รีวิว Panasonic Lumix S 50mm F1.8 เลนส์ Fix ระยะมาตรฐานครั้งแรกบนระบบ L-Mount ที่ออกแบบโดย Panasonic ชูจุดเด่นที่มีความ Compact น้ำหนักสุทธิเพียง 300 กรัม พร้อมช่วงการใช้งานที่คุ้นเคยเหมือนกับเลนส์ในกล้องฟิล์ม อีกทั้งมาพร้อมค่ารูรับแสง ( ค่า F ) กว้างถึง F1.8 ที่ตอบโจทย์การถ่าย Portrait , Bokeh ได้อย่างสบายๆ
Key Feature
- ออกแบบสำหรับกล้อง Mirrorless L-Mount
- รองรับการใช้งานทั้ง Fullframe และ APS-C
- ทางยาวโฟกัสเทียบเท่า 50mm.
- ระย Close-up ใกล้สุด 45 cm.
- โครงสร้างชิ้นแก้ว 9 ชิ้น 8 กลุ่ม
- กลีบรูรับแสง 9 กลีบ
- ฟิลเตอร์ขนาด 67mm.
- น้ำหนักสุทธิ 300 กรัม
Panasonic Lumix S 50mm F1.8 | เลนส์ที่ควรมีติดกล้อง

หากเพื่อนๆที่ผ่านยุคฟิล์มมา น่าจะพอทราบกันว่าในอดีตนั้นกล้องฟิล์มส่วนมากจะนิยมติดกับเลนส์ระยะ 50mm. มาด้วยแทบจะทั้งหมด อันมาจากเหตุผลที่ว่า ” มีระยะการมองเห็นที่เทียบเคียงกับสายตาเรา ” จึงไม่แปลกที่หลายๆท่านยกให้เลนส์ในระยะดังกล่าวเป็นเลนส์ครูจวบจนถึงปัจจุบัน
Lumix S 50mm F1.8 ถูกออกแบบสำหรับกล้อง Mirrorless ที่เป็น L-Mount ซึ่งปัจจุบันจะมีอยู่ด้วยกัน 3 ค่ายหลักๆ คือ
- Panasonic Lumix S
- Leica SL
- Sigma FP

โดยเป็นการออกแบบสำหรับใช้งานบน Sensor ขนาด Fullframe ที่สำคัญไม่สามารถใช้งานร่วมกันกับกล้อง Panasonic ในระบบ Micro Fourthirds ได้นะครับ เพราะ Mount จะเป็นคนละแบบกันด้วยนั่นเอง
ระยะทำการ ตอบโจทย์งาน Portrait ได้อย่างลงตัว

Lumix S 50mm F1.8 กับการมาพร้อมช่วงการใช้งานที่ 50mm. ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าระยะดังกล่าว สามารถตอบโจทย์การถ่ายภาพในลักษณะ Portrait พร้อมด้วยค่ารูรับแสงที่มีค่า F กว้างที่ F1.8 สามารถสร้าง Effect หน้าชัด – หลังเบลอ ซึ่งถือว่าเพียงพอต่อการถ่าย Portrait ได้ในระดับหนึ่งละครับ
Sample Image
เล่นกับ Bokeh ได้ง่ายๆด้วย F1.8
Bokeh มาจาก ภาษาญี่ปุ่น แปลว่า เบลอ หรือ ไม่ชัด
เชื่อว่าเพื่อนๆหลายท่าน น่าจะรู้จัก Bokeh กันพอสมควรแล้ว รวมไปถึง Effect หน้าชัด หลังเบลอ หรือ เบลอฉากหลังด้วยนั่นเอง ทั้งนี้ค่ารูรับแสงของเลนส์แต่ละรุ่นนั้น จะสร้าง Bokeh ดวงไฟ ที่มีลักษณะแตกต่างกันออกไปด้วย ซึ่งมีปัจจัยอื่นๆเป็นส่วนเสริมเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็น โครงสร้างชิ้นเลนส์ , ระยะห่างของ Subject ถึง ฉากหลัง และ ต้นกำเนิดของแสงดวงไฟ ที่พร้อมจะเปลี่ยนเป็น Bokeh ด้วยนั่นเอง ทั้งนี้ทีมงานได้นำลักษณะ Bokeh ที่ได้จาก Lumix 50mm F1.8 มาฝากเพื่อนๆ ให้ได้พิจารณากันครับ
Sample Bokeh
Bokeh @ F1.8 Bokeh @ F2.8 Bokeh @ F4 Bokeh @ F5.6
เจอแสงแดดจัด จะพบ Ghost & Flare ได้ง่าย
ในทุกๆการรีวิวทีมงานจะมีการทดสอบอาการ Ghost – Flare ของเลนส์แต่ละรุ่น รวมถึงเจ้า Lumix S 50 F1.8 ด้วยเช่นกัน ซึ่งอาการนี้จะเกิดเฉพาะเวลาที่เราถ่ายภาพย้อนแสงแบบตรงๆจังๆ ซึ่งสภาพแสงที่ผ่านเข้ามานั้น ยิ่งแรง ยิ่งส่งผลต่อ Flare ด้วยนั่นเอง

ตัวอย่างในภาพ เมื่อเรานำ Lumix S 50 F1.8 ลองทดสอบถ่ายภาพย้อนแสง จะพบอาการ Ghost & Flare ได้อย่างชัดเจน และหากแสงแดดที่มากระทบนั้น เป็นแสงแดดชัดๆแล้วละก็ จะมีอาการเหมือนกับในภาพตัวอย่างนี้เลยทีเดียว
ทั้งนี้หากเราไม่ได้ทำการถ่ายภาพย้อนแสง หรือ ถ่ายภาพปกติทั่วๆไป อาการดังกล่าวจะไม่ปรากฏออกมารบกวนสายตาเราอย่างแน่นอน
คุมอาการ ” ภาพบิดเบี้ยว ” ได้ในระดับหนึ่ง

Distortion หรือ อาการบิดเบี้ยว เป็นอาการพื้นฐานเฉกเช่นเดียวกันกับ Vignette ที่ต้องบอกว่า ทุกเลนส์ล้วนแล้วแต่พบเจอกันได้อย่างแน่นอนครับ โดยจะพบได้บ่อยกับกลุ่มเลนส์ Wide , Ultrawide เป็นซะส่วนใหญ่ นอกจากนี้โครงสร้างชิ้นแก้วก็ถือเป็นปัจจัยที่ส่งผลด้วยเช่นกัน
โดย เจ้าเลนส์ 50mm. รุ่นนี้ ถือว่าควบคุมอาการ Distortion ได้เป็นที่น่าพอใจ หากสังเกตจากภาพจะเห็นว่าแทบจะไม่มีอาการที่ขอบภาพบิดเบี้ยว หรือ บวมบริเวณกลางภาพแต่อย่างใดเลยครับ
ที่ค่ารูรับแสงกว้างสุด จะพบอาการ ” Vignette ”
Vignette นั้น เป็นอาการพื้นฐานที่เลนส์ทุกรุ่นตั้งแต่ยุคฟิล์มจวบจนถึงยุคดิจิตอล ล้วนแล้วแต่พบอาการดังกล่าวกันอย่างแน่นอนครับ ทั้งนี้อาการ Vignette จะปรากฏอย่างเด่นชัด เมื่อเพื่อนๆเลือกใช้งานที่ค่ารูรับแสง ( ค่า F ) กว้างสุดของเลนส์รุ่นนั้น ซึ่งเลนส์แต่ละรุ่นจะมีอาการ Vignette ที่แตกต่างกันออกไปด้วย
Sample Vignette
Vignette @ F1.8 Vignette @ F2.8 Vignette @ F4 Vignette @ F5.6
ลูกค้าที่สนใจสั่งซื้อสินค้า สามารถติดต่อสั่งซื้อได้ผ่านช่องทางออนไลน์ของทางร้านได้ตลอด 24 ชม. หรือ โทรเข้ามาโดยตรงผ่านโทรศัพท์
แอดไลน์ ID:@ZoomCamera หรือ หน้าเว็บไซด์ ZoomCamera
083-067-7677 / 02-098-9555 ต่อ 0 (หยุดวันอาทิตย์)



