8 ไมค์ไวเลสงบไม่เกิน-10000-บาท

รวม 8 ไมค์ไวเลสงบไม่เกิน 10000 บาท สำหรับเริ่มต้นทำคลิปวีดีโอทุกประเภท Leave a comment

ในปีที่ผ่านเทรนการถ่ายวีดีโอเริ่มมาแรงขึ้นเรื่อย ๆ ใครก็ถ่ายวีดีโอ เก็บไว้ดูเล่น ไว้อัพขึ้นโซเชียล หรือ แม้แต่การทำคอนเทนต์วีดีขึ้น Youtube ก็มีให้เห็นกันอยู่มากมาย ซึ่งถ้าใครกำลังมองหาไมค์ซักตัวไว้ใช้ ผมก็แนะนำเป็นไมค์ประเภทไมค์ไวเลสงบไม่เกิน 10000 บาท ซักตัวครับ ซึ่งข้อดีของไมค์ประเภทนี้ คือ ไม่มีสายรุงรังให้เกะกะ คล่องตัวมากกว่าเวลาถ่ายวีดีโอนอกสถานที่ เสริมภาพลักษณ์การถ่ายวีดีโอให้ดูเป็นมืออาชีพมากขึ้น ฯลฯ

9-ไมค์ไวเลสงบไม่เกิน-10000

ในบทความนี้ผมก็ได้รวบรวมไมค์ไวเลสที่น่าสนใจ และ เหล่านักถ่ายวีดีโอมืออาชีพเลือกใช้กันมาแนะนำทุกคนกันครับ โดยผมจะเรียงจากงบประมาณน้อย ไป มาก แต่ไม่เกิน 10,000 บาท เพื่อให้เพื่อน ๆ ที่เห็นความแตกต่าง และ สามารถเลือกซื้อใช้งานได้เหมาะสมกับงบประมาณที่มีครับ

8 ไมค์ไวเลสงบไม่เกิน 10000 บาท สำหรับเริ่มต้นทำคลิปวีดีโอ

1. Boya LavMic. BY-WM4 Pro K2 : ไมค์ไร้สายเริ่มต้นสำหรับคนงบน้อย เน้นใช้งานง่าย คุณภาพเสียงดี

ไมค์ไวเลสราคาเบาที่สุดและคุณภาพดีใช้งานระดับทั่วไปได้ ภายในชุดมีตัวส่งสัญญาณ 2 ตัว ตัวรับสัญญาณ 1 ตัว มีกระเป๋าเก็บไมค์มาให้ด้วย รุ่นนี้ส่งสัญญาณได้ไกลแบบไม่มีสิ่งกีดขวางได้ประมาณ 60 เมตร และ แบบมีสิ่งกีดขวางได้ 20 เมตร ใช้คลื่นสัญญาณ 2.4GHz นอกจากนี้ตัวไมค์สามารถใช้งานแบบติดหัวกล้อง และ หนีบเสื้อผ้าใช้ในงานสัมภาษณ์ได้ มีช่องเสียบหูฟังที่ตัวรับสัญญาณ เพื่อรองรับตัวกล้องที่ไม่ได้มีช่องเสียบหูฟังมาให้ แต่ในรุ่นนี้จะไม่ได้มีไมค์ built in มาในตัวส่งสัญญาณ จะต้องเสียบสาย Lavalier ที่ให้มาขณะใช้งานเท่านั้น สามารถใช้งานกับโทรศัพท์มือถือได้ และ ตัวนี้จะต้องใช้ถ่าน 3A จำนวน 2 ก้อน ต่อ 1 อุปกรณ์ รวมจะต้องใช้ถ่าน 3A จำนวนทั้งหมด 6 ก้อนนะ ไม่ได้มีแถมมาให้ ต้องซื้อเพิ่ม

2. Synco WAir-G1-A2 Wireless Microphone : ไมค์ไร้สายขนาดเล็ก ตัวเริ่มต้น มีไมค์ Built-in ในตัว มาพร้อมขนแมวกันลมในชุด

ไมโครโฟนไร้สายขนาดกะทัดรัด มีไมค์ built in ในตัว และ มีตัวขนแมวกันลมมาให้เลยในชุด มีจำหน่ายเพียงชุดเดียวเท่านั้น คือ 2 ตัวส่ง 1 ตัวรับ เหมาะสำหรับการถ่ายวิดีโอที่มีพิธีกร 2 คน

ระบบการส่งสัญญาณมีความเสถียรพร้อมเสียงที่ชัดเจนในระยะสายตายาวประมาณ 50 เมตร แบบไม่มีสิ่งกีดขวาง และ 30 เมตร เมื่อมีสิ่งกีดขวาง แบตเตอรี่แบบชาร์จได้ในตัวสามารถใช้งานได้นานถึง 5 ชั่วโมงและชาร์จใหม่ได้ภายใน 1.5 ชั่วโมงผ่านพอร์ต USB Type-C นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์เด่นอย่าง Low cut filter และ มีช่องเสียบหูฟัง 3.5mm อีกด้วย

สรุปสเปคโดยรวมจะเหมือนกับ Saramonic Blink 500 Set B2 ทุกประการ และ ให้คุณภาพเสียงที่ใกล้เคียงกันมาก ๆ ซึ่งก็ต้องบอกว่า Saramnonic Blink 500 ในไทยก็จะเร่มขาดตลาดเรื่อย ๆ แล้ว จะถูกอัพเกรดไปในรุ่นโปรแทน ซึ่งตัวนี้มีจุดที่ดีกว่าตรงที่ราคาถูกกว่า แต่ก็มีข้อเสียในเรื่องของความยืดหยุ่นที่ทาง Saramonic Blink 500 จะมี Set ให้เลือกใช้มากกว่านั่นเอง แต่ถ้าใครงบมีจำกัดตัวนี้ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ

3. Saramonic Blink 500 : ไมค์ไร้สายยอดฮิต ดีไซน์สวย มีให้เลือกหลากหลายตามการใช้งาน

ไมค์รุ่นนี้ เป็นไมค์ยอดฮิตสามารถใช้ได้ทั้งกล้อง และ สมาร์ทโฟน ที่โด่งดังที่สุดในตลาดประเทศไทยเลยก็ได้ เพราะว่าเป็นรุ่นที่ถูกนำเข้ามาทำตลาดไมค์ไวเลสเป็นตัวแรก ๆ ที่มีจุดเด่นในเรื่องของความเล็ก เบา และดูมีดีไซน์ที่ทันสมัย กว่าไมค์ไวเลสที่แบบมีเสา รุ่นก่อนๆ ที่ใช้กันมา และ เป็นตัวแรกที่ใช้แบตเตอรี่ลิเธียม และ มีการ Built-in ไมโครโฟนไว้ในตัวส่งสัญญาณเลย ไม่ต้องต่อสาย Lavalier แต่ในชุดก็มีแถมสาย Lavalier และ ขนแมวกันลมมาให้ด้วยนะ ก็ต้องบอกเลยว่าตอบโจทย์สุด ๆ สำหรับมือใหม่ที่อยากเอาไปทำคอนเทนต์วีดีโอในระดับเริ่มต้น แต่ ณ ตอนนี้สินค้าก็เริ่มจะขาดตลาดไปเรื่อย ๆ แล้ว เพราะ ได้มีการออกรุ่นใหม่มา Saramonic Blink 500 Pro ที่เพิ่มเติมสเปคที่ดีขึ้นไปอีกอย่างมาก แต่ถ้าใครงบไปไม่ถึงอาจจะลองหาของตัวรุ่นนี้ดูก่อนก็ได้ครับ อาจจะยังพอมีเหลืออยู่บ้างในบางสี บางชุดสินค้า

สรุปสเปคของ Saramonic Blink 500

  • ส่งสัญญาณแบบ Dual Channel
  • มีแบตเตอรี่ในตัวสำหรับใช้งานชนิด Lithium Battery ทำให้เวลาเอาไปใช้งานไม่ต้องใช้ถ่าน AA
  • ระยะการส่งสัญญาณ 30 เมตรแบบมีสิ่งกีดขวางนะ แต่ถ้าไม่มีเคยทดสอบกับไมโครโฟนชนิดนี้ไปได้ไกลสูงสุดถึง 100 เมตร
  • การส่งสัญญาณแบบ 2.4GHz ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ ส่งได้ไกลมาก และสัญญาณนิ่งมาก
  • ตัวส่งสามารถต่อไมโครโฟนเสริมได้ เช่น Lavalier หรือ Shotgun ก็ได้ เพื่อขยายขีดจำกัดไมโครโฟนที่ต้องตอบโจทย์งาน
  • มีตัว Connector หลายรุ่นให้เลือก ทั้ง USB-C, Lightning, 3.5mm Connector ทำให้ยืดหยุ่นกับทุกอุปกรณ์ที่เรามี
  • ใช้งานกับ Gimbal ได้ น้ำหนักเบามาก
  • เสียงดีเลย์น้อยมาก น้อยกว่า 6ms
  • เก็บเสียงแวดล้อมได้ดี และ ตัดเสียง ​Noise รบกวนได้ด้วย
  • ต่อกับ Hotshoe ของกล้องได้

อ่านบทความเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้อง

4. Comica Boom X-D : ไมค์ไร้สายมีจอแสดงผล บันทึกเสียงแบบ Stereo และ Mono ได้ในราคาย่อมเยาวน์

Comica boomX-D เป็นไมค์ไวเลสตัวแรกที่มีจอแสดงผลที่ตัวส่งสัญญาณทำให้สะดวกในการดูสถานะต่าง ๆ ของตัวไมค์ และ มีพอร์ตหูฟังแบบ 3.5mm มาให้เพื่อแก้ปัญหากล้องที่ไม่มีช่องเสียบหูฟังในการถ่ายวีดีโอ และ ยังมีชุดสินค้าให้เลือกหลากหลายตอบโจทย์การใช้งานทั้งกล้อง Mirrorless / DSLR และ สมาร์ทโฟน Android / IOS นอกจากนี้อุปกรณ์เสริมที่ให้มาในชุด ยังมีครบถ้วน อาทิ ขนแมวกันลม, ไมค์ Lavilier, สายเชื่อมต่อกับกล้อง และ มือถือ, สายชาร์จแบตเตอรี่ เป็นต้น

ซึ่งในรุ่นนี้ทาง ZoomCamera มีทำบทความรีวิวอย่างละเอียดไว้ด้วยสามารถเข้าไปอ่านเพิ่มเติมกันได้เลยครับ รีวิว Comica boomX ไมค์ไวเลสเสียงดี ต่อหูฟังได้ มีจอแสดงผล อุปกรณ์ครบ ตัวจบสายวีดีโอ

สรุปฟีเจอร์เด่นของ Comica Boom X-D

  • สามารถเสียบหูฟังได้ ช่วยมอนิเตอร์เสียงขณะถ่ายวีดีโอ แม้ว่ากล้องไม่มีช่องหูฟังก็ไม่ใช่ปัญหา
  • ปรับรูปแบบการรับเสียงได้ 2 ระบบ Mono และ Stereo ได้
  • มีจอแสดงผล สามารถดูสถานะเชื่อมต่อ แบตเตอรี่ และ โหมดการใช้งานได้
  • มีความเสถียรในการส่งสัญญาณได้ดี แม้ว่าจะอยู่กันคนละห้อง คนละสถานที่ แต่ต้องอยู่ในระยะไม่เกิน 20 เมตร
  • ส่งสัญญาณได้ไกลสูงสุด 50 เมตร ในพื้นที่เปิดโล่ง
  • เป็นได้ทั้งไมค์แบบ Internal และ ต่อไมค์แยกแบบ External ก็ทำได้ในตัวเดียวกัน

5. Saramonic Blink 500 Pro : ไมค์รุ่นยอดนิยมต่อยอดการใช้งานสู่ระดับโปรมากขึ้น เพิ่มจอแสดงผล มี Charging case มาให้ บันทึกเสียงเป็น Stereo / Mono ได้แล้ว

ไมค์รุ่นนี้เป็นรุ่นต่อยอดจาก Saramonic Blink 500 ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ซึ่งในรุ่นนี้จะมีความแตกต่างอย่างมากกับรุ่นก่อน โดดเด่นเรื่องรูปทรง น้ำหนักที่เบา ทันสมัย ส่งสัญญาณด้วยคลื่นความถี่ 2.4GHz และ ส่งสัญญาณได้ไกลถึง 100 เมตร แบบเสียงไม่ขาดหาย ในรุ่นนี้มีกล่องเคสที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ด้วย ทำให้พกพาสะดวกมากขึ้น แก้ปัญญาแบตหมดขณะใช้งานได้อย่างดี

ในเรื่องของโหมดการรับเสียงสามารถแยกเสียง Stereo ซ้าย-ขวา และ MONO ได้ด้วยเอาไว้แก้ปัญหากรณีที่ระดับเสียงของผู้พูดไม่เท่ากันด้วยการปรับระดับเสียงได้เพื่อควบคุมการทำงานของเสียงให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมเวลาเอามาทำทีหลังในโปรแกรม

มีจอแสดงผล OLED เพื่อบอกสถานะการใช้งานทั้งตัวรับและตัวส่ง (ยกเว้นรุ่น B2 Lite ตัวรับจะไม่มีหน้าจอ) ตัวหน้าจอจะบอกสัญญาณความแรงของสัญญาณ, พลังงานแบตเตอรี่, โหมดการใช้งาน, ระดับเสียง เป็นต้น

รุ่นนี้ใช้งานได้ยาวนานต่อเนื่องถึง 8 ชั่วโมง และ หากเกิดกรณีที่ต้องชาร์จแบตก็นำมาใช้ใน “เคส” ได้ทันที

มีพอร์ท Line out และ Headphone Monitor สามารถ Line out ออกลำโพงได้ และพอร์ท Micro USB ไว้ชาร์จ มีตัวตัดเสียงด้วย เหมาะสำหรับนำไปใช้ในงานสัมภาษณ์, Live สดขายสินค้า หรือ รีวิวสินค้า และ ทำคลิปวีดีโอท่องเที่ยว ต่าง ๆ

6. Rode wireless Go : ไมค์ไร้สายจากแบรนด์ชื่อดีง ให้คุณภาพเสียงดี ขนาดกระทัดรัด พกพาง่าย ดีไซน์สวย

ไมค์รุ่นนี้เป็นไมค์ไร้สายที่เข้ามาทำตลาดตัวแรกในไทยที่เป็นไมค์แบบ Built in และ มีการชาร์แบบแบตลิเธียม ให้การดูดรับเสียงดี วัสดุที่นำมาผลิตมีความพรีเมี่ยม ดูหรูกว่าแบรนด์อื่น ๆ ในตลาดไมค์ไวเลส แต่ก็จะมีข้อสังเกตนิดนึงตรงที่ว่า ไมค์รุ่นนี้จะตอบโจทย์การทำงานแบบ 1 ต่อ 1 เท่านั้น ก็คือถ้างานวีดีโอที่คุณจะทำมี 2 พิธีกร หรือ มีผู้พูดเกิน 1 คน ไมค์ตัวนี้จะไม่ตอบโจทย์ และ ไม่สามารถซื้อเฉพาะตัวส่งมาเพิ่มได้ แต่จุดเด่นของเขาเลยคือดีไซน์ที่ดูหรู และ การรับเสียง 1 ต่อ 1 ที่ดีมาก มีความเสถียรสูง ซึ่งในรุ่นนี้ทาง ZoomCamera ที่ทำรีวิวไว้แล้วสามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้เลยครับ รีวิว Rode wireless go ไมค์ไร้สาย เสียงดี น้ำหนักเบาที่สาย Creators ควรมีไว้

สรุปฟีเจอร์เด่น Rode wireless Go

  • คลื่นสัณญาญ 2.4 GHz ที่เข้ารัหสเป็น 128 bit เพือที่สามารถส่งสัณญาญเสียงได้จัดเจน
  • มี Built-in มีให้ในตัว เป็นไมค์ประเภท Condenser ส่วนประเป็นของการรับเสียงนั้นจะเป็นแบบ Omnidirectional
  • สามารถใช้งานได้ไกลถึง 70 กันเลยที่เดียว (ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมด้วย ว่ามีสิ่งกีดขว้างมากไหม หรือ อยู่ในที่ๆมีสัณญาญหนาแน่นหรือไม่)
  • ความสามารถชาร์ตผ่านสาย USB-C ได้อีกด้วย
  • สามารถใช้งานได้นานถึง 7 ชั้วโมงกันเลยทีเดียว
  • ปรับระดับเสียงได้ถึงสามระดับ 0dB,-6dB,-12dB
  • ใส่เข้ากับหัวกล้องได้พอดี มีน้ำหนักเบา

7. Sennheiser XSW-D PORTABLE LAVALIER SET Wireless Microphone : ไมค์ไร้สายแบรนด์ดัง ดีไซน์สวย ให้เสียงชัดเจนสไตล์ Sennheiser

Sennheiser แบรนด์ชั้นนำอีก 1 แบรนด์ ผลิตสินค้าด้านอุปกรณ์เสียง และ ตัวนี้ก็เป็นอีกรุ่นหนึ่งที่ Sennheiser ลงมาทำตลาดไมค์ไวเลสแบบพรีเมี่ยม ซึ่งวัสดุในการผลิตมีความแข็งแรง งานประกอบดูพรีเมี่ยมกว่าไมค์ไวเลสแบรนด์อื่น ๆ ในตลาด การใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน กดสลับปิดเปิดเสียงตัวไมค์ได้ง่าย เพียงกดปุ่มเดียว ส่งสัญญาณได้ไกลถึง 75 เมตร แบบไม่มีสิ่งกีดขวาง สามารถใช้งานได้ต่อเนื่อง 5 ชม.ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง

สรุปฟีเจอร์เด่น Sennheiser XSW-D PORTABLE LAVALIER SET Wireless Microphone

  • One touch ease-of-use
  • 2.4 GHz digital transmission for worldwide operation
  • 75m range (250ft) in optimal conditions
  • Up to 5 hours battery life on a single charge
  • Switch between multiple transmitters linked to one receiver
  • Configure any combination of transmitters and receivers
  • Mute from either transmitter or receiver

8. Hollyland LARK150 : ไมค์ไร้สายตอบโจทย์การถ่ายวีดีโอแบบ Run and Gun โดดเด่นเรื่อง Auto Sync และ การควบคุมจากตัว Reciever

ไมค์รุ่นนี้เป็นไมค์รุ่นล่าสุดที่ออกมาช่วงปลายปี 2020 นี้ ซึ่งถือว่าเป็นคู่แข่งโดยตรงกับตัว Saramonic Blink 500 Pro เลยก็ว่าได้ เพราะตัวฟีเจอร์ และ สเปคพื้นฐานเทียบชนกันอย่างเป๊ะ ๆ เลย แต่ Hollyland LARK 150 ชูจุดเด่นในเรื่องของการมอนิเตอร์ และ ควบคุมทุกอย่างผ่านตัว Reciever สามารถปรับลดเสียงไมค์แต่ละตัวได้ รวมไปถึง mute เสียงของไมค์ได้อีกด้วย และ ตอบโจทย์การทำงานเสียงระดับโปรมากขึ้นด้วย Safety mode ที่ช่วยในสถานการณ์ที่ไมค์บางตัวเกิดเสียงที่ดังเกินไป ก็จะมีการเก็บเสียงในระดับเสียงที่ต่ำกว่ามาด้วยพร้อม ๆ กัน เพื่อเอามาทำ Post process ภายหลังได้ ก็ต้องบอกว่าในรุ่นนี้ตอบโจทย์การทำงานของระดับมืออาชีพได้อย่างดี เสริมด้วยฟีเจอร์ Auto pairing ที่เปิดกล่องหยิบใหม่ออกมาปุ๊บ ตัวส่งกับตัวรับก็จะทำการเปิดเครื่อง และ sync กันทันที เวลาเก็บเพียงเก็บเข้ากล่องเคสก็จะทำการปิดเครื่องให้เองซึ่งสะดวกมาก ๆ ถ้าใครสนใจตัวสามารถอ่านเพิ่มเติมได้เลยครับ ทาง ZoomCamera มีทำบทความพรีวิวไว้ให้แล้ว พรีวิว Hollyland lark 150 ไมค์ไวเลสตัวจบ ควบคุมตัวส่งได้ รับเสียงทั้ง Mono และ Stereo มาพร้อมกล้องชาร์จพรีเมี่ยม

สรุปฟีเจอร์เด่นของ Hollyland LARK 150

  • ตัวส่งสัญญาณ ที่ออกแบบมาพร้อมไมโครที่รับเสียงรอบทิศทางในตัวและยังสามารถใช้เป็นไมค์ลาวาเลียร์ได้อีกด้วย
  • ตัวรับสัญญาณ มาพร้อมกับจอแสดงผล OLED แสดงสถานะแบตเตอรี่ ระดับเสียง และความแรงของสัญญาณและอื่น ๆ มีระยะการใช้งานไกลถึง 100เมตร พร้อม Latencyที่ตํ่าเป็นแค่ 5ms
  • มีโหมดการบันทึกเสียง 3 โหมด คือ Mono,stereo saftety mode รองรับอุปกรณ์ได้หลากหลาย เช่น กล้องDSLR Mirrorless คอมพิวเตอร์และอื่นๆอีกมากมาย ที่รองรับ 3.5mm
  • การออกแบบเคสที่รองรับการชาร์จที่ง่ายดายและ มี Auto-Paring ที่ช่วยทำให้สะดวกสบายในการเชื่อมต่อไมค์นั้นง่ายขึ้น , ตัวรับ สามารถใช้งานสูงสูดได้ถึง 7.5ชม .และตัวส่ง ใช้งานได้ถึง 4.5ชม. ด้วยกัน
  • มีกล่องชาร์จมาให้ด้วยเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานไม่ต้องกลัวแบตหมด

สรุปแล้วไมค์ไวเลสตัวไหนเหมาะกับคุณที่สุด

ลูกค้าที่สนใจสั่งซื้อสินค้า สามารถติดต่อสั่งซื้อได้ผ่านช่องทางออนไลน์ของทางร้านได้ตลอด 24 ชม. หรือ โทรเข้ามาโดยตรงผ่านโทรศัพท์

แอดไลน์ ID:@ZoomCamera หรือ หน้าเว็บไซด์ ZoomCamera
083-067-7677 / 02-098-9555 ต่อ 0 (หยุดวันอาทิตย์)

วิธีการสั่งซื้อ

Leave a Reply

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

Save