สวัสดีครับทุกคน วันนี้ผมมีกล้องเล็ก ๆ ตัวนึงจะมาแนะนำ จริง ๆ ก็ไม่เล็กเท่าไหร่เพราะเจ้าตัวนี้เป็นกล้อง DSLR ที่มาพร้อมสเปคครบ ๆ ใช้กันได้ตั้งแต่เมื่อใหม่เริ่มหัดถ่ายไปจนถึงคนที่เริ่มจริงจังกับการถ่ายภาพในราคาเป็นมิตรคิดแล้วไม่เกิน 3 หมื่นบาท นั่นก็คือ Nikon D5600…!
ทำไมต้อง Nikon D5600
ง่าย ๆ ก็เพราะมันคุ้มนั่นแหละครับ ฮ่า ฮ่า แต่ไหนแต่ไรรุ่น D5xxx มันเป็นจุดที่คุ้มค่าอยู่แล้วเพราะเราจะได้บอดี้ที่ไม่เล็กหรือใหญ่จนเกินไป น้ำหนักยังเบาอยู่แต่เสปคจะเริ่มแตะระดับกึ่งโปรแล้วในราคาที่สูงกว่ารุ่นเริ่มต้นไม่มากนักทำให้มือใหม่หรือคนที่ถ่ายภาพเป็นงานอดิเรกเลือกซีรีส์นี้กันเยอะ สังเกตว่าคุณจะหารีวิว Nikon D5600 ดูได้เยอะมากทั้งจากสำนักรีวิวและผู้ใช้ทั่วไป
Nikon D5600 + 18-55mm ราคา 26,900 ลดเหลือ 22,500 บาท
Nikon D5600 + 18-140mm ราคา 33,500 ลดเหลือ 29,900 บาท
(ราคา ณ วันที่ 31/07/2018)
สเปค Nikon D5600
ด้านสเปคนั้นผมมองว่ามันให้มาครบถ้วนดีแต่อาจจะไม่ได้มีอะไรหวือหวาแปลกใหม่เกินค่ายอื่น แต่มองในมุมนึงมันก็ไม่เห็นจำเป็นต้องทำอะไรให้แปลกถ้าทำตามปกติแล้วราคามันไม่แพงแต่ได้สเปคมาครบถ้วนใช้ถ่ายภาพได้ดีผมก็ว่ามันใช้ได้แล้ว
- เซนเซอร์ CMOS ขนาด APS-C ความละเอียด 24.2 ล้านพิกเซล
- เซนเซอร์แบบไม่มี Optical low-pass Filter เพื่อความคมชัดสูงสุด
- ISO 100-25600
- ระบบ Nikon Multi-CAM DX4800 จุดโฟกัส 39 จุด Cross-type 9 จุด
- ถ่ายภาพต่อเนื่อง 5 ภาพต่อวินาที
- ความเร็วชัตเตอร์สูงสุด 1/4000 วินาที
- ช่องมองภาพ OVF ครอบคลุมการมองเห็น 95% ของเฟรมภาพ
- จอแสดงผล Touchscreen ขนาด 3.2 นิ้วความละเอียด 1,037,000 พิกเซล พับออกข้างหันถ่ายตัวเองได้
- บันทึกวิดีโอ 1080/60p, 50p, 30p, 25p, 24p รูปแบบไฟล์ MOV
- มีฟังก์ชันถ่ายภาพ Time-Lapse
- มี Wi-Fi, Bluetooth v4.1 LE และ NFC รองรับการใช้งานกับแอป Nikon SnapBridge
- มีช่องต่อไมโครโฟน
- แบตเตอรี่ EN-EL14a ถ่ายได้ 970 ภาพต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
- น้ำหนัก 465 กรัม
ไฟล์ภาพดีจากเซนเซอร์ APS-C CMOS
ถ้า Nikon D5600 เป็นกล้องตัวแรกของคุณที่เปลี่ยนเลนส์ได้คุณจะสัมผัสคุณภาพไฟล์ที่ดีจากเซนเซอร์ขนาด APS-C ได้อย่างชัดเจน แค่มองดูไม่ต้องซูมเราก็รู้ว่ามันดีกว่าไฟล์จากมือถือหรือกล้องคอมแพคตัวเล็ก ๆ มากเพราะขนาดเซนเซอร์ใหญ่กว่าหลายเท่า
และถ้าเป็นคนที่คุ้นเคยกับกล้อง DSLR อยู่แล้วเจ้า APS-C CMOS 24.2 ล้านพิกเซลตัวนี้ก็ทำผลงานได้ดีพอ ๆ กับกล้อง APS-C รุ่นอื่น ๆ ในตลาดฉะนั้นเรื่องคุณภาพไฟล์ไม่ต้องห่วงเลย
จอ Selfie ได้สบายสาย Vlog
Nikon D5600 มีหน้าจอแสดงผลแบบ Touchscreen ที่สามารถพลิกออกด้านข้างและหมุน 180 องศามาด้านหน้าได้ สามารถใช้ถ่าย Selfie ได้เลยแต่ถือแขนเดียวอาจจะเมื่อยซักหน่อยงานนี้ต้องไว รีบเล็งรีบถ่าย 555 และถือว่าดีสำหรับสาย Vlog เพราะเราสามารถถ่ายวิดีโอไปพร้อม ๆ กับการมองเห็นตัวเองได้ จะใช้อัดวิดีโอทำรีวิวสินค้าหรือพาเที่ยวก็ได้
วิดีโอ 1080p 60fps และช่องต่อไมโครโฟน
อาจจะน่าเสียดายที่ Nikon D5600 ไม่สามารถถ่ายวิดีโอ 4K ได้แต่ก็ยังมี Full HD 1080p 60fps ซึ่งก็ถือว่ามากเหลือเฟือแล้วสำหรับการทำ Video Content ลง Youtube, Facebook ณ ตอนนี้บ้านเราเริ่มรองรับ 4K กันมากขึ้นแต่ Content ส่วนใหญ่ก็ยังเป็น 1080p อย่าง Youtube Channel ในบ้านเราก็มีไม่กี่ช่องเท่านั้นที่ทำแบบ 4K เพราะมันกินทรัพยากรหนักมากทั้งพื้นที่จัดเก็บและคอมฯที่ต้องใช้ตัดต่อ
และอีกส่วนที่สำคัญคือเจ้าตัวนี้มีช่องต่อไมโครโฟนแยกอยู่ด้วยทำให้เราสามารถต่อไมโครโฟนภายนอกเพื่อเสียงที่ดีขึ้นได้ซึ่งจำเป็นมากสำหรับคนที่จะเน้นถ่ายวิดีโอ
เชื่อมต่อไร้สายจัดเต็ม
Nikon D5600 จัดการเชื่อมต่อไร้สายมาเต็มทั้ง Wi-Fi, NFC และ Bluetooth v.4.1 LE การเชื่อมต่อสามารถทำได้ผ่านแอป Nikon SnapBridge
สิ่งที่ DSLR ให้เราได้มากกว่า Mirrorless
หลายคนอาจจะมีคำถามว่าในยุคที่ Mirrorless กำลังบูมขนาดนี้ การซื้อ DSLR จะดีหรอ? อันนี้ผมอยากให้มองว่าอะไรเหมาะกับตัวเองมากกว่าการซื้อไปตามกระแสรอบข้าง ทั้ง Mirrorless และ DSLR ให้คุณภาพไฟล์ที่ดีในระดับเดียวกัน บางคนชอบเล็กเบาพกง่ายก็จะมองว่า Mirrorless คือคำตอบแต่ถ้าโจทย์ของเราคืออยากได้กล้องจับถือถนัด แบตฯอึด ทนทานต่อการใช้งานได้หลายรูปแบบ DSLR จะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า ซึ่งทั้งหมดนั้นก็เป็นสาเหตุที่ผมเองยังคงใช้กล้อง DSLR เป็นกล้องหลักอยู่จนถึงวันนี้และใช้ Mirrorless เป็นกล้องสำรอง
ช่องมองภาพ OVF(Optical Viewfinder)
เป็นสิ่งที่ช่างภาพหลายคนชอบและทำใจลำบากตอนที่คิดจะเปลี่ยนจาก DSLR ไป Mirrorless เพราะช่องมองภาพแบบ Optical ที่ใช้ตาเรามองแสงที่ส่องผ่านเลนส์มาจริง ๆ มันสบายตาทั้งยังไม่เปลืองแบตเตอรี่จะส่องดูมุมทั้งวันยังได้เป็นสิ่งที่ทำให้หลายคนติดใจและยากที่จะเลิกใช้ แต่แน่นอนข้อด้อยที่ต่างจาก EVF(ช่องมองภาพแบบอิเล็กทรอนิกส์) คือมันไม่เห็นภาพจริงจากเซนเซอร์แบบ EVF
แบตเตอรี่โคตรอึด
ผมเองใช้ทั้ง Mirrorless และ DSLR ตอบได้แบบตรง ๆ เลยว่า DSLR แบตฯอึดกว่ามาก การใช้ Mirrorless ถ่ายท่องเที่ยง 1 วันปกติเราต้องคิดเรื่องประหยัดแบตฯอยู่ตลอดเพื่อให้แบตฯ 1 ก้อนพอสำหรับเช้ายันมืด(หรือใครมีหลายก้อนก็สบายหน่อย)การดูรูปบ่อยหรือยกส่องดูมุมบ่อยเกินไปก็จะทำให้แบตฯหมดเร็ว
แต่กลับ DSLR ถ่ายไปเถอะมันไม่หมดง่าย ๆ แน่ 1 วันสำหรับ Nikon DSLR ถ่ายได้สบาย ๆ ยิ่งถ้าเป็นรุ่นใหญ่ตั้งแต่ D7500 ขึ้นไป(จะใช้แบตฯ EN-EL15)จะทนทานมากถ่ายไปได้ 2-3 วันใช้ประหยัดหน่อยลั่นได้ 2-3 พันรูปเลยอย่าง Nikon D5600 เอง Nikon ก็ทดสอบแล้วว่าถ่ายได้ 970 ภาพต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
การจับถือและควบคุมที่ดี
แน่นอน DSLR มีบอดี้ขนาดใหญ่มันจะให้การจับถือที่ถนัดมือ และตำแหน่งการวางปุ่มที่ดีมากทำให้เราควบคุมกล้องได้สะดวกรวดเร็วเพราะมันออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อการนี้ ถ้าจะหา Mirrorless ที่ทำได้ในระดับเดียวกันก็มักจะมีบอดี้ขนาดใหญ่และมีน้ำหนักที่พอ ๆ กับ DSLR เลย
การทำงานที่รวดเร็ว
ถ้าคุณไม่เคยใช้ DSLR อาจจะนึกภาพลำบากว่า”รวดเร็ว”ที่ผมพูดถึงมันประมาณไหน ทันทีที่เราสับสวิตช์เปิดเครื่องกล้องจะพร้อมถ่ายภาพแทบจะทันทีใช้เวลาเพียงเสี้ยววินาทีสั้น ๆ เท่านั้น เพื่อให้เราเก็บภาพสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างกระทันหันได้ เป็นสิ่งที่ผมรอว่าเมื่อไหร่ Mirrorless จะสามารถทำแบบนี้ได้ซึ่งคงไม่ใช่ในเร็ว ๆ นี้
เลนส์เพียบ
กล้อง SLR นั้นมีมานานแล้วยิ่งเป็น Nikon ด้วยแล้วเมาท์เลนส์ Nikon F ไม่เคยเปลี่ยนเลยนับตั้งแต่สมัยฟิล์มเราสามารถนำเลนส์มือหมุนรุ่นเก่า ๆ ของ Nikon มาใช้ได้โดยไม่จำเป็นต้องแปลงเมาท์ใด ๆ เลย ยิ่งเมื่อพูดถึงเลนส์ในยุคปัจจุบัน Nikon ก็มีเลนส์ให้เลือกเยอะมาก มีทุกแบบที่เราต้องการ เมื่อปี 2016 ก็มีการประกาศว่าพวกเค้าผลิตเลนส์ออกมามากกว่า 100 ล้านชิ้นแล้วฉะนั้นในตลาดมีให้เราเล่นเยอะมากทั้งมือหนึ่งและมือสอง
ราคาไม่แพง
สุดท้ายคือเรื่องราคาที่ตั้งมาไม่แพงเลย
Nikon D5600 + 18-55mm ราคา 26,900 ลดเหลือ 22,500 บาท
Nikon D5600 + 18-140mm ราคา 33,500 ลดเหลือ 29,900 บาท
(ราคา ณ วันที่ 31/07/2018)
ฝากสุดท้าย…
สุดท้ายขอฝากไว้อย่างนึงแม้ผมจะพูดไปแล้ว ถ้าใจคุณชอบความเป็น DSLR ก็ไปทางนี้เลยครับ ทุกวันนี้รอบข้างเราอาจจะมีคนใช้ Mirrorless เยอะจนเราแอบกังวลที่จะแปลกแยกไปใช้ DSLR ผมอยากให้มองที่การตอบโจทย์ตัวเองมากกว่า อะไรที่เราชอบ ตรงการใช้งานของเรา ให้ความสะดวกกับเรา ก็เลือกอันนั้น ไม่มีอะไรผิดทั้งนั้นเพราะแต่ละคนการใช้งานไม่เหมือนกัน อย่างผมใช้ในเมืองเป็นหลักผมเดินทางใกล้ผมเลือก Mirrorless แต่คุณอาจจะท่องเที่ยว Backpack ขึ้นเขาไกล ๆ ต้องการแบตฯอึดกับความทนทานทุกสภาพอากาศคุณก็อาจจะเลือก DSLR
ฉะนั้นจะเลือกอะไรก็ขึ้นอยู่กับความชอบและการใช้งานของแต่ละคนนะครับ ถ้าตัดสินใจได้แล้วก็อย่าลืมมาสอบถามกันได้ที่ร้าน ZoomCamera ทุกสาขาเลย
บทความนี้เขียนเมื่อวันที่ 31/07/2018