กราบสวัสดีเพื่อนๆที่ติดตาม Content ของ Zoomcamera ผ่านทางช่องทาง Facebook และ Youtube ด้วยนะครับ ในวันนี้ทีมงาน Zoomcamera ได้มีโอกาสสัมผัสกับเลนส์รุ่นล่าสุดอย่าง Olympus M.Zuiko 12-200 F3.5-6.3 ED MSC ที่ออกแบบมาสำหรับช่างภาพสาย Travel ด้วยทางยาวโฟกัสเทียบเท่า 24-400mm. บนกล้อง Fullframe แต่กลับมีขนาดที่เล็ก กะทัดรัด อย่างน่าตกใจ แถมยังมาพร้อม Splash Proof ทำให้ยิ่งเพิ่มความมั่นใจในการใช้งานเข้าไปอีก ซึ่งเรามาดูในส่วนของ Review กันดีกว่าครับว่า มีอะไรที่เป็นจุดเด่นที่น่าสนใจบ้าง

*** Video Review : Olympus M.Zuiko 12-200 F3.5-6.3 ED MSC ***

สเปค Olympus M.Zuiko 12-200 F3.5-6.3 ED MSC

– ออกแบบสำหรับกล้อง Mirrorless ในระบบ Micro Fourthirds

– ทางยาวโฟกัสเทียบเท่า 24mm. – 400mm. บนกล้อง Fullframe

– โครงสร้างชิ้นแก้ว 16 ชิ้น 11 กลุ่ม พร้อมชิ้นเลนส์พิเศษอย่าง Aspherical / HR Element และ ED

– เคลือบ Coating พิเศษอย่าง Zero Coating

– ขับเคลื่อนโฟกัสแบบ MSC

– โฟกัสได้ใกล้สุดที่ 22 cm.

– ฟิลเตอร์ขนาด 72mm.

– รองรับ Splash Proof

– น้ำหนักสุทธิ 455 กรัม

รีวิว Olympus M.Zuiko 12-200 F3.5-6.3 ED MSC

Olympus M.Zuiko 12-200 F3.5-6.3 ED MSC เป็นเลนส์ของ Olympus ในระบบ Micro Fourthirds รุ่นล่าสุดที่ออกแบบมาสำหรับใช้งานกับกล้องในระบบ Micro Fourthirds ไม่ว่าจะเป็นกล้อง Mirrorless จาก Olympus หรือ Panasonic ก็ดี โดยมีจุดเด่นที่มีขนาดเล็ก กะทัดรัด พกพาสะดวกนั่นเองครับ

จุดเด่นและจุดขายหลักของเจ้า Olympus M.Zuiko 12-200 F3.5-6.3 ED MSC นั้น คงจะหนีไม่พ้นเรื่องทางยาวโฟกัสอย่างแน่นอนครับ เพราะ เป็นเลนส์ Travel Zoom รุ่นแรกๆในระบบ Micro Fourthirds ที่มีทางยาวโฟกัสช่วงต้นเริ่มที่ 12mm. และ ระยะทางยาวโฟกัสช่วงปลายที่ 200mm. ด้วยกัน ซึ่งก่อนหน้านี้มีเพียง Olympus M.Zuiko 14-150 F3.5-6.3 ED MSC ที่เป็น Travel Zoom เพียงรุ่นเดียวในระบบครับ

นอกเหนือจากทางยาวโฟกัสที่เป็นจุดขายหลักแล้วนั้น อีกสิ่งหนึ่งที่โดดเด่นไม่แพ้กันนั้น คือ ระยะ Close-up นั่นเองครับ ปกติแล้วเลนส์ที่มีระยะ Close-up ได้ใกล้มากๆ มักจะเป็นกลุ่มเลนส์ Macro ซะมากกว่าครับ แต่กับ Olympus M.Zuiko 12-200 F3.5-6.3 ED MSC นั้นผิดคาด เพราะ เลนส์รุ่นนี้สามารถ Close-Up ได้ใกล้ถึง 22mm. ทุกทางยาวโฟกัส เท่ากับว่า หากเรา Zoom ไปที่ระยะ 200mm. เราก็จะสามารถโฟกัส Subject ในระยะประชิดได้ ประหนึ่งเหมือนใช้เลนส์ Macro เลยครับ ทั้งนี้รอผลทดสอบในรีวิวฉบับเต็มอีกครั้งนะครับ

แม้ว่า Olympus M.Zuiko 12-200 F3.5-6.3 ED MSC จะไม่ได้ถูกวาง Segment อยู่ในเลนส์ Pro Grade แต่ก็มาพร้อม Feature เฉพาะกิจอย่าง Splash Proof ครับ ซึ่งแน่นอนว่า การที่เราสามารถใช้งานในสภาพที่มีละอองน้ำ ละอองฝน หรือ อากาศชื้นนั้น สามารถลุยใช้งานได้หายห่วง

ขนาด Filter ของ Olympus M.Zuiko 12-200 F3.5-6.3 ED MSC นั้น มาพร้อมมขนาด 72mm. ซึ่งถือว่ามีขนาดที่ใหญ่ในระดับหนึ่ง หากนับเฉพาะเลนส์ในระบบ Micro Fourthirds ด้วยกันครับ

อีกจุดที่น่าสนใจของ Olympus M.Zuiko 12-200 F3.5-6.3 ED MSC นั้น Made in Japan ซึ่งน่าจะการันตีในเรื่องของงานประกอบได้ดีในระดับหนึ่ง เท่าที่ทีมงานได้ลองสัมผัสเบื้องต้น ถือว่ามีความแข็งแรง ทนทานดีครับ ไม่รู้สึกถึงความหลอมคลอนจากการหมุน Zoom ตัวกระบอกแต่อย่างใดครับ

อุปกรณ์ที่แถมมาด้วยนั้น คือ Hood ครับ สำหรับใช้ป้องกันแสงที่ไม่พึงประสงค์ ที่อาจจะส่งผลถึง Effect Ghost / Flare ภายในภาพของเรา เมื่อถ่ายย้อนแสงนั่นเองครับ

Olympus M.Zuiko 12-200 F3.5-6.3 ED MSC นั้นแม้ว่าจะมีทางยาวโฟกัสเทียบเท่า 24-400mm. บนกล้อง Fullframe แต่ทั้งนี้ตัวกระบอก Zoom นั้น ไม่ได้เป็นการ Zoom แบบ Internal แต่อย่างใดครับ ซึ่งทีมงานก็มีรูปความยาวของกระบอก Zoom ระยะต่างๆ มาให้ชมกันด้วยครับ

ความคม ( Sharpness )

สำหรับความคมของ Olympus M.Zuiko 12-200 F3.5-6.3 ED MSC แม้ว่าจะเป็นเลนส์ที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่ม Travel Zoom ที่มีทางยาว Focus เทียบเท่า 24mm. – 400mm. บนกล้อง Fullframe แต่ความคมที่ได้รับต้องบอกว่าเพียงพอสำหรับเป็นเลนส์ติดกล้องสายเที่ยวที่แท้จริงครับ ทั้งนี้จะมีข้อสังเกตเล็กๆ คือ ที่ระยะ 200mm. ของ Olympus M.Zuiko 12-200 F3.5-6.3 ED MSC ความคมจะมีอาการ Drop อย่างชัดเจน เมื่อเทียบกับช่วงต้นก่อนหน้านี้ รวมถึงที่ 200mm. หากต้องความละเมียดละไมในการได้รูปแล้วละก็ แนะนำว่าควรมีขาตั้งด้วยครับ

ตัวอย่าง Sharpness : Olympus M.Zuiko 12-200 F3.5-6.3 ED MSC @ 12mm.

ตัวอย่าง Sharpness : Olympus M.Zuiko 12-200 F3.5-6.3 ED MSC @ 12mm. Crop

ตัวอย่าง Sharpness : Olympus M.Zuiko 12-200 F3.5-6.3 ED MSC @ 200mm.

ตัวอย่าง Sharpness : Olympus M.Zuiko 12-200 F3.5-6.3 ED MSC @ 200mm. Crop

โบเก้ ( Bokeh )

Olympus M.Zuiko 12-200 F3.5-6.3 ED MSC แม้ว่าภายนอกจะดูเหมือนเป็นเลนส์สำหรับถ่ายเที่ยวตัวเดียวจบ ที่ดูอาจจะไม่ได้เน้นเรื่องการละลายหลัง หรือ โบเก้ แต่ด้วยความสามารถที่ติดตัวมาที่สามารถ Close – Up ได้ใกล้สุดที่ 22cm. นับจาก Subject ที่ระยะ 12mm. และ ที่ระยะ 40cm. ที่ระยะ 200mm. ซึ่งการเข้าประชิด Subject ได้มากเท่าไร ยิ่งเพิ่มการเกิด Effect เบลอฉากได้ด้วยนั่นเองครับ ทั้งนี้หากเพื่อนๆคาดหวังเรื่องการเบลอฉากหลังแบบโดดเด่นละก็ ทีมงานแนะนำว่ามองเป็นเลนส์ Fix ที่มีค่ารูรับแสงกว้างๆจะดีกว่าครับ

ตัวอย่าง Bokeh : Olympus M.Zuiko 12-200 F3.5-6.3 ED MSC @ 12mm.

ตัวอย่าง Bokeh : Olympus M.Zuiko 12-200 F3.5-6.3 ED MSC @ 25mm.

ตัวอย่าง Bokeh : Olympus M.Zuiko 12-200 F3.5-6.3 ED MSC @ 45mm.

ตัวอย่าง Bokeh : Olympus M.Zuiko 12-200 F3.5-6.3 ED MSC @ 70mm.

ตัวอย่าง Bokeh : Olympus M.Zuiko 12-200 F3.5-6.3 ED MSC @ 100mm.

ตัวอย่าง Bokeh : Olympus M.Zuiko 12-200 F3.5-6.3 ED MSC @ 200mm.

อาการขอบมืด ( Vignette Effect )

สำหรับอาการขอบมืด หรือ Vignette ของ Olympus M.Zuiko 12-200 F3.5-6.3 ED MSC นั้น ในช่วง Wide สุดที่ระยะ 12mm. มีอาการ Vignette อยู่บ้างครับ โดยหากถ่ายบริเวณที่มีฉากหลังเป็นสีขาวล้วน จะมีอาการอย่างชัดเจนครับ โดยที่ F3.5 ซึ่งเป็น F กว้างสุดจะเห็นได้ชัดมาก และจะเริ่มลดลงเมื่อหรี่ค่า F มาที่ 5.6 ขึ้นไปครับ

อาการแฟลร์ ( Ghost / Flare Effect )

ในด้านอาการแฟลร์ของ Olympus M.Zuiko 12-200 F3.5-6.3 ED MSC ในกรณีที่เราถ่ายย้อนแสงแบบตรงๆจังๆนั้น เราจะเจอกับอาการดังกล่าวอยู่บ้างครับ โดยจะมีลักษณะเป็นลูกกลมๆสีเขียวแกมม่วงหรือฟ้าครับ ทั้งนี้หากไม่ได้ทำการถ่ายย้อนแสงปริมาณมากๆ อาการดังกล่าวแทบจะไม่ปรากฏให้เห็นเลยครับ

อาการขอบม่วง ( CA Effect )

นอกเหนือจาก อาการแฟลร์ และ ขอบมืด แล้วนั้น เจ้า Olympus M.Zuiko 12-200 F3.5-6.3 ED MSC ก็ยังมีอาการเหลื่อมสี หรือ ศัพท์ในวงการ คือ CA นั่นเองครับ โดยอาการดังกล่าวจะมีลักษณะเป็นริ้วสีม่วงแกมน้ำเงินตามขอบของวัตถุภายในภาพ ทั้งนี้จะพบมากยามที่เราเปิด F กว้างสุดครับ และ จะเริ่มมีผลที่ดีขึ้นเมื่อหรี่รูรับแสงให้แคบลงไป

ตัวอย่าง CA Effect : Olympus M.Zuiko 12-200 F3.5-6.3 ED MSC @ F3.5