Nikon เปิดตัว J2 แล้ว กล้อง mirrorless รุ่นอัพเดตในตระกูล Nikon 1 ต่อจาก Nikon 1 J1 และ V1 J2 มีการปรับปรุ่งต่อจาก J1 นิดหน่อยในส่วนของความละเอียดหน้าจอที่สูงขึ้นและเพิ่มโหมดที่ปุ่มเลือกโหมด (mode dial) ด้านหลังกล้องเข้ามาอีกโหมดนึงก็คือ Creative Mode ซึ่งเอามาจากกล้องคอมแพคตระกูล Coolpix นอกจากนั้นก็มีเรื่องของสีที่มีเพิ่มมากขึ้นและมีสีใหม่เช่นสีส้มเพิ่มมา ราคาเปิดตัวในอเมริกาอยู่ที่ $549
จุดหลักของ Nikon J2 ในเรื่องของโหมดใหม่ Creative Mode ซึ่งเอากันจริงๆแล้วก็ไม่ใช่เรื่องใหม่อะไร โหมดแบบนี้มีอยู่ในกล้อง Coolpix อยู่แล้ว เพียงแต่ใน Nikon J1 ไม่ได้ใส่มาให้ Creative mode คือโหมดอัตโนมัติต่างๆที่ออกแบบมาเพื่อตกแต่งภาพแบบแปลกๆหรือใช้ในเฉพาะสถานการณ์ หรือเรียกทั่วๆไปว่า Filter Effect หรือ Scene Mode นั่นเอง โดยโหมดนี้จะเพิ่มมาบนแป้นหมุนเลือกโหมดด้านหลังกล้องเลยตามรูป
Creative Mode แบ่งออกเป็น mode ย่อยๆ ประกอบด้วย
- Miniature Effect เห็นในกล้องรุ่นใหม่ๆทั่วๆไป ทำภาพเหมือนเมืองของเล่น อาจเรียกกันว่า Diorama, Toy Effect
- Selective Colors มีกันมาน้านนานแล้ว เลือกสีเด่นให้เด้งขึ้นมาในภาพ
- Soft เหมือนใส่ soft filter ภาพฝันๆ
- Backlight สำหรับถ่ายย้อนแสง ป้องกันหน้ามืด
- Night Landscape สำหรับถ่ายวิวกลางคืน
- Night Portrait สำหรับถ่ายคนและวิวกลางคืน
- Easy Panorama ถ่ายภาพพาโนรามาแบบลากกล้องและต่อภาพให้เองในตัวกล้อง
เห็นโหมดใหม่ใน J2 แล้วถึงกับอึ้ง นี่มัน นี่มัน เคยเห็นมากี่ปีแล้วเนี่ย
สเปกของ J2
- เซ็นเซอร์ CX format ขนาด 1 นิ้ว
- ความละเอียด 10.1 ล้านพิกเซล
- หน่วยประมวลผล EXPEED 3
- ความไวแสง ISO 100-3200 ปรับเพิ่มได้ถึง ISO6400
- มีฟังก์ชั่น Electronic Shutter ปรับได้ตั้งแต่ 30-1/16000 วินาที
- ถ่ายภาพต่อเนื่อง 10, 30, 60 ภาพต่อวินาทีในโหมด electronic shutter และ 5 ภาพต่อวินาทีในโหมดอื่นๆ
- บันทึกวิดีโอ Full HD
- จอมอนิเตอร์ความละเอียด 920,000 พิกเซล –> เพิ่มจาก J1 ที่ความละเอียด 460,000 พิกเซล
- 8 Creative Mode –> เดิม J1 ไม่มีโหมดนี้
- เมมโมรี่การ์ด SD, SDHC และ SDXC
- ขนาดตัวกล้อง 106 x 61 x 29.8 มม.
- น้ำหนัก 280 กรัม (รวมแบตเตอรี่) หรือ 237 กรัม (เฉพาะบอดี้ไม่รวมแบต)
ถึงสเปก Nikon J2 จะถอดแบบมาจาก J1 เกือบทั้งตาราง แต่ช้าก่อน J2 มีสีใหม่ๆเพิ่มเข้ามาอีกนะ
เลนส์ใหม่ 1 NIKKOR 11-27.5MM F/3.5-5.6
นอกจากสีใหม่แล้ว Nikon ยังเปิดตัวเลนส์ใหม่อีกรุ่นพร้อมๆกับ J2 ก็คือเลนส์ 1 NIKKOR 11-27.5MM F/3.5-5.6 เอ๊ะ มันต่างกับ 10-30mm ยังไงกัน ? ประเด็นแรกคือช่วงซูมมันเอิ่ม..มันแคบลง จากเดิม 10-30mm เมื่อเทียบกับมาตรฐานกล้อง full-frame 35mm ใช้ตัวคูณ 2.7X จะอยู่ที่ 27-81mm ถือว่าเป็นช่วงซูมมาตรฐานตั้งแต่กล้องฟิล์มและเลนส์คิททั่่วไป ส่วน 11-27.5mm จะอยู่ที่ 30-74mm ซึ่งแคบกว่า ระยะเทเลที่ 74 กับ 81mm คงไม่แตกต่างกัน แต่ที่ระยะไวด์ 30 กับ 27mm นี่อาจจะเห็นความต่างได้ชัดเจนอยู่บ้าง แล้วอย่างนี้มีอะไรดีขึ้น อย่างแรกรูปรับแสงสว่างขึ้นนิ๊สนึงจาก F3.8 เป็น F3.5 แต่แทบไม่มีผลในการใช้งานจริง จุดหลักที่ Nikon พยายามชูประเด็นคือ เลนส์ใหม่ 11-27.5mm ตัวนี้มีขนาดเล็กและบางกว่าตัวเก่า เหมาะอย่างยิ่งกับการพกพา ลองมาดูขนาดเทียบกันหน่อย
โอเคๆ เชื่อแล้วว่าเล็กลงจริง ว่าแต่เคยเห็นเลนส์ Panasonic Lumix X 14-42mm ที่เล็กกว่านี้อยู่แล้วนะ อืมมมก็จริง แต่ว่าตัวนั้นราคาเป็นหมื่นนา ตัวนี้ราคาประกบกับชุดคิทจะถูกลงกว่าชุดคิท 10-30mm ตัวเดิมซะอีก! แถมยังมีสีให้เลือกตามสีบอดี้ครบเลย
ราคา ราคา ราคา
มาดูเรื่องราคา Nikon J2 กันบ้าง ออกตัวก่อนว่าเป็นราคาประกาศเปิดตัวในอเมริกาและยุโรป ไม่ใช่ราคาในบ้านเราแต่อย่างใด และยังไม่รวมภาษีและค่าขนส่งอื่นๆ รวมถึงไม่ใช่ราคาของร้าน zoomcamera ด้วยนะเออ
ถ้าใครคิดว่า J2 ไม่เห็นจะมีอะไรน่าสนใจไปกว่า J1 ซักเท่าไหร่เลย แอดมินเห็นด้วย รวมทั้ง Nikon ก็คงคิดแบบนั้นเหมือนกัน และคงเป็นแผนการของ Nikon เองที่ต้องการให้ J2 จับกลุ่มลูกค้า consumer กว้างมากขึ้นโดยเน้นไปที่ลูกค้ากลุ่มกล้องคอมแพคแบบแอดวานซ์เป็นหลัก คงไม่ได้หวังกลุ่มที่ใช้ DSLR และจริงจังซักเท่าไรนัก ราคาที่เปิดตัวมาของ J2 ถูกกว่าตอน J1 เปิดตัวลงมาอีกด้วยซ้ำ ซึ่งผิดจากการเปิดตัวรุ่น replacement ทั่วๆไปซึ่งจะเปิดมาราคาเท่ากับรุ่นก่อน
- Nikon 1 J2 ชุดคิท 10-30mm ราคาเปิดตัวที่ $549.95 หรือประมาณ 17500 บาท
- Nikon 1 J2 ชุดคิท 10-30mm ที่ยุโรป ราคาเปิดตัวที่ €539 หรือประมาณ 20900 บาท
- Nikon 1 J2 ชุดคิท 11-27.5mm ที่ยุโรป ราคาเปิดตัวที่ €519 หรือประมาณ 20100 บาท
- เลนส์ 1 NIKKOR 11-27.5MM F/3.5-5.6 ราคาเปิดตัวอยู่ที่ $189.95หรือประมาณ 6000 บาท
- นอกจากนี้ยังมี housing สำหรับดำน้ำลึก 40m WP-N1 สำหรับ J1 และ J2 เปิดตัวมาที่ $749.95 หรือประมาณ (แพงกว่ากล้อง -.-“)
กำหนดวางขายในเดือนกันยายนนี้
ที่มา: dpreview.com, Nikon.com
บทความนี้เขียนเมื่อวันที่ 10/08/2012