Review Panasonic GF6 ตอนที่ 3 เปิดตาดวงใหม่ผ่าน Wi-Fi Leave a comment

บทความนี้แบ่งออกเป็น 3 ตอน ตามนี้นะครับ

• ตอนที่ 1 ทั่วไป + field trip
• ตอนที่ 2 field trip (ต่อ)
• ตอนที่ 3 GF6 กับ Wi-Fi      

        สองปีที่แล้วมี Taplet อ่านการ์ดได้หรือต่ออุปกรณ์ที่อ่านการ์ดได้ แล้วโหลดภาพลงดูกันบนจอ 10 นิ้วของ Taplet เป็นอะไรที่สะดวกสบายและดูล้ำยุคซะเหรอเกิน ทำเอาเพื่อนของผมหลายคนยอมควักค่าตัวเจ้าอุปกรณ์กันสนุกเลย แต่มาถึงวันนี้กล้องถ่ายภาพ จัดการใส่ฟังก์ชั่น Wifi ให้ถ่ายโอนข้อมูล หรือควบคุมกล้องผ่าน Wiki กันได้แล้ว ทุกอย่างผ่านไปไวเหมือนโกหกเลยนะครับ

        เหมือนอย่างเจ้า Panasonic DMC-GF6 ที่ผมได้มาถือมาใช้ ลำพังมันกางจอออกมาได้ , สัมผัสจอสั่งงานได้ แค่นี้ผมหลงรักมันแล้ว นี่ยังให้ชั่งชั่น Wifi มาในตัวเลยอีกและไม่ใช่แค่ Wifi เหมือนที่กล้องยุคนี้มีกันแล้ว เจ้า GF6 ตัวนี้ยังมีเทคโนโลยี NFC (Near Field Communication) ที่ช่วยลดความยุ่งยากในการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่น ๆ โดยมาตรฐานของเทคโนโลยี NFC นั่นมีะระยสื่อสารอยู่ที่ 4 เซนติเมน … หา !??? ว่าไงนะ … 4 เซนฯ !!

          ใช่ครับผมเปิดอ่านเรื่องรามวเกี่ยวกับมันครั้งแรกก็ … หา !?? .. เหมือนกัน คือเจ้ามาตรฐานการสื่อสารทีคิดค้นด้วย Sony และ NXP อันนี้เนี่ย กำลังได้รับการยอมรับและถูกติดตั้งเข้าไปใสอุปการณ์อิเลคโทรนิคหลายชิ้นมากขึ้น อย่างโทรศัพย์แบบ Smart Phone ที่เราใช้กันอยู่ตอนนี้ก็มีตั้งหลายรุ่นที่รองรับ แต่ไม่ต้องตกใจไปนะครับ หากเครื่องใครไม่มี NFC ก็ยังสื่อสารด้วยกับ Panasonic GF6 โดยใช้ Wifi ได้ปกติครับ เพราะใน GF6 นี้หน้าที่ของ NFC นั่นก็เพื่อทำให้ติดต่อกับอุปกรณ์ภายนอกเร็วยิ่งขึ้น อย่างเช่นถ้าเป็นมือถือในแบบที่ผมลองใช้งานในครั้งนี้เพียงแค่คุณเอามือถือของคุณที่มี NFC ผ่านไกล้ ๆ ข้างกล้องฝั่งด้านซ้ายมือของเรา ที่มีสัญลักษณ์ NFC บอกไว้ เครื่องมันก็จะเช็คสัญญาณกันแล้ว ระบุตัวตนกันเลยว่าจะให้พวกมันเชื่อมกันเลยมั้ย

เรื่องที่น่าสนใจคือ NFC ที่ติดอยู่บนเครื่อง Panasonc DMC-GF6 นี่พร้อมทำงานตลอดเวลานะครับ มันเป็นเหมือนชิปที่ไม่ต้องการพลังงานเลี้ยงที่ถูกติดตั้งไว้ เพราะต่อให้คุณปิดเครื่อง GF6 ไว้ แค่เอาเมือของเราไปใกล้ ๆ มันก็ทำงานแล้วนะครับ มันจะเริ่มถามว่าทำการเชื่อมต่อกับเครื่องที่พึ่งค้นพบนี้มั้ย

ในการลองเล่น wifi ของ Panasonic GF6 ในครั้งนี้ ผมเองก็ต่อ Wifi เองโดยลืมใช้ NFC ไปซะ 90% เห็นจะได้… จนเพื่อน ๆ แซวเอาว่ามีของดีซะเปล่า = =’

แต่ก่อนที่เราจะใช้งาน Wifi ของ Panasonic DMC-GF6 คุณต้องติดตั้ง App สำหรับการณ์นี้ก่อนครับนั่นคือ App ที่ชื่อว่า Panasonic Images App มาติดตั้งในมือถือซะก่อนนะครับ

       หลังจากดาวน์โหลด Apps มาติดตั้งกันเรียบร้อยแล้ว ก็เปิด Wifi ที่เครื่องและ Wifi ที่เมือถือเราได้เลยครับ จากนั้นเอามือถือเราไปไกล้ ๆ กล้องฝั่ง ที่มีสัญลักษณ์ NFC ส่วนใครที่ไม่มี ก็ทำเหมือนผมนี่แหละครับ สั่งให้มือถือเราแสกนหาอุปกรณ์ที่เปิดอยู่และเลือก และสั่งเชื่อมต่อกันตรง ๆ เลย ซึ่งก็ไม่ได้เสียเวลามากไปกว่ากันนักหรอกครับ … (แต่แอบเจ็บใจที่ลืมใช้ NFC … Y_Y) โดยเมื่อเครื่องค้นหากันเจอแล้ว ขั้นต่อไปคือใส่ Password ซื้อที่หน้าของ GF6 จะบอกคุณมาอยู่แล้ว

       หลังจากขั้นตอนง่าย ๆ ด้วยการจิ้มแค่สองสามครั้ง พอเครื่องเราต่อกันได้แล้ว จากนี้จะสั่งงานอะไรก็ง่ายไปหมดแล้วครับ ใครอยากเอากล้องไปตั้งไว้ใกล้ ๆ ดอกไม้รอถ่ายภาพแมลงหรือวางไว้ข้างรังนกเพื่อไว้รอถ่ายภาพแม่นกตอนมาให้อาหารลูกนก ก็ทำได้อย่างใกล้ชิดจากระยะไกลแล้วล่ะครับ … ฟัง ๆ ชวนงงเนาะไอ้ตรงที่ว่า ถ่ายใกล้ ๆ จากไกล ๆ เนี่ย … แต่ถ้าใครชอบถ่ายภาพแนวนั้นก็สนุกแน่ครับ เพราะเมื่อคุณเลือกเปิดควบคุมการถ่าถาพผ่านทางมือถือ GF6 เปิดโอกาสให้คุณสามารถเลือกจุดโฟกัสได้จากมือของคุณได้เลย หน้าจอมือถือในมือคุณตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับหน้าจอของกล้องของคุณแล้วครับ

     บนหน้าจอมือถือขนาด 3 นิ้วของผมตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับหน้าจอกล้องที่อยู่ห่างผมออกไปราว 5 – 6 เมตร ผมเลือกตั้งได้ว่าผมจะถ่ายภาพ จะบันทึกวีดีโอ เลือกขนาดภาพ เลือเฟรม หรืออะไรต่อมิอะไรเต็มไปหมด แต่ที่ผมชอบใจคือผมเลือกจากหน้าจอของผมได้ว่า ผมจะเลือกให้แตะจอแล้วเลือกโฟกัสพร้อมถ่ายภาพเลยในคราวเดียว หรือเลือกให้กล้องหาเพียงจุดโฟกัสก็ยังได้

       ผมพบว่า Panasonic DMC-GF6 สร้างความสนุกตื่นเต้นให้ผมได้ตลอดการใช้งาน ตามประสาคนคนชอบลอง ก็กดลองไปเรื่อย … (นี่ถ้าปุ่มทำลายตัวเอง คงตายไปแล้ว =.. =’) … ลองเข้าไปเลือก Scene หรือ Creative Control ก็ได้ด้วย งานนี้เลยสนุกคูณสองเลย 

        จัดแจงถ่ายภาพกันสนุกสนาน ไปร่วมห้าสิบซ๊อต ในเวลาเกือบสามชั่วโมง เปิดจอทิ้งไว้ซะเป็นส่วนใหญ่ ปิดบ้างก็ตอนที่เอะใจนึกขึ้นได้ว่าตัวเองเล่นเพิลนไปเกินไปแล้ว ผลคือแบตเตอร์รี่ก็เริ่มเตือนว่าจะหมดแล้ว ซึ่งอันนี้ก็ไม่น่าแปลกใจหรอกครับ เพราะทั้งสื่อสาร ทั้งเปิดจอทิ้งไว้ ทั้งโดนสั่งงาน ถ่ายภาพบ้าง เลือกโฟกัสบ้าง ไหนจะลองฟังก์ชั่นนู่นนี่นั่น พลังงานในแบตเตอร์รีดิ่งนรกขนาดนี้ก็ควรแล้วล่ะ [=.. =’ ]

พูดถึงเรื่องการถ่ายภาพโดยการสั่งงานจากมือถือนี้ ตอนที่ผมเลือกให้กล้องถ่ายภาพเลยหลังจากแตะหน้าจอเพื่อเลือกจุดโฟกัส ผลคือมีบางครั้งเหมือนกันนะครับ ที่เราเลือกตำแหน่งโฟกัสที่ไม่เหมาะสมที่จะหาโฟกัสได้ แล้วกล้องบอกว่าบันทึกไม่ได้ ซึ่งตรงนี้ดีแล้วล่ะครับ ดีกว่าหาโฟกัสไม่ได้แล้วลั่นชัตเตอร์มามั่ว ๆ หรือวิ่งหาโฟกัสวืดวาด ๆ อยู่อย่างนั้น … บอกเราให้รู้แล้วรู้รอดแบบนี้ไปเลยแหละดีแล้ว จะได้หากจุดโฟกัสใหม่

          พอถ่ายภาพเสร็จ ก็ได้เวลาลองและก็อบปี้ภาพผ่าน Wifi มาลงมือถือ และเปิดดูภาพกันบ้าง … อืมมม…. มันสะดวกดีจังเลยแหะ อยากเห็นภาพไหนเต็ม ๆ ตาก็แตะจึ๋งเดียวก็ได้เห็นภาพเต็ม ๆ จอ เสียดายก็แต่ตอนนี้ผมใช้มือถือขาดจอแค่ 3 นิ้ว นี่ถ้าในมือผมตอนนั้นเป็น Tablet จอ 10 คงได้ชมภาพสด ๆ กันเต็มตากว่านี้ เพราะถ้าเปิดดูเต็มจอ ซูม ให้เห็นชัด ๆ จะได้รู้กดถ่ายภาพไปเมื่อครู่ใช้ได้หรือเปล่า หรือต้องถ่ายกันใหม่

       สั่งก๊อบปี้ภาพสั่งลงมือถือก็ง่าย สั่งลบในกล้องจากมือถือเลยก็ยังได้ … (บ้าที่สุด !… ชักเริ่มน้อยใจกล้องตัวเองแล้วนะ =” = ) … เพลินเลยนะ แต่ผมไม่แชร์จากล้องลงไปที่เฟสบุ๊คตรง ๆ ผมเลือกก๊อบภาพไปที่ มือถือไว้ปรับแก้ตกแต่งอะไรก่อนค่อยแชร์มากกว่า ซึ่งทั้งหมดนั่นง่ายเลยล่ะ

        สำหรับใครที่ชอบเล่นเทคโนโลยีใหม่ ๆ และเป็นมือฉมังในโลกโซเชียล ฟังก์ชั่นแบบนี้แหละที่เป็นเหมือน สนามเด็กเล่นสนามใหม่ให้คุณได้สนุกกับมันได้สุดเหวี่ยง และหากให้ผมสรุปถึงมันว่าผมมีประสบการณ์กับมันเช่นไร ก็แยกได้ดังนี้ครับ

จุดเด่น
1. มี NFC ทำให้การอุปกรณ์และกล้องเข้าถึงกันเร็วขึ้น
2. สามารถควบคุมกล้องผ่านอุปกรณ์ภายนอกได้อยากครอบคุมฟังก์ชั่นที่ GF6 มี
3. ปุ่ม Q MENU ช่วยให้เข้าสู่ฟั่งก์ชั่นที่ต้องใช้งานบ่อยได้เร็วขึ้น

ข้อควรทราบ
1. ควรมีแบตสำรองเมื่อต้องการใช้งาน Wifi ต่อเนื่องยาวนาน

ภาพและเนื้อหาโดย : Studio OMG

บทความนี้เขียนเมื่อวันที่ 17/09/2013