Preview Canon EOS R5C | กล้อง Mirrorless สาย Cinema พร้อม Video 8K RAW 12-bit 1

review Canon EOS R5C กล้อง Mirrorless สำหรับงาน Video ระดับ Cinema ที่อัดแน่นด้วยฟีเจอร์ต่างๆที่ครบครันด้วย Base เดิมจาก EOS R5 เสริมด้วยความสามารถด้าน Video เพิ่มเข้ามา ทำให้เป็นกล้องอีกรุ่นที่สาย Cinema ล้วนจับตามองทีเดียว

Content ที่เกี่ยวข้อง

• รีวิว Canon EOS R5 ฉบับจัดเต็มในสิ่งที่คุณอยากรู้

Introduction | Canon EOS R5C

Gallery | EOS R5C

• 

• 

• 

• 

• 

• 

Canon EOS R5C vs Canon EOS R5 ต่างกันส่วนไหนบ้าง ?

อย่างที่ทราบกันดีกว่า ก่อนหน้านี้ทาง Canon ก็มีกล้อง Mirrorless Fullframe อย่าง EOS R5 ทำตลาดอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว แม้ว่าปัจจุบัน EOS R3 จะเป็น Flagship ที่วาง Segment ไว้สูงกว่าก็ตามที

การมาของ EOS R5C นั้น หากจะมองว่ามาทดแทน EOS R5 ก็คงจะไม่ถูกซะทีเดียว แม้ว่ารหัสเลขรุ่นจะเหมือนกันก็ตามที แต่ด้วยฟีเจอร์และสเปคภายใน มีหลายๆอย่างที่ Base เหมือนกัน และ บางอย่างมีใน EOS R5C เท่านั้น ซึ่งเรามาดูรายละเอียดกันว่า มีส่วนไหนที่แตกต่างกันอย่างมีนัยยะบ้าง

ดีไซน์ที่อ้างอิงกล้อง Cinema แต่คงขนาด Mirrorless

First Impression สำหรับ EOS R5C ต้องยอมรับว่า หากมองเฉพาะด้านหน้าเพียงอย่างเดียว อาจจะคิดว่าแตกต่างแค่ปุ่ม Shutter mี่เปลี่ยนเป็นสีแดงเท่านั้น แต่ความจริงแล้ว การดีไซน์ และ การวางปุ่มที่ดูจะมีความคล้ายคลึง กับกล้อง Canon C70 แต่ก็ยังคงมีความเป็นกล้อง Fullframe อยู่ ใช้เม้า RF เหมือนเดิมนั่นเอง

EOS R5C ติดตั้งพัดลมระบายความร้อน

• 

• 

นี่คือจุดที่แตกต่างที่สุดเลยก็ว่าได้ครับ แม้ว่าหน้าตาภายนอกจะมีความคล้ายคลึงกันอยู่บ้าง แต่ถ้าเพื่อนๆสังเกตดีๆ บริเวณด้านหลังบริเวณจอ LCD จะพบว่า EOS R5C จะมีการติดตั้งพัดลมระบายความร้อนไว้ ส่วนหนึ่งเพื่อให้สามารถนำไปใช้งานด้าน Video ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เพราะ เดิมที EOS R5 นั้น ยังพบอาการ Heat เมื่อมีการถ่าย Video ต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน ซึ่งถ้าเป็นการถ่ายงานในระดับ Production อาจจะทำให้งานสะดุดหรือติดขัดได้นั่นเอง

EOS R5C รองรับ 8K/30p 12-bit RAW สูงสุดที่ 8K/60p พร้อมปริมาณ bitrate ขนาดมหาศาล

เป็นที่ทราบกันดีว่า EOS R5 เป็นกล้อง Mirrorless Fullframe รุ่นแรกในท้องตลาด ณ เวลานั้น ที่รองรับการถ่าย Video 8K ได้ทันทีจากในกล้อง ซึ่งถือว่าฮือฮามาก ณ ขณะนั้น และ แน่นอนว่า Feature นี้ก็ถูกส่งต่อมายังกล้องรุ่นใหม่ด้วยเช่นกัน

ส่วน EOS R5C นั้น เมื่อเน้นความเป็น Video แบบจัดเต็ม แม้ฟีเจอร์จะคล้ายกัน แต่มีรายละเอียดปลีกย่อยที่ต่างกันแบบสาย Video ยิ้มเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น Video 8K/30p 12-bit RAW อีกทั้งยังรองรับ 8K/60p แบบ External ด้วยเช่นกัน ซึ่งในขณะที่ R5 เดิมๆ ทำได้สูงสุดเพียง 10-bit เท่านั้น

นอกเหนือจาก Video bit ที่แตกต่างแล้ว ปริมาณ bitrate ก็ถูกขยายเพิ่มขึ้นแบบเท่าตัวด้วยเช่นกัน โดย Video ระดับ 8K ใน EOS R5C จะมีปริมาณ bitrate มากถึง 2570 Mbps ( 59.94P ) และ 1290 Mbps ( 29.97P ) ซึ่งมากกว่า R5 ถึง 2 เท่าตัว ที่ขนาด Video เท่ากันเลยทีเดียว

EOS R5C เปลี่ยนมาใช้ Multi-Function Accessory Shoe

ถ้าเพื่อนๆที่ติดตามข่าวของ Canon มาโดยตลอด น่าจะพอทราบกันดีว่า ทาง Canon ได้มีการปรับเปลี่ยน Hotshoe ของกล้องให้มาเป็น Hotshoe แบบใหม่ หรือ ที่ใช้ชื่อว่า Multi-Function Accessory Shoe ซึ่งเป็น Hotshoe เฉพาะทางของ Canon ซึ่ง ณ เวลานี้ยังไม่ได้มีการเปิดเผยว่า Multi-Function Accessory Shoe ใน EOS R5C นั้น จะรองรับอุปกรณ์เสริมชนิดใดบ้าง

ฟีเจอร์ Canon EOS R5C

• กล้อง Mirrorless Fullframe RF-Mount
• Sensor ขนาด Fullframe มาพร้อมความละเอียด 45 Megapixel
• ชิพประมวลผล DIGIC X
• ติดตั้งพัดลมระบายความร้อนบริเวณด้านหลังของ Body
• Port ใหม่อย่าง Multi-Function Accessory Shoe
• จอ LCD แบบ Vari-Angle
• รองรับ Video 8K/60P Internal RAW แบบ Cinema RAW Light
• รองรับ Video 8K/30p 12-bit RAW ( 8K/60p แบบ external )
• รองรับ Video 8K แบบ HDR ( PQ/HLG )
• Video 4K แบบ Slowmotion แบบ 4:2:2 10-bit
• ฟีเจอร์ Timecode IN/OUT
• มีช่องเมมโมรี่การ์ดแบบ Dual Slot (CF-Express Type-B และ SD Card UHS-II)
• ราคาประมาณการ 4,500 us หรือ ประมาณ 150,000 บาท

ฟันธง !! EOS R5C เกิดมาเพื่อสาย Video อย่างแท้จริง

อยากที่ทราบกันดีว่า กระแสการถ่าย Video ในปัจจุบัน ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นระดับเริ่มต้นตลอดจนระดับซีเรียส และด้วยกล้อง Mirrorless ใน Generation ล่าสุด ก็เพียงพอต่อการใช้งานได้เป็นอย่างดี ไม่จำเป็นต้องพกกล้อง Video ที่มีขนาดใหญ่เหมือนในอดีตที่ผ่านมา ซึ่งแน่นอนว่า Canon EOS R5C รอการพิสูจน์ผลงาน ให้เป็นที่ประจักษ์ในวงการ Video บ้านเราอย่างแน่นอน

ลูกค้าที่สนใจสั่งซื้อสินค้า สามารถติดต่อสั่งซื้อได้ผ่านช่องทางออนไลน์ของทางร้านได้ตลอด 24 ชม. หรือ โทรเข้ามาโดยตรงผ่านโทรศัพท์

แอดไลน์ ID:@ZoomCamera หรือ หน้าเว็บไซด์ ZoomCamera
083-067-7677 / 02-098-9555 ต่อ 0 (หยุดวันอาทิตย์)