เทคนิคจากการใช้อุปกรณ์เสริม และ/หรือ การประยุกต์จากสิ่งรอบตัวที่มี ในหลายกรณีตัวแบบที่เหมาะสมและเข้ากันได้ดีกับเทคนิคการถ่ายภาพสร้างให้เกิด ผลลัพธ์ที่น่าทึ่งและน่าประหลาดใจเป็นอย่างมาก เทคนิคการถ่ายภาพจึงเป็นสิ่งที่ช่างภาพส่วนใหญ่จำเป็นที่จะต้องทำความเข้าใจ และเสริมสร้างความรู้ให้มากที่สุดเพื่อนำมาประยุกต์ในการใช้งานให้หลากหลายมากขึ้น หนึ่งในนั้นคือ การถ่ายภาพแฉกไฟ ซึ่งในวันนี้ทาง Zoomcamera จะมาแนะนำ ” Tip & Trick : เทคนิคการถ่ายภาพประกายแฉกแสงไฟ “ ซึ่งเป็นอีกเทคนิคหนึ่งที่ช่างภาพมือใหม่ต่างสนใจ และต้องการถ่ายออกมาให้ได้เช่นกันครับ
ปัจจัยที่ทำให้เกิดไฟแฉก
ภาพที่มีแฉกไฟเข้ามาในภาพ ล้วนแล้วมาจากจำนวนกลีบของม่านรูรับแสงต่างกันเป็นจำนวนคู่หรือจำนวนคี่ สำหรับเลนส์ที่มีกลีบม่านรูรับแสงเป็นคู่ จำนวนแฉกแสงที่เกิดขึ้นจะเท่ากับจำนวนของกลีบ ขณะที่จำนวนแฉกแสงจากเลนส์ที่มีกลีบม่านรูรับแสงเป็นจำนวนคี่จะให้แฉกแสงมากกว่าเป็นสองเท่าของจำนวนกลีบ และปัจจัยสำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือตำแหน่งของกล้องที่กำลังเล็งไปยังแหล่งกำเนิดแสงนั้นๆ เพราะแหล่งกำเนิดแสงบางชนิดก็อาจจะไม่ปรากฏแฉกแสงขึ้นมาหากถ่ายภาพไปตรงๆ แต่ต้องมีบางสิ่งบางอย่างบังอยู่หน้าแหล่งกำเนิดแสงนั้นๆ เล็กน้อยจึงจะทำให้เกิดประกายแฉกแสงขึ้น เช่นหากเราถ่ายภาพพระอาทิตย์ตรงๆ ก็อาจจะไม่เกิดประกายแฉกขึ้น แต่หากวางตำแหน่งโดยให้มีสิ่งบังในลักษณะคล้ายกับพระอาทิตย์ลอดแสงออกมาก็จะ ทำให้เกิดประกายแฉกแสงขึ้นได้
เตรียมตัวสำหรับถ่ายไฟแฉก
1. กล้อง DSLR / กล้อง Mirrorless
2. ขาตั้งกล้อง
3. สายลั่นชัตเตอร์
Setting ในการถ่ายไฟแฉก
ในการถ่ายไฟแฉกนั้น เราจพิจารณาที่ค่ารูรับแสงเป็นหลัก โดยค่ารูรับแสงจะมีผลโดยตรงกับแฉกไฟในภาพ ซึ่งค่าที่เหมาะสมจะอยู่ที่ประมาณ F8 – F22 ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับอัตลักษณ์ของแต่ละเลนส์ เนื่องจากเลนส์บางรุ่นไม่จำเป็นต้องหรี่ค่ารูรับแสงให้แคบกว่าปกติ ก็สามารถถ่ายไฟแฉกได้ นอกจากนี้การถ่ายภาพไฟแฉกโดยเฉพาะในช่วงเวลาแสงน้อย และ/หรือ กลางคืน เราจำเป็นจะต้องตั้งค่า Speed Shutter ต่ำๆประมาณ 3 – 10 วินาที ขึ้นอยู่กับความต้องการของเรานั่นเอง
*** ตัวอย่าง : ภาพการถ่ายไฟแฉก ***
*** สิ่งที่ต้องพึงระวัง ***
แม้ว่าการถ่ายประกายแฉกแสงจะปรากฏในภาพอย่างไร ขึ้นอยู่กับจำนวนกลีบของม่านรูรับแสงในเลนส์และค่ารูรับแสง ถ้าคุณต้องการทำให้ประกายแสงเป็นแฉกชัดเจน ให้ลดขนาดรูรับแสงลงให้มากเท่าที่จะทำได้ ผลภาพที่ดีที่สุดจะอยู่ที่ประมาณ f/8 และ f/11 แม้เอฟเฟ็กต์จะเปลี่ยนไปเมื่อใช้เลนส์ที่แตกต่างกัน พึงระลึกว่า การลดขนาดรูรับแสงลงมากเกินไปจะให้แฉกแสงที่ยาว ซึ่งอาจทำให้องค์ประกอบภาพดูรกตาได้ ในทางตรงกันข้าม รูรับแสงที่เปิดกว้างเกือบเต็มที่ก็อาจทำให้เอฟเฟ็กต์ประกายแฉกดูไม่มีพลังในภาพ นอกจากนี้ เอฟเฟ็กต์อาจไม่มีผลที่ชัดเจนหากแหล่งแสงอยู่ไกลเกินไป รูปร่างของประกายแฉกแสงจะเปลี่ยนไปตามจำนวนม่านรูรับแสง ซึ่งยังมีข้อควรระวังในบางเรื่องที่ผู้ถ่ายต้องพึงระวังไว้เสมอ
– การใช้ฟิลเตอร์ก็ยังมีความเหมาะสมในหลายๆ สถานการณ์ เพราะมันไม่มีปัจจัยทางด้านที่จะต้องลดทอนปริมาณแสงลง การจะใช้งานฟิลเตอร์ชนิดนี้ให้ได้ผลดีจะต้องเกิดจากความรู้ความเข้าใจในเรื่องของการเปิดรับแสงและความเหมาะสมต่อตัวแบบและสถานการณ์ด้วย หากใช้ฟิลเตอร์คุณภาพไม่ดีนัก ก็จะทำให้คุณภาพแสงที่ผ่านจากตัวมันเข้ามาสู่เลนส์นั้นด้อยลงด้วย
– การถ่ายภาพพระอาทิตย์ตรงๆ เพื่อที่จะเก็บแฉกไฟ อาจจะทำให้เกิดปัญหากับดวงตาและเซนเซอร์รับภาพได้ เพราะแสงอาทิตย์ที่ผ่านเลนส์เข้ามาแล้วล้วนมีความเข้มของแสงและความร้อนสูง มาก ดังนั้นถ้าไม่จำเป็นก็ควรหลีกเลี่ยง และห้ามมองพระอาทิตย์ในช่องรับภาพโดยตรง เพราะในขั้นร้ายแรงอาจจะทำให้ตาบอดได้เลยทีเดียว
– ด้วยความที่จำเป็นที่จะต้องหรี่ค่ารูรับแสง ดังนั้น ด้วย Speed Shutter ที่ต่ำ อาจทำให้ภาพเกิดการสั่นไหวได้ ดังนั้นทางแก้สำหรับผู้ที่ไม่มีขาตั้ง อาจจำเป็นจะต้องใช้ค่า ISO ที่สูงขึ้น เพื่อแลกกับ Speed Shutter ที่สูงขึ้นด้วย
inbox : http://www.facebook.com/messages/zoomcamera
02-635-2330 ต่อ 0 / 083-067-7677 (หยุดวันอาทิตย์)
สาขาสีลม 02-635-2330-1 / 080-271-2772
สาขาเดอะมอลล์งามวงศ์วาน 02-951-8597 / 085-937-0123
สาขาเมกาบางนา 02-105-1926 / 086-554-1919
สาขาเดอะมอลล์บางแค 02-454-9598 / 084-033-0498
สาขาฟอร์จูนทาวน์ 02-642-1291 / 083-068-2775
สาขา Central Festival เชียงใหม่ 052-068-787 / 096-878-4896
สาขา Central Westgate 02-060-4362 / 097-063-4328
บทความนี้เขียนเมื่อวันที่ 05/07/2017