Review Macro แบบประหยัดกับ Reverse Ring Leave a comment

         คงปฏิเสธไม่ได้เลยครับว่าโลกใบเล็กที่เราได้เห็นผ่านเลนส์มาโครนั้นมันน่าพิศวงและมหัศจรรย์มากขนาดไหน น่าเสียดายที่เราไม่อาจมองเห็นโลกใบเล็กๆนี้ได้ด้วยตาเปล่า คงเพราะความน่าพิศวงนี้ทำให้ช่างภาพหลายคนติดใจในการถ่ายภาพมาโคร แต่เลนส์มาโครนั้นก็มีราคาที่สูงไม่ใช่เล่น แต่ใช่ว่าการจะถ่ายมาโครนั้นจะต้องซื้อเลนส์มาโครมาใช้เสมอไป ยังไงอุปกรณ์อีกหลายชิ้นที่ทำให้เราถ่ายภาพโลกใบเล็กๆของเหล่าแมลง หยดน้ำ ดอกไม้ ฯลฯ เหล่านี้ได้ ดังเช่นที่ zoomcamera ได้เคยเอามาให้ดูแล้วในรีวิว มาโครแบบประหยัด กับ Extention Tube วันนี้ผมจึงจะพามาดูอุปกรณ์ชิ้นหนึ่งที่ราคาถูกกว่าคราวที่แล้ว และสามารถจะพาเราเข้าสู่โลกใบเล็กๆนี้ได้ นั่นก็คือ… Macro Reverse Adapter Ring

          Reverse ring หรือที่เราเรียกว่าแหวนกลับเลนส์นั่นเอง ทำหน้าที่กลับด้านเลนส์ให้เราเอาหน้าเลนส์ใส่เข้าไปที่เม้าของกล้อง แล้วหันท้ายเลนส์ออกด้านนอกแทน ทำไมต้องทำแบบนั้น?? ถ้าใครเคยทำเลนส์มาส่องที่ตาดูจะเห็นว่าเมื่อเรามองผ่านเลนส์ด้วยตา(มองจากด้านหน้าเลนส์) เราจะเห็นภาพเบลอๆไม่ชัด แต่เคยสังเกตหรือไม่ว่า ถ้าหากเราส่องวัตถุที่อยู่ใกล้มากๆ มันจะ ” ชัดมาก !!! ” นี่ก็เลยเป็นสาเหตุที่ทำให้คนคิดจะนำเลนส์มากลับด้านเพื่อถ่ายภาพมาโครนั่นเอง

          ในการถ่ายมาโครนั้นถ้าเรายังไม่มีเลนส์มาโคร ก็ยังมีวิธีอื่นอีกหลายวิธีที่ทำให้เราถ่ายมาโครได้ เช่นการใช้ท่อมาโคร อย่างที่เราได้เคยรีวิวให้ดูกันไปแล้ว และการใช้แหวนกลับเลนส์ที่เราจะมาดูกันในวันนี้ และยังสามารถใช้ Close-up filter ที่จะมาลักษณะเป็นฟิลเตอร์ที่เหมือนกับแว่นขยายมาใส่ที่หน้าเลนส์ก็ได้

          (จากภาพด้านบน) นี่แหละครับหน้าตาของแหวนกลับเลนส์ ด้านหนึ่งจะเป็นเกลียวเพื่อหมุนเข้าที่หน้าเลนส์ แบบเดียวกับที่เราหมุนใส่ฟิลเตอร์ โดยแหวนกลับเลนส์ก็จะมีหลายขนาดๆต่างๆกันไปครับ เพื่อให้เข้าได้กับหน้าเลนส์ขนาดต่างๆ โดยตัวที่เอามาให้ดูนี้จะมีขนาด 52mm ครับ ส่วนอีกด้านหนึ่งก็จะเป็นเม้าสำหรับใส่กับเม้ากล้อง ซึ่งก็จะแตกต่างกันตามเม้าที่เราเลือกครับ ในตัวที่เอามาให้ดูจะเป็นเม้า Nikon

(จากภาพด้านบน) เลนส์ที่ใช้ในการทดสอบครั้งนี้คือ 2 ตัวที่เห็นนั่นเลยจ้า Nikon 18-55mm VR กับ Nikon 50mm F1.8D

มาดูตอนใส่เลนส์กันเลย…

(จากภาพด้านบน) นำแหวนกลับเลนส์หมุนเข้าที่เกลียวที่ใส่ฟิลเตอร์ที่หน้าเลนส์ แล้วนำไปใส่กับเม้ากล้อง แล้วท้ายเลนส์ก็จะหันออกมาข้างนอกแทนแบบนี้

มาลองดู 18-55mm VR กันบ้าง…

         เมื่อใส่แล้วให้ระวังเวลาหมุนเลนส์ เพราะว่าแหวนกลับเลนส์ล็อคกับตัวเลนส์โดยการหมุนเข้าที่เกลียวใส่ฟิลเตอร์ เมื่อเราหมุนเลนส์มันอาจทำให้ตัวเลนส์หมุนหลุดออกจากแหวนกลับเลนส์ได้ เลนส์ฟิกซ์อย่าง 50mm F1.8D นั้นไม่มีปัญหาอยู่แล้วเพราะว่าเราไม่จำเป็นต้องหมุนตัวเลนส์แต่อย่างใด แต่อย่าง 18-55mm VR นั้นเวลาเราต้องการจะซูม ทำให้เราต้องหมุนเลนส์ ก็คงจะต้องระวังกันซักหน่อย

          ข้อเสียของการกลับเลนส์แบบนี้อย่างหนึ่งก็คือเลนส์ชิ้นหลังของเราอาจเป็นอันตรายได้ ถ้าไม่ระวังและเกิดกระแทกกับอะไรก็อาจทำให้ชิ้นเลนส์ร้าวหรือแตกได้ และอีกข้อเสียคือ การหันท้ายเลนส์ออกมาแบบนี้อาจทำให้ฝุ่นนั้นเข้าเลนส์ได้ง่าย เพราะท้ายเลนส์นั้นไม่มีอะไรปิดป้องกันไว้ ฝุ่นสามารถเข้าสู่กระบอกเลนส์ได้อย่างง่ายดาย

(จากภาพด้านบน) จะเห็นว่าเมื่อเลนส์ชิ้นท้ายเคลื่อนเข้าไปในกระบอกเลนส์ ท้ายเลนส์ก็จะเปิดโล่งให้บรรดาฝุ่นทั้งหลายเข้าไปนอนเล่นกันได้สบายๆ

          สำหรับการใช้แหวนกลับเลนส์นั้น ถ้าใช้กับเลนส์ Nikon แนะนำให้ใช้กับเลนส์ที่เป็นรหัส D ครับ หรือก็คือเลนส์ที่มีวงแหวนปรับรูรับแสงในตัว อย่างเช่นในรีวิวที่เอามาให้ชมกันวันนี้เป็น 50mm F1.8D เพราะเราจะสามารถปรับรูรับแสงได้ตามที่ต้องการแม้จะกลับเลนส์อยู่ก็ตาม ทำให้สามารถควบคุมระยะชัดต่างๆได้ง่าย แต่ถ้าใช้เลนส์ G ที่ไม่มีวงแหวนปรับรูรับแสงในตัวนั้น รูรับแสงจะอยู่ที่ตำแหน่งแคบสุดตลอดเวลา ทำให้เมื่อเราต้องการจะใช้รูรับแสงที่กว้างขึ้นนั้นต้องเอามือง้างกระเดื่องที่ท้ายเลนส์เพื่อให้รูรับแสงนั้นเปิดกว้าง ซึ่งแน่นอนว่าเราจะไม่รู้ว่าเราใช้ค่า F(รูรับแสง) เท่าไหร่ ต้องง้างแบบเดาๆเอาอย่างเดียว

(จากภาพด้านบน) เราจะเห็นว่าเลนส์ D จะมีวงแหวนสำหรับปรับรูรับแสงให้เราปรับรูรับแสงได้เลย

          ส่วนใครที่ใช้เลนส์ Canon รูรับแสงนั้นจะเปิดกว้างสุดตลอดเวลาไม่สามารถปรับขนาดของรูรับแสงได้ ทำให้คุมระยะชัดลึกไม่ได้ ทำให้ถ่ายได้ยากซักหน่อย แต่แฟนๆ Canon ก็ยังมีทางออกนะจ๊ะ! อิอิ เลนส์ Canon นั้นเมื่อเราถอดเลนส์ออกจากกล้องรูรับแสงจะอยู่ที่ตำแหน่งกว้างสุดตลอด แต่หากเราต้องการให้อยู่ที่ตำแหน่งอื่นก็มีวิธีอยู่ครับ โดยให้เรานั้นตั้งค่า F(รูรับแสง) ที่เราต้องการในกล้องก่อนจะถอดเลนส์ออก แล้วกดปุ่มเช็คชัดลึก แล้วดึงเลนส์ออกเลยครับ ใช่ครับ! ดึงออกเลยโดยไม่ต้องปิดกล้อง รูรับแสงจะค้างอยู่ที่ตำแหน่งที่เราตั้งไว้เลย ซึ่งการทำแบบนี้จะทำให้กล้องหรือเลนส์เสียรึเปล่านั้น ตอบได้เลยว่า “ผมเองก็ไม่รู้ 555” ทางที่ดีหาวิธีอื่นน่าจะดีกว่านะ 55 แต่จากเท่าที่ลองใช้วิธีนี้กับเลนส์ของตัวเอง ก็ยังไม่เคยมีปัญหาอะไรครับ ยังคงใช้งานได้ดีปกติ

(จากภาพด้านบน) ตัวอย่างเลนส์ Nikon 18-55mm VR ซึ่งเป็นเลนส์ G จากภาพซ้ายจะเห็นว่าเมื่อถอดเลนส์ออกจากกล้องรูรับแสงจะอยู่ในตำแหน่งแคบสุด การจะทำให้รูรับแสงกว้างขึ้นต้องง้างกระเดื่องดังที่ท่านเห็นในภาพด้านบนทางขวา

          การที่รูรับแสงอยู่ที่ตำแหน่งแคบสุดตลอดเวลานั้นยังมีผลทำให้ เวลาเรามองผ่านช่องมองภาพนั้น ภาพจะมืดจนเกือบจะมืดสนิท เพราะรูรับแสงแคบมากทำให้แสงเข้ามาได้น้อยทำให้เรามองภาพผ่านช่องมองภาพแล้วมืด ดังนั้นเวลาถ่ายเราจึงต้องคอยเอานิ้วง้างกระเดื่องเอาไว้ตลอดเวลาเพื่อให้รูรับแสงเปิดกว้าง เราจะได้สามารถมองภาพผ่านช่องมองภาพได้  แต่ถ้าเป็นเลนส์ D เราสามารถหมุนวงแหวนปรับรูรับแสงให้กว้างสุดได้เลย โดยไม่ต้องมานั่งง้างกระเดื่องให้เมื่อย แถมง้างนานๆก็เจ็บนิ้วอีกต่างหาก T^T

          สำหรับใครที่ใช้เลนส์ Canon ก็ไม่มีปัญหาเพราะรูรับแสงอยู่ในตำแหน่งกว้างสุด ทำให้สามารถมองภาพผ่านช่องมองภาพได้สบายๆอยู่แล้ว

          ข้อดีและข้อเสียในการใช้แหวนกลับเลนส์

  • มีราคาที่ถูก คือมีราคาประมาณราวๆ 300 บาท
  • เมื่อเราปรับรูรับแสงเราจะสามารถเห็นระยะชัด(DOF) ได้เลยทันทีจากในช่องมองภาพ
  • เมื่อปรับรูรับแสงแคบจะทำให้ช่องมองภาพนั้นมืดไปด้วย
  • ไม่สามารถวัดแสงได้
  • ไม่สามารถ Auto Focus ได้
  • การกลับเลนส์อาจทำให้ฝุ่นเข้าไปในเลนส์ได้ง่าย และเลนส์ชิ้นท้ายอาจไปกระแทกกับอะไรได้

เรามาลองทดสอบกันดูนิดๆหน่อยๆดีกว่า…

นายแบบจำเป็นยังคงเป็น Fuji X100 เช่นเคย

เริ่มกันที่เลนส์ 50mm F1.8D

ผลเป็นยังไงตัดสินด้วยตาท่านผู้อ่านเลยครับ

จากการใช้ Macro Reverse Adapter Ring จากปกติที่ระยะใกล้สุดของเลนส์ 50mm F1.8D คือ 45 ซม. เมื่อใช้แหวนกลับเลนส์ ทำให้ผมสามารถถ่ายมาโครได้ด้วยระยะห่างจากวัตถุแค่ราวๆ 10 ซม. เท่านั้น

มาลองกับเลนส์ Nikon 18-55mm VR กันบ้าง

ทดสอบที่ระยะ 18mm ทดสอบที่รูรับแสงกว้างสุด, รูรับแสงแคบสุด, ง้างกระเดื่องในระดับกลางๆไม่สามารถระบุ F ได้, และทดสอบตั้งระยะโฟกัสใกล้สุดที่รูรับแสงกว้างสุด

ทดสอบที่ระยะ 35mm ทดสอบปรับรูรับแสงกว้างสุด, รูรับแสงแคบสุด, และตั้งระยะโฟกัสใกล้สุดรูรับแสงกว้างสุด

ทดสอบที่ 55mm ทดสอบตั้งรูรับแสงกว้างสุด, รูรับแสงแคบสุด, และตั้งระยะโฟกัสใกล้สุดรูรับแสงกว้างสุด

ทดสอบถ่ายภาพดอกไม้

ทดสอบถ่ายด้วย 50mm F1.8D กลับเลนส์ครับ

          ถือเป็นข้อเสียอีกอย่างหนึ่งครับ คือ ระยะชัดนั้นมีอยู่เพียงแค่ระยะเดียว ยกตัวอย่างในเช่น ในตอนที่ผมถ่ายดอกไม้ในภาพด้านบนนั้น ผมใช้เลนส์ 50mm F1.8D กลับเลนส์ถ่าย ผมอยากจะถอยออกมามากกว่านั้นเพื่อเก็บดอกไม้ให้ได้เต็มๆดอก แต่ไม่สามารถทำได้ครับ เพราะถ้าจะให้ดอกไม้ชัดจะต้องอยู่ในระยะนี้เท่านั้น ถ้าถอยออกมามากกว่านี้ หรือขยับเข้าไปใกล้กว่านี้ ระยะชัดก็จะเปลี่ยนไปชัดตรงอื่นทันที หรืออาจเบลอไม่ชัดเลยทั้งภาพ ทำให้ภาพที่ได้ใกล้มากไปหน่อย แต่เราก็สามารถแก้ไขได้โดยการเอาเลนส์ระยะอื่นมาใช้แทนเพื่อที่จะได้ถอยออกไปให้ไกลขึ้น และสามารถใช้ F(รูรับแสง) ที่แคบเพื่อคุมระยะชัด(DOF) ให้มีพื้นที่มาก เข้ามาเป็นตัวช่วยได้

          โดยรวมถือว่าไม่ธรรมดาทีเดียวครับสำหรับแหวนกลับเลนส์ สามารถดึงรายละเอียดต่างๆออกมาจากวัตถุได้เกินราคามากๆ ความขรุขระ ความละเอียดของพื้นผิวต่างๆบนตัวแบบ(Fuji X100) ที่ผมเอามาวันนี้นั้น มองด้วยตาเปล่าคงจะไม่เห็นความขรุขระของพื้นผิวขนาดนี้ หรือรายละเอียดต่างๆบนผิวกลีบดอกไม้ แต่การกลับเลนส์นั้นสามารถดึงรายละเอียดต่างๆออกมาได้อย่างสบายๆ ถือว่า Macro Reverse Adapter Ring เหมาะมากๆ สำหรับใครที่กำลังคิดจะเริ่มถ่ายมาโครแต่ยังไม่รู้ว่าตัวเองจะชอบทางนี้หรือเปล่า และไม่อยากลงทุนเยอะ  แหวนกลับเลนส์ตัวนี้ถือว่าตอบโจทย์ได้ดีเลยครับ

ท่านสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ZOOMCAMERA

ขอบคุณท่านผู้อ่านทุกท่านที่ให้ความสนใจครับ ^__^

บทความนี้เขียนเมื่อวันที่ 24/09/2012

Leave a Reply

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

Save