สวัสดีครับ พ่อ แม่ พี่ น้อง ลุง ป้า น้า อา ทุกท่าน ล่าสุดผมเองได้มีโอกาสไปลองเล่นกล้องตัวใหม่ล่าสุดจากทาง Canon นั่นก็คือ Canon EOS R ต้องขอขอบคุณ Canon Thailand ด้วยครับที่ชวนพวกเรา Zoom camera ไปลองเล่นกล้อง Mirrorless Full frame ตัวแรกจากทาง Canon ผมก็มีโอกาสลูบ ๆ คลำ ๆ อยู่พักใหญ่ จับนู่น ปรับนั่น ตามที่เวลาอำนวย ก็จะมาแชร์ให้ฟังหลังจากได้ลองเล่นกล้อง Hands-on Canon EOS R ในครั้งแรกครับ
แต่สำหรับใครที่ต้องการดูสเป็คแบบเต็ม ๆ ของ EOS R หรือบทความเปรียบเทียบอื่น ๆ สามารถดูบทความก่อนหน้าที่เกี่ยวข้องของเราได้นะครับ
Official : เปิดตัว EOS R กล้อง Mirrorless Full frame รุ่นแรกจาก Canon
เปรียบเทียบ : ศึก Mirrorless 2 ค่ายยักษ์ EOS R vs Nikon Z6
เปรียบเทียบ : Mirrorless EOS R VS Sony A7III ศึกจ้าวแห่งกล้อง Mirrorless
ศึก ZAR : เปรียบเทียบ EOS R vs Nikon Z6 vs Sony A7III
Hands-on รีวิว Canon EOS R กล้อง Mirrorless Full frame ตัวแรกจาก Canon
ก่อนอื่นบอกเลยว่าตัวผมเองใช้กล้อง Canon อยู่แล้วครับ ซึ่งเป็น DSLR มาแต่ไหนแต่ไร พอมาสัมผัสเจ้า Canon EOS R ตอนจับครั้งแรกให้อารมณ์โคตร DSLR เลยครับ เพียงแต่ย่อส่วน ขนาดเล็กลง บางลงและเบาลง ยิ่งถ้าใช้กล้อง Canon อยู่แล้วจะค่อนข้างชินกับการถือจับและการปรับต่าง ๆว่าอยู่ตรงไหน อย่างบางโหมดที่เป็นโหมดใหม่ ๆ เพิ่มเข้ามาก็ใช้งานไม่ยาก ทำความเข้าใจแปบเดียวก็พริ้วแล้วครับ
ในส่วนของหน้าตา ผมว่าให้อารมณ๋แบบ DSLR มาเลย เหมือนเอา 6D ตัดกระจกออก แล้วย่อส่วนให้เล็กลง โดยรวมก็ดูหล่ออยู่นะ น้ำหนักรวมเลนส์ก็ยังถือว่าเบากว่าพวก DSLR อยู่นิดหน่อย ให้สาว ๆ ถืออาจจะบ่นนิดหน่อย ตัวกล้องประกบอยู่กับเลนส์ Canon RF 24-105mm f/4L IS USM Lens ที่เป็นเม้าท์ RF เม้าท์ใหม่สำหรับกล้อง Mirrorless Full frame โดยเฉพาะ น้ำหนักตัวเลนส์ถือว่าพอควรเลยครับ เวลาจับจะรู้สึกหนักหน้านิด ๆ เพราะเลนส์หนักกว่าตัวกล้อง
การจับถือ
การจับถือ Canon EOS R ผมว่าจับถนัดมือดีนะ คือด้วยขนาดกริปด้านหน้าที่ใหญ่พอควรและมีความลึกเราสามารถจับได้มั่นคงดีทีเดียว ตรงนิ้วก้อยก็ไม่หลุดด้วยสำหรับคนที่นิ้วใหญ่ ๆ คงชอบ
ปุ่มและการควบคุมกล้อง
สวิตช์เปิด-ปิด เปลี่ยนจากแบบเขี้ยวมาเป็นแบบกลม ๆ เหมือน Dial แต่ก็ไม่สามารถหมุนได้รอบทิศ ก็ใช้เปิด-ปิดธรรมดา
Dial ปรับโหมดที่ตัดในส่วนของสัญลักษณ์ออกไปคือกดปุ่มแล้วจะสามารถหมุนเพื่อเปลี่ยนโหมดได้ จริง ๆ อาจดูเป็นของใหม่ แต่ก็ไม่ได้ให้ความรู้สึกใช้ยาก ใช้ง่ายกว่าพวกที่ต้องจิกแล้วหมุนเสียอีกบอกเลยครับ
ทีนี้มาพูดถึงพวกปุ่มควบคุมกันบ้าง ถ้าเคยใช้กล้อง Canon มาอยู่แล้วก็ถือว่าสบาย จริง ๆ ต่อให้ไม่เคยใช้มาก่อนก็ต้องบอกว่าปุ่มต่าง ๆ ของ Canon ใช้ง่ายอยู่แล้วครับ หาง่ายด้วย ใช้แปบ ๆ ก็ชินมือจะมีที่เพิ่มมาก็มัลติฟังก์ชั่นบาร์ที่อยู่ตรงนิ้วโป้ง แล้วก็วงแหวนคอนโทรลที่ตัวเลนส์
เอาทีละอย่างพูดถึงทัชบาร์ก่อนโดยส่วนตัวรู้สึกว่าดีนะ ชอบเลย ใช้งานได้จริง สามารถเปิดปิดได้กันมือไปโดนแล้วค่าเปลี่ยน เราสามารถตั้งค่าได้สามอย่างเช่น การสไลด์ สัมผัสมุมทางด้านขวา และ ซ้าย ซึ่งเราสามารถตั้งค่าได้ว่าอยากให้เป็นอะไรทั้งสามจุด
โดยการสัมผัสตรงกลางค้างไว้จะเข้าสู่หน้าเซ็ตติ้ง หรือเข้าไปเซ็ตในเมนูได้เช่นกัน อันนี้เฟี้ยวฟ้าวราวตากผ้ามากครับจะเห็นในภาพว่าสามารถตั้งค่าทั้งในโหมดการถ่ายภาพ และตอนพรีวิวดูภาพด้วยเช่นกันครับ
จากภาพด้านบนจะเห็นว่าสามารถตั้งค่าได้สามจุดตามที่บอกไปก่อนหน้าครับ
วงแหวนคอนโทรลที่ตัวเลนส์ ข้อดีคือเราสามารถตั้งค่าได้ว่าจะให้เป็นอะไรเช่น ISO ชดเชยแสง ไรพวกนั้นหลายอย่างแล้วแต่เราตั้ง ถ้าถามว่ามีประโยชน์ไหมตอบเลยว่ามี เหมาะกับงานวิดิโอ แถมถ้ากล้องสแตนบายอยู่ถ้าเรายังไม่กดชัตเตอร์ให้โฟกัสหรือพร้อมถ่ายวงแหวนคอนโทรลจะไม่ทำงาน ป้องกันเวลาไปถูกับอะไรแล้วค่าเปลี่ยน แต่รู้สึกแปลกใจนิดหน่อยตรงที่ว่าเวลาหมุนจะมีเสียงแกร็กเพื่อให้รู้ว่าหมุนไปเท่าไหร่แล้ว เพียงแต่ว่าเสียงดังไปหน่อย และถ้าใช้ไมค์กล้อง หรือไมค์ติดหัวกล้อง บอกเลย ได้ยิน ฮ่า ๆ ถ้าไม่ซีเรียสก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าซี ก็คงต้องหันไปใช้ไมค์ไร้สาย
ช่องมองภาพ Electronic viewfinder
ในส่วนของช่องมองภาพ หรือ EVF ขนาดกำลังดี ไม่เล็กจนเกินไป ชอบตรงยางรองตาที่เค้าเหมือนจะติดเข้าไปกับตัวบอดี้เลย ไม่สามารถถอดออกได้ง่าย ๆ หมดปัญหายางรองตาหายอีกต่อไปครับ
นี่คือภาพด้านในของช่องมองภาพ ถือว่ามองได้สบายตา ความละเอียด 3.69 ล้าน อัตราการรีเฟรชดี ให้ความรู้สึกลื่น สบายตา เวลาเราถ่ายแนวตั้งพวกข้อมูลตัวหนังสือที่อยู่ข้างในปรับหมุนให้อัติโนมัติด้วยครับ
จอบน
จอบน สามารถเปลี่ยนสีได้เมื่อกดเครื่องหมายรูปหลอดไฟค้างไว้ เวลาไปอยู่ในที่มืด ๆ จะได้มองเห็น และสามารถเปลียนรูปแบบการแสดงผลจอบนได้ด้วยการกดปุ่มรูปหลอดไฟธรรมดาหนึ่งครั้ง
ช่องและพอร์ทต่าง ๆ
ในส่วนของพอร์ทต่าง ๆ Canon EOS R ให้มาอย่างครบครันครับ ไม่ว่าจะเป็นช่องเสียบสายลั่น ช่องUSB ช่อง ช่องHDMI ช่องไมค์ช่องหูฟัง
แบตเตอรี่ใช้งานเป็นตัว LP-E6 เหมือนในกล้อง DSLR ตัวระดับกลางขึ้นมาของ Canon แน่นอนว่าสามารถใช้ร่วมกันได้ รวมถึงใช้แบต LP-E6N ได้ด้วยเช่นกัน
ช่องใส่เมมโมรี่การ์ด เป็นช่อง SD Card มีมาให้เพียง 1 ช่องเท่านั้น แต่ก็เป็นช่องที่รองรับการ์ดความเร็วสูง UHS-II ครับผม
จับพับ ทัชสกรีน
ในส่วนของหน้าจอเป็นจอแบบพับ แถมยังทัชสกรีนอีกตังหาก บอกก่อนเลยว่าทัชสกรีนของ Canon นี่ลื่นปรื้ด ๆ และใช้งานได้ทุกโหมด ทุกเมนู และคิดมาแล้วให้ใช้งานโคตรง่าย นี่คือความดีงามพระรามเก้า ส่วนตัวชอบทัชสกรีนของ Canon EOS R มาก ๆ ครับ
และน่าจะเป็นกล้อง Mirrorless Full frame ตัวเดียวในท้องตลาดตอนนี้ที่ทำเป็นจอพับ แน่นอนว่ามีประโยชน์กับชาว Vloger และ Youtuber ทั้งหลาย จะทำให้ชีวิตง่ายขึ้นเยอะ ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายวิดิโอตัวเอง หรือเซลฟี่ภาพนิ่ง ก็เป็นเรื่องง่าย เพราะพลิกกลับมามององค์ประกอบได้เนี่ยะแหละ จะว่าไปน่าจะเป็นกล้อง Mirrorless Full frame ตัวเดียวเลยที่เซลฟี่ได้แบบสบาย ฮ่า ๆ
การโฟกัส
ระบบโฟกัส Dual pixel นี่หายห่วง ให้มาเวอร์วังอลังการเค้าบอกว่ามีจุดโฟกัสทั้งหมด 5,655 จุด ครอบคลุมพื้นที่ด้านยาว 88 % และด้านกว้าง 100% และยังโฟกัสได้รวดเร็วภายใน 0.05 วินาที จากการลองใช้โฟกัสเร็วและแม่นยำมาก ๆ จริง ๆ ก็ต้องบอกว่าทำได้ดีมาตั้งแต่รุ่นก่อน ๆ หน้าแล้วอันนี้หายห่วงครับ มีระบบ Face Detection รวมทั้ง Eye AF ครับ
ชัตเตอร์ปิดลง เมื่อกล้องปิดอยู่
อีกหนึ่งข้อดีของ Canon EOS R คือทุกครั้งเมื่อคุณปิดกล้อง ตัวชัตเตอร์จะลงมาปิดเสมอ เพื่อป้องกันฝุ่นหรืออะไรก็ตามที่จะหล่นไปที่เซ็นเซอร์ อย่างน้อยก็หล่นลงไปยากขึ้น แต่สมมุติว่าคุณต้องการจะทำความสะอาดเซ็นเซอร์ ไม่ต้องกังวลเพราะคุณสามารถใช้คำสั่งยกชัตเตอร์เพื่อทำความสะอาดได้เช่นกันครับ
กล่าวปิดท้าย
ก็ถือว่า Canon EOS R เป็นกล้องอีกตัวที่น่าจับตามองในขณะนี้ครับ รอบนี้ผมมีโอกาสได้จับไม่นานนัก แถมเค้ายังไม่ยอมให้เอาภาพกลับมาด้วยเพราะว่าตัวกล้องยังไม่ใช่ตัวไฟนอลที่สำหรับวางขาย ซึ่งก็ยังมีอีกหลายอย่างที่ยังอยากลองแต่ยังไม่ได้ลองเนื่องด้วยเวลาบีบบังคับ ยังไงก็แล้วแต่ แน่นอนว่าจะมีรีวิวตัวเต็มของกล้อง Canon EOS R ออกมาอย่างแน่นอน ยังไงก็ฝากติดตามด้วยนะครับ หากใครสนใจสั่งจองสามารถสั่งจองเป็นเข้าของก่อนใครได้ที่นี่ครับ สั่งจอง Canon EOS R