ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในปัจจุบันในช่วงตั้งแต่กลางปี 2019 ที่ผ่านมามีการเปิดตัวกล้องใหม่ ๆ ออกมาเป็นจำนวนมาก แบบว่าทุกแบรนด์แห่กันออกกล้องใหม่ มีตั้งแต่กล้องคอมแพ็ค กล้อง APS-C กล้องฟูลเฟลม จนไปถึงระดับกล้อง Medium format กันเลยทีเดียว แต่ เอ๊ะ ! แล้วกล้อง Micro four-Third หละไปไหน

สำหรับ กล้อง Micro four-Third นี้ในปี 2019 ที่ผ่านมาค่อนข้างนิ่ง ๆ ทรงตัว แต่ก็มีออกมาให้เห็นบ้าง ได้แก่ Panasonic Lumix G95 และ Olympus E-M5 mark iii ซึ่งการมาของทั้ง 2 รุ่นนี้ทำให้ตลาด กล้อง Micro four-Third ในส่วนของราคา และ โปรโมชั่นกล้องหลายรุ่นปรับค่อนข้างมาก ในบทความนี้เราจะพูดคุยกัน ก็คือกล้อง Olympus E-M1 mark ii ซึ่งกล้องตัวนี้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างน่าสนใจ
ย้อนรอยราคา Olympus E-M1 mark ii จากอดีตสู่ปัจจุบัน
ก่อนอื่นขอท้าวความถึงราคาเปิดตัวของ Olympus E-M1 mark ii ซึ่งเปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2017 ในราคา body ที่สูงมากถึง 76,990 บาท และ ราคาบอดี้ + เลนส์ Kit 12-40mm F2.8 Pro 103,990 บาท หลังจากที่มีกล้อง Panasonic Lumix G95 และ Olympus E-M5 mark iii ปล่อยออกมาในปี 2019 นี้ เจ้ากล้องตัวนี้ก็ได้รับผลกระทบทางด้านราคาค่อนข้างมาก ผมก็ได้รวบรวมข้อมูลมาเพื่ออัพเดท แล้วเอามาเปรียบเทียบดู และ สังเกตุ จะเห็นว่า

สังเกตุราคาบอดี้ไม่ค่อยหนีห่างกันเท่าไหร่ราคาจะเหวี่ยงอยู่ที่ 49,990 – 59,990 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ลดราคามาจากราคาเต็มค่อนข้างมากเลยทีเดียว เนื่องจากการเปิดราคาของ Olympus E-M5 mark iii ที่มีราคาเปิดตัวค่อนข้างต่ำในปีนี้ และ กล้องแบรนด์อื่น ๆ ที่ตั้งเปิดราคามาค่อนข้างต่ำ ถ้ากล้อง Olympus E-M1 mark ii ไม่ปรับลดตามลงมาความห่างของราคาก็จะมากไปหน่อย ซึ่งถ้าดูตรงที่ราคาบอดี้เปล่าของกล้องตัวนี้ ราคาเต็มก็ราว ๆ 70000+ หลายคนก็บอกว่ามันแพงมาก สำหรับกล้อง M4/3 แต่ถ้าเรามามองอีกมุมในส่วนของเทคโนโลยี ขนาด น้ำหนักที่เป็นเอกลักษณ์ที่กล้องเซนเซอร์ไซส์อื่น ๆ ไม่สามารถทำได้ ที่ผมได้กล่าวไปข้างต้นทั้งหมด ราคาที่ถูกตั้งมาก็ค่อนข้างเหมาะสมอยู่ แต่ก็คงดีถ้าลดราคาลงมาเยอะ ๆ หน่อย หลาย ๆ คนทั่วไปจะได้เข้าถึงกล้องระดับโปรได้ง่ายขึ้น

แม้ว่าโอลิมปัสอาจไม่ใช่ตัวเลือกแรก ๆ ของช่างภาพในสายวีดีโอมืออาชีพ แต่ทางโอลิมปัสก็พยายามใส่ฟังก์ชั่นวีดีโอแบบจัดเต็มมาใน OM-D E-M1 Mark II มีการเน้นคุณภาพของวีดีโอมากขึ้น อย่างเช่น ความละเอียดสูง 4K Bitrate สูงสุดถึง 237 Mbps และยังมี OM-Log ที่สามารถเก็บ Dynamic Range ของภาพสำหรับช่างภาพที่ต้องการนำวีดีโอไปเกรดสี และจุดที่ได้เปรียบกล้องจากค่ายอื่นมากๆคือระบบกันสั่นที่ดีที่สุดในตลาด ช่วยให้สามารถ Handheld ได้แบบไม่ง้อ Gimbal ช่วยลดภาระและทำให้ workflow ง่ายขึ้น

เราลองมาสังเกตุอีกนิดตรงช่วงปลายปี 2018 ที่มีการจัดเซ็ต และ ทำราคาโปรโมชั่น ที่ไม่รู้ว่าทางโอลิมปัสตั้งใจ หรือ บังเอิญที่จะขาย Olympus E-M1 mark ii ช่วงปลายปีหรือป่าว ซึ่งมีการจัดชุดเหมือนกันเปะ และ ราคาลดลงมาเยอะมาก เมื่อเทียบ 2018 กับ 2019 ราคาลดลงมา 20000 กว่า ซึ่งน่าสนใจมากเลย
สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่าง คือ เลนส์ M.Zuiko ED 12-40mm F2.8 Pro ที่เอามาประกบจัดชุดกับกล้อง เลนส์ตัวนี้เป็นเลนส์เกรดโปร ตัวท็อปของโอลิมปัส เมื่อเทียบระยะกับฟูลเฟลม ก็เทียบเท่ากับระยะประมาณ 24-70mm F2.8 ราคาเลนส์ระยะนี้ หลาย ๆ คนก็คงรู้ว่ามันมีราคาสูงมาก

ซึ่งแค่เลนส์ของโอลิมปัสเกรดโปรตัวนี้ ราคาขายปกติ ณ ปัจจุบัน ของเลนส์ตัวนี้เมื่อรวมกับโปรโมชั่นในแต่ละเดือนก็จะอยู่ราว ๆ ประมาณ 20000+ ถึง 30000+ ซึ่งถ้าใครซื้อเป็นเซ็ตไปแล้ว เอาเลนส์ไปขายแยกก็พอจะได้ราคาดีอยู่
จากความน่าสนใจหลายอย่าง ทำให้กล้องระดับเรือธงของ Olympus คนทั่วไปสามารถเอื้อมถึงได้ไม่ยาก ลูกค้าเก่าของ Olympus ก็ได้มีโอกาสอัพเกรดขึ้นไปใช้เทคโนโลยีระดับสูงขึ้นได้ง่ายขึ้น ส่วนลูกค้าใหม่ก็สามารถกระโดดขึ้นไปซื้อกล้องระดับสูงได้เลย แล้วเราจะซื้อกล้องตัวนี้แบบคุ้มกว่านี้ได้ยังไง เราไปดูแนวทางการซื้อกันเลย
แนวทางการซื้อ Olympus E-M1 mark ii ยังไงให้คุ้มในปี 2019-2020
Tip#1 ศึกษาโปรโมชั่นประจำเดือนจากทาง Olympus
อยากซื้อให้คุ้มที่สุดต้องใจเย็น ติดตามโปรโมชั่นทุกเดือน รอดูว่าจะมีการจับคู่เลนส์ตัวไหนมาให้ หรือ มีของแถมอะไรมาให้ในชุดหรือป่าว ก่อนเข้ามาสอบถามกับพนักงานขายเพิ่มเติมกับหน้าร้าค้าตัวแทนจัดจำหน่าย
Tip#2 สังเกตของแถมและเลนส์ที่พ่วงขายมาในชุด
ถ้าในชุดมีจับคุู่เลนส์ตัวไหนมา ลองศึกษาข้อมูลราคาเลนส์ตัวนั้นเพิ่มเติม ในส่วนของราคาตลาด และ ราคาที่จะโปรโมชั่นของแต่ละร้าน ซึ่งจะไม่เหมือนกัน หากไม่ได้แถมเป็นตัวเลนส์ลองดูว่าในโปรโมชั่นแถมอะไรมาให้ จะเป็นแบต หรือ กริป ฯลฯ ก็ลองหาราคาตลาดดูครับ
ยกตัวอย่างโปรโมชั่น Olympus E-M1 mark ii + 12-40mm F2.8 pro
ราคาปกติ 76,990 บาท ราคาโปรโมชั่นประจำเดือน 59,990 บาท ขอไม่เอาเลนส์ 12-40mm F2.8 Pro ซึ่งราคาโปรโมชั่นในตลาด ณ ปัจจุบัน อยู่ที่ประมาณ 20000 กว่า ๆ ก็จะทำให้เราได้ราคาบอดี้กล้อง Olympus E-M1 mark ii ในราคาประมาณ 39,990 บาท
Tip#3 ขอต่อรองราคาโดยการขอยกเลิกของแถมและเลนส์ที่ติดมากับในชุด
พอเรามีข้อมูลมาประมาณหนึ่งแล้วก็ถึงจุดที่ไปต่อรองกับพนักงานขายแล้วครับ ซึ่งทางพนักงานขายก็จะมีข้อมูลโปรโมชั่นประมาณหนึ่ง ลองสอบถามพูดคุยดูว่า โปรที่เราเห็นมานี้ สามารถไม่เอาของแถม หรือ เลนส์ในชุดได้ไหม ลดได้เท่าไหร่ยังไง
Tip#4 สอบถามของแถมเพิ่มเติมจากร้านค้าตัวแทนจำหน่ายก่อนตัดสินใจซื้อ
พอจบดีลกันแล้ว ก่อนจะชำระเงินก็ลองสอบถามเพิ่มเติมไปว่าแต่ละร้านตัวแทนจัดจำหน่ายมีของแถมเพิ่มเติมจากทางร้านให้ไหม จะได้ความคุ้มค่าสูงที่สุด สบายใจได้ของคุ้ม ๆ กลับบ้านกันไปนะครับ
หากทำตามขั้นตอนดังกล่าวนี้ เราจะได้กล้อง Olympus E-M1 mark ii ในราคาที่ถูกที่สุด และ คุ้มค่าที่สุด แต่ขอบอกก่อนนะครับ เทคนิคการซื้อที่บอกไปดังกล่าว จะเหมาะสำหรับคนที่ใช้กล้อง Micro four-third มาก่อน และ มีเลนส์ประมาณหนึ่งแล้วอยากอัพเกรดบอดี้ให้ดียิ่งขึ้น แต่ถ้าหากยังไม่เคยมี กล้อง หรือ เลนส์ Micro four-third มาก่อนเลย ก็ขอแนะนำให้ซื้อเซตโปรโมชั่นที่ทาง Olympus จัดมาให้ก็ถือว่าคุ้มค่ามาก ๆ แล้วครับ เหตุผลเพราะว่าเลนส์ของ Olympus ที่ให้มากับในชุดค่อนข้างมีราคาแยกขายค่อนข้างสูง และ คุณภาพค่อนข้างดีมาก เมื่อใช้ร่วมกับตัวกล้องของโอลิมปัสเอง ถ้าไปซื้อแยกจะแพงมากเลย
ความคุ้มค่าที่กล้องเซนเซอร์ใหญ่ ให้คุณไม่ได้ แต่ Olympus E-M1 mark ii มอบให้คุณได้
1.บอดี้กล้อง ขนาดเลนส์ เล็ก เบา ดีต่อสุขภาพร่างกายจะแบกไปไหนก็สบาย

จากภาพจะเห็นว่าขนาดกล้องของ Olympus เป็นจุดแข็งอย่างหนึ่งที่หลาย ๆ คนชื่นชอบ เพราะมีน้ำหนัก เบา กระทัดรัด พกพาไปเที่ยวก็สะดวกสบาย ไม่หนักจนเสียสุขภาพร่างกาย หลายคนที่อายุเริ่มเยอะก็คงชื่นชอบในจุดนี้ หรือ คนที่ใช้กล้องมาหลายค่ายก็จะชอบความเล็กเบา ซึ่งเอกลักษณ์นี้ หลาย ๆ เจ้าก็พยายามออกสินค้าตัวใหม่มาให้เล็กเบา แต่ก็ติดข้อจำกัดในเรื่องของเซนเซอร์ที่ใหญ่

2.ต้นตำหรับระบบกันสั่น 5 แกนขั้นเทพ นิ่งจนสามารถ Handheld ได้ทั้งภาพนิ่งและวีดีโอ ไม่ต้องใช้ขาตั้งกล้องและไม้กันสั่น
ต้นตำหรับระบบกันสั่น 5 แกน ในไทยเจ้าแรก ๆ เป็นอีกหนึ่งจุดแข็งที่ทุกวันนี้ น้อยรายนักที่จะมาสู่ความนิ่งของระบบกันสั่นกับ Olympus เนื่องจากจุดเด่นในเรื่องของขนาดเซนเซอร์ที่เล็ก เลยสามารถใส่ระบบกันสั่นไปได้ และ รองรับการสั่นไหวได้ดีกว่าเซนเซอร์ขนาดใหญ่ รองรับการสั่นไหวได้ถึง 5.5 stop และถ้าใส่กับเลนส์ Pro ของ Olympus ก็จะได้ถึง 6.5 stop เลย ใครที่นึกภาพไม่ออก ก็คือสามารถือถ่ายภาพนิ่งและวีดีโอได้ โดยไม่ต้องใช้ไม้กันสั่น หรือ ขาตั้ง ประมาณนั้นเลย

3.ระบบ Weather Seal กันละอองน้ำ กันละอองฝุ่น ที่ดีที่สุดในกล้องทุกรุ่นทุกค่ายในท้องตลาดปัจจุบัน ลุยได้ทุกสถานการณ์
กันละอองน้ำ ละอองฝุ่น ที่แตกต่างจากกล้องรุ่นอื่น ๆ อย่างเด่นชัด จะเห็นได้จาก User review หลาย ๆ เจ้ารวมถึงคลิปโฆษณาหลายตัวของ Olympus ที่ออกไปลุยทุกรูปแบบ ถ่ายรูปกลางฝนตกหนักได้ แบบชิว ๆ เอาน้ำสาดใส่ ไม่ต้องกลัวกล้องพัง เป็นระบบ Weather Seal ที่แข็งแกร่ง และ ดีเยี่ยมมาก ซึ่งกล้องรุ่นอื่นทำได้ไม่เทียบเท่า

4.ถึงจะออกมา 2 ปี แต่เฟิร์มแวร์ก็มีอัพเดทเข้ามาให้เรื่อย ๆ ไม่ทอดทิ้ง
ถึงจะเป็นกล้องที่ออกมานาน ประมาณ 2 ปีได้ ณ ปัจจุบันก็ยังเป็นกล้องที่ได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องโดยล่าสุด เมื่อเดือนกรกฎาคม 2562 ที่ผ่านมา ก็ได้ออก Firmware 3.0 ตัวใหม่ล่าสุดออกมาให้ ทำให้ศักยภาพการถ่ายภาพและวีดีโอดีขึ้นไปอีก แข่งขันกันกับกล้องใหม่ ๆ ที่ออกมาในปี 2019 ได้ ถ้าใครอัพเดทเฟิร์มแวร์ไม่เป็นก็ลองทำตามดูได้นะ แต่ถ้ากลัวว่าจะทำไม่เป็นก็สามารถให้ทางศูนย์ Olympus Thailand อัพเดทให้ได้แบบฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ
5.การถ่ายภาพในโหมด High Resolution Shot ที่จะทำให้ได้ภาพ 80 ล้านพิกเซล แบบ Raw file และ รวมไฟล์ให้ในตัวกล้องเลย คุณภาพไฟล์เทียบเท่าไฟล์กล้องเซนเซอร์ใหญ่ได้สบาย

หลายคนก็คงมีคำถามในใจ และ ข้อสงสัยว่า กล้องเซนเซอร์เล็กจะไปสู้กล้องเซนเซอร์ใหญ่ ๆ ได้ไง คุณภาพและขนาดไฟล์ภาพก็สู้กันไม่ได้อยู่แล้ว ใช่ครับ ! คุณคิดถูก ในเชิงของกายภาพ แต่รู้หรือไม่ว่า Olympus มีฟีเจอร์เด็ดที่ทำมาเพื่อสู้กับกล้องเซนเซอร์ใหญ่ ๆ ได้ มันถูกเรียกว่า ” การถ่ายแบบ High Resolution Shot ” การถ่ายภาพโดยใช้เทคโนโลยีซอฟแวร์เข้าช่วย แต่ต้องบอกเลยครับว่าไฟล์ภาพที่ได้มา ดีงามมาก ๆ หลักการคือ ตัวกล้องจะถ่ายภาพหลาย ๆ ภาพมาซ้อนกัน จะเก็บทั้งส่วนมืด ส่วนสว่าง ส่วนที่เราโฟกัสทุกจุดที่เกิดขึ้นมาซ้อนกัน และ จะได้ไฟล์ภาพขนาด 80 ล้านพิกเซล ซึ่งสามารถถ่ายแบบ Raw file ได้ ตัวกล้องจะรวมไฟล์ให้เองในกล้องเลย สะดวกดี ซึ่งเป็นไฟล์ที่ได้จะคุณภาพสูสีกับกล้องเซนเซอร์ขนาดใหญ่ แต่ก็อาจจะมีคนคิดว่ากล้องเซนเซอร์ใหญ่ก็ถ่ายมาแล้วเอามารวมอีกทีก็ได้ ในส่วนนี้ก็ทำได้ครับ แต่ในปัจจุบันกล้องที่ในตลาดส่วนใหญ่ก็จะต้องพึ่งการรวมภาพในโปรแกรมคอมพิวเตอร์ สำหรับคนที่ไม่ค่อยชอบ แต่งภาพรวมภาพผ่านโปรแกรมก็คงไม่ค่อยสะดวก ถ้าอยากจบหลังกล้อง Olympus E-M1 mark ii ก็ตอบโจทย์ให้ได้เลย
เข้าไปดาวโหลดไฟล์ภาพขนาดจริงมาลองเล่นกันได้ High Resolution Shot by Olympus E-M1 mark ii

การถ่ายในที่แสงน้อย Olympus E-M1 mark ii ก็สามารถถ่าย Low light AF -6EV ได้ ซึ่งจุดเด่นของกล้อง format เล็กอย่างหนึ่งคือระบบโฟกัสสามารถทำได้รวดเร็วและสามารถโฟกัสได้ในที่แสงน้อยมากๆ E-M1 Mark II สามารถโฟกัสได้ที่แสงน้อยเพียง -6EV หรือเทียบได้กับแสงจากพระจันทร์ครึ่งดวงไม่มีแสงไฟอะไรช่วยเลย

กล้องตัวนี้มี Dynamic Range ดีที่สุดในกลุ่มกล้อง micro 4/3 และเพิ่มสูงขึ้นอีกร่วม 2 stop ในโหมด High-resolution Shot เทียบชั้นกล้อง Full-Frame แนวหน้ารุ่นล่าสุดได้สบาย ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้จากภาพด้านล่างจากเวปไซต์ photonstophotos.net ถึงจะมีข้อจำกัดในการใช้ขาตั้งกล้องและ ISO สูงสุดที่สามารถใช้ได้ในโหมดนี้เพียงแค่ 1600 แต่ในหลายๆสถานการณ์ก็ช่วยให้เราได้ภาพคุณภาพสูงโดยที่ยังคงความสะดวกสบายในการพกพาและคล่องตัวจากระบบ micro4/3
อ่านบทความเพิ่มเติม Olympus E-M1 mark ii
- รีวิว Olympus OM-D E-M1 Mark II ไปถ่าย Sport ทดสอบโฟกัส Tracking
- ด่วน!! ดูก่อนใคร ทดสอบ ISO ของ Olympus OM-D E-M1 Mark II
- รีวิวทดสอบกล้องOlympus OM-D E-M1 Mark II โดนน้ำ โดนแป้ง โดนดิน โดนแช่แข็ง อึดแค่ไหน? ถามใจดู!!
6.หน้าจอพับมาด้านข้างเหมาะกับสายถ่าย Vlog ถ่ายวีดีโอ ถูกใจสิ่งนี้

หน้าจอ LCD พับออกด้านข้างช่วยให้สามารถควบคุมการถ่ายวีดีโอ การทำ Vlog ได้อย่างดี สะดวกมาก แถมยังมีช่องเสียบไมค์อีกด้วยนะ

7.ฟีเจอร์สุดเทพ Live Composite / Pro capture / Focus Stacking เทคโนโลยีที่ช่วยทำให้ถ่ายภาพระดับมืออาชีพได้

ระบบโฟกัสและถ่ายภาพนิ่งต่อเนื่องเร็วสูงสุด 18fps แบบ AFC โฟกัสต่อเนื่อง และ 60fps แบบ AFS เหมาะกับการถ่ายภาพที่มีการเคลื่อนไหวเร็ว รวมทั้งยังมีโหมด Pro-Capture ที่กล้องจะทำการเก็บภาพเมื่อกดชัตเตอร์ลงครึ่งหนึ่งและเก็บภาพอีกเมื่อกดชัตเตอร์ลงสุดรวม 14 ภาพ ทำให้ช่วยเพิ่มโอกาสการเก็บโมเม้นต์เสี้ยววินาทีที่ปกติทำได้ยาก

อีกหนึ่งฟีเจอร์เด็ด ระบบ Focus Stacking 15 ภาพ กล้องจะถ่ายภาพเก็บระยะชัดต่างๆสูงสุด 15 ภาพและรวมภาพจบในตัวกล้อง ในขณะที่กล้อง flagship รุ่นอื่นๆในท้องตลาดหลายรุ่นก็สามารถทำได้แต่ต้องรวมภาพในคอมพิวเตอร์ด้วยซอฟต์แวร์ภายหลัง ที่สำคัญ Focus Stacking ของ E-M1 Mark II ยังสามารถใช้ร่วมกับแฟลชได้โดยสามารถกำหนดระยะเวลาระหว่างแฟลชแต่ละครั้งเองได้
8.ฟีเจอร์วีดีโอก็ไม่เป็นสองรองใคร ทำได้เทียบเท่าแบรนด์ชั้นนำด้านวีดีโอ ด้วยไฟล์ Video OM-Log
สำหรับลูกค้าที่สนใจกล้อง หรือ เลนส์ของทาง Olympus สามารถเข้ามาสอบถามกับพนักงานของทาง ZoomCamera ได้ทุกสาขาเลยนะครับ พนักงานของเราจะนำเสนอสินค้าที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ามากที่สุด พร้อมโปรโมชั่นสินค้าที่คุ้มค่าที่สุดให้กับลูกค้าทุกท่าน
-
Olympus OMD E-M1 Mark II Digital Camera with 12-40mm f/2.8 Lens Kit (ประกันศูนย์ 1 ปี)฿119,990
-
Olympus OM-D E-M1 Mark II Body Silver Limited Edition (ประกันศูนย์)฿59,990
-
Olympus OM-D E-M1 Mark II Body Black (ประกันศูนย์)Product on sale฿57,743
฿76,990
Zoomcamera ตัวแทนจำหน่ายกล้องและอุปกรณ์ถ่ายภาพที่มีให้คุณเลือกมากที่สุดหาของที่ไหนไม่ได้มาหาได้ที่ ZoomCamera นะครับ
ส่ง EMS ทั่วประเทศ
ลูกค้าที่สนใจสั่งซื้อสินค้า สามารถติดต่อสั่งซื้อได้ผ่านช่องทางออนไลน์ของทางร้านได้ตลอด 24 ชม. หรือ โทรเข้ามาโดยตรงผ่านโทรศัพท์
แอดไลน์ ID:@ZoomCamera หรือ หน้าเว็บไซด์ ZoomCamera
086-349-7224 / 02-635-2330 ต่อ 0 (หยุดวันอาทิตย์)



