กล่องสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ที่เห็นนี้คืออุปกรณ์ที่เรียกว่า Video Switcher ใช้สำหรับรวมสัญญาณภาพซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นหากเราต้องการไลฟ์หลายกล้อง แต่ตามปกติแล้วเราจะไม่เห็นมันในขนาดเล็ก ๆ แบบนี้แน่นอน Switcher โดยทั่วไปขนาดประมาณครึ่งหนึ่งของ Laptop หรือใหญ่กว่านั้นแต่ไม่ใช่สำหรับ Switcher ที่เราเอามาให้ดูในครั้งนี้

DeviceWell HDS8102 เป็นสวิตเชอร์ที่เล็กพอจะกำไว้บนฝ่ามือหรือยัดใส่กระเป๋ากางเกงได้เลยและความสะดวกของมันก็ไม่ได้มีแค่เรื่องขนาดเท่านั้น มันยังเป็นอุปกรณ์ที่รวมเอาของ 3 อย่างไว้ด้วยกันคือ สวิตเชอร์, หน้าจอมอนิเตอร์ Multiview และกล่องไลฟ์หรือ Video Capture Card ในขณะที่ราคานั้นอยู่ที่ 9,450 บาทเท่านั้น ซึ่งถ้าเราไปซื้อของ 3 สิ่งนี้แยกกันคงคุมให้ต่ำกว่าหมื่นไม่ไหว มันจึงเป็นของที่คุ้มค่ากับเม็ดเงินมากทีเดียวและด้วยความสะดวกทำให้ค่อนข้างเหมาะกับคนที่อยากจะเริ่มต้นไลฟ์หลายคนหรือไลฟ์หลายมุมกล้อง

สเปกสวิตเชอร์ DeviceWell HDS8102

จอภาพ Multiview แบบ Touchscreen ขนาด 4 นิ้ว
Capture ได้สูงสุด 1920×1080 60p
ความละเอียดภาพที่รองรับสูงสุด 1920×1080
2x HDMI Input
1x HDMI Output (PGM / Multiview)
2x 3.5mm MIC Input
1x 3.5mm Line output
1x USB-C Power Supply
1x USB-C Video Capture Card
1x DC 12V
สวิตช์ล็อคหน้าจอป้องกันการโดน Touchscreen โดยไม่ตั้งใจ
ไม่มีแบตเตอรี่ภายในตัว
เลือกใช้ไฟได้สองช่องทาง USB-C หรือ DC 12V
รองรับ DCB Remote Control
มีฟังก์ชัน Picture in Picture
มีฟังก์ชัน Audio Follow Video
มีฟังก์ชัน Freeze ภาพ
มีหลาย Transition Effect ให้เลือกใช้ CUT, MIX, FADE, WIPE
DeviceWell HDS8102 ราคา 9,450 บาท
ดูสเปกสวิตเชอร์ DeviceWell HDS8102 เพิ่มได้ที่ DeviceWell

เริ่มต้นไลฟ์หลายกล้องต้องใช้ Switcher

การ Live Streaming ทำได้อย่างไร

ปกติแล้วหากเราต้องการจะไลฟ์ก็สามารถทำได้ด้วยมือถือหรือกล้อง Webcam ได้แบบง่าย ๆ แต่หากเราต้องการคุณภาพที่สูงกว่านั้นก็ต้องใช้กล้องดี ๆ แทน เช่น Mirrorless จากนั้นให้เราต่อสาย HDMI นำภาพจากกล้องไปเข้าอุปกรณ์แปลงสัญญาณที่เรียกว่า Video Capture Card อุปกรณ์ชิ้นนี้จะรับสัญญาณภาพมาจัดการและส่งต่อให้คอมพิวเตอร์ผ่านสาย USB จากนั้นให้เราใช้โปรแกรมจัดการส่งภาพ Live Streaming ไปขึ้น Social Media ต่าง ๆ อีกทีหนึ่ง ยกตัวอย่างโปรแกรมพวกนี้ก็เช่น vMix, OBS(ฟรี), Wirecast

ตามปกติแล้วเราต้องใช้ 1 Video Capture Card ต่อ 1 แหล่งของภาพที่ต่อเข้ามาซึ่งก็เข้าใจได้ไม่ยาก แต่ปัญหาจะเกิดก็ตอนที่เราต้องการใช้ 2 กล้องหรือ 3 กล้อง การเพิ่มจำนวนกล่องไลฟ์หรือ Video Capture Card แบบ USB เข้าไปหลายตัวในคอมฯเครื่องเดียวจะทำให้ไลฟ์ของเราเกิดปัญหา ทั้งความเสถียรที่ไม่ดี ภาพจะค้างบ่อยครั้ง และบางทีก็ดึงสัญญาณภาพไม่ได้ การเพิ่มจำนวน Video Capture Card จึงไม่เหมาะในการใช้งานจริงจัง และ ณ จุดนี้เองที่ Switcher เข้ามามีบทบาท

อะไรคือ Switcher และทำไมเราจำเป็นต้องใช้ Switcher ในการไลฟ์หลายกล้อง

Switcher เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการรวมภาพจากหลายแหล่งเข้าไว้ด้วยกัน อยากใช้กี่กล้อง ภาพมาจากกี่ที่ก็ต่อเข้ามารวมกันที่ Switcher จากนั้น Switcher จะถูกใช้ควบคุมในการตัดสลับไป-มาระหว่าง Source ภาพแต่ละแหล่งแล้วเราค่อยส่งภาพจาก Switcher ไปเข้า Video Capture Card จากนั้นก็ไปคอมฯอีกที และตอนนี้เราสามารถมีภาพจากหลายกล้องแต่ใช้ Video Capture Card แค่อันเดียวได้แล้วโดยจะไม่เจอปัญหาแบบที่กล่าวไปก่อนหน้านี้ แต่จุดสังเกตอย่างหนึ่งของระบบแบบนี้คือหาก Switcher ของเราเป็นรุ่นเริ่มต้นมีราคาไม่สูงมักไม่มีจอภาพ Multiview มาให้จึงต้องหาจอมาต่อแยกเอาเอง หากไม่ต่อจอภาพเราจะไม่เห็นเลยว่าแต่ละ Source ภาพที่ส่งมามีสถานะเป็นยังไง ภาพขาดหายหรือเปล่า หากเราไม่รู้ว่าเกิดปัญหาแล้วสลับภาพเข้าไป Source นั้นไลฟ์ของเราก็จะดูไม่ดี และจะยิ่งแย่หากเราต่อภาพจาก Source จำนวนมากแล้วคนคุม Switcher ไม่สามารถจำได้ว่า Source ไหนเป็นมุมกล้องใด การสลับภาพก็จะสุ่ม ๆ มั่ว ๆ ซึ่งไม่ดีแน่ ดังนั้นการใช้ระบบที่มี Switcher จึงควรคู่กับจอภาพเอาไว้ดู Preview ก่อนตัดสลับด้วยอีกสักหนึ่งเครื่องซึ่งแน่นอนว่าจะต้องจ่ายเงินเพิ่มแถมพกพาไปไหนก็ลำบาก

Multiview: ภาพ Preview ที่ Switcher ส่งออกมา จะทำให้เราเห็นภาพจากทุก Source พร้อม ๆ กันได้

สวิตเชอร์ที่รวมมอนิเตอร์และ Video Capture Card เอาไว้ในตัวเดียวกัน

จากที่ผมกล่าวไว้ก่อนหน้านี้คุณจะเห็นว่ามันมี 3 อุปกรณ์ที่จำเป็นในการ Live หลายกล้อง(ถ้าไม่นับกล้องนะ)คือ สวิตเชอร์ จอภาพมอนิเตอร์ และกล่องไลฟ์หรือ Video Capture Card ซึ่งทั้งสามอย่างนี้ถูกรวมมาให้แล้วใน DeviceWell HDS8102 ตัวเดียว มันทำหน้าที่เป็นทั้ง Switcher แบบ 2 HDMI พร้อมหน้าจอ Multiview ที่ให้เราเห็นภาพ Preview แต่ละ Source ตลอดเวลาและควบคุมการตัดสลับได้ง่าย ๆ ด้วยระบบ Touchscreen และในการส่งภาพออก Live ก็สามารถต่อ USB-C เข้ากับคอมฯเพื่อดึงภาพเข้าไปขึ้นตาม Social Media ต่าง ๆ ได้เลย สิ่งที่เป็นจุดเด่นของ Switcher รุ่นนี้เลยจึงเป็น ความสะดวก เพราะทุกอย่างที่จำเป็นถูกรวมไว้ในก้อนเดียวในราคา 9,450 บาท มันสะดวกที่จะพก สะดวกที่จะใช้ และสะดวกที่จะซื้อ

สรุป

การใช้งานจริง DeviceWell HDS8102

ทุกคนสามารถดูการทดสอบใช้งานจริงจากในวิดีโอรีวิวด้านบนได้เลยครับ โดยส่วนตัวผมว่าเรื่องความเสถียรนั้นทำได้ปกติไม่ได้มีปัญหาอะไรก็คล้าย ๆ กับ DeviceWell รุ่นที่ผ่านมามากมายนั่นแหละ และถ้าคุณเป็นคนที่เพิ่งหัดใช้ Switcher เป็นครั้งแรกผมยินดีที่จะบอกว่ามันเป็นการเริ่มต้นที่ง่ายมาก ๆ จาก Interface แบบ Touchscreen ที่เรียบง่ายและไม่ได้มีอะไรซับซ้อนเลย เพียงแต่มันเรียบง่ายจนบางทีก็แอบน้อยไปหน่อยเช่นระบบ PIP ที่ไม่สามารถปรับขนาดภาพเล็กได้ เลื่อนตำแหน่งก็ทำไม่ได้ เป็นข้อจำกัดที่แอบขัดใจพอสมควรแต่ก็พอจะยอมรับได้แลกกับความสะดวกอีกหลาย ๆ อย่างของ HDS8102

ความสะดวกก็มีสิ่งที่ต้องแลก

HDS8102 สะดวกมากก็จริงแต่ขนาดที่เล็กของมันก็ส่งผลต่อสิ่งสำคัญที่สุดของสวิตเชอร์เลยนั่นคือ จำนวนพอร์ตเชื่อมต่อ เพราะมันมี HDMI เพียงแค่ 2 พอร์ตเท่านั้นเราจึงมีกล้องได้เพียงแค่ 2 มุม ซึ่งเอาจริง ๆ มันก็ถือว่าเพียงพอสำหรับการใช้งานของคนส่วนใหญ่เลยล่ะ เพียงแต่ถ้าเราอยากได้แค่ระบบสวิตเชอร์ในตลาดจะมีตัวเลือกอีกมากทั้งที่ถูกกว่าหรือเพิ่มเงินนิดหน่อยไป ATEM Mini เราจะได้สวิตเชอร์ 4 พอร์ต HDMI เลยทีเดียว

แต่ทุกคนคงพอนึกภาพออกว่า DeviceWell ไม่ได้ตั้งใจให้ HDS8102 เป็นแค่สวิตเชอร์แต่เขาพยายามนำเสนอ”ทั้งระบบที่สะดวกและง่ายกว่า”ให้กับคนที่เริ่มต้นทำ Live Streaming เพราะคุณแทบจะไม่ต้องซื้ออะไรเพิ่มเลยแค่เพิ่มกล้องกับสายไฟอีกนิดหน่อยคุณจะมีระบบที่พร้อมสำหรับการใช้งานและพกพาไปที่ไหนก้ได้แบบสะดวกมาก ๆ ในราคาที่ผู้เริ่มต้นส่วนใหญ่จ่ายได้สบายกระเป๋า