
กราบสวัสดีเพื่อนๆที่ติดตาม Content จากทาง Zoomcamera ผ่านทางช่องทาง Facebook และ/หรือ Youtube ด้วยนะครับ หากพูดถึงกล้องสำหรับช่างภาพสายท่องเที่ยงกึ่งสายผจญภัยนั้น เชื่อว่าเพื่อนๆหลายท่านน่าจะนึกถึงกล้อง Olympus อย่าง Olympus TG-6 ซึ่งเป็นกล้อง Compact ที่ถูกวางตำแหน่งเป็นกล้องสำหรับช่างภาพ Adventure ด้วยความสามารถ ไม่ว่าจะป้องกันน้ำ , ฝุ่น , ความเย็น , ความชื้น หรือ กันกระแทกจากที่สูงด้วยนั่นเอง ซึ่งวันนี้ทีมงาน Zoomcamera จะมาสรุปให้ฟังกันว่า เจ้า Olympus TG-6 มี Feature อะไรที่โดดเด่นบ้าง
สเปค : Olympus TG-6

– จอแสดงผลขนาด 3.0″ แบบ 3:2 ไม่รองรับระบบสัมผัส
– Sensor แบบ back-illuminated CMOS ขนาด 1/2.3″ พร้อมความละเอียด 12 Megapixels
– Mode การโฟกัส >> S-AF / Manual AF / AF Tracking / Super Macro
– จำนวนจุดโฟกัส 25 จุด
– รองรับระบบกันสั่น เคลมสูงสุดที่ 2.5 Stops
– โครงสร้างชิ้นเลนส์ 9 ชิ้น 7 กลุ่ม
– ทางยาวโฟกัสเทียบเท่า 25 – 100mm. รองรับการ Zoom แบบ Optical สูงสุดที่ 4x
– ค่ารูรับแสงกว้างสุดที่ F2 ( Wide ) และ F4.9 ( Mid – Tele )
– รองรับการ Macro โดยใน Mode ดังกล่าวสามารถ Focus ได้ใกล้สุดที่ 0.1m.
– ช่วงค่าความไวแสง 100 – 1600
– รองรับการถ่ายภาพต่อเนื่องสูงสุด 20fps
– รองรับ Feature : Focus Bracketing
– รองรับ Feature : Live Composite
– รองรับการถ่าย Video สูงสุดที่ 4K 30p
– รองรับการถ่าย Video แบบ High Speed สูงสุดที่ FHD 120p
– รองรับการเชื่อมต่อผ่าน WIFI , microUSB , microHDMI
– รองรับ Waterproof , Dustproof , Freezeproof , Shockproof , Crushproof
– ระบบ Sensor ตรวจจับต่างๆ อาทิ GPS (GLONASS,QZSS), compass, manometer, temperature sensor, Acceleration sensor
– แบตเตอรี่ LI-92B สามารถถ่ายต่อเนื่อง สูงสุด 340 ภาพ
สิ่งที่น่าสนใจใน Olympus TG-6

– กล้องพันธุ์อึด เกิดมาแกร่ง แรงสุดในสาย Adventure

คงไม่แปลกใจเท่าไรนัก หากจะให้คำนิยามนี้กับ Olympus TG-6 เพราะ ใครจะไปเชื่อว่ากล้อง Compact ที่มาพร้อม Sensor ขนาด 1/2.3″ นั้น จะมาพร้อมกับความสามารถที่เติมเต็มให้กับเหล่า Adventure ไม่ว่าจะเป็น
– Waterproof หรือ การดำน้ำลึก โดย สามารถดำน้ำลึกได้ในระดับ IPX8
– Dustproof หรือ การป้องกันฝุ่งละออง สามารถป้องกันได้ในระดับ IP6X
– Freezeproof หรือ การป้องกันไอเย็น สามารถป้องกันได้ที่อุณหภูมิ -10 องศา
– Crushproof หรือ การกระแทก สามารถต้านทานได้มากถึง 100 kgf
– Shockproof หรือ การตกจากที่สูง สามารถป้องกันได้ในระดับความสูง 2.1 m.
ซึ่ง Feature ดังกล่าว แทบจะทำให้เจ้า Olympus TG-6 นั้น เหมาะสำหรับช่างภาพสาย Adventure ได้อย่างลงตัว ด้วยการออกแบบให้มีขนาดเล็ก พกพาสะดวก แถมไม่กลัวต่อสภาวะแวดล้อมต่างๆ ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสในการได้ภาพในรูปแบบอื่นๆที่ฉีกแนวไปจากเดิมได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้กระจกเลนส์ยังมาพร้อม Anti – Fog หรือ ป้องกันอาการฝ้า ยามที่เราใช้งานนั่นเองครับ
– Macro สุดเฉียบ ด้วยระยะ Focus 0.1m.

โดยปกติการถ่ายภาพในลักษณะ Close-up หรือ Macro นั้น หากเป็นกล้อง DSLR / Mirrorless คงจำเป็นจะต้องหาเลนส์ Macro มาใช้งาน เนื่องจากเลนส์ Macro จะมีความสามารถในการ Close-Up ที่เข้าใกล้ Subject ได้มากกว่าเลนส์ทั่วๆไป รวมถึงกำลังขยายจะมากตามไปด้วยนั่นเองครับ ซึ่งที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ถูกรวมอยู่ใน Olympus TG-6 ที่มีขนาดเล็ก กะทัดรัด เท่านั้นครับ แม้จะเป็นเลนส์ติดกล้อง แต่มี Mode Super Macro ที่ช่วยให้เราสามารถ Focus ได้ใกล้สุดที่ 0.1 m. กันเลยทีเดียวครับ แม้ว่าจะไม่ใช่เลนส์ Macro แท้ๆ แต่ก็เพียงพอต่อการใช้งานในลักษณะของกล้อง Compact ครับ

นอกจากความสามารถในการถ่าย Macro ได้ใกล้ด้วย Mode Super Macro แล้วนั้น เจ้า Olympus TG-6 ยังมี Mode Macro ให้ลือกใช้งานตามสถานการณ์ได้อีก 4 Mode ด้วยกันครับ

– Mode Microscope
โหมดนี้มีความสามารถในการถ่ายภาพมาโครได้อย่างน่าอัศจรรย์ โดยสามารถเข้าใกล้วัตถุโดยห่างจากหน้าเลนส์เพียงแค่ 1 ซม. เมื่อใช้งานผ่านการซูมเข้าไปที่วัตถุซึ่งแสดงผลเหมือนใช้งานผ่านกล้องไมโครสโคป (กำลังขยายเทียบเท่า35mm: 7 เท่า)
– Mode Microscope Control
แฟคเตอร์กำลังขยายจะถูกแสดงผลไปที่หน้าจอ เมื่อวัตถุอยู่ห่างจากหน้าเลนส์ที่ 1ซม. และสามารถเปลี่ยนมาใช้กำลังขยายระหว่าง 1x, 2x, และ 4x ด้วยการสัมผัสหน้าจอ ฟีเจอร์นี้ช่วยมอบประสบการณ์ถ่ายภาพและการสังเกตราวกับใช้งานผ่านกล้องจุลทรรศน์ แฟคเตอร์กำลังขยายสามารถตั้งค่าได้สูงสุดถึง 44.4เท่า* (กำลังขยายที่ใช้ในการถ่าย: 28x)
– Mode Focus Stacking
เป็นโหมดสำหรับถ่ายภาพที่ให้ความชัดลึกสูงโดยการถ่ายภาพหลายภาพด้วยตำแหน่งโฟกัสที่ต่างกัน ซึ่งช่วยให้คุณสามารถถ่ายภาพมาโครในตำแหน่งโฟกัสจากด้านหน้าไปจนถึงด้านหลัง ซึ่งสามารถตั้งค่าได้ตั้งแต่ 3 ถึง 10 ภาพ ทั้งนี้จำนวนภาพที่รวมกันน้อยลงย่อมส่งผลให้เวลาในการรวมภาพสั้นลงไปด้วยและจำนวนภาพที่มากขึ้นทำให้ระยะการโฟกัสกว้างขึ้น
– Mode Focus Bracketing
เพียงกดชัตเตอร์หนึ่งครั้งก็สามารถถ่ายภาพได้สูงสุดถึง 30 ภาพ พร้อมการขยับจุดโฟกัสทีละนิดทุกๆภาพในโหมด Focus Bracketing เพราะความน่าสนใจของภาพมาโครนั้นขึ้นอยู่กับตำแหน่งโฟกัสในภาพด้วย ซึ่งในโหมด Focus Bracketing สามารถเลือกช็อตที่ดีที่สุดซึ่งขึ้นอยู่กับจุดโฟกัสเมื่อเช็คภาพที่ถ่ายไปแล้ว โดยระยะห่างของจุดโฟกัสสามารถปรับได้สามระดับ (กำลังขยายภาพเทียบกับกล้อง 35mm เป็น: 7x)
– รองรับการถ่าย Video ทั้ง 4K และ High Speed
แม้เจ้า Olympus TG-6 จะเป็นเพียงกล้อง Compact แต่ยังมาพร้อมความสามารถในการถ่าย Video ด้วยเช่นกัน โดยเจ้า Olympus TG-6 นั้น สามารถถ่าย Video ความละเอียดสูงสุดอย่าง 4K ได้ที่ 30p กันเลยทีเดียวครับ หากตั้งเป็น Video FHD จะได้สูงสุดที่ 60p หรือ หากตั้งเป็น Video High Speed จะได้สูงสุดที่ 480fps แม้ Feature เหล่านี้แลดูจะเป็น Feature ที่ค่อนข้างจะ Basic ไปบ้าง แต่ด้วยความเป็นกล้องสาย Adventure ที่พร้อมจะเปิดโลกการถ่าย Video ในรูปแบบใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็น การถ่าย Video ใต้น้ำ ที่แน่นอนว่า กล้อง DSLR / กล้อง Mirrorless หรือ กล้อง Video คงไม่สามารถมีโอกาสลงไปเก็บภาพได้อย่างง่ายๆนั่นเองครับ
– ของสามัญประจำค่าย : Live Composite
หากพูดถึงค่าย Olympus เชื่อว่าเพื่อนๆ น่าจะนึกถึง Feature อย่าง Live Composite ที่เป็น Feature สามัญประจำค่าย Olympus โดย Feature นี้จะเสมือนเป็นการนำส่วนที่สว่างที่เพิ่มเข้ามาในเฟรมภาพ มาทำการ Merge / Blend โดยจะทำการซ้อนไปเรื่อยๆจนกว่าผู้ใช้งานจะพอใจ ซึ่ง Feature นี้ จะทำให้เราสามารถสร้างภาพแนว Long Exposure ได้โดยง่าย หรือ ภาพแนว Star Trail ได้ง่ายกว่าการถ่ายทีละภาพ แล้วมาทำการ Blend ภายหลังนั่นเองครับ อีกทั้งได้ไฟล์ JPG และ RAW เพื่อนำไป Process ต่อภายหลังด้วยเช่นกันครับ
ทั้งนี้ราคาของ Olympus TG-6 ในประเทศไทยในยังไม่ได้มีการประกาศอย่างเป็นทางการ ทั้งนี้สำหรับเพื่อนๆที่สนใจกล้องรุ่นดังกล่าว สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของ Olympus TG-6 ได้ที่ Facebook ของ Zoomcamera หรือ ช่องทางข่าวสารผ่านทาง Line ได้ด้วยเช่นกันครับ
*** สอบถามเพิ่มเติม ***
inbox : http://www.facebook.com/messages/zoomcamera
02-635-2330 ต่อ 0 / 083-067-7677 (หยุดวันอาทิตย์)
สาขาสีลม 02-635-2330-1 / 080-271-2772
สาขาเดอะมอลล์งามวงศ์วาน 02-951-8597 / 085-937-0123
สาขาเมกาบางนา 02-105-1926 / 086-554-1919
สาขาเดอะมอลล์บางแค 02-454-9598 / 084-033-0498
สาขาฟอร์จูนทาวน์ 02-642-1291 / 083-068-2775
สาขา Central Festival เชียงใหม่ 052-068-787 / 096-878-4896
สาขา Central Westgate 02-060-4362 / 097-063-4328
สาขา Central Festival หาดใหญ่ 095-702-7585
สาขา Fasion Island 02-002-3894 / 096-901-7825
สาขา Siam Paragon 02-129-4765/096-901-7826