รีวิว Atomos Ninja V ทำไมถึงเป็นจอ Monitor ที่ถูกใจคนทั่วโลก Leave a comment

Atomos ninja V ถือว่าเป็นจอ Monitor แยกที่นิยมแพร่หลายในกลุ่มคนที่ทำงานด้านวีดีโอทั่วโลก ด้วยความที่ความสามารถที่มีมากมายกว่าจอแยกออกไปมอนิเตอร์ธรรมดา นอกจากนั้นช่วยปลดล็อคความสามารถต่าง ๆ ของกล้องให้สามารถทำงานได้ดียิ่งขึ้นด้วย และอีกหลาย ๆ เหตุผลที่คนเลือกใช้ Atomos ninja V ตัวนี้ ซึ่งเราจะมาหาคำตอบว่าเค้าทำอะไรได้บ้างไป และทำไมถึงเป็นที่นิยมในหมู่คนทำงานวีดีโอและ Film maker ไปพร้อม ๆ กันครับ

ทำไมถึงเป็นจอ Monitor ที่ถูกใจคนทั่วโลก

1.ใช้เป็นจอมอนิเตอร์แยก

ใช้สำหรับควบคุมเพื่อตรวจสอบงานวิดีโอได้แบบเรียลไทม์ สามารถเช็คภาพ แสง สี เสียงของวิดีโอได้ทันที ช่วยลดความผิดพลาดของการทำงาน สามารถควบคุมคุณภาพงานได้สะดวกมากขึ้น สามารถตั้งค่าและใช้งานได้อย่างแม่นยำด้วยการกดเพียงครั้งเดียว ซึ่งจอแสดงภาพคมชัดระดับ HDR 10 บิต ความสว่างสูงถึง 1,000 nits ภาพสว่างสดใส ดูภาพบนจอได้ชัดเจน

2.บันทึกไฟล์วิดีโอ

Atomos Ninja V สามารถบันทึกไฟล์วิดีโอความละเอียดสูงถึง 4K 60fps 10 บิต HDR โดยตรงจากกล้องผ่าน HDMI 2.0 ลง SSD ได้ทันที ช่วยให้ทำงานได้ยาวนานต่อเนื่องและลดภาระของกล้องในการบันทึกข้อมูล และยังสามารถบันทึกไฟล์ 4K ProRes, ProRes RAW ได้ด้วย ช่วยให้ได้ไฟล์คุณภาพดี ทำงานได้ไวทั้งระหว่างถ่ายทำ และลดขั้นตอนการแก้ไข ตัดต่อหลังการถ่ายได้รวดเร็วมากขึ้นกว่าไฟล์ธรรมดา โดยพร้อมใช้งานทันทีบน Mac หรือ PC แก้ไขใน Final Cut Pro X, Adobe Premiere และ Avid Media Composer

3.ปลดล็อคความสามารถกล้องให้ดียิ่งขึ้น

กล้อง mirrorless หลาย ๆ ตัวในตลาดตอนนี้ส่วนใหญ่จะมีความสามารถในการถ่ายวีดีโอมากยิ่งขึ้น หรือเน้นเรื่องถ่ายวีดีโอโดยเฉพาะก็มีหลายรุ่น ซึ่งเวลาที่เราอ่านสเปกหรือตอนที่เปิดตัวก็มักจะบอกไว้ว่ากล้องสามารถมารถถ่ายวีดีโอรายละเอียดสูงสุดเท่าไหร่ bit depth เท่าไหร่ หรือ Chroma Sampling แบบไหน ซึ่งก็จะมีข้อมูลต่อมาว่า Internal record กับ External record อีกว่ามันไม่เท่ากัน ซึ่งการ External record เนี่ยะก็จะสามารถทำได้สูงกว่า ตัวอย่างเช่นกล้อง Panasonic GH5 สามารถบันทึก Internal record หรือบันทึกผ่านการ์ดในตัวกล้องได้สูงสุด ที่ 4K 60 fps bit depth อยู่ที่ 8bit Chroma Sampling คือ 4:2:0 แต่เมื่อ External record จะสามารถบันทึกได้ที่ 4K 60 fps 10bit 4:2:2 ซึ่งแตกต่างกันมากมาย หรือจะอีกหนึ่งตัวอย่างเช่นกล้อง Sony A7S iii ถ้าอัดผ่านจอแยกจะสามารถบันทึกเป็นไฟล์ Raw 16 bit ได้ผ่าน Atomos Ninja V ซึ่งถ้าอัดผ่านตัวกล้องเองไม่สามารถทำได้ และอุปกรณ์สำหรับ External record นั่นก็คือจออย่าง Atomos Ninja V นั่นเองครับ

4.มีเครื่องมือในการเชคคุณภาพวิดีโอก่อนถ่าย

ยกตัวอย่างปกติกล้อง Mirrorless ที่ถ่ายวิดีโอได้หลาย ๆ รุ่น มักจะไม่สามารถเชค waveform ได้ เพราะกล้องอาจจะไม่ได้ใส่มาให้ ซึ่ง Video Maker หรือ Film maker หลาย ๆ คนจะถนัดดู Waveform เพื่อดูปริมาณแสงมากกว่า ซึ่งเมื่อต่อผ่านจอ Atomos Ninja V ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปเพราะมีมาให้หมด และก็ไม่ใช่แค่ Waveform อื่น ๆ ก็มีมาให้ ไม่ว่าจะเป็น Zebra สำหรับดูไฮไลท์ peaking สำหรับดูโฟกัส และอื่น ๆ อีกมากมายเต็มไปหมดครับ

5.ขนาดไม่ใหญ่เกินไปนัก

จริง ๆ ขนาดตัวเครื่องก็เป็นอีกประเด็นที่น่าสนใจ เพราะขนาดก็มีผลกับการเก็บหรือพกพานั่นเอง ในส่วนของตัวเครื่องเป็นอะลูมิเนียม ดูมีความทนทาน น้ำหนักก็เพียง 360 กรัม เท่านั้นเอง ในส่วนของจอมีความกว้าง 5.2 นิ้ว ทัชสกรีนเต็มระบบ หนาเพียง 1 นิ้ว ขนาดไม่ใหญ่เกินไปนัก พอที่จะพกพาได้ไม่ยากเย็น

6.รองรับไฟล์ HDR สูงๆ/ SDR

แสดงภาพที่มีช่วงไดนามิกหรือช่วงแสงของภาพได้มากถึง 10 สต็อปจากสัญญาณ Log / PQ / HLG ดูภาพบนจอได้ชัดเจนในเวลากลางวันที่มีแสงจ้า เพราะบนหน้าจอป้องกันแสงสะท้อนได้ และสามารถ calibrate ปรับความแม่นยำของสีให้สมบูรณ์ โดยเปิดใช้งานกับ HDR หรือ SDR TV ได้

7.มีช่องไมค์และหูฟังเพิ่ม ควบคุมเสียงได้

หูฟัง 24bit ยังสามารถใช้งานควบคุมเสียงโดยตรงจากกล้องได้ โดยจะเลือกแหล่งสัญญาณเสียงแบบดิจิตอลผ่าน HDMI หรือแบบอะนาล็อกผ่านช่องเสียบ 3.5 มม. ก็ได้ และยังมีช่องเสียบหูฟังอีกด้วย จึงสามารถควบคุมเสียงและการบันทึกไฟล์เสียงแยกได้เลย

การบริโภคแบตเตอรี่

อัตราการบริโภคแบตเตอรี่นี่บอกได้ว่าไม่ธรรมดา เรียกได้ว่ากินจุพอตัว ก็น่าจะด้วยเหตุผลหลาย ๆ อย่างประกอบกัน ไม่ว่าจะเป็น ขนาดจอ ความสว่าง หรือแม้แต่การประมวลผลวีดีโอ แบต ที่ผมมี 970 ขนาดความจุ 7,800 mAh ใช้ต่อเนื่องราว ๆ 3 ชม. ก็หมด ถ้าใครใช้เยอะกว่านั้นก็ต้องเพิ่มจำนวนแบตด้วยครับ หรือถ้าใครจะใช้เป็น Adapter สำหรับต่อไฟบ้านก็จะใช้ได้ยาว ๆ เพียงแต่ก็อาจจะต้องอยู่ในพื้นที่ที่เข้าถึงไฟฟ้าได้เช่นเดียวกันครับ

ความร้อน (Overheat)

ในส่วนของความร้อนบอกตรง ๆ เลยว่าร้อนใช้ได้เลยครับ แค่เพียงเปิดเป็นมอนิเตอร์เฉย ๆ ก็ร้อนแล้ว ถ้าใช้ในการบันทึกด้วยแล้วนั้นไม่ต้องพูดถึง ร้อนจริงร้อนจัง แม้ว่าจะมีพัดลมช่วย ก็ร้อนอยู่ดี พูดมาถึงตอนนี้หลาย ๆ คนอาจจะเริ่มกลัว แต่จะบอกว่าเท่าที่ใช้ไม่เคยเห็นว่ามัน Heat นะครับ ผมใช้ข้างนอกลากยาว ๆ ได้หลายชั่วโมง ก็ไม่เกิดการ Overheat หรือว่าตัดแต่อย่างใดครับ และเท่าที่สอบถามหลาย ๆ คนที่ใช้ ก็ไม่เคยมีใครเจอปัญหาเรื่อง Overheat นี้ครับ

สรุป

หลังจากได้ทดลองใช้อยู่สักระยะ ถือว่าโดยรวมสามารถทำให้เราทำงานง่ายขึ้นในหลาย ๆ จุดเลยตามที่ได้กล่าวข้อดีของจอแยกอย่าง Atomos Ninja V ช่วยปลดล็อคข้อจำกัดหลายอย่างยกตัวอย่างเช่น จอใหญ่กว่าทำงานง่ายขึ้นสามารถมอนิเตอร์มุมภาพได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ที่สำคัญยังช่วยเพิ่มประสิธิภาพการทำงานของกล้องให้ดียิ่งขึ้น ทั้งช่วยการบันทึก หรือเครื่องมือที่ช่วยในการจัดการเรื่องแสงเรื่องโฟกัสถือว่ามีประโยชน์มาก ๆ ไม่ว่าคุณใช้กล้องรุ่นไหนก็สารมารถช่วยได้เยอะทีเดียวครับ
ส่วนข้อเสียที่ต้องแลกมากก็คือต้องพกอุปกรณ์เพิ่มคือตัว Atomos Ninja V นั่นแหละ หรือสาย HDMI และที่สำคัญแบตจะใช้ได้ไม่ได้นานมากต้องพกเพิ่มหลายก้อนหน่อย แต่ผมเชื่อว่าหลาย ๆ คนก็ยอมพกเพิ่มนะครับ

Leave a Reply

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

Save