ศึกชิงเวหา DJI Mavic Pro vs GoPro Karma โดรนปะทะโดรนตัวไหนจะ”โดน”กว่ากัน Leave a comment

ก่อนจะพูดถึง DJI Mavic Pro และ GoPro Karma เรามาเกริ่นเผื่อใครที่ยังไม่รู้จัก Drone กันก่อนนะครับ

Drone(โดรน) หรืออากาศยานไร้คนขับที่อาศัยการบังคับควบคุมจากระยะไกล ช่วงหลายปีมานี้โดรนเป็นเทคโนโลยีที่กำลังมาแรงโดยจะมีด้วยกันหลากหลายชนิดตามการใช้งานตั้งแต่ของเล่นไปจนถึงโดรนทางการทหาร และอีกชนิดที่กำลังมาแรงอย่างมากคือ Drone สำหรับถ่ายภาพมุมสูงเพราะช่วยให้ช่างภาพได้มุมที่แตกต่างไม่เหมือนใครซึ่งทั้ง Mavic และ Karma ที่เราจะพูดถึงกันก็อยู่ในกลุ่มนี้แหละครับ 

ส่วนใหญ่แล้วโดรนกลุ่มนี้จะมีขนาดและน้ำหนักที่มากประมาณหนึ่งเลยเพราะต้องแบกแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ มอเตอร์กำลังสูงอย่างน้อยๆก็ 4 ตัวทั้งยังต้องติดกล้องที่มีระบบกันสั่นอย่างดีไปด้วย ราคาโดรนกลุ่มนี้จึงสูงไม่ใช่เล่นๆ การพกพาไปไหนไม่สะดวกนัก

โดรนที่ถ่ายภาพได้ดีในขนาดที่พกพาได้สะดวกจึงเป็นตลาดที่ว่างอยู่มานานแล้ว

แต่! ตอนนี้ตลาดที่ว่าว่างคงไม่ว่างอีกต่อไปแล้วทั้งยังร้อนระอุจากการเข้ามาของโดรนรุ่นล่าสุดจาก 2 ค่าย GoPro Karma และ DJI Mavic Pro ซึ่งทั้งสองมีจุดเด่นที่ชัดเจนคือสามารถพับเก็บให้มีขนาดเล็กได้ทำให้พกพาสะดวก มีสเปคที่ดีไม่แพ้โดรนขนาดใหญ่ ทั้งยังเปิดตัวมาในเวลาใกล้ๆกันด้วยราคาที่สูสีกันอีกต่างหาก! เห็นแล้วมันอดไม่ได้ที่จะจับมาเปรียบเทียบให้ทุกคนได้อ่านกัน

DJI Mavic Pro vs. GoPro Karma

ขนาดและน้ำหนัก

จุดเด่นหลักของทั้ง DJI Mavic Pro และ GoPro Karma คือสามารถพับให้มีขนาดเล็กได้เพื่อความสะดวกในการพกพาฉะนั้นจึงขอเทียบเรื่องขนาดและน้ำหนักเป็นอันดับแรกเลย

    • DJI Mavic Pro มีขนาดตอบพับ สูง 83mm x กว้าง 83mm x  ยาว 198mm น้ำหนัก 743 กรัม
    • GoPro Karma มีขนาดตอนพับ สูง 89.9mm x กว้าง 224.3mm x ยาว 365.2mm น้ำหนัก 1,006 กรัม

ศึกนี้ DJI Mavic ชนะขาดลอยเลยครับทั้งขนาดที่เล็กกว่ามากและเบากว่า นี่ยังไม่รวมรีโมทซึ่งของ Karma จะหนัก 625 กรัมครับ ซึ่งฝั่ง Mavic ไม่ได้ระบุน้ำหนักรีโมทไว้แต่เล็กและเบากว่าของ Karma แน่นอน

น้ำหนักแบตเตอรี่เองก็เป็นเรื่องสำคัญเพราะเรามักมีแบตเตอรี่โดรนมากกว่า 1 ก้อนอยู่แล้วเนื่องจาก 1 ก้อนบินเฉลี่ยได้ประมาณ 15-20 นาทีเท่านั้นบางคนอาจมีมากถึง 4-5 ก้อนเลยเมื่อรวมกันแล้วจึงมีน้ำหนักไม่ใช่น้อยๆ

    • DJI Mavic Pro Battery มีความจุ 3830 mAh น้ำหนัก 240 กรัม
    • GoPro Karma Battery มีความจุ 5100 mAh น้ำหนัก 545 กรัม

ผลตัดสิน : DJI Mavic Pro ชนะ

ความเร็วสูงสุด

DJI Mavic Pro ใน Sport Mode จะมีความเร็วสูงสุด 65 กม./ชม. ส่วน GoPro Karma มีความเร็วสูงสุด 56 กม./ชม.

ผลตัดสิน : DJI Mavic Pro ชนะ

ความสูงในการบิน

ความสูงในการบินนั้น GoPro Karma สามารถบินสูงกว่าระดับน้ำทะเลได้ 4.5 กิโลเมตร ส่วน DJI Mavic Pro จะทำได้ที่ 5 กิโลเมตร

ผลตัดสิน : DJI Mavic Pro ชนะ

ระยะเวลาในการบิน

DJI Mavic Pro บินได้นานสุด 27 นาที ส่วน GoPro Karma บินได้นานสุด 20 นาที

ผลตัดสิน : DJI Mavic Pro ชนะ

รีโมทควบคุม

GoPro Kamar มีรีโมทที่มาพร้อมจอในตัวใช้แสดงผล Live View ได้ทันที รองรับ Touchscreen และภายในมีโปรแกรม Simulator จำลองการควบคุมโดรนไว้ให้เราฝึกขับโดรนได้ด้วย ข้อเสียรีโมทนั้นมีขนาดใหญ่หน่อย ส่วนทางฝั่ง DJI Mavic Pro ตัวรีโมทเล็กกว่าหน้าจอสำหรับแสดงผลก็มีแต่จอดู Live View ไม่ได้ การใช้งาน Live View จำเป็นต้องเชื่อมต่อ Smartphone และใช้งานผ่านแอปของ DJI

ผลตัดสิน : เสมอกัน

ระยะควบคุมไกลสุด

ประเด็นนี้แตกต่างกันอย่างมากกกก DJI Mavic Pro มีระยะส่งสัญญาณได้ไกล 7 กิโลเมตรในขณะที่ฝั่ง GoPro จะมีระยะส่งสัญญาณไกล 3 กิโลเมตร เอาจริงๆแค่ 2-3 กิโลเมตรเราก็เริ่มจะไม่เห็นโดรนแล้วครับ หากจะบินไปไกลกว่านี้ก็คงน่าหวาดเสียวเหมือนกัน 55 แต่ถ้าหากหลุดระยะสัญญาณทั้ง DJI Mavic Pro และ GoPro Karma ก็สามารถบินกลับบ้านเองได้ครับ(กลับมาจุดที่ขึ้นบิน)

ในตอนแรกที่เปิดตัว GoPro แจ้งว่า Karma มีระยะไกลสุดแค่ 1 กิโลเมตรแต่หลังจาก Mavic เปิดตัวมาซักพักหนึ่งในหน้าสเปคของ GoPro Karma ก็มีการแก้สเปคเป็น 3 กิโลเมตร

ผลตัดสิน : DJI Mavic Pro ชนะ

กล้องและระบบกันสั่น

DJI Mavic Pro จะมีกล้องติดมาให้เลยกับตัวโดรนใช้เซ็นเซอร์ขนาด 1/2.3″ ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล รองรับการถ่ายภาพนิ่งไฟล์ RAW ได้(Adobe DNG) และถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียด 4K 30fps ไม่สามารถถอดหรือเปลี่ยนกล้องนี้ได้ ติดเลนส์มุมกว้าง 28mm F2.2 มีองศารับภาพที่ 78.8 องศาซึ่งจะเสียเปรียบ GoPro ในเรื่องความกว้างเพราะ HERO5 Black ได้เลนส์กว้าง 17.2mm แต่ยิ่งกว้างมากความบิดเบี้ยวของภาพก็ยิ่งมาก เลนส์ GoPro มีความบิดเบี้ยวสูงเพราะมีลักษณะเป็น Fisheye ถ้าเป็นคนไม่ชอบความบิดเบี้ยวหรือเน้นความตรงของเส้นขอบฟ้า DJI Mavic จะตอบโจทย์กว่าเพราะเลนส์ความบิดเบี้ยวน้อย

ตัวกล้องติดตั้งกับระบบกันสั่น Gimbal 3 แกนที่ทาง DJI กล่าวว่านิ่งพอจะถ่ายภาพขณะบินอยู่ด้วยความเร็วชัตเตอร์ 2 วินาทีได้เลย

GoPro Karma นั้นไม่มีกล้องติดมากับตัวโดรนแต่ใช้วิธีติด GoPro HERO5 เข้าไปแทน(ใครจะติด HERO4 ก็ได้เหมือนกัน)ความสามารถในการถ่ายภาพก็จะขึ้นอยู่กับกล้องที่นำไปติด ซึ่งถ้าเราเลือกใช้ HERO5 Black ก็จะสามารถถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียด 4K 30fps ถ่ายภาพนิ่งที่ความละเอียด 12 ล้านพิกเซลและรองรับไฟล์ RAW ระบบกันสั่น Gimbal เองก็มีมาให้ 3 แกนเช่นกัน แต่มีข้อดีของ Karma คือสามารถถอดชุดกล้องและระบบกันสั่นนี้ออกมาได้เพื่อนำไปต่อกับด้ามจับจากนั้นเราจะได้กล้องพร้อมระบบกันสั่น Gimbal มาใช้งานถ่ายวิดีโอนิ่งๆสบายเลย ซึ่งนับว่าคุ้มมากเพราะปกติลำพังเฉพาะ Gimbal อย่างเดียวก็ราคาแถวๆหมื่นบาทแล้ว การซื้อ Karma แล้วได้ทั้ง Drone และ Gimbal ที่ถือไปไนก็ได้จึงเป็นอะไรที่คุ้มค่าสุดๆ

ผลตัดสิน : เสมอกัน

หลบสิ่งกีดขวาง

DJI Mavic Pro เป็นโดรนที่มีระบบตรวจสอบสภาพแวดล้อมรอบตัวโดยการใช้กล้อง 5 ตัว, GPS, เซ็นเซอร์ Ultrasonic 2 ตัวที่คอยวัดระยะห่างจากพื้นด้านล่าง, และยังมีเซนเซอร์อื่นๆพร้อมด้วย 24 แกนประมวลผลที่คอยคิดเรื่องนี้โดยเฉพาะ ซึ่ง DJI เรียกระบบนี้ว่า FlightAutonomy ทำให้ Mavic สามารถเลี่ยงการชนสิ่งกีดขวางได้ หากเราจะบินชน Mavic จะหยุดตัวเองก่อนจะชน ส่วน GoPro Karma จะไม่มีระบบป้องกันการชนนี้เลย

ผลตัดสิน : DJI Mavic Pro ชนะ

โหมดในการบินและลูกเล่นแสนรู้

DJI Mavic Pro มีโหมดการบินต่างๆที่น่าสนใจหลายอย่างเช่น

    • Gesture Control คือการควบคุมโดยใช้ท่าทางเช่น หากเราทำท่าแบบนี้โดรนจะเริ่มโหมดติดตามตัวเราโดยอัตโนมัติ หรือทำท่าแบบนี้แล้วโดรนจะถ่าย Selfie ให้เป็นต้น
    • ActiveTrack ตัวโดรนจะคอย Track ติดตามวัตถุที่เราเลือกไว้ซึ่งตัว Mavic เองมีอาการออกแบบมาให้ Track ติดตามคน, สัตว์, คนขี่จักรยานหรืออย่างมอเตอร์ไซค์ได้ดีและมีหลายโหมดให้ใช้อย่างเช่น Trace(บินอยุ่ด้านหน้าหรือหลังของวัตถุ), Profile(บินอยู่ข้างๆวัตถุ), Spotlight(ให้กล้องจับวัตถุไว้ตลอดไม่ว่าเราจะบินไปทางไหน)
    • Tripod Mode เป็นการตั้งค่าให้ Mavic Pro มีความเร็วสูงสุดลดลงเหลือ 3.6 กิโลเมตรต่อชั่วโมงและยังปรับความไวของ Joystick ควบคุมให้ช้าลง ซึ่งโหมดนี้ทำให้เหมาะกับการบิน Indoor มากขึ้น
    • TapFly จิ้มจอแล้ว Mavic จะบินไปตามจุดที่เราต้องการ
    • Terrain Follow ตัว Mavic จะคอยถ่ายภาพติดตามเราโดยตั้งค่าให้ห่างจากพื้นได้ตั้งแต่ 30 เซนติเมตรถึง 10 เมตร และไม่ว่าความชันของพื้นที่จะเปลี่ยนไปยังไง Mavic จะใช้เซ็นเซอร์ Ultrasonic รักษาระยะห่างจากพื้นไว้เท่าเดิมเสมอ

GoPro Karma มีระบบที่เรียกว่า Auto Shot Paths ซึ่งจะประกอบด้วย

    • Dronie ฟังก์ชั่นที่ Drone จะบินถ่าย Selfie ให้เรา
    • Cable Cam จะบินจากจุดหนึ่งไปที่อีกจุดหนึ่ง
    • Orbit จะบินรอบๆจุดที่เรากำหนดไว้ให้
    • Reveal จะบินเป็นเส้นตรงและจะค่อนๆแพนภาพอย่างช้าๆจากด้านล่างแล้วแพนขึ้นไปหาวัตถุที่เลือกไว้

โดยรวม DJI Mavic Pro มีฟีงก์ชั่นในการบินที่ล้ำกว่า GoPro Karma มากทีเดียวโดยเฉพาะระบบป้องกันการชนสิ่งกีดขวางที่ Karma ไม่มีฉะนั้น…

ผลตัดสิน : DJI Mavic Pro ชนะ

ความยืดหยุ่นในการใช้งาน

GoPro Karma มีความยืดหยุ่นในการใช้งานมากกว่า DJI Mavic Pro อยู่มากพอสมควร ด้วยความที่กล้องและระบบกันสั่นถอดออกไปใช้ที่ไหนก็ได้ เราอาจพกเฉพาะ HERO5 ออกไปเที่ยวได้หากครั้งไหนคุณไม่ต้องการจะบินเก็บภาพ แต่กับ DJI คุณไม่มีทางเลือกนี้เลย Mavic ทำหน้าที่เป็นโดรนได้ดีแต่เป็นโดรนได้อย่างเดียวในขณะที่ Karma ทำได้หลากหลายหน้าที่

ผลการตัดสิน : GoPro Karma ชนะ

ราคา

    • DJI Mavic Pro มีราคาเปิดตัวในไทยที่ 42,300 บาท / เปิดตัวเมืองนอก $999
    • GoPro Karma ยังไม่มีมีราคาเปิดตัวในไทยแต่เมืองเปิดตัวกันที่ $799(เฉพาะโดรนอย่างเดียว) / $999.99(Karma+HERO5 Session) / $1,099.99(Karma+HERO5 Black)

ความคุ้มค่า

หากเรามองว่าจะเทียบกันในฐานะเป็น”Drone”เท่านั้น Mavic Pro ดูจะมีความคุ้มค่ามากกว่าด้วยราคาที่ไล่ๆกันแต่มีสเปคหลายส่วนที่เหนือกว่า ขนาดที่เล็กกว่า รวมทั้งประสบการณ์ของ DJI เองที่ทำโดรนมาหลายปี ในขณะที่ GoPro เพิ่งจะเริ่มทำเป็นตัวแรกเท่านั้น

แต่ถ้ามองการใช้งานหลายๆด้าน GoPro Karma ชนะขาดเลยครับในด้านความคุ้มค่า Karma เป็นได้มากกว่าโดรน แม้ราคาไทยยังไม่เปิดตัวแต่ก็น่าจะไล่ๆกับ Mavic ในราคานี้เราได้ทั้งโดรน กันสั่น Gimbal และกล้อง HERO5 Black/Session นับว่าคุ้มมากเลยทีเดียว
ผลการตัดสิน : GoPro Karma ชนะ

คุณภาพไฟล์

ท้ายที่สุดคือไฟล์ภาพจากการใช้งานจริงซึ่งคงจะพูดได้ยากเพราะทั้งสองตัวในบ้านเรายังไม่มีสินค้าเข้ามา อีกทั้งเมืองนอกเอง Karma ก็ไม่ค่อยมีรีวิวเรื่องไฟล์ภาพมากนักในขณะที่ฝั่ง Mavic มีให้ดูเยอะมาก และเท่าที่ผมลองดูมีรีวิวหลายตัวที่มีประโยชน์ในการตัดสินใจของทุกท่านจึงได้รวมมาให้ดูกันด้านล่างนี้นะครับ

วิดีโอเกี่ยวกับ GoPro Karma

คลิปนี้น่าจะเป็นรีวิวอันดับแรกๆเลยตั้งแต่ Karma เปิดตัวออกมา

Karma ไม่ค่อยมีวิดีโอจากการบินจริงให้เราดูมากนักครับ ผมเดาว่าตัว Karma อาจยังไม่สมบูรณ์ 100% จึงไม่ค่อยได้ส่งให้สำนักรีวิวต่างๆ แต่ถ้าใครสงสัยเรื่องไฟล์ก็ลองดูไฟล์จากรีวิวของ GoPro HERO5 ไปพลางๆก่อนได้ครับ

วิดีโอเกี่ยวกับ DJI Mavic PRO

เปลี่ยนมาฝั่ง DJI Mavic มีคนได้ลองเล่นกันเยอะแล้ว ทำให้มีคลิปทดสอบดีๆเต็ม Youtube เลยทีเดียว

 วิดีโอนี้เผื่อใครชอบแข่งโดรน อิอิ

วิดีโอที่มีการเปรียบเทียบ DJI Mavic และ Phantom 4

วิดีโอล่างนี้ไม่มี Karma เทียบด้วยนะครับ และภายหลังทางเจ้าของ Channel ออกมาอัพเดตว่าเค้าพลาดที่ไม่ได้ปรับโฟกัสทำให้ภาพ Mavic ออกมา Soft กว่า Phantom 4

ภาพนิ่งดูแล้วใกล้เคียงกันมากแต่ Phantom 4 จะดีกว่านิดหน่อย

บทความนี้เขียนเมื่อวันที่ 06/10/2016

Leave a Reply

โค้ดลดสูงสุด

3,000

Happy Code Day 26-28 MAR

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

Save