กราบสวัสดีเพื่อนๆที่ติดตามเพจของ Zoomcamera ทุกๆท่านด้วยนะครับ สำหรับ Content ในวันนี้ บอกได้เลยว่าเป็นอีก 1 ปัญหาที่ทีมงาน Zoomcamera ได้เข้าไปสอดส่องตามกลุ่มกล้องต่างๆ และ มักพบเห็นปัญหาดังกล่าวนี้จากตากล้องมือใหม่หลายๆท่าน โดย 1 ในนั้น คือ การจัดการกับค่า ISO นั่นเองครับ แน่นอนว่าเจ้า ISO อยู่คู่กับวงการกล้องมาตั้งแต่ยุคฟิล์มจนถึงปัจจุบันแล้วนั่นเองครับ ซึ่งเจ้า ISO นี้ นอกจากจะเป็นผู้ช่วยในการถ่ายภาพให้กับเราแล้ว ยังเป็นอีก 1 ผู้ช่วยในสถานการณ์คับขันที่เกี่ยวข้องกับสภาพแสงนั่นเองครับ ซึ่ง Content ในวันนี้มาในท้องเรื่อง ” Tips : เทคนิคเลือกใช้งาน ISO ในสถานการณ์ต่างๆให้มีประสิทธิภาพสูงสุด “
*** Tips : เทคนิคเลือกใช้งาน ISO ในสถานการณ์ต่างๆให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ***
ISO คืออะไร ??
คำว่า ISO เป็นภาษากรีกโบราณ ความหมายก็คือ เท่ากับ ในยุคของกล้องฟิล์มนั้น ค่าISO หรือความไวแสงของฟิล์มนั้นที่มีตัวเลขน้อย (มีความต้องการแสงมาก) ตัวเลขยิ่งมากความไวแสงของฟิล์มก็ยิ่งเร็วมาก (ต้องการแสงน้อยลง) ภาพที่มีค่า ISO 100 จะมืดกว่าภาพที่มี ISO สูงๆ สำหรับ ISO ในยุคของกล้องดิจิตอล คือ ความไวแสงที่มีในกล้องดิตอล หรือ ค่าอิมเมจเซนเซอร์ในการรับแสง ซึ่งตัวเลขมีค่ามาก ความไวต่อการรับแสงก็มากขึ้นไปด้วย ทำให้ผู้ถ่ายรูปได้สปีดชัดเตอร์ที่เพิ่มขึ้นด้วย และสามารถที่จะถ่ายในที่มีความไวแสงสูงๆ เช่น คนวิ่ง เด็กกระโดดน้ำ แต่การที่ใช้ ISO ที่สูงขึ้นนั้นจะทำให้เกิด น้อยส์ (Noise) ซึ่งทำให้คุณภาพของภาพลดลงตามไปด้วย
ISO กับการใช้งานในสถานการณ์ต่างๆ
จริงอยู่ที่การใช้กล้องในปัจจุบันนั้น มักจะนิยมใช้ค่า ISO ที่น้อยไว้ก่อน เพื่อให้ได้คุณภาพที่ดีที่สุดนั่นเองครับ แต่ในบางสถานการณ์นั้น ก็ยากที่จะเลี่ยงใช้ค่า ISO ที่สูงได้ แม้จะต้องแลกกับอัตราการเกิด Noise ภายในภาพเพิ่มขึ้นก็ตามที ซึ่ง Admin เชื่อว่าเป็นปัญหาสำหรับหลายๆท่านเลยทีเดียว เพราะ อยากได้ไฟล์ที่มีคุณภาพสูง มี Noise ให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งเรามาดูไปพร้อมๆกันครับ ว่า เราจะพลิกแพลงในการใช้ค่า ISO ในสถานการณ์ต่างๆอย่างใด เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดนั่นเองครับ
– ISO Auto
สำหรับค่า Default เดิมๆของตัวกล้อง มักจะนิยม Setting เป็น ISO Auto มาให้ครับ ซึ่งเจ้า ISO Auto เป็นอีก 1 ผู้ช่วยชั้นดีสำหรับผู้ใช้งานกล้องในระดับเริ่มต้น เพราะ ผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องปรับค่า ISO แต่อย่างใด ตัวกล้องจะเป็นผู้คำนวนสถานการณ์ ณ ตรงหน้า และ ทำการเลือกค่า ISO ที่เหมาะสมให้ทันทีครับ ซึ่งค่า ISO ที่เหมาะสมที่ตัวกล้องทำการเลือกให้นั้น จะแตกต่างกันไป เพราะ ระบบประมวลผลในกล้องแต่ละรุ่นนั้น ล้วนมีวิธีการคิดที่แตกต่างกันออกไป แต่โดยส่วนมาก ตัวกล้องจะพยายามเลือกค่า ISO ที่ทำให้ได้ค่า Speed Shutter มากเพียงพอที่จะไม่ทำให้ภาพเกิดการสั่นไหวนั่นเองครับ
– ISO กับ สภาพแสงปกติ
เชื่อว่าทุกท่านคงตั้งค่า ISO กันไว้ต่ำที่สุดเท่าที่ตัวกล้องจะทำได้ ไม่ว่าจะเป็น ISO low , ISO 100 หรือ ISO 200 ที่นิยมกันนั่นเองครับ ซึ่งปกติของสภาพแสงในช่วงเวลากลางวัน ค่า ISO 200 มักจะให้ผลงานเป็นที่น่าพอใจ ส่วนหนึงเพราะสภาพแสงเพียงพอทำให้ ตัวกล้องสามารถใช้ค่า Speed Shutter ที่ไวได้ โดยที่ตัวกล้องไม่เจออาการภาพสั่นเบลอได้นั่นเอง ยิ่งใช้งานร่วมกับเลนส์ที่ค่ารูรับแสงกว้างๆอย่าง 1.2 / 1.4 / 1.8 ด้วยแล้ว แทบจะไม่ต้องเปลี่ยนค่า ISO กันเลยทีเดียวครับ
ทั้งนี้หากเป็นเลนส์คิทที่ปกติแล้วค่ารูรับแสงอาจจะไม่ได้กว้างเท่าไรนัก ก็อาจจะต้องพิจารณาสภาพแสง รวมถึงสภาพแวดล้อมประกอบด้วยครับว่า ที่ค่า ISO 200 นั้น สามารถทำค่า Speed Shutter ได้ไวเพียงพอต่อการถือถ่ายภาพแล้วไม่เกิดภาพสั่นไหวหรือไม่ ซึ่งบางครั้งก็อาจจะต้องปรับค่า ISO กันบ้าง จากเดิม 200 มาที่ 400 – 800 ตามแต่สถานการณ์นะครับ
– ISO กับ สภาพแสงน้อย
คำว่า สภาพแสงน้อยของช่างภาพแต่ละท่านนั้น อาจจะสื่อความหมายที่แตกต่างกันออกไป อาทิเช่น สภาพแสงยามโพล้เพล้ , อยู่ในห้องมืดสลัว , ฟ้ายามวิกาล เป็นต้น ซึ่งในสภาพแสงน้อยนี้ หากเราใช้เลนส์ที่มีค่ารูรับแสงที่กว้างมากเพียงพอ ตัวกล้องจะสามารถใช้ Speed Shutter ที่ยังเพียงพอต่อการถือถ่ายได้ แต่ส่วนมากในสภาพแสงดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นเลนส์คิท , เลนส์ Fixed ที่มีค่ารูรับแสงที่กว้างๆ มักจะถูกความมืดสยบได้โดยง่าย ทำให้ไม่มีทางเลือกอื่นๆ ในการใช้ค่า ISO ที่สูงขึ้นกว่าเดิมจากปกติในสภาพแสงปกติ เรามักจะนิยมตั้งกันที่ ISO 200 แต่กลับสภาพแสงน้อย เราอาจจะต้องใช้ค่า ISO 1600 – 12800 กันเลยทีเดียวครับ ซึ่งค่า ISO ในสภาพแสงน้อยนี้ ไม่ได้ถูกกำหนดตายตัวว่าจะต้องใช้มากเท่าไร ซึ่งค่าปกติที่นิยมตั้งกันนั้น จะอยู่ที่ ISO 1600 – 6400 ครับ
สำหรับการแก้ปัญหา หากเพื่อนๆซีเรียสกับการต้องปรับค่า ISO ให้สูงกว่าปกติ เพื่อไม่ให้ภาพสั่นไหว โดยเฉพาะในสภาพแสงน้อยด้วยแล้วนั้น แนะนำให้เพื่อนๆพกขาตั้ง ไม่ว่าจะเป็น Gorilla pod , Tripod ต่างๆ มาใช้งานควบคู่กับกล้องของเรา ซึ่งเจ้า Tripod เหล่านี้ จะช่วยเซฟอาการสั่นไหวได้เป็นอย่างดี และ ควรสำรวจสเปคของ Tripod ด้วยนะครับ ว่า รองรับการใช้งานที่น้ำหนักสุทธิเท่าไรด้วยนะครับ
– ISO กับ สถานการณ์เฉพาะทาง
ในบางสถานการณ์ เราต้องเข้าทำความเข้าใจก่อนว่า นอกเหนือจากสภาพแสงแล้วยังมีปัจจัยแวดล้อมอื่นๆที่ส่งผลทางอ้อมได้ เช่น ความเคลียร์ใสของฟ้ายามปกติ และ ยามวิกาล ที่ส่งผลต่อการมองเห็นกลุ่มดวงดาวต่างๆ , การถ่าย Milky Way , การถ่าย Star Trail หรือ การออกตามถ่ายแสงเหนือ เป็นต้น ซึ่งต้องบอกเลยว่า เป็นการถ่ายภาพในระดับที่ Advanced มากยิ่งขึ้นครับ โดยทีมงาน Zoomcamera ขอแบ่งเป็นกรณีตามนี้ครับ
การถ่ายคลื่นทะเล หรือ การถ่ายน้ำตก จะใช้เทคนิคลักษณะเดียวกันกับการถ่าย Slow Shutter หรือ การถ่าย Long Exposure นั่นเองครับ ซึ่งปกติแล้ว User จะนิยมใช้ ISO ที่ต่ำไว้ก่อน ไม่ว่าจะเป็น ISO Low , ISO 200 เป็นต้น แต่สำหรับการถ่ายคลื่นทะเล หรือ การถ่ายน้ำตก การตั้งเพียง ISO 200 นั้นอาจจะไม่เพียงพอเสมอไป เนื่องจาก Speed Shutter ที่ได้นั้น ก็ยังมากกว่า Speed Shutter 1/10 ขึ้นไปครับ ซึ่งเพื่อนๆจำเป็นจะต้องหาอุปกรณ์เสริมอย่าง ND Filter ช่วยในการตัดแสงที่จะผ่านเข้าสู่หน้า Sensor เพิ่มเติม ซึ่งทำให้ Speed Shutter นั้น ช้าลง และให้ได้มาซึ่ง Effect ต่างๆ ทั้งเกลียวคลื่น , น้ำฟุ้งๆ นวลๆ เป็นต้น
การถ่าย Milky Way หรือ การถ่ายแสงเหนือ หากเราใช้ค่า ISO ที่ต่ำเกินไป เราอาจจะเห็นได้แค่เพียงทะเลดวงดาวเท่านั้น แม้ว่าจะเป็นไปตามการตั้งค่าการถ่ายภาพในที่แสงน้อยก็ตาม แต่สำหรับการถ่าย Milky Way นั้น จำเป็นต้องใช้ ISO ที่สูง อาจจะตั้งแต่ 3200 – 12800 เพื่อให้สามารถเก็บ Milky Way ได้อย่างชัดเจนนั่นเองครับ ทำให้บางครั้งก็จำเป็นต้องแหกกฏการถ่ายภาพกันบ้าง อาจด้วยเทคโนโลยีที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้บางครั้งเราอาจไม่จำเป็นต้องใช้ ISO ที่สูงเกินไป หรือ ต่ำเกินไป เหมือนกับการถ่ายภาพในอดีตครับ
หรือ จะเป็นสถานการณ์ที่จำเป็นต้องใช้ Speed Shutter ที่ค่อนข้างไว เพื่อใช้ในการจับวัตถุ / เป้าหมาย ให้หยุดนิ่งอยู่กับที่ ซึ่งปกติ เราจะนิยมใช้ Speed Shutter สูงๆ ตั้งแต่ 1/1000 ขึ้นไปครับ ซึ่งเจ้า ISO นี้ก็มีส่วนช่วยในการเพิ่มค่า Speed Shutter ทางอ้อมเช่นกัน ซึ่งใน Mode A นั้น ยิ่งเราใช้ค่า ISO สูงมากเท่าไร ยิ่งทำให้ตัวกล้องของเรานั้น รับแสงได้ดียิ่งขึ้น ส่งผลให้ Speed Shutter สูงขึ้นตามไปด้วยเช่นกันครับ
ผลข้างเคียงจากการปรับค่า ISO
แน่นอนว่า คงไม่มีเพื่อนๆท่านใด ที่เคยใช้งานกล้องที่ค่า ISO 200 หรือ ISO Low เพียงอย่างเดียว ในหลายๆสถานการณ์ก็จำเป็นต้องใช้ ISO ที่สูงขึ้น เพื่อแลกกับการได้รูปติดมือกลับมาด้วยนั่นเองครับ ซึ่งในการปรับค่า ISO ให้สูงขึ้นนั้น ย่อมมี Effect ทางอ้อมเพิ่มเติมด้วยเช่นกัน สิ่งนั้นก็คือ Noise นั่นเองครับ
สำหรับ Noiose นั้น คือ จุดรบกวน อันเนื่องมาจากการปรับตั้งค่า ISO เพิ่มสูงขึ้นเพื่อช่วยให้สามารถเก็บภาพในที่มีแสงสว่างน้อยได้ ซึ่งในกระบวนการนี้จะทำให้กล้องส่งสัญญาณเพื่อเพิ่มกระแสไฟฟ้าที่ตัวเซนเซอร์ให้สูงขึ้น จึงสามารถรับแสงเข้ามาได้มาก แต่ก็ต้องแลกมาด้วยจุดรบกวนที่เป็นเม็ดสีขนาดเล็กกระจายตัวอยู่ตามมุมมืดของภาพ ทำให้คุณภาพของภาพต่ำลงตามมานั่นเอง
สำหรับเพื่อนๆที่ยังสงสัยเกี่ยวกับ ISO อยู่ละก็ มีหลักการจำง่ายๆ ดังนี้ครับ
ISO น้อย >> Speed Shutter ต่ำ >> เกิดสัญญาณ Noise น้อย >> ต้องการแสงมาก >> คุณภาพของภาพดี
ISO มาก >> Speed Shutter มาก >> เกิดสัญญาณ Noise มาก >> ต้องการแสงน้อย >> คุณภาพของภาพ Drop ลง
เมื่อ Noise เป็นสัญญาณรบกวนที่มีเหตุมาจากการปรับตั้งค่า ISO สูงเป็นหลัก การแก้ไขให้สังเกตว่าค่า ISO ในระดับไหนที่ทำให้กล้องของเราเกิด Noise ซึ่งในแต่ละรุ่นจะมีระดับ ISO ที่ทำให้เกิด Noise แตกต่างกัน ส่วนการหลีกเลี่ยงคือการลดค่า ISO ลง แม้จะทำให้ค่า shutter speed ต่ำลงไปก็ตามที ทีมงาน Zoomcamera แนะนำให้เพื่อนลองหาขาตั้งกล้องมาเป็นผู้ช่วยเสริม ที่จะช่วยลดปัญหาจุดรบกวนในภาพถ่ายได้เป็นอย่างดี แต่หากจำเป็นจริงๆ ว่าไม่มีขาตั้งกล้องหรือตัวช่วยอื่น และในช่วงเวลาคับขัน จำเป็นต้องเก็บภาพให้ได้ในทันที เมื่อแลกกับภาพที่มีความสวยงามและหาชมยาก หากได้ค่า Noise มาบ้างก็ดีกว่าพลาดโอกาสดีๆ ตรงนั้นไป
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม
inbox : http://www.facebook.com/messages/zoomcamera
02-635-2330 ต่อ 0 / 083-067-7677 (หยุดวันอาทิตย์)
สาขาสีลม 02-635-2330-1 / 080-271-2772
สาขาเดอะมอลล์งามวงศ์วาน 02-951-8597 / 085-937-0123
สาขาเมกาบางนา 02-105-1926 / 086-554-1919
สาขาเดอะมอลล์บางแค 02-454-9598 / 084-033-0498
สาขาฟอร์จูนทาวน์ 02-642-1291 / 083-068-2775
สาขา Central Festival เชียงใหม่ 052-068-787 / 096-878-4896
สาขา Central Westgate 02-060-4362 / 097-063-4328