nikon Z5 จะพบว่า มีหลายๆอย่างที่ถูกยกเครื่องมาจาก Nikon Z6 เลยก็ว่าได้ครับ ไม่ว่าจะเป็น ดีไซน์การออกแบบ , Sensor , ระบบ Focus , ชุดกันสั่นใน Body เป็นต้น จะเรียกว่าเป็นลูกพี่ ลูกน้อย ก็คงไม่ผิดนัก

อีกทั้ง การเลือกใช้ Sensor และ ระบบโฟกัส ชุดเดียวกันกับ Nikon Z6 ทำให้ค่อนข้างมั่นใจในเรื่องคุณภาพไฟล์ได้ในระดับนึงครับ แม้ว่า Sensor จะมีความละเอียดที่ 24 Megapixels ก็ตามที หากใช้งานทั่วๆไปก็เพียงพอต่อการใช้งานละครับ

Nikon Z5 vs EOS RP

เมื่อ Nikon Z5 ถูกวางตัวในตำแหน่ง Mirrorless Fullframe ระดับ Entry คู่เปรียบเทียบก็คงต้องอยู่ใน Segment เดียวกัน อย่าง Canon EOS RP ครับ กล้อง Mirrorless Fullframe จากค่าย Canon ที่ถือว่าเป็น กล้อง Mirrorless Fullframe ที่เล็ก เบา และ ราคาทุบตลาดที่สุด นับตั้งแต่วันที่เปิดตัว

เปรียบเทียบ Nikon Z5 vs eos rp

ภายรวมของ Canon EOS RP ต้องบอกว่า สเปคและฟีเจอร์ต่างๆภายใน แทบจะมีความละม้ายคล้ายคลึงกับ Nikon Z5 อยู่ไม่น้อยครับ อาจจะเสียเปรียบในเรื่องความสดใหม่ ที่ทาง Nikon Z5 ดูจะมีภาษีดีกว่าครับ

Nikon Z5 vs Sony A7 II

นับจากวันที่เปิดตัวจนถึงปัจจุบัน ถือว่าทำตลาดมาถึง 6 ปีด้วยกัน ถือว่ายาวนานพอสมควร สำหรับกล้อง Mirrorless Fullframe รุ่นนี้ จากที่เคยเป็น Flagship แม้ตอนนี้จะมีข่าวคราวของ Sony A7 IV ออกมาบ้างแล้วก็ตามที

ปฏิเสธไม่ได้ว่าเจ้า Sony A7 II นั้น ยังคงมอบ Output ที่เป็นทั้งไฟล์ภาพนิ่ง และ/หรือ วิดิโอ ได้อย่างลงตัว เพียงพอต่อการใช้งานในลักษณะทั่วๆไป หรือ กึ่งอาชีพ ก็ยังตอบโจทย์ได้อย่างสบายๆ

เปรียบเทียบ Nikon Z5

แน่นอนว่าประสิทธิภาพในแง่ของสเปคอาจจะไม่สามารถทัดเทียมกล้อง Mirrorless ใน Generation ล่าสุดได้ แบบไม่ต้องสงสัย ไม่ว่าจะเป็นประสิทธิภาพของระบบโฟกัส อย่าง Eye AF เป็นต้น

เปรียบเทียบ 3 รุ่น Nikon Z5 vs EOS RP vs Sony A7 II

1. ด้านการออกแบบ ควบคุม จับถือ

กล้อง Mirrorless ทั้ง 3 รุ่น ไม่ว่าจะเป็น Nikon Z5 , Canon EOS RP และ Sony A7 II ต่างมีการออกแบบให้มีลักษณะเป็นทรง SLR กันทั้งหมดครับ โดยเฉพาะ Canon EOS RP จะมีหน้าตาที่ใกล้เคียงกับ กล้อง DSLR อยู่ไม่น้อยเลยละครับ

เปรียบเทียบ Nikon Z5 น้ำหนัก

แม้ว่าจะเป็น กล้อง Mirrorless แต่ในแง่ของการจับถือนั้น ถือว่าออกแบบมาได้ดีไล่เลี่ยกันเลยครับ โดย Nikon Z5 , Canon EOS RP และ Sony A7 II ต่างก็มี Grip จับ ที่กระชับ แม้จะให้ Feeling ที่ต่างจาก กล้อง DSLR ไปบ้าง แลกกับขนาดที่เล็กลงมาอย่างเห็นได้ชัด

ตำแหน่งปุ่มต่างๆ ถูกจัดวางให้เหมาะสม ซึ่ง ปริมาณปุ่มที่มีให้เลือกใช้นั้น ขึ้นอยู่กับ Class ของ กล้องนั้นๆด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ Nikon Z5 , Canon EOS RP และ Sony A7 II ก็มีปุ่มสำหรับ Setting และ Custom ให้ใช้งานอย่างเพียงพอ ไม่น้อยจนเกินไปครับ

สิ่งที่จะดูแตกต่างกันจริงๆ เห็นจะเป็นในส่วนของ Dial Mode Video ที่มีจะมีเพยง Nikon Z5 เพียงรุ่นเดียว ที่จะเป็นสวิตซ์สำหรับเปลี่ยนไปมา ระหว่าง ภาพนิ่ง หรือ Video ได้ทันที ซึ่งถ้าเป็นกล้องรุ่นอื่น จะถูกนำไปรวมอยู่ใน Dial Mode นั่นเองครับ

นอกเหนือจาก Dial Mode Video ที่จะแตกต่างแล้ว เจ้า Nikon Z5 ยังมี Joystick ติดมาให้ใช้งานด้วยเช่นกัน โดยใช้สำหรับในการเลื่อนตำแหน่งโฟกัสต่างๆได้อย่างสะดวกสบาย ซึ่งถ้าเป็น EOS RP และ Sony A7 II จะต้องใช้ปุ่มควบคุม 4 ทิศทาง ในการเลื่อนจุด Focus

แม้ว่าในแง่ของการควบคุม เจ้า Nikon Z5 จะดูมีภาษีดีกว่า Canon EOS RP และ Sony A7 II อยู่ไม่น้อย แต่น้ำหนักรวมเมื่อทำการใส่แบตเตอรี่เข้าไปแล้ว Canon EOS RP จะมีน้ำหนักเบาที่สุดในกลุ่มนี้ครับ รองลงมาจะเป็น Sony A7 II และ Nikon Z5 ที่น้ำหนักมากสุดครับ

การ Control ถือว่าใกล้เคียงกัน แต่ภาพรวม EOS RP ทำผลงานได้ดีกว่า

กล้อง Mirrorless ในปัจจุบัน ถือว่ามีการปรับปรุงด้านการจับถือมาเป็นอย่างดี โดยเฉพาะ Grip ที่มีความกระชับยิ่งขึ้นเมื่อเทียบกับกล้องในอดีต ทั้งนี้หากมองว่าเป็นกล้อง Mirrorless Fullframe น้ำหนักจึงมีผลด้วยเช่นกัน ทำให้ EOS RP ได้ภาษีดีที่สุดในการเปรียบเทียบนี้

2. Sensor และ ความละเอียด

ในการ เปรียบเทียบ Nikon Z5 vs EOS RP vs Sony A7 II ครั้งนี้ ด้วยความเป็น กล้อง Mirrorless Fullframe โดยใช้ Sensor ขนาด Fullframe ความละเอียด 24 Megapixels เหมือนกันทั้ง 3 รุ่น เว้น EOS RP เพียงรุ่นเดียวในการเปรียบเทียบนี้ ที่จะมาพร้อม Sensor ความละเอียด 26 Megapixels ด้วยกัน

เปรียบเทียบ Nikon Z5 ขนาด Sensor

นอกเหนือจากความละเอียดแล้ว ยังมีความแตกต่างกันในแง่ของชิพประมวลผลด้วยครับ โดย Nikon Z5 จะเลือกใช้ชิพประมวลผล EXPEED 6 , Canon EOS RP จะใช้ชิพ DIGIC 8 และ Sony A7 II จะมาพร้อมชิพประมวลผลอย่าง BIONZ X

ซึ่ง ชิพประมวลผล ก็ส่งผลโดยตรงกับไฟล์ภาพที่เราจะได้ โดยเฉพาะในเรื่องของ Dynamic Range และ Noise ด้วยนั่นเอง ทั้งนี้ ไฟล์ภาพของ Nikon Z5 ต้องขอติดไว้เป็นการบ้านก่อนนะ ไว้มีโอกาสทางทีมจะรีบนำมารีวิวให้ชมกันอย่างแน่นอน

Performance ของ Nikon Z5 น่าจะทำได้ดีที่สุดในกลุ่มนี้

จริงอยู่ที่ว่า EOS RP มีความละเอียดอยู่ที่ 26mp ด้วยกัน ซึ่งมากกว่า Nikon Z5 อยู่เล็กน้อย ทั้งนี้หากเพื่อนๆที่เคยใช้งานกล้อง Nikon น่าจะพอทราบดีในเรื่อง Performance ทั้ง Dynamic Range หรือ Noise ที่มักจะทำได้ดีกว่า กล้องรุ่นอื่นๆใน Segment เดียวกัน

3. ระบบ Focus

กล้อง Mirrorless ในปัจจุบัน ต้องยอมรับว่ามี ระบบ Focus ที่มีความรวดเร็ว ว่องไว และ แม่นยำ มากกว่า กล้อง DSLR และ Mirrorless รุ่นเก่าๆครับ ซึ่ง เปรียบเทียบ Nikon Z5 นี้ กล้องที่เรานำมาเทียบให้ดูกัน ก็มีความแตกต่างที่ค่อนข้างจะชัดเจนเลยทีเดียวครับ

เปรียบเทียบ Nikon Z5 ระบบ Focus

เริ่มกันที่ Nikon Z5 มาพร้อมกับ ระบบ Focus แบบ Hybrid AF ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันระหว่าง Phase Detection ( PDAF ) และ Contrast Detection ( CDAF ) เข้าด้วยกัน ทำให้มีความรวดเร็ว ว่องไว และ แม่นยำ เป็นอย่างมาก พร้อมจำนวนจุดโฟกัส 273 จุด

ทางด้าน Canon EOS RP มาพร้อม ระบบ Focus แบบ Dual Pixel AF ในแบบฉบับของ Canon นั่นเอง ซึ่งจะมีความคล้ายคลึงกับ Hybrid AF นั่นเอง มาพร้อมจำนวนจุดโฟกัส 4,779 จุด กระจายอยู่รอบๆ Sensor ครับ

ส่วน Sony A7 II ก็ใช้ ระบบ Focus แบบ Hybrid เช่นกัน โดยมีทั้ง Phase Detection ( PDAF ) และ Contrast Detection ( CDAF ) เฉกเช่นเดียวกันกับ Nikon Z5 ครับ แต่จะมีจำนวนจุดโฟกัสที่ต่างกัน โดยจะมี CDAF 117 จุด และ PDAF 25 จุด ด้วยกัน

นอกเหนือจาก ระบบ Focus แล้ว ฟีเจอร์เสริมสำหรับเพิ่มขีดความสามารถในการทำงาน ก็จะมีทั้ง Face Detect , Eye AF และ Animal AF ครับ ซึ่ง จะมีเพียง Nikon Z5 เพียงรุ่นเดียวที่รองรับ Animal AF ครับ ซึ่งเอาใจสาวกทาสแมวได้เป็นอย่างดีเลยครับ

ระบบ Focus ของ Canon EOS RP ดีที่สุดในกลุ่มนี้

แม้ว่า กล้องทั้ง 3 รุ่น จะใช้งาน Hybrid AF เหมือนกันหมด จะแตกต่างกันในส่วนของจำนวนจุดโฟกัสและฟีเจอร์เสริมอย่าง Eye-AF เป็นต้น ทั้งนี้ EOS RP จะรองรับ Eye-AF ใน Mode ภาพนิ่ง และ Video ด้วยเช่นกัน โดยประสิทธิภาพในการทำงานไม่ได้แตกต่างกันเลย ซึ่งสะดวกสบายในการทำงานอย่างแน่น่อน

4. จอแสดงผล / ช่องมองภาพ

ท่ามกลางกระแสการถ่าย Video , VLOG รวมถึง เซลฟี่ ที่ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง แม้ Smartphone จะได้เปรียบเรื่องการมีกล้องหน้า แต่ Performance คงจะไม่สามารถตอบโจทย์การใช้งานในระดับซีเรียสได้เหมือน กล้อง DSLR หรือ Mirrorless

เปรียบเทียบ Nikon Z5 จอแสดงผล

ทั้งนี้ กล้อง Mirrorless ในปัจจุบัน ต่างก็เริ่มให้ความสำคัญกับ จอ LCD / EVF มากยิ่งขึ้น จากที่เราเห็นกันในอดีตที่กล้องบางรุ่นยังใช้จอในลักษณะ Fixed ติดตายกับที่ครับ โดยใน เปรียบเทียบ Nikon Z5 นี้ กล้องทั้ง 3 รุ่น ต่างก็มีการออกแบบที่แตกต่างกันด้วยนะ

เริ่มกันที่ Nikon Z5 จะมาพร้อม จอ LCD ขนาด 3.2″ แบบ Tilt ที่รองรับการ Touchscreen ที่มีความละเอียด 1,040,000 Dot ด้วยกัน ส่วนช่องมองภาพจะเป็นแบบ EVF ชนิด OLED ที่มความละเอียด 3,690,000 Dot ด้วยกัน

ในขณะที่ Sony A7 II จะมาพร้อม จอ LCD ขนาด 3.0″ แบบ Tilt ความละเอียด 1,228,800 Dot แต่จะไม่รองรับระบบ Touchscreen นะ ด้านช่องมองภาพจะเป็น EVF พร้อมความละเอียด 2,359,296 Dot ครับ

ทางด้าน Canon EOS RP นั้น จะแตกต่างจาก กล้อง Mirrorless Fullframe อีก 2 รุ่นครับ เพราะ มาพร้อมกับ จอ LCD ขนาด 3.0″ แบบ Vario Angle ความละเอียด 1,040,000 Dot อีกทั้งยังรองรับระบบ Touchscreen ที่ให้ Feeling คล้ายกับ Smartphone เลยครับ

นอกจากนี้ ช่องมองภาพของ Canon EOS RP นั้น จะเป็น EVF พร้อมความละเอียด 2,360,000 Dot แต่กลับมีขนาดเล็กที่สุดในกลุ่มครับ เพราะ มีขนาดเพียง 0.39″ ในขณะที่รุ่นอื่นๆมีขนาด 0.5″ ครับ

ในเรื่องของจอแสดงผล EOS RP มีความยืดหยุ่นในการใช้งานที่สุด

เนื่องจาก จอ LCD ของ EOS RP ออกแบบในลักษณะ Vario Angle หรือ จอพับนั่นเอง ทำให้สามารถประยุกต์ใช้งานต่างๆได้อย่างยืดหยุ่น ทั้งภาพนิ่งและวิดิโอ

5. ระบบกันสั่น

ในปี 2020 กล้องที่เปิดตัวใหม่ โดยเฉพาะ กล้อง Mirrorless ส่วนมาก User จะถามถึงระบบกันสั่นภายในตัวกล้อง หรือ ระบบกันสั่น 5 แกน ซึ่งข้อดีคือจะช่วยลดอาการสั่นไหวให้กับภาพของเรา ได้มากสุดตั้งแต่ 5 – 8 Stops ขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของระบบกันสั่นด้วยนะ

เปรียบเทียบ Nikon Z5 ฟีเจอร์ Video

ทั้งนี้ใน เปรียบเทียบ Nikon Z5 นั้น จะมีเพียง Nikon Z5 และ Sony A7 II ที่มีการติดตั้งระบบกันสั่นไหว แบบ 5 แกน ในตัวกล้องครับ ซึ่งสามารถทำงานร่วมกับทุกๆเลนส์ที่นำมาติดตั้ง ไม่ว่าจะเป็นเลนส์ Auto หรือ เลนส์ Manual ต่างก็ได้รับผลจากชุดกันสั่นด้วยนั่นเอง

กลับกัน Canon EOS RP กล้อง Mirrorless Fullframe เพียงรุ่นเดียวใน เปรียบเทียบ Nikon Z5 นั้น จะไม่มีระบบกันสั่นแบบ 5 ทิศทาง ติดตั้งอยู่ภายในนะครับ แต่จะมีเพียงกันสั่นไฟฟ้า หรือ EIS ที่จะใช้งานได้เฉพาะ Mode Video เท่านั้นครับ

ระบบกันสั่นใน Nikon Z5 และ Sony A7 II เพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งาน

ระบบกันสั่นไหว แบบ 5 แกน ในตัวกล้องนั้น นอกเหนือจะช่วยลดอาการสั่นไหวแล้ว ยังทำงานร่วมกับทุกๆเลนส์ที่นำมาติดตั้ง ไม่ว่าจะเป็นเลนส์ Auto หรือ เลนส์ Manual ต่างก็ได้รับผลจากชุดกันสั่นด้วยนั่นเอง

6. Shutter Speed และ อัตราการถ่ายต่อเนื่อง

ปัจจุบัน กล้อง Mirrorless ในหลายๆรุ่น ต่างก็มีการปรับปรุงประสิทธิภาพในด้านการถ่ายภาพต่อเนื่องให้ดียิ่งขึ้น แต่ทั้งนี้ เปรียบเทียบ Nikon Z5 กล้องในกลุ่มนี้จะเป็น กล้องในระดับ Entry Level ด้วยกัน ทำให้ประสิทธิภาพการถ่ายต่อเนื่อง อาจจะไม่ได้เยอะมากนัก

เปรียบเทียบ Nikon Z5 ค่า Shutter Speed

เริ่มกันที่ น้องใหม่ Nikon Z5 มาพร้อมอัตราการถ่ายต่อเนื่องสูงสุดที่ 4.5 fps ด้วยกัน ทางด้าน Canon EOS RP จะสามารถถ่ายต่อเนื่องสูงสุดที่ 5 fps และ Sony A7 II สามารถถ่ายได้สูงสุดที่ 5 fps ด้วยกัน ซึ่งจะเห็นว่า กล้องทั้ง 3 รุ่นมีความใกล้เคียงกันมากครับ

นอกเหนือจาก อัตราการถ่ายต่อเนื่อง ในส่วนของ Shutter Speed ก็มีผลต่อการถ่ายภาพด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะใครที่ชื่นชอบการใช้เลนส์ Fixed ที่มีค่า F กว้างๆ การมี Shutter Speed ที่สูงๆ ยิ่งเพิ่มโอกาสในการใช้งาน ในสภาวะแสงมาก ได้เป็นอย่างดี

โดยจะมี Nikon Z5 และ Sony A7 II ที่มาพร้อมกับ ค่า Shutter Speed 1/8000 sec. ไปจนถึง 30 sec. ด้วยกัน ในขณะที่ Canon EOS RP จะสามารถทำค่า Shutter Speed ได้สูงสุดเพียง 1/4000 sec. ไปจนถึง 30 sec. เท่านั้นครับ

ถือว่าใกล้เคียงกัน ในกลุ่มกล้องระดับ Entry Level

ผู้เขียนไม่รู้สึกแปลกเท่าไรนัก สำหรับอัตราการถ่ายต่อเนื่อง เพราะ ถ้าวัดกันจริงๆ กล้องทั้ง 3 รุ่น อาจจะไม่ได้เน้นการถ่ายแบบรัว หรือ ถ่าย Sport ซักเท่าไรนัก แต่แอบแปลกใจ ที่ Nikon Z5 กลับสามารถทำ Shutter Speed 1/8000 ได้ เพราะ ส่วนมาก กล้องระดับ Entry มักจะได้มากสุด 1/4000 sec. นั่นเอง

7. ฟีเจอร์งาน Video

ในปัจจุบัน กล้องแทบทุกรุ่นไม่ว่าจะเป็น กล้อง DSLR หรือ กล้อง Mirrorless นอกเหนือจากฟีเจอร์ด้านภาพนิ่งแล้ว ฟีเจอร์งานวิดิโอก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน โดยเฉพาะช่างภาพสาย Social หรือ สาย VLOG ต่างก็มองหา กล้อง ที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างลงตัวด้วยเช่นกัน

เปรียบเทียบ Nikon Z5 นี้ แม้กล้องที่ทีมงานเลือกมานั้น จะเป็นกล้องในกลุ่ม Entry หรือ ระดับเริ่มต้น แต่ก็พกความสามารถในการถ่าย Video มาให้ใช้งานด้วยเช่นกัน ซึ่งอาจจะต้องยอมรับในแง่ของบางฟีเจอร์ ที่อาจจะไม่ทัดเทียมกับกล้องระดับ Pro นะครับ

เริ่มกันที่ ฟีเจอร์ Video ใน Nikon Z5 กันครับ รองรับการถ่าย Video ทั้ง FHD สูงสุดที่ 60p และ 4K สูงสุดที่ 30p ไม่มี Slowmotion นะ แต่ยังสามารถ Video Timelapse ได้เช่นกัน

ทางด้าน Sony A7 II จะรองรับการถ่าย Video สูงสุดเพียงระดับ FHD เท่านั้นครับ โดยได้ความละเอียดสูงสุดที่ 60p ไม่มีทั้ง Slowmotion และ Timelapse แต่อย่างใดครับ

ส่วน Canon EOS RP จะรองรับการถ่าย Video ทั้ง 4K และ FHD เช่นกัน สำหรับ Video 4K จะรองรับสูงสุดที่ 25p และ FHD จะรองรับสูงสุดที่ 60p อีกทั้งยังรองรับ Timelapse ด้วยเช่นกันครับ

สูสีกันมาก ถ้านับเฉพาะ Video 4K เจ้า Nikon Z5 ดูมีภาษีดีที่สุด

ด้วยความที่เป็นกล้องในระดับ Entry ทำให้ฟีเจอร์ต่างๆถูกลดทอนลงมาอย่างไม่น่าตกใจเท่าไรนัก แต่ด้วยยุคที่งาน Video เริ่มได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง การที่สามารถถ่าย Video 4K ระดับ 30p แทบจะเป็นฟีเจอร์พื้นฐานไปซะแล้ว แม้ว่า Video 4K นั้น จะถูก Crop เฟรมไปบ้างก็ตามที

8. Port การเชื่อมต่อ

ปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น กล้อง DSLR หรือ กล้อง Mirrorless ต่างก็ต้องมีความ Hybrid ในการใช้งานทั้งภาพนิ่งและวิดิโอ ในระดับหนึ่งเลยครับ โดยเฉพาะการเชื่อมต่อด้วยวิธีการต่างๆ ยิ่งมีความยืดหยุ่นมากเท่าไร ยิ่งตอบโจทย์ได้ดีตามไปด้วยนะ

เปรียบเทียบ Nikon Z5 Memory Card

ทั้งนี้ Nikon Z5 , EOS RP และ Sony A7 II ต่างก็มี Port เชื่อมต่อต่างๆอย่างพร้อมเพรียง ไม่ว่าจะเป็น mic. ขนาด 3.5mm. , HDMI , USB ซึ่งเป็น Base พื้นฐานในปัจจุบันเป็นที่เรียบร้อยไปแล้วนั่นเอง ซึ่งจะขาดเพียง Port Headphone ขนาด 3.5mm. เท่านั้นครับ

ส่วน Port HDMI นั้น ใครที่ต้องการนำกล้องไปทำการ Live , Stream และ เตรียมตัวเป็น Youtuber ละก็ ต้องบอกว่า กล้อง Mirrorless ทั้ง 3 รุ่น ต่างก็รองรับ Clean HDMI เหมือนกันหมด ทำให้ไม่มี Setting หรือ info ปรากฏให้เห็นในหน้าจอครับ

เลือก Canon EOS RP ถ้าจริงจังกับการ Strem / Live หรือ VLOG

เพื่อนๆอาจจะสงสัยว่า ทำไมต้องเป็น Canon EOS RP แม้ว่าจะมี Port เชื่อมต่อที่เทียบเคียง และ/หรือ ใกล้เคียงกันมาก นั่นก็เพราะว่า เจ้า Canon EOS RP จะมีจอ LCD แบบ Flip ในลักษณะ Vario Angle ทำให้ตอบโจทย์การทำ Live , VLOG หรือ Stream ได้อย่างลงตัวครับ

9. Slot Memory Card

บางท่านอาจจะสงสัยว่า ทำไมผู้เขียนจึงหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดถึงใน เปรียบเทียบ Nikon Z5 ด้วย นั่นก็เพราะว่า ปกติกล้องในระดับ Entry Level แทบทุกรุ่นจะมาพร้อมกับช่องใส่การ์ดเพียง 1 ช่องเท่านั้นครับ แต่ Nikon Z5 ดูจะพิเศษกว่ารุ่นอื่นๆใน Class เดียวกัน เพราะ มีช่องใส่ Card แบบ Dual Slot ที่รองรับ SD Card ทั้ง 2 Slots เป็นครั้งแรกใน Nikon Z เลยครับ

ไม่ใช่ว่า Canon EOS RP และ Sony A7 II มีเพียงช่องใส่การ์ดแบบ 1 ช่อง จะไม่ดีนะ เพียงแต่ยามฉุกเฉินที่อาจจะเกิด Error จาก Memory ก็ดี หรือ ช่องใส่การ์ดก็ดี การมีช่องใส่การ์ดแบบ Dual Slot จะมีความยืดหยุ่นในการใช้งานเพิ่มขึ้นนั่นเอง

10. แบตเตอรี่

เมื่อพูดถึง กล้อง Mirrorless เพื่อนๆหลายท่านน่าจะมีคำถามผุดขึ้นมาในหัว ว่า แบตเตอรี่จะทนมั้ย , แบตเตอรี่ใช้ได้นานแค่ไหน บลาๆ ซึ่งเป็นคำถามที่ค่อนข้างซีเรียสมากๆเลยนะ สำหรับคนที่ต้องการนำกล้องมาใช้งานในลักษณะงานที่มีความจริงจัง เพราะ หากขาดความต่อเนื่องในระหว่างการทำงาน อาจจะทำให้เสียโอกาสไปโดยง่ายๆเลยนะ

เปรียบเทียบ Nikon Z5 ขนาดแบตเตอรี่

ที่นี้เรามาดูประจุแบตเตอรี่ ของ กล้อง Mirrorless Fullframe ทั้ง 3 รุ่นกันครับ ว่า มีประจุเท่าไรกันบ้าง และ ถ้าชาร์จเต็ม จะถ่ายได้จำนวนเท่าไรกัน

จากภาพจะเห็นว่า ถ้านับเฉพาะประจุไฟเพียงอย่างเดียว Nikon Z5 ดูจะมีภาษีดีที่สุด เพราะ มีประจุไฟมากถึง 2,280 mAh ด้วยกัน ในขณะที่ EOS RP จะมีประจุไฟเพียง 1,040 mAh และ Sony A7 II จะมีประจุไฟที่ 1,020 mAh ครับ

ส่วนทางด้านปริมาณที่สามารถถ่ายได้ เมื่อชาร์จไฟเต็มๆ Nikon Z5 สามารถถ่ายได้สูงสุดที่ 470 เฟรม , EOS RP ถ่ายได้สูงสุดที่ 250 เฟรม ส่วน Sony A7 II ถ่ายได้สูงสุดที่ 350 เฟรม ซึ่งจะเห็นว่า Nikon Z5 สามารถถ่ายได้เยอะกว่า EOS RP และ Sony A7 II อยู่ประมาณนึงเลยนะ

ทั้งนี้จะมีเพียง Sony A7 II และ Nikon Z5 ที่รองรับการชาร์จไฟตรงผ่าน Powerbank ได้ทันที ซึ่ง Nikon Z5 แม้จะรองรับการชาร์จไฟผ่าน USB ทั้งนี้ขอติดไว้เป็นการบ้านก่อนนะครับ ว่า จะสามารถชาร์จไปถ่ายไปได้หรือไม่นะ

Nikon Z5 ทำคะแนนเรื่องแบตเตอรี่ดีที่สุดในกลุ่ม

ด้วยปริมาณแบตเตอรี่ ที่มากถึง 2,280 mAh ประกอบกับสามารถชาร์จไฟผ่าน Powerbank ได้ ทำให้มีความยืดหยุ่นในการใช้งาน โดยเฉพาะสาย Social ที่เน้นการถ่ายเสร็จอัพทันที หรือ เน้นความต่อเนื่องในการใช้งานตลอดทั้งวัน ถือว่าตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี

สรุป เปรียบเทียบ Nikon Z5

ต้องยอมรับว่า Nikon Z5 แม้จะเป็น กล้อง Mirrorless Fullframe น้องใหม่สุดในตลาด แต่ด้วยฟีเจอร์และสเปคต่างๆที่บรรจุลงมานั้น ต้องบอกว่าไม่ธรรมดาเลยทีเดียว สำหรับกล้องที่ถูกวาง Position ในระดับ Entry หรือ ระดับเริ่มต้นนั่นเอง

เปรียบเทียบ Nikon Z5

ถ้าถามว่า Nikon Z5 ตอบโจทย์ใครบ้างนั้น ต้องบอกว่าทุกท่านที่อยากสัมผัส กล้อง Mirrorless Z-Mount ที่นอกเหนือจาก Nikon Z6 และ Nikon Z7 รวมไปถึง ช่างภาพมือใหม่ ที่ต้องการ กล้อง Mirrorless Fullframe ที่ใหม่สดที่สุดในตลาด ณ ตอนนี้ แม้ว่าจะถูกลดฟีเจอร์ต่างๆลงไปบ้าง แต่ผู้เขียนเชื่อว่า Nikon Z5 จะไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน

ลูกค้าที่สนใจสั่งซื้อสินค้า สามารถติดต่อสั่งซื้อได้ผ่านช่องทางออนไลน์ของทางร้านได้ตลอด 24 ชม. หรือ โทรเข้ามาโดยตรงผ่านโทรศัพท์

แอดไลน์ ID:@ZoomCamera หรือ หน้าเว็บไซด์ ZoomCamera
083-067-7677 / 02-098-9555 ต่อ 0 (หยุดวันอาทิตย์)

วิธีการสั่งซื้อ

Leave a Reply

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

Save