DJI FPV รุกตลาดโดรนความเร็วสูง มือใหม่ มือเก่าใช้งานง่าย ถ่ายวีดีโอ 4K 60fps ระบบควบคุม Motion Control บินได้เร็วถึง 140 กิโลเมตร/ชั่วโมง Leave a comment

DJI เปิดตัวโดรนรุ่นใหม่ล่าสุด รุกตลาดโดรนความเร็วสูงในชื่อ “DJI FPV” ซึ่งเจ้าโดรนประเภท FPV นี้ จริง ๆ แล้วมีมานานมากแล้ว แต่มีกลุ่มคนที่นิยมใช้งานเฉพาะกลุ่ม ส่วนใหญ่ก็จะนำมาแข่งขันกันเรื่องของความเร็ว และ ในบางประเทศจัดเป็นการแข่งขันอย่างจริงจังเลย ด้วยเสน่ห์เรื่องของความเร็วนี้เอง ในปี 2021 ทาง DJI ก็ได้ออกสินค้าใหม่เพื่อเข้าไปแข่งขันกับคู่แข่งในตลาดเครื่องบินโดรน FPV นี้บ้าง

ชูจุดแข็งในเรื่องของการเป็นโดรนที่ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน มีอุปกรณ์เสริมความปลอดภัย ช่วยให้กลุ่มผู้ใช้หน้าใหม่ และ หน้าเก่ามั่นใจในการใช้งานมากขึ้น ซึ่งสิ่งที่ทำให้ DJI Drone นี้น่าจับตามอง คือ DJI เป็นผู้นำในตลาดเครื่องบินโดรนมาอย่างยาวนาน รู้ทั้งข้อดี และ ข้อเสียของโดรนหลายประเภท และ นำมาพัฒนาโดรนของตัวเองให้ตอบโจทย์ผู้ใช้งานมากขึ้นกว่าเดิม

ปกติแล้วการควบคุมเครื่องบินโดรน เราจะคุ้นชินกับการควบคุมแบบ Controller / joysticks แต่ในระบบการควบคุมของโดรนแบบ FPV จะเน้นการควบคุมผ่านมุมมองแบบบุคคลที่หนึ่ง (FPV ย่อมาจาก First Person View) จะให้ประสบการณ์เหมือนกับเราไปนั่งขับอยู่บนโดรนตัวนั้นเลย และ ในตลาดโดรน FPV ระบบควบคุมแบบนี้ ผู้ใช้จะต้องซื้ออุปกรณ์แยกชิ้นกัน แล้วนำมาประกอบเข้าด้วยกัน ทำให้การส่งภาพ ส่งสัญญาณ อาจจะทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร ทาง DJI เลยพัฒนาตัว DJI Digtal FPV system ขึ้นมาเพื่อนำไปใช้กับโดรน FPV เจ้าอื่น ๆ รวมถึงเครื่องบินโดรนของตนเองด้วย

โดรน FPV คืออะไร ?

ก่อนที่เราจะไปทำความรู้จักกับ DJI FPV ให้มากขึ้น ผมขอปูพื้นฐานเล็กน้อยสำหรับผู้ใช้งานหน้าใหม่ที่ยังไม่รู้จักโดรนแบบ FPV กันก่อนนะครับ เพื่อความเข้าใจที่มากขึ้น

โดรน FPV คือ โดรนประเภทหนึ่งที่ทำให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์ร่วมขณะใช้งาน ราวกับเราขึ้นไปขับโดรนลำนั้น และ เห็นมุมมองที่แปลกใหม่แบบ FPV (First Person View หรือ มุมมองบุคคลที่หนึ่ง) ผ่านอุปกรณ์ที่ทำขึ้นมาเป็นพิเศษเพื่อใช้ควบคุมโดรนประเภทนี้ สำหรับโดรน FPV นิยมใช้แข่งขันความเร็ว และ เป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมมากในหลายประเทศ ซึ่งปกติแล้ว FPV Drone จะมีราคาสูง ใช้งานยาก ต้องอาศัยประสบการณ์และการฝึกฝนจนชำนาญถึงจะสามารถบังคับโดรนประเภทนี้ได้

โดรน FPV แตกต่างจาก โดรนปกติอย่างไร ?

ในบทความนี้ผมขอเขียนสรุปแบบคร่าว ๆ เพื่อให้ทุกคนได้เห็นภาพรวมก่อนนะครับ รายละเอียดเชิงลึก เด่วผมจะเขียนบทความอธิบายแยกให้เข้าใจมากขึ้นในบทความถัดไป

ความแตกต่างระหว่างโดรนแบบปกติกับโดรน FPV

DJI FPV ดียังไง มีอะไรน่าสนใจบ้าง ?

ทาง DJI เปิดตัวโดรนใหม่มาในคอนเซ็ปต์ “Redefine Flying” ชูจุดเด่นหลัก 6 อย่างที่ทำให้แตกต่างจากโดรน FPV เจ้าอื่น ๆ และ แตกต่างจาก DJI Drone ปกติทั่วไป

Immersive Flight Experience ประสบการณ์ร่วมขณะบินโดรนที่เต็มตามากขึ้น เหมือนเราไปบินอยู่ตรงนั้นด้วยตนเอง

ก่อนหน้านี้ผมได้พูดถึง DJI Digital FPV System ไปบ้างแล้ว ใน DJI Drone ตัวใหม่นี้ได้ยกชุดการควบคุมนี้มาใส่ในโดรนตัวนี้เลย ผู้ใช้สามารถมองเห็นภาพที่โดรนบินขึ้นไปแล้วถ่ายมาให้เราเห็นผ่านแว่น DJI Googles V2. และ เราสามารถบังคับโดรนผ่าน Controller ที่มีการปรับปรุงใหม่ให้เหมาะกับการใช้งานกับ Drone FPV โดยเฉพาะ

4K 60fps Super-Wide FOV ถ่ายวีดีโอความละเอียดสูงระดับ 4K 60fps ในมุมมองที่กว้างมากขึ้น

แม้ว่าจะเป็นโดรนความเร็วสูง ก็ยังสามารถถ่ายวีดีโอความละเอียดสูงระดับ 4K 60fps ได้ ด้วยบิตเรทสูงถึง 120 Mbps โดยภาพที่ได้ดูเป็นธรรมชาติ และ ให้มุมมองการรับภาพกว้างถึง 150 องศา สามารถทำ Slow motion 4X ได้ มีระบบกันสั่นแบบ RockSteady stabilization ซึ่งนิ่งมากไม่ต่างกับกล่อง Action camera ช่วยให้การถ่ายภาพด้วยโดรนดีมากขึ้น และ รองรับรูปแบบ Coding แบบ H.264 และ H.265

HD Low-Latency Transmission ส่งสัญญาณที่มีความหน่วงต่ำระดับ HD ดีเลย์น้อย

มีระบบส่งสัญญาณที่มีความหน่วงต่ำ ดีเลย์น้อย เพราะใช้เทคโนโลยีที่ทาง DJI พัฒนามาอย่างต่อเนื่องนั่นก็คือ The DJI O3 (OcuSync 3.0) Transmission System ในเวอร์ชั่นล่าสุดนี้สามารถส่งสัญญาณแล้วมีดีเลย์น้อยมากเพียงแค่ 0.28 วินาที แม้ว่าตัวโดรนจะอยู่ห่างออกไปไกลถึง 10 กิโลเมตรก็ตาม นอกจากนี้ยังมี Video Transmission Bitrate สูงถึง 50 Mbps

โดรนตัวนี้ยังมีความพิเศษอีกอย่างคือ มีระบบปรับย่านความถี่อัตโนมัติให้ด้วย เมื่ออยู่ในระยใกล้จะใช้สัญญาณ 5.8GHz แต่พอไกลออกไป เพื่อความเสถียรของสัญญาณก็จะปรับเป็น 2.4GHz ให้โดยอัตโนมัติ ช่วยให้การบินผ่านสิ่งกีดขวางต่าง ๆ ทำได้ง่าย ไม่ต้องกลัวสัญญาณหลุด

Brand-New S Mode โหมดการบินแบบ Sport mode เพื่อให้ผู้ใช้งานหน้าใหม่ ใช้งานโดรน FPV ได้ง่ายและปลอดภัย

ปกติแล้วโดรนแบบปกติจะมีความสามารถในการบินที่จำกัด และ มีฟีเจอร์บางอย่างที่ถูกจำกัดให้ไม่เกินตามมาตรฐานที่กำหนดเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้ และ ในทางกลับกันโดรน FPV ก็จะตรงกันข้ามเลยคือไม่จำกัดใด ๆ ทำให้ผู้ใช้สามารถรีดศักยภาพของโดรนออกมาได้เต็มที่แต่ก็มีความอันตรายและความปลอดภัยน้อย

ด้วยเหตุผลนี้เอง DJI Drone จึงออกแบบให้มี 3 โหมดหลักเพื่อรองรับการใช้งานของผู้ใช้ตั้งแต่มือใหม่ยันมืออาชีพ ได้แก่

• โหมด N (Normal mode) คือ โหมดการทำงานทั่วไป เทียบเท่ากับ DJI Mavic Series เปิดระบบรักษาความปลอดภับทุกอย่าง จำกัดความเร็ว ให้เหมาะกับมือให่พึ่งเริ่มต้นใช้งาน
• โหมด M (M mode) คือ โหมดที่ผู้ใช้งานสามารถเร่งความเร็ว ปลดล็อกทุกฟีเจอร์ให้ตัวโดรนสามารถทำงานได้มีประสิทธิภาพสูงสุด แต่ก็ต้องใช้ฝีมือในการควบคุมที่ต้องผ่านการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี
• โหมด S (Sport mode) คือ โหมดที่เอาข้อดีของโหมด M และ ข้อดีของโหมด N มาผสมผสานกัน เพื่อรองรับกลุ่มผู้ใช้ที่อยากลองใช้งานโดรนที่ศักยภาพสูงแต่ก็กังวลเรื่องความปลอดภัย

Intuitive Motion Controller เพิ่มประสบการณ์แปลกใหม่ในการบังคับโดรนด้วยการเคลื่อนไหว

อันนี้ถือว่าเป็น Highlight สำคัญของโดรนตัวนี้เลยก็ว่าได้ คือ ได้มีการปล่อยอุปกรณ์เสริมตัวใหม่ Motion Controller ซึ่งเป็นตัวควบคุมโดรนที่จับจังหวะการเคลื่อนไหวของเราเพื่อควบคุมทิศทางการบินของโดรน ทำให้การบินโดรนมีความอิสระ นุ่มนวลเป็นธรรมชาติ และ ควบคุมได้ง่ายขึ้นมาก เพิ่มประสบการณ์การบังคับโดรนที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนกับโดรนของ DJI

Emergency Brake and Hover เสริมระบบความปลอดภัยให้ผู้ใช้งานโดรน FPV มั่นใจมากขึ้น

เรื่องระบบความปลอดภัยทาง DJI เขาก็ให้ความสำคัญมาก โดยในตัวโดรน FPV ตัวนี้มีการใส่ระบบรักษาความปลอดภัยมาให้ด้วย อาทิ Auxiliary Bottom Light, Forward Sensing, Downward Sensing, ToF sensor เพื่อช่วยเหลือผู้ใช้งานในกรณีฉุกเฉิน ตัวระบบก็จะทำงานให้ทันที

สรุปข้อมูลรายละเอียดทางเทคนิค

• เซนเซอร์ขนาด 1/2.3” CMOS ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล
• เลนส์มีองศาการรับภาพ 150 องศา , ระยะเลนส์ 14.66mm เมื่อเทียบบนขนาดเซนเซอร์ฟูลเฟรม , ค่า Shutter Speed 1/50-1/8000 , ค่ารูรับแสง F2.8 , ค่า ISO 100-12800
• สามารถถ่ายวีดีโอได้ความละเอียดสูงสุด 4K 60fps และ Full HD1080 120fps
• รองรับ Coding H.264 และ H.265 และ รูปแบบไฟล์วีดีโอ MP4 , MOV
• บิตเรทวีดีโอสูงสุดที่สามารถทำได้ 120 Mbps
• มีระบบเซนเซอร์วัดระยะเพื่อความปลอดภัยด้านหน้า และ ด้านข้าง
• Color profile มี 2 แบบ ได้แก่ Standard และ D-Cinelike
• ใช้ระบบกันสั่น RockSteady EIS
• ขนาดตัวเครื่อง 255×312×127 มม. แบบไม่มีตัวป้องกันใบพัด
• น้ำหนักตัวเครื่องโดยรวม 795 กรัม
• Max Ascent Speed ในโหมดต่าง ๆ M mode: ไม่จำกัด , S mode: 15 m/s , Normal mode: 8 m/s
• Max Descent Speed ในโหมดต่าง ๆ M mode: ไม่จำกัด , S mode: 10 m/s , Normal mode: 5 m/s
• ความเร็วในการบินสูงสุดที่สามารถทำได้ ในโหมดต่าง ๆ M mode: 39 m/s (27 m/s ในประเทศจีน) , S mode: 27 m/s , Normal mode: 15 m/s
• อัตราเร็งความเร็ว 0-100 อยู่ที่ 2 วินาที ในโหมด M
• รองรับการบินสูงเหนือระดับน้ำทะเลสูงสุด 6,000 เมตร
• แบตเตอรี่ 1 ก้อน สามารถบินได้สูงสุด ประมาณ 20 นาที
• ความสามารถในการต้านแรงลมอยู่ในระดับ 6 : 39-49 kph (25-31 mph)
• ความทนทานต่อสภาพอากาศอยู่ในระดับ -10 ถึง 40 องศาเซลเซียส
• รองรับ Micro SD card สูงสุด 256GB

DJI FPV ราคาไทย ณ วันเปิดตัว

• DJI FPV ราคา 39,999 บาท (ราคาอย่างเป็นทางการ ณ วันเปิดตัว)

อุปกรณ์ที่ให้มาในชุด

• DJI Drone FPV
• DJI FPV Goggles V2
• DJI FPV Remote Controller
• DJI FPV Propellers x2
• DJI FPV Intelligent Flight Battery
• DJI FPV Goggles Headband
• DJI FPV Goggles Battery
• DJI FPV Goggles Antenna
• Gimbal Protector
• Control Sticks
• DJI FPV Top Shell
• DJI FPV Goggles Power Cable (USB-C)
• AC Power Adapter
• AC Power Cable
• USB-C OTG Cable

สรุป DJI FPV เหมาะกับใคร ผู้ใช้ทั่วไปสามารถใช้ได้ไหม

จากทั้งหมดที่ผมกล่าวมานี้ ถ้าใครที่ไม่เคยใช้งานโดรนเลยอยากจะเริ่มต้นกับตัวนี้ ผมแนะนำให้ทดลองใช้พวกโปรแกรม simulator การบังคับโดรน FPV ก่อนซึ่งสามารถหามาใช้งานกันได้ไม่ยากนัก เพื่อฝึกการควบคุมก่อนที่จะไปใช้งานของจริง ก็ต้องบอกเลยว่าค่อนข้างที่จะควบคุมลำบากมาก หรือ ไม่ถ้าอยากเล่นโดรนของจริง อาจจะลองเริ่มต้นจาก DJI Mavic series ก่อน ถ้าหัดควบคุมโดรนที่มีความเร็วไม่สูงมากได้แล้ว โดรน FPV ก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับคุณแน่นอน

อ่านบทความเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้อง

• รีวิว DJI Mini 2 โดรน 4K จิ๋วแต่แจ๋ว เล็ก เบา 249 กรัมพร้อมบิน

ลูกค้าที่สนใจสั่งซื้อสินค้า สามารถติดต่อสั่งซื้อได้ผ่านช่องทางออนไลน์ของทางร้านได้ตลอด 24 ชม. หรือ โทรเข้ามาโดยตรงผ่านโทรศัพท์

แอดไลน์ ID:@ZoomCamera หรือ หน้าเว็บไซด์ ZoomCamera
083-067-7677 / 02-098-9555 ต่อ 0 (หยุดวันอาทิตย์)