14 สิ่งห้ามลืม สำหรับช่างภาพสาย Landscape Leave a comment

กราบสวัสดีเพื่อนๆที่ติดตามเพจของ Zoomcamera ทุกๆท่านครับ ก็ใกล้กลางเดือนธันวาคมกันแล้ว ซึ่งในเดือนธันวาคมนี้ จัดได้ว่าเป็นเดือนที่มีจำนวนวันหยุดที่มากที่สุดเดือนหนึ่งก็ว่าได้ครับ ซึ่ง Admin เชื่อว่าเพื่อนๆหลายท่านได้มีการวางแผนในการท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดยาว และ/หรือ วันหยุดในช่วงส่งท้ายปีนี้กันอย่างแน่นอน แต่แทบทุกๆทริป เพื่อนๆบางท่านอาจจะลืมของชิ้นนั้น ชิ้นนี้ เมื่อไปถึงจุดหมายปลายทางแล้วซะส่วนใหญ่ วันนี้ Admin มีบทความดีๆอย่าง ” 14 สิ่งห้ามลืม สำหรับช่างภาพสาย Landscape “ มาฝากเพือนๆด้วยครับ ซึ่ง 14 สิ่งที่ห้ามพลาดจะมีอะไรบ้างนั้น ไปชมกันเลยครับ

*** 14 สิ่งห้ามลืม สำหรับช่างภาพสาย Landscape ***

1. กล้อง

แค่ข้อแรก พลาดลืมหยิบไป เสียใจตลอดทริปแน่นอนครับ ซึ่งในปัจจุบันกล้องมีอยู่ด้วยกันหลายรูปแบบ หลายราคา ให้ผู้ใช้ได้เลือกใช้ตามความต้องการ ซึ่งมีตั้งแต่กล้อง Compact , กล้อง Mirrorless หรือ กล้อง DSLR เป็นต้น ซึ่งกล้องแต่ละแบบนั้น ล้วนแล้วแต่มีการใช้งานที่แทบจะเหมือนกันในส่วนของพื้นฐาน จะแตกต่างกันเล็กน้อยในส่วนของ Feature เฉพาะรุ่นที่บางอย่างไม่สามารถทดแทนกันได้นั่นเองครับ ไม่ว่าจะเป็นความละเอียดของ Pixels ที่ยิ่งมาก ยิ่งสามารถนำภาพนั้นมาใช้งานได้หลากหลายยิ่งขึ้น แม้จะเปลืองเนื้อที่จัดเก็บไฟล์มากขึ้นก็ตาม เป็นต้น

2. เลนส์

ต่อจากข้อแรก เชื่อว่าเพื่อนๆคงเคยมีประสบการณ์ไปเที่ยวแล้วลืมหยิบเลนส์บางรุ่นมาด้วย หรือ เลนส์มีการทำงานขัดข้องระหว่างทริป ทำให้พลาดเก็บช๊อตสำคัญไปอย่างหน้าเสียดาย ฉะนั้นก่อนจะออกทริปซักครั้งหนึ่งควรหมั่นตรวจสอบอุปกรณ์ในส่วนของกล้อง + เลนส์ให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ และทำเช็ค List ว่าเราจะนำเลนส์รุ่นไหนไปใช้งานในทริปบ้าง เพื่อป้องกันการลืมหยิบใส่กระเป๋าไปด้วยครับ

3. ขาตั้ง

สำหรับช่างภาพสายท่องเที่ยวแล้ว บางท่านอาจจะไม่อยากพกขาตั้งไปด้วยซักเท่าไร อาจเพราะกินพื้นที่บางส่วนของกระเป๋าสัมภาระ หรือ น้ำหนัก + ขนาด เป็นอุปสรรคต่อการพกพานั่นเอง แต่สำหรับช่างภาพสาย Landscape ด้วยแล้ว อาจจะคิดผิดมากหากไม่นำขาตั้งร่วมทริปไปด้วย เหตุเพราะ การถ่าย Landscape ในบางช๊อตนั้น จำเป็นต้องใช้การ Setting ที่ละเมียดละไม , บรรจงลั่น Shutter อย่างนุ่มนวลเพื่อป้องกันไม่ให้ภาพสั่นไหวด้วยเช่นกัน รวมถึงการใช้ Speed Shutter ที่ต่ำกว่าปกติในบางสถานการณ์ที่สมรรถภาพของระบบกันสั่นเกินกว่าจะรับมือไหว ดังนั้น ขาตั้งจึงเป็นตัวเลือกและคำตอบที่ตอบโจทย์ที่ดีที่สุดของการถ่ายภาพ Landscape ครับ

4. รีโมท

อีกหนึ่งอุปกรณ์เสริมที่จำเป็นสำหรับช่างภาพสาย Landscape ที่ถึงแม้ว่าในปัจจุบันจะมีอุปกรณ์อื่นทดแทนได้อย่างลงตัว อย่าง Smartphone นั่นเอง แต่สิ่งที่รีโมทยังคงมีบทบาทอยู่ คือ การใช้งานร่วมกับการใช้ Shutter B ที่เป็นการเปิดหน้ากล้องเป็นระยะเวลาที่นานกว่าปกติที่ตัวกล้องจะทำได้นั่นเอง รวมถึงฟังก์ชั่น Timelapse ที่ในกล้องบางรุ่นไม่สามารถทำได้โดยตรงต้องอาศัยผ่านรีโมทนั่นเองครับ

5. ฟิลเตอร์

ฟิลเตอร์ (Filter) ถือเป็นอุปกรณ์ในการถ่ายภาพอย่างหนึ่งที่อยู่คู่กับช่างภาพมาเนิ่นนานตังแต่ยุคฟิล์มสมัยก่อนมาจนยุคดิจิตอลในปัจจุบัน เวลาที่เนิ่นนานทำให้ฟิลเตอร์ถูกทำขึ้นมาหลายแบบมากโดยจะมีทั้งแบบกลมและแผ่นสี่เหลี่ยม แบบที่นิยมใช้กันคือแบบกลมซึ่งใช้ติดไว้บริเวณหน้าเลนส์แต่จะติดเพื่ออะไรขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเตอร์นั้นๆ ซึ่งผมขอแบ่งประเภทของฟิลเตอร์ออกเป็น 2 แบบใหญ่ๆคือ

– ฟิลเตอร์สำหรับป้องกันหน้าเลนส์ เช่น UV Filter, Protector Filter

– ฟิลเตอร์ที่ให้ผลพิเศษ เช่น CPL Filter, ND Filter, Star Effect

6. Smartphone / Tablet

ในยุค Social เช่นนี้ การจะขาด Smartphone / Tablet ไปคงจะกะไรอยู่ เพราะ บทบาทของ Smartphone / Tablet เนื่องจากจะเป็น Phone ที่ทำหน้าที่หลักของมันแล้ว ยังสามารถใช้งานในด้านอื่นๆได้อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นด้าน Entertain , Health , Forecast และอื่นๆ ซึ่งกับช่างภาพ Landscape แล้วหน้าที่หลักๆของ Smartphone / Tablet นั้นหลักๆจะมีอยู่ด้วยกัน 3 เหตุผลครับ

– แผนที่

จะดีแค่ไหน หากเราพกแค่ Smartphone / Tablet ก็เสมือนได้แผนที่ทั่วโลกติดตัวเราไปทุกๆที่ ซึ่งแผนที่นั้นมีให้เลือกใช้มากมายหลายแบบทั้งฟรีและเสียเงิน อาทิเช่น Google Map , Google Earth , Here Map เป็นต้น

– สภาพอากาศ

เนื่องจากใน Smartphone / Tablet ส่วนมากจะมี GPS ติดตัวมา รวมถึง Sensor ตรวจจับต่างๆ เมื่อผนวกเข้ากับการประมวลผลของ Application ที่เกี่ยวข้องกับสภาพอากาศด้วยแล้ว ทำให้ช่างภาพอย่างเราๆ สามารถประเมินสถานการณ์ภายภาคหน้า รวมถึงสามารถแพลนทริปได้ว่าจะเดินทางช่วงไหน เวลาไหนถึงจะปลอดภัยและเหมาะสมที่สุดนั่นเองครับ

– การวางแผน

Smartphone / Tablet นอกจากจะเสมือนมีแผนที่ และ สภาพอากาศแล้ว ยังช่วยให้เราตัดสินใจในส่วนของการวางแผนได้โดยง่ายด้วยครับ โดยเฉพาะช่างภาพสาย Landscape ที่จริงจังต่อสภาพอากาศที่หวังผลต่อผลลัพธ์บางอย่าง เช่น ทางช้างเผือก เป็นต้น จะสามารถทำให้เราแพลนทุกอย่างได้สะดวก รวดเร็วครับ

7. ผ้าเช็ดเลนส์ / ผ้าคลุมกันฝน

การออกซักทริปซักครั้งหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นทริประยะสั้น และ/หรือ ทริประยะยาว ลองเผิ้อที่วางเล็กๆสำหรับผ้าเช็ดเลนส์ หรือ ผ้าคลุมกันฝน เพราะในระหว่างทริปเราไม่อาจรับรู้ได้ว่า กล้องหรือเลนส์ของเราจะพบเจออะไรบ้างในระหว่างทาง การพกผ้าเช็ดเลนส์อย่างน้อยๆก็สามารถทำความสะอาดเบื้องต้นกับตัวกล้องและตัวเลนส์ของเรา ที่อาจจะเลอะจากคราบต่างได้ในระหว่างเดินทาง หรือ ผ้าคลุมกันฝน ที่ควรพกอย่างยิ่งสำหรับช่างภาพ Landscape ที่คิดว่า Location mี่เราจะไปนั้น จะต้องบุกตะลุยและมีสภาพอากาศที่แปรปรวนอยู่ตลอดเวลา

8. ไฟฉาย

อีกหนึ่งอุปกรณ์สำคัญของช่างภาพ Landscape โดยเฉพาะในช่วงเวลาแสงน้อย หรือ มืดสนิท การมีไฟฉายนำทางเพื่อส่องสว่างนั้น จะช่วยให้ช่างภาพอย่างเราๆเดินทางได้อย่างปลอดภัย และอีกประโยชน์ของไฟฉาย คือ หากเพื่อนๆมีไฟฉายกำลังสูง เราสามารถนำไฟฉายดังกล่าวสาดลำแสงขึ้นไปบนฟ้า เพื่อเป็นการช่วย Focus ในการถ่ายดาวบนท้องฟ้า และ/หรือ การถ่ายทางช้างเผือกในวันที่ฟ้าเปิดนั่นเองครับ

9. อุปกรณ์เสริมจุกจิก

สิ่งสำคัญที่ควรพกติดกระเป๋าตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นทริประยะสั้น หรือ ทริประยะยาว คงจะหนีไม่พ้นแบตเตอรี่ และ เมมโมรี่การ์ด ซึ่งทั้ง 2 สิ่งนี้ควรจะมีสแปร์ติดกระเป๋าอย่างน้อยๆ 2 ชิ้นเป็นอย่างต่ำ โดยแบตเตอรี่ยิ่งเป็นกล้อง Mirrorless ด้วยแล้วประจุแบตเตอรี่อาจจะน้อยกว่าแบตในกล้อง DSLR เพื่อความต่อเนื่องควรมีติดไว้ซัก 2 ก้อนครับ ส่วนเมมโมรี่ อันนี้ขึ้นกับการใช้งาน ว่า เพื่อนๆนำกล้องไปงานในลักษณะแบบใด ซึ่ง Admin แนะนำเป็นเมมโมรี่ขนาด 32 GB ขึ้นไป ด้วยราคาและส่วนต่างที่จ่ายเพิ่มที่ในปัจจุบันมีราคาที่จับต้องได้ เพื่อนๆอาจจะเลือกพก 64 GB ซัก 2 ใบก็ได้ครับ

10. ช่องมองภาพ

ริงอยู่ที่ว่ากล้อง Mirrorless ในหลายๆรุ่น มาพร้อมกับช่องมองภาพแบบ EVF ( Electronic View Finder ) ที่ช่วงให้เราเห็นภาพได้ทันที แม้ว่าจะยังไม่ได้กดชัตเตอร์นั่นเอง แต่กลับกันในกล้อง Mirrorless บางรุ่นกลับตัด EVF ออกไป เน้นการใช้งานผ่านหน้าจอ LCD เป็นหลัก แม้จะใช้งานสะดวก แต่ในการใช้งานกลางแดดจ้า ก็ส่งผลให้จอ LCD ไม่สามารถแสดงผลได้เต็มประสิทธิภาพ หรือ ถึงขั้นไม่สามารถมองเห็น LCD ได้เลย ซึ่งในปัจจุบันได้มีอุปกรณ์เสริมอย่างช่องมองภาพที่ติดตั้งเพิ่มบริเวณจอ LCD โดยตรง ซึ่งอุปกรณ์ดังกล่าวจะเข้ามาปิดจุดอ่อนให้กับกล้อง Mirrorless ที่ใช้งานผ่าน LCD โดยตรงนั่นเองครับ ทั้งนี้อุปกรณ์เสริมดังกล่าวมักจะเป็นของที่ทำมาใช้งานตรงกับรุ่นกล้องนั้นๆเป็นหลักครับ

11. ตัววัดระดับน้ำ

ปกติตัววัดระดับน้ำ มักจะปรากฏอยู่ในกล้องที่เราใช้งานอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นกล้อง Mirrorless และ กล้อง DSLR ก็ตามที แต่ในปัจจุบันก็มีอุปกรณ์เสริมที่เป็นตัววัดระดับน้ำในรูปของช่องปิด Hot Shoe ซึ่งการใช้งานนั้นแทบจะไม่ต่างจากการตัววัดระดับน้ำในกล้องเลยครับ แต่ข้อดี คือ ด้วยการออกแบบมาสำหรับช่อง Hot Shoe ทำให้ช่วยป้องการคราบความชื้นที่พร้อมจะเกาะบริเวณขั้วของ Hot Shoe กล้องได้เป็นอย่างดีนั่นเองครับ

12. เครื่องนุ่งห่ม

แม้เราๆจะเป็นช่างภาพที่รักในการถ่ายภาพมากซักเพียงใด แตในการออกทริปแต่ละครั้งนั้นต้องไม่ลืมดูแลสุขภาพร่างกายของเช่นกัน นอกจากจะแพลนการไปถ่ายรูปแล้ว เครื่องนุ่งห่มก็สำคัญไม่แพ้กัน โดยในภูมิประเทศที่เราไม่เคยไปสัมผัสนั้น การพกเครื่องนุ่งห่มไปมากกว่าปกตินั้น เป็นเรื่องที่ดีกว่าการพกเครื่องนุ่งห่มไปไม่เพียงพอนะครับ

13. ยารักษาโรค

จากเครื่องนุ่งห่มแล้ว ช่างภาพท่านใดที่รู้สุขภาพของตัวท่านดีว่ามีโรคประจำตัว มีอาการแทรกซ้อนภายใน หรืออาการเจ็บป่วยที่คิดว่าจะเลี่ยงไม่ได้ในระหว่างที่ออกทริปนั้น อันดับแรกก่อนออกทริปควรไปพบแพทย์เพื่อปรึกษาอาการดังกล่าวก่อน อย่างน้อยๆให้มีอาการที่ทรงตัว หรือ ดีขึ้นตามลำดับ และทางที่ดีควรพกยาแก้แพ้ หรือ ยาเฉพาะทางติดตัวในกระเป่าจะเป็นการดีที่สุดครับ

14. เสียงดนตรี

เป็นช่างภาพก็มีอารมณ์สุนทรีได้ ในการถ่าย Landscape บางครั้งจำเป็นนั่งรอคอยช่วงเวลาที่สภาพท้องฟ้า สภาพอากาศให้ได้พอเหมาะ เพื่อให้ได้ภาพที่สมบูรณ์ที่สุดนั่นเองครับ ซึ่งการนั่งรอคอยเวลานานๆ บางทีช่างภาพแบบเราๆก็อาจจะเบื่อๆเซ็งๆก็บ้าง แต่ในเมื่อเรามี Smartphone / Tablet อยู่คู่กายเราแล้ว เราสามารถใช้สิ่งเหล่านี้ขับกล่อมเราผ่านเสียงเพลงได้โดยง่ายครับ ซึ่งเพื่อนๆอาจจะสร้าง Playlist สำหรับรวมเพลงที่ตัวเองชื่นชอบไว้ เพื่อเปิดเพลงในช่วงเวลาดังกล่าวก็ได้ครับ

Credit  :  Digital Photography School

บทความนี้เขียนเมื่อวันที่ 14/12/2017