Olympus OM D E-M5 Mark II กล้องเก่าตัวคุ้มเน้น Vlog/Live ที่ดีที่สุดสำหรับงบจำกัด กล้องเก่าตัวคุ้มเน้น Vlog/Live ที่ดีที่สุดสำหรับงบจำกัด Leave a comment

Olympus OM D E-M5 Mark II กล้องเก่าตัวคุ้มเน้น Vlog/Live ที่ดีที่สุดสำหรับงบจำกัด

สำหรับการทำ Vlog หรือ Video Blog ทั้งบน YouTube ที่คนไทยนิยมกันมากขึ้นกว่าเมื่อก่อนเยอะ (ต้องบอกว่าเยอะมาก) แล้วก็บน Facebook ที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน สิ่งสำคัญที่ต้องมีนอกจากเรื่องของตัว Main Content เองก็ต้องเป็นเรื่องของอุปกรณ์ในการถ่ายทำ ซึ่งจะเป็นอะไรไปไม่ได้ก็คือพวกกล้องและไมโครโฟนนั่นแหละ

แต่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นคือกล้องทุกตัวราคาก็ไม่ได้น่ารักไปหมดครับ ส่วนตัวเริ่มต้นก็ไม่ได้ตอบโจทย์ทั้งหมด 100% ของสิ่งที่ Creater ต้องการไว้ นั่นก็เลยเป็นที่มาของบทความนี้ครับ เพราะว่ามีกล้องตัวนึงราคาเมื่อก่อนเคยสูงแต่กลับปรับราคาให้เหมาะกับปัจจุบันเลยทำให้ราคาถูกลงมาก แต่ Solution ยังตรงกับ User ที่ต้องการกล้องสำหรับงาน Video และ Photo เป็นหลัก ตัวนั้นคือ Olympus OM-D E-M5 Mark II ครับ กล้องตัวอื่นก็มีเยอะแยะ ทำไมถึงมาแนะนำกล้องที่ออกมานานแล้วอย่าง Olympus OM-D E-M5 Mark II ตัวนี้ล่ะ

1. ตัวนี้มีทุกอย่างที่ต้องการสำหรับงาน Vlog

ในกล้อง Olympus OM-D E-M5 Mark II ถ้าเราดูจากความสามารถในส่วนของการถ่ายวีดีโอ กล้องตัวนี้จะตอบโจทย์แบบพอดีเป๊ะ ๆ เดี๋ยวไปดูทีละจุดกันครับว่ามีอะไรบ้าง

– รองรับวีดีโอแบบ Full HD ซึ่งมากพอสำหรับการทำคอนเทนต์ลง YouTube และ Facebook

– ความละเอียดตัวกล้อง 16 ล้านพิกเซล สามารถที่จะถ่าย High Resolution Shot ได้ที่ 40 ล้านพิกเซล ซึ่งโหมด High Resolution Shot นี่ Dynamic สู้กล้อง Full Frame บางรุ่นได้เลย และโหมด High Resolution Shot ยังได้ไฟล์ RAW มา Process ต่อได้ด้วยนะ

– ระบบโฟกัสที่เร็ว บน System ที่เล็ก ทำให้ประสิทธิภาพการโฟกัสแม่นยำมาก

– ระบบกันสั่นที่ไว้ใจได้ คือ Olympus เก่งเรื่องการทำระบบกันสั่นมาตลอด ในรุ่นนี้ถ้ากันสั่นจะเป็นรองก็แค่ Olympus OM-D E-M1 Mark II ตัวเดียว แต่ใน E-M5 Mark II ก็ดีมากพอที่จะเดินถือเปล่า ๆ แบบไม่ต้องใช้ Gimbal Stabilizer เลย

– มีช่องเสียบไมโครโฟนและหูฟังพร้อมสรรพภายในตัว เหมาะกับการ Vlog และทำการ Monitor เสียงได้ทันที

– บอดี้เป็น Weather Sealed กันน้ำกันฝุ่น ลุยได้ทุกที่

– สามารถทำงานร่วมกับเลนส์ Olympus M.Zuiko Pro ได้สบาย ๆ

– กล้องตัวนี้ยังเป็นรุ่นปัจจุบันของ Olympus OM-D E-M5 Series

เพราะงั้นกล้องที่มีความสามารถครบเครื่องแบบนี้ในช่วงราคานี้แทบไม่มีแล้วครับ เลยทำให้ Olympus OM-D E-M5 Mark II เป็นตัวเลือกที่ค่อนข้างดีมาก ๆ ตัวนึงเลย

2. มีพอร์ตเชื่อมต่อ Mic และ หูฟังให้ครบ

สิ่งที่จำเป็นอย่างมากสำหรับกล้องวีดีโอและต้องมีคือช่องต่อ Microphone และ Headphone (หูฟัง) เพราะอะไร เพราะการที่เราถ่ายวีดีโอเราต้องการคุณภาพเสียงที่ดีกว่าไมโครโฟนที่มาจากตัวกล้อง ตัวกล้องต้องรองรับการเชื่อมต่อไมโครโฟนอื่น ๆ ด้วย ดังนั้นการมีพอร์ทเชื่อมต่อจึงเป็นสิ่งสำคัญ

นอกจากนี้พอร์ทหูฟังก็สำคัญเหมือนกันเพื่อใช้ในการมอนิเตอร์หรือการฟังเสียงสภาพแวดล้อมจริง ๆ ที่กล้องรับเข้ามา จริง ๆ การฟังเสียงจากหน้างานนอกจากจะช่วยให้เราได้ยินสภาพเสียงจริงแล้วยังลดปัญหาที่เกี่ยวกับการบันทึกเสียงด้วย เช่น เสียงไม่เข้า เราสามารถรู้ได้จากการฟังเลย หรือเสียงแทรกที่เกิดจากอุปกรณ์บันทึกเสียง เราสามารถรับรู้ได้ระหว่างที่ทำการบันทึกเลย ถ้าเกิดปัญหาเราสามารถแก้ตรงนั้นได้เลย

แล้วกล้องรุ่นอื่นไม่มีพอร์ทไมค์โครโฟนและหูฟังเหรอ? คำตอบก็คือกล้องที่มีพอร์ทไมโครโฟนจะเป็นกล้องระดับ Semi-Pro ขึ้นไป แล้วยิ่งมีทั้งพอร์ทไมโครโฟนและหูฟังในบอดี้เดียวจบ แทบหาไม่ได้ง่าย ๆ ในกล้องระดับกลางเลย ส่วนใหญ่จะกล้องระดับโปรเท่านั้น ซึ่งราคาสูงมาก แต่ Olympus OM-D E-M5 Mark II จบประเด็นนี้ได้เลยเพราะมีให้ครบหมด

3. ระบบกันสั่นที่ดีพอจะไม่ต้องใช้ Gimbal ในบางงานเลยก็ได้

สิ่งที่ Olympus ทำได้ดีโดยตลอดคือระบบกันสั่นของตัวกล้องที่สามารถชดเชยการสั่นไหวได้ดีจนสามารถที่จะถ่ายวีดีโอแบบนิ่ง ๆ ได้โดยที่ไม่ต้องใช้ Gimbal คำถามคือใช้ Gimbal Stablizer ไม่ดีเหรอ? คำตอบคือมีใช้ก็ดีแหละ แต่ว่าความคล่องตัวในการทำคอนเทนต์ก็หายไปมาก และเพิ่มต้นทุนการผลิตคอนเทนต์เราด้วย รวมถึงเราต้องจัดเตรียมกระบวนการถ่ายทำที่ละเอียดมากขึ้นไปอีก

แต่จะดีแค่ไหนถ้าเราสามารถใช้กล้องถือด้วยมือถ่ายวีดีโอโดยที่กล้องยังนิ่งอยู่ Olympus OM-D E-M5 Mark II ทำตรงนี้ได้เลยครับ โดยที่ไม่ต้องกังวลเรื่องการสั่นไหวของกล้อง

4. System เล็ก ขนาดเล็ก น้ำหนักเบา ตั้งแต่บอดี้ ไปจนถึงระบบเลนส์

กล้อง Olympus OM-D E-M5 Mark II เป็นกล้อง Mirrorless ที่มีเซ็นเซอร์ขนาด Micro 4/3 ซึ่งเซ็นเซอร์จะมีขนาดเล็กลงมาหน่อยเมื่อเทียบกับ APS-C และ Full Frame ซึ่งข้อดีของระบบเล็กคือ ทำให้พวกเลนส์มีขนาดเล็กลง บอดี้มีขนาดเล็กลง น้ำหนักทั้งบอดี้และเลนส์จะเบา ซึ่งจะมีข้อดีต่าง ๆ ตามมาหลายอย่าง

 

– การถ่ายงานที่คล่องตัวมากขึ้น เพราะว่าน้ำหนักเบา ทั้งพวกเลนส์และบอดี้

– การเดินทางที่ง่ายขึ้น เพราะน้ำหนักเบา กินพื้นที่กระเป๋าน้อยเมื่อเทียบกับกล้อง System ที่ใหญ่

– สามารถพกพาเลนส์หลากหลายระยะไปได้มาก โดยใช้กระเป๋าเดิม

– เวลาที่ถ่ายทำในที่สาธารณะ อุปกรณ์ไม่ดูอลังการน่ากลัว สามารถถ่ายทำได้ง่าย ไม่ตกเป็นเป้าสายตาของแวดล้อม

5. Weather Sealed กันน้ำ กันฝุ่น ยังเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับคนที่ทำคอนเทนต์หลากหลายพื้นที่

พวก Weather Sealed มีประโยชน์ยังไง? เวลาที่เราถ่ายในพื้นที่ ที่มีความชื้นอย่างทะเล หรือภูเขา ช่วงเช้า ๆ หมอกลง จริง ๆ พวกนี้มีความชื้นอยู่พอสมควรครับ บอดี้ที่กันน้ำกันฝุ่นละอองจะทนต่อสภาพแวดล้อมพวกนี้เยอะกว่า โดยเฉพาะสำหรับคนที่เดินทางไปต่างประเทศจะเจอสภาพอากาศที่แตกต่างจากประเทศไทย ซึ่งกล้องแบบ Weather Sealed จะสามารถลุยแวดล้อมที่แตกต่างออกไปได้ดีกว่ามากครับ ซึ่งความสามารถนี้จะมีเฉพาะในกล้องระดับกึ่งโปรขึ้นไปเท่านั้น

 

6. ระบบโฟกัสที่รวดเร็ว จับภาพใบหน้าได้อย่างชัดเจน แม่นยำ

ออโตโฟกัสของ Olympus OM-D E-M5 Mark II ตัวนี้เรียกได้ว่าอยู่ในระดับต้น ๆ ที่โฟกัสแม่น จุดโฟกัสมี 81 จุด และสามารถเลือกโฟกัสแบบกลุ่มได้ 9 กลุ่ม มีโหมดตรวจจับใบหน้าให้ด้วย เวลาที่เราถ่าย Vlog โหมดเหล่านี้จะช่วย Tracking ใบหน้าของเรา ทำให้การโฟกัสที่วีดีโอของเรา ถูกจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าเรานั่นเองครับ ทั้งหมดนี้ก็เป็นความสามารถหลัก ๆ ที่ทำให้ Olympus OM-D E-M5 Mark II เป็นกล้องที่เหมาะกับการถ่าย Vlog มากในราคาที่คุ้มค่ามากสำหรับช่วงนี้

7. กล้องตัวนี้ใช้ Live ได้เพราะมีคำสั่ง Clean HDMI ที่จำเป็นต่อการใช้ Live

ในการ Live ไม่ใช่ทุกกล้องจะทำได้ เนื่องจากตัวกล้องต้องรองรับคำสั่งหนึ่งที่มีความสำคัญมากคือ Clean HDMI คำสั่งนี้จะทำให้การแสดงผลค่า Setting ต่าง ๆ ไม่ถูกส่งไปยังหน้าจอที่เราต้อง Live จริง ดังนั้นกล้องที่มีความสามารถนี้มักจะอยู่ในกล้องระดับโปรเท่านั้น สำหรับช่วงราคานี้มีแค่ 2 ตัวที่ทำได้คือ Olympus OM-D E-M5 Mark II และ Panasonic Lumix G7 ซึ่งฟังก์ชั่นสำหรับ G7 ไม่ได้ครอบคลุมเท่ากับ Olympus E-M5 Mark II

ถ้าหากกล้องไม่รองรับ Clean HDMI เมื่อนำไปใช้ Live จะเกิดอะไรขึ้น ในหน้าจอ Live ของเราจะแสดงค่า info หลายอย่างมากอยู่ในหน้าจอ เหมือนที่เราดู Setting ของกล้องไปพร้อมกัน Live เลย ซึ่งนั่นคือสิ่งสำคัญของการ Live ต้องมี Clean HDMI ครับ

 

ถ้าหากกล้องไม่รองรับ Clean HDMI เมื่อนำไปใช้ Live จะเกิดอะไรขึ้น ในหน้าจอ Live ของเราจะแสดงค่า info หลายอย่างมากอยู่ในหน้าจอ เหมือนที่เราดู Setting ของกล้องไปพร้อมกัน Live เลย ซึ่งนั่นคือสิ่งสำคัญของการ Live ต้องมี Clean HDMI ครับ

 

Leave a Reply

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

Save