เพื่อนๆที่ชอบถ่ายภาพแนว Landscape มักจะพบเจอภาพแนวนี้ในช่องทาง Online ต่างๆที่มักจะมีความสวยงามอยู่เสมอ แต่เพื่อนๆทราบหรือไม่ว่า การถ่ายภาพ Landscape นั้น นอกจากจะสวยด้วย Location แล้ว ยังสามารถใช้เทคนิคอื่นๆมาช่วยเติมเต็มจินตนการในภาพได้อย่างไม่คาดคิด สำหรับเทคนิคนั้น คือ Time Stack นั่นเอง ซึ่งวิธีการจะเป็นอย่างไรนั้น ลองติดตามกัน ” Time Stack : เทคนิคการเปลี่ยนภาพ Landscape ให้เหมือนภาพในฝัน Time Stack : เทคนิคการเปลี่ยนภาพ Landscape ให้เหมือนภาพในฝัน ” ไปพร้อมๆกันครับ
Matt Molloy ช่างภาพจากแคนาดา ผู้ซึ่งชื่นชอบการถ่ายภาพแนว Landscape ร่วมถึงการใช้เทคนิคต่างๆในการรังสรรค์ผลงาน Landscape ของเขา โดยเฉพาะการใช้เทคนิค Time Stack นั่นเอง ซึ่งเจ้า Time Stack นั้นมาจากการใช้เทคนิค Timelapse และ/หรือ Star Trail มาใช้ในการถ่ายภาพ Landscape ซึ่งโดยปกติแล้วจะใช้ภาพหลายๆภาพมทำการ Process เพื่อออกมาซึ่ง Output ที่มากกว่าภาพปกติทั่วไปครับ
อุปกรณ์สำหรับเตรียมทำ Time Stack
กล้อง และ อุปกรณ์การถ่าย intervalometer
สำหรับใน Gen ปัจจุบัน กล้องในหลายๆค่าย หลายๆแบรนด์ สามารถที่จะถ่ายภาพแนว interval ได้หลาย ทั้งจาก Feature ในกล้องเอง และ/หรือ จากการใช้ฟังก์ชั่นเสริมเพิ่มเติม ซึ่งในส่วนนี้ไม่ได้มีข้อจำกัดว่าจะเป็นกล้อง Mirrorless หรือ กล้อง DSLR แต่อย่างใดครับ
ขาตั้ง ของสำคัญที่ห้ามขาด
สาเหตุที่บอกว่าห้ามขาดนั้น เนื่องจากว่าการทำ Time Stack นั้น จำเป็นต้องใช้วัตถุดิบที่เป็นภาพในการทำเป็นระยะเวลานาน ดังนั้นหากไม่มีที่ยึดเกาะที่มั่นคงแข็งแรงให้กับกล้องของเรา ก็จะทำให้ในช่วงเวลาที่เราถ่ายนั้น มีการสั่นไหว/สั่นสะเทือน ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อภาพของเรานั่นเอง
Software ในการ Process
สำหรับการทำ Time Stack นั้น ไม่อาจสามารถที่จะจบภายในกล้องได้ทันที หรือหากทำได้ก็เป็นเรื่องที่เหนื่อยสำหรับช่างภาพที่มีความละเมียดละไมในการ Setting เป็นแน่แท้ ดังนั้นการทำ Time Stack มักจะใช้การ Process ใน PC เพิ่มเติมไม่ว่าจะเป็น Freeware ต่างๆ อาทิ Adobe Photoshop เป็นต้น
ความอดทน อดกลั้น
อย่างที่เกริ่นข้างต้น การจะทำภาพในลักษณะของ Time Stack นั้นจำเป็นต้องใช้วัตถุดิบที่เป็นภาพในปริมาณที่มาก ซึ่งจำเป็นต้องใช้ระยะเวลาที่ยาวนานกว่าการถ่ายภาพแบบปกติทั่วไป
Trick การทำ Time Stack
จัดองค์ประกอบของภาพ ตามที่เราแพลนไว้
การทำ Time Stack นั้น ผลสุดท้ายเราจะได้ออกมาเพียงภาพนิ่งเพียง 1 ภาพ แต่เป็นผลผลิตที่มาจากภาพนิ่งหลายๆภาพผสานเข้าด้วยกัน ดังนั้นเราต้องวางแผนล่วงหน้า สำหรับ Output สุดท้ายที่ต้องการออกมาก่อนนั่นเอง
ควบคุมปริมาณแสงภายในภาพ
การทำ Time Stack จากการนำภาพนิ่งหลายๆภาพมารวมกัน สภาพแสงเป็นอีกเรื่องที่สำคัญที่พลาดไม่ได้ เนื่องจากในการถ่ายนั้นสภาพแสงในขณะนั้น มักมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา หากเรา Setting Exposure มากเกินไปหรือน้อยเกินไป จะทำให้ภาพมีความสว่างที่แตกต่างกันออกไปนั่นเอง
สังเกตุการเปลี่ยนแปลงในแต่ละเฟรม
การถ่ายภาพเพื่อจะนำภาพที่เป็นวัตถุดิบมาทำ Time Stack นั้น แน่นอนในสถานการณ์ตรงหน้านั้นๆ ย่อมมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นสภาพแสง สภาพอากาศ รวมถึงการเคลื่อนไหวต่างๆของธรรมชาติ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้นั้นล้วนมีผลโดยตรงการภาพที่จะเป็น Output หลังจากการทำ Time Stack แล้วนั่นเอง เพราะแต่ละภาพนั้นจำเป็นที่ต้องใช้ความละเอียด รอบคอบในการเก็บภาพวัตถุดิบมานั่นเองครับ ฉะนั้นหากช่างภาพมีความซีเรียสสำหรับการนำภาพมาทำ Time Stack แล้วละก็ แนะนำว่าควร Note ช่วงเวลาต่างๆไว้ เพื่อดูความแตกต่างของภาพที่จะเกิดขึ้นนั่นเอง
สำหรับขั้นตอนการทำ Time Stack นั้น เพื่อนๆสามารถชมขั้นตอนได้ตาม Clip ด้านล่างนี้ครับ
Credit >>> How To Time Stack
ลูกค้าที่สนใจสั่งซื้อสินค้า สามารถติดต่อสั่งซื้อได้ผ่านช่องทางออนไลน์ของทางร้านได้ตลอด 24 ชม. หรือ โทรเข้ามาโดยตรงผ่านโทรศัพท์
แอดไลน์ ID:@ZoomCamera หรือ หน้าเว็บไซด์ ZoomCamera
083-067-7677 / 02-098-9555 ต่อ 0 (หยุดวันอาทิตย์)