Review Pentax Q10 ผมไม่เล็กนะครับ Leave a comment

         ก่อนจะเข้าเรื่อง มาลองดูจุดเด่นเล็กๆน้อยๆกันก่อนดีกว่า Pentax Q10 เป็นกล้อง Mirrorless เปลี่ยนเลนส์ได้มีจุดเด่นในเรื่องของขนาดที่เล็กๆมาก เล็กยิ่งกว่ากล้องคอมแพคบางตัวซะอีก โดยนอกจากจะมีจุดเด่นในเรื่องของขนาดแล้ว เรื่อง”สี”ก็เป็นส่วนที่จะขาดไปไม่ได้เลยสำหรับแบรนด์ที่มีแนวคิดฉีกกรอบผลิตกล้องหลากหลายสีสันอย่าง Pentax โดยนอกจากสีมาตราฐาน 4 สีแล้ว Pentax Q10 ยังมีสีพิเศษให้เราได้เลือกสั่งได้ตามใจอีกกว่า 100 แบบ และยังมีรุ่นพิเศษอย่าง Evangelion ที่ถูกสั่งทำมาแค่สีละ 1,500 ตัวอีกด้วย…

          คุณผู้ชอบถ่ายภาพทั้งหลายเคยนึกเบื่อชีวิตหนักหน่วงที่ต้องถือกล้อง DSLR อันใหญ่เหมือนเดินไปไหนพร้อมกับแขวนแมวเปอร์เซียไว้ที่คอมั้ยครับ และพอจะไปไหนด้วยกล้องคอมแพ็ค ชีวิตก็เหมือนอยู่ในแพ็กเกจสำเร็จรูป ที่ไม่ค่อยจะได้ดั่งใจ ถ้าคุณมีอาการแบบนี้ผมว่าน่าจะลองกล้องเล็กเปลี่ยนเลนส์ได้อย่างเจ้า PENTAX Q10 ดูซักครั้งนะครับ

          เจ้ากล้องเล็กจิ๋วเปลื่ยนเลนส์ได้อย่าง Pentax Q10 กล้องที่มีความละเอียดภาพขนาด 12 ล้านพิกเซล นั่นออกมาวางตลาดได้มาตั้งแต่เดือนกันยาปี 2012 ซึ่งมันรุ่นต่อจาก Pentax Q1 กล้องในกลุ่มรหัส Q ของ Pentax นี่มีเมาท์เป็นของตัวเองเลย โดยใช้ตรงตัวว่า Q mount และตอนนี้ก็มี Adaptor แปลงไปใช้กับเมาท์ต่าง ๆ ออกมาขายกันบ้างโดยเฉพาะที่แปลงไปหาก K mount ของ Pentax นั้นมีมาตั้งแต่อ้อนแต่ออกอยู่แล้วล่ะ และ Pentax Q10 ตัวที่ผมได้มา้ถือในครั้งนี้เป็นชุดสองเลนส์ คือ 5-15mm และ 15-45mm ซึ่งเมื่อคูณเข้า 5.6 อันเป็นขนาด Crop factor ของมันแล้วก็ เท่ากับผมมีเลนส์คิตทั่ว ๆ ไปอันหนึ่งพร้อมเลนส์เทเลโฟโต้อีกอัน เท่านี้ก็น่าจะพอเที่ยวทั่วโลกได้แล้วล่ะครับ

          อย่างในภาพนี้ผมถ่ายด้วยมุมกว้างสุดที่ 5mm และอีกภาพที่ระยะ 42.8mm กล้องตัวมีระบบกันสั่นในตัวกล้อง ฉนั้นการซูมไปจนสุดที่ระยะ 45mm ก็คงไม่ได้เป็นปัญหาในการใช้งานมากนัก ถ้าใครชอบใช้เลนส์หลากหลายลองหาซื้อ Adaptor แปลงเจ้ากล้องเล็กนี้เข้าเลนส์ได้เยอะมากเลยครับ เพราะไม่ต้องง้อระบบกันสั่นจากเลนส์ด้วย และอีกอย่างที่ผมเห็นเขานิยมกันก็คือเอากล้องเล็ก ๆ แบบนี้ไปติดกับเลนส์ทางยาวโฟกัสเยอะ ๆ ถ่ายภาพนก

** นอกจากเลนส์ซูมทั้งสองอันที่ผมได้มาใช้ในครั้งนี้ ทาง Pentax ได้ผลิตเลนส์ Fix สำหรับ

Pentax Q ไว้ให้สนุกกันอีก 4 เลนส์ดังนี้ครับ

– Standard Prime Lens f1.9 ที่ให้ระยะเท่ากับ 47mm บนกล้อง Full-Frame

– Fish-Eye Lens f5.6 ที่ให้ระยะเท่ากับ 17.5mm บนกล้อง Full-Frame

– Toy Lens Telephoto f8 ที่ให้ระยะเท่ากับ 100mm บนกล้อง Full-Frame

– Toy Lens Wide f7.1 ที่ให้ระยะเท่ากับ 35mm บนกล้อง Full-Frame

          ครั้งแรกที่ผมได้จับตัวเป็น ๆ ของกับเจ้า Pentax Q10 ผมยอมรับเลยว่ารู้สึกวูบ ๆ วาบ ๆ ที่ฝ่ามืออยู่หน่อยเหมือนกัน เพราะตัวกล้องมันเบามาก เล็กมาก พอไปจับเลนส์ยิ่งเบายิ่งเล็กเข้าไปใหญ่ พลอยให้รู้สึกว่ามันดูก๊องแก๊งยังไงก็ไม่รู้ แต่วัสดุและการประกอบตัวกล้องช่วยให้มั่นใจขึ้นอีกเยอะเลยครับเพราะทำมาได้ปราณีตดี ทั้งตัวกล้องและเลนส์ และพอได้มีเวลาจับ ๆ ถือ ๆ กันไปซักพักจนเริ่มลืมความเคยชินจากกล้อง DSLR อันใหญ่ ๆ หนัก ๆ ที่คุ้นมือ ถึงได้พอมีเวลาคิดว่า ถ้าให้ผมเป็นคนออกกล้องให้คนทั่ว ๆ ไปที่เขาไม่ได้อยากเป็นนักถ่ายภาพมืออาชีพได้มีกล้องซักตัวไว้ถือเที่ยวไปหรือถือไปไหนต่อไหนด้วยได้ ผมก็คงออกแบบให้เล็ก ๆ เบา ๆ แบบนี้แหละเนาะ และถึงแม้ว่า Pentax Q10 มันจะเล็กจะเบาแต่โดยการออกแบบให้มีกริปที่นูนยื่นออกมาช่วยให้การจับถือกระชับมั่นใจมากครับ ต่างกลับกล้องเล็ก ๆ ส่วนใหญ่ที่เน้นออกแบบให้เรียบหรูซะจนจับถือไม่ค่อยอยู่มือ

          และความเล็กกระทัดรัดของ Pentax Q10 ที่ทำให้น่าถือไปเที่ยวด้วยอีกอย่างก็คือ มันไม่ทำให้ใครตกใจครับ ยกขึ้นมาถ่ายเมื่อไหร่ก็ดูเป็นมิตร ยิ่งกับผมซึ่งไม่ได้มีทักษะของนักถ่ายภาพสารคดีที่เข้าหาตัวแบบแปลกหน้าได้เก่ง ๆ ด้วยแล้วละก็ กล้องแบบนี้ยิ่งดีใหญ่เลย ถือเดินไปตรงไหน ยิ้มให้แล้วยกกล้องขึ้นถ่ายก็ได้รอยยิ้มกล้บมาแล้วล่ะครับ

         เห็น Pentax Q10 ตัวเล็ก ๆ แบบนี้แต่มันมาพร้อมฟังก์ชั่นเสริมความสามารถที่หลากหลาย แบบที่กล้อง Pentax ตัวใหญ่เขามีกันเลยนะครับ ผมเคยถือกล้อง Pentax อยู่สองสามตัวและก็ชื่นชอบเสน่ห์บางอย่างในกล้องยี่ห้อนี่อยู่ก่อนแล้ว แล้วพอถือไอ้ตัวเล็กนี่ผมก็รักเลยล่ะ ตั้งแต่เปิดตัวฟังก์ชั่นไปแล้วล่ะ มี Scene ให้เลือกแบบที่เที่ยวรอบโลกก็ไม่ต้องไปใช้มันหรอกโหมด P, Av, Tv หรือ M เนี่ย ถือกันติดมือเห็นแล้วชอบยกแล้วกด กันสนุก ๆ ยังได้ภาพดี ๆ กลับบ้านเลย (ถ้าไม่ตั้งความหวังลำเอียงถึงขั้นคิดจะเอาภาพระดับมืออาชีพในทุกชัตเตอร์จากกล้องเล็กขนาดนี้น่ะนะ)

         เอาสิครับ เปิดออกมานี่ไม่ต้องกลัวแล้วล่ะเรื่องถ่ายภาพเป็นไม่เป็นเนี่ย แค่ตอบคำถามในใจที่ว่า “อยากถ่ายภาพมั้ย ?” และถ้าคุณถ่ายภาพเป็นอยู่แล้ว ก็เล่นโหมด Av, Tv, หรือ M เหมือนในกล้องใหญ่ไปเลยก็ได้ เพราะถึงจะถ่ายภาพด้วยโหมด Av, Tv หรือ M คุณก็ยังสามารถงลือกเพิ่ม Effect พิเศษให้ภาพของคุณได้ตั้งแต่ก่อนถ่ายภาพได้ด้วยนะ เพราะ Pentax Q10 ได้เตรียม Smart Effects Mode ไว้ให้เราแล้วครับ มีทั้ง Brilliant Color, Vintage Color, Warm Fade, Bold Monochrome, and Water Color ฟังชื่อรายการ Effect ว่าเยอะแล้ว พอใช้งานจริงยิ่งเยอะเลยนะครับ เพราะข้างใน Effect แต่ละอันเรายังสามารถตั้งค่าให้มันได้อีก

          พอเล่ามาถึงตรงนี้ ผมว่าคนที่เคยใช้กล้องเล็กที่มีลูกเล่นให้เลือกใช้งานเยอะ ๆ คงส่ายหัวหัวเพราะแค่พอมองดูกล้องอันเท่าฝ่ามือแล้วคิดว่าต้องกดปุ่มเล็กจิ๋วบนกล้องเพื่อเข้าไปหาฟังก์ชั่นข้างใน ยิ่งว่าคนมือใหญ่ ๆ หลายคนคงท้อเลยใช่ม้ยครับ บอกเลยครับไ่ม่ต้องรอให้มือใหญ่หรอก เพราะผมเป็นคนมือเล็กยังแอบเซ็งเวลาที่ต้องกดปุ่มบนกล้องคอมแพ็คเลยครับ และตรงนี้ทาง Pentax คงได้ยินคนใช้กล้องบ่นกันมาเยอะครับ เพราะกล้อง Pentax Q10 ถูกออกแบบให้มีฟังกชั่นให้ไปตั้งค่าที่เราชอบไว้ให้เรียกใช้ได้อย่างรวดเร็วถึง 4 ค่าอีกด้วย ผ่านทางแป้นหมุ่นเล็ก ๆ ข้างหน้า ซึ่งตั้งไว้ได้ถึงสี่แบบ ผมว่านี่ล่ะครับสวนสนุกของคนชอบถ่ายภาพด้วย Effect แปลก ๆ ล่ะครับ

         ในความรู้สึกแวบแรกที่ใครต่อใครได้เห็น Pentax Q10 ผมคิดว่าทุกคนคงนึกเหมือนกันว่าดูหน้าตามันดูคลาสสิคนะ ยิ่งพอได้ยกมันขึ้นมาในมือยิ่งเหมือนตัวเองกำลังจะถูกพาย้อนไปในอดีต นั่นทำให้ผมอยากถือกล้องนี้ไปหาสถานที่ที่ให้ความรู้สึกคลาสสิคเหมือนกับกล้องตัวนี้ และหัวลำโพงก็เป็นสถานที่แรกที่ผมนึกถึงเลยล่ะ ที่นี่คือความคลาสสิคที่ยังหายใจ และคงอารมณ์ของการท่องเที่ยววันวานกลับมาอีกครั้ง

        วันนี้แดดแจ่มแจ้งร้อนแรงเหลือกำลังเลยล่ะครับ จอหลังกล้องขนาด 3 นิ้ว ความละเอียด 460,000 จุด ในแสงจ้า ๆ ก็พอมองเห็นได้จากมุมเฉียง ผมว่าถ้าใครคิดจะถือ Pentax Q10 ไปเที่ยวทะเลน่าจะไม่ต้องกลัวจะเจอชะตากรรมแบบที่ออกไปกลางแจ้งแล้วต้องกดชัตเตอร์เสี่ยงดวงเพื่อเอากล้องกลับไปดูภาพในร่มแน่นอนครับ

          พอพูดถึงแดดแรง ๆ แสงมาก ๆ ก็คงต้องพูดถึงสปีดชัตเตอร์ซักนิด สำหรับเจ้า Q10 นี่ให้สปีดชัตเตอร์มา 1/2000 ถึง 30 วินาที ที่ออกจะแพ้สภาพแสงจ้า ๆ อยู่เหมือนกันนะ  ถ้าซีเรียสเรื่องของไฮไลท์ เราคงต้องกด ISO ให้ต่ำสุดไว้ก่อน เพื่อให้ความเร็วชัตเตอร์ยังคงอยู่ใน 1/2000 หรือถ้าไม่อยากคิดมาก ก็ใช้ฟังก์ชั่น HDR เพื่อรักษารายละเอียดไว้ด้วยซักภาพกันพลาดหากช็อตนั้นคุณอยากได้จริง ๆ เพราะ Pentax Q10 ให้ HDR มาตั้งให้เลือกใช้ทั้งแบบเลือกก่อนถ่ายภาพหรือถ่ายภาพไปแล้วค่อยมาปรับกันทีหลังก็ได้

          พอถ่ายภาพข้างนอกหัวลำโพงกันอยู่พักหนึ่งก็ได้ฤกษ์หลบแดดที่แสนร้อนแรง เข้าไปสำรวจข้างในหัวลำโพงกันดีกกว่า และมันต่างกับการเดินห้าวสรรสินค้ามากเพราะข้างในหัวลำโพงแสงไม่ได้สว่างไสวมากอย่างตอนอยู่ข้างนอกเลย ดูอย่างภาพนี้สิครับ ข้างในจัดว่ามืดได้เลยล่ะ

         สำหรับการถือกล้องตัวเล็กอย่าง Q10 ครั้งนี้ ผมคิดอย่างคนอยากท่องเที่ยวที่อยากจะปรับกล้องที่เดียวให้มันอยู่หมัดไปเลยดีกว่า เพราะเลือกซื้อกล้องเล็กถนัดมือขนาดนี้เพื่อติดมือไปเที่ยวไปไหนต่อไหน แล้วยังต้องแบกถือขาตั้งไปด้วยเพราะอยากได้ชัตเตอร์สปีดต่ำ ๆ กับ ISO น้อย ๆ ผมว่าแบกกล้องใหญ่อันเดิมซะดีกว่าครับ ฉนั้นแล้วค่า ISO ผมก็เลือกเป็นแบบ Auto 100-1600 เพราะ Pentax Q10 ให้คุณกำหนดได้ว่าคุณอยากตั้งค่าสูงสุดของ ISO ไว้ซักเท่าไหร่จะ 400, 800 หรือ 3200 ก็ได้ครับ  และผลของการตั้ง ISO ก็คือเจ้ากล้องเล็กนี่บ้าพลังมากเล่นจัด ISO1600 ให้ผมเกือบทุกช็อตเลยน่ะสิครับ

       แล้วถ้าได้จับกล้อง Pentax แล้วจะไม่พูดถึงของเล่นชิ้นสำคัญอีกชิ้นของกล้อง Pentax ก็คือ Effect & Filter ครับ มันทำให้เราเอาภาพที่ถ่ายแล้วมาปรับแต่งใส่ Effect ต่าง ๆ เข้าไปได้อีกตั้งหลายอย่าง บางภาพไม่ต้องถึงคอมพิวเตอร์เลยก็มี อย่างเช่นภาพคุณน้าตำรวจรถไฟท่านนี้ แสงในตอนนั้นน้อยมากครับ เจ้า Q10 ก็เลยซัดไปเต็มข้อ ISO1600 กับตราส่วนภาพ 16:9 ได้ไฟล์ JPG น่ารัก 9MP แล้วค่อยมาใช้ Filter ในกล้องปรับภาพต่อด้วย Filter Soft => Ratro => BW …. ผลก็คือได้ภาพขาวดำพร้อมกรอบสีขาวมาเรียบร้อยเลย … นี่ถ้าไม่ต้องใส่โลโก้กับชื่อกล้อง ก็ไม่ต้องจับคอมพิวเตอร์กันเลยครับ

         ไม่ใช่แค่ Effect & Filter ที่เอาไว้้ใช้กับไฟล์แบบ JPG หรอกนะครับ เพราะกล้องเล็ก ๆ ตัวนี้ถ่ายภาพเป็น RAW ไฟล์ได้ด้วย และยังมีฟังก์ชั่นจัดการ Raw file มาเบ็ตเสร็จในตัวเลย ซึ่งก็เล่นสนุกไม่แพ้กันและผมว่าหากคุณไม่ชำนาญการปรับแก้ RAW ไฟล์ในเครื่องคอมพิวเตอร์ ปรับในกล้องนี่ก็ได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจได้ไม่หยอกเหมือนกันนะครับ สำหรับผมแล้วเวลาที่ต้องเดินทางไกลไปไหนต่อไหน การได้กล้องที่มีี Effect หรือโหมดการปรับ Raw ติดมือไปด้วยนี่เป็นเรื่องสนุก และเป็นเครื่องมือแก้เครียดในระหว่างเดินทางได้เป็นอย่างดีเลยนะครับ เพราะตลอดเย็นวันนั้นถึงผมจะถ่ายภาพไปไม่มากมายนัก แต่ตลอดการเดินทางนับสิบชั่วโมงบนตู้นอนที่ผมโดยสาร ผมไม่ได้พบความรู้สึกเบื่อเลย เพราะนั้งเปิดดูภาพแล้วกดปรับแต่งภาพในกล้องกันเพลินเลย ผมว่ามันช่วยให้เราลืมให้ช่วงที่น่าเบื่อบางช่วงในการเดินทางท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดีเลยล่ะ  ต้องบอกว่าความสุขจาก Q10 ไม่ได้จบแค่ที่ชัตเตอร์จริง ๆ ครับ

ภาพและเนื้อหาโดย : Studio OMG

ดูข้อมูลเพิ่มเติมของ Pentax Q10 ได้ที่ Pentax Q10

บทความนี้เขียนเมื่อวันที่ 02/06/2013

Leave a Reply

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

Save