รีวิว Canon EOS M50 ฉบับล้วงลึกรวมข้อดีข้อเสียจากผู้ใช้จริง [มีวิดีโอ] Leave a comment

วันนี้จะมารีวิว Canon EOS M50 ฉบับล้วงลึกรวมข้อดีข้อเสียจากผู้ใช้จริง [มีวิดีโอ] เป็นกล้องที่ผมได้ซื้อมาเป็นที่เรียบร้อย หลังจากได้ลองเล่นระหว่างทำรีวิวนี่แหละครับ(คิดดูว่าถูกใจขนาดไหน 555)ฉะนั้นสิ่งที่คุณจะได้จากรีวิวครั้งนี้จะเป็นประสบการณ์ผ่านการใช้งานจริงจากผู้ใช้ ทุกข้อดีข้อเสียที่ผมเจอจะบอกไว้ที่นี่คุณอ่านแล้วตัดสินใจได้เลย 

รีวิว Canon EOS M50 ฉบับล้วงลึกรวมข้อดีข้อเสียจากผู้ใช้จริง [มีวิดีโอ]

https://www.youtube.com/watch?v=H0mnhl2dyHw

รีวิว Canon EOS M50 – สเปคตามตาราง

• เซนเซอร์ APS-C CMOS 24.1 ล้านพิกเซล
• ชิปประมวลผลใหม่ DIGIC 8
• ISO100-25600 (ขยายเพิ่มเป็น ISO51200 ได้)
• ใช้เลนส์เมาท์ EF-M สามารถใส่ Adapter แปลงไปใช้เลนส์ Canon EF, EF-S ได้
• ระบบโฟกัส Dual Pixel CMOS AF ของดีที่ต้องบอกต่อ
• จุดโฟกัส 99 จุดและเพิ่มเป็น 143 จุดหากใช้เลนส์ที่รองรับ
• ฟีเจอร์ใหม่ Eye Detection AF สำหรับในโหมด AF-S
• ถ่ายภาพต่อเนื่อง 10 ภาพต่อวินาที(AF-S)และ 7.4 ภาพต่อวินาที(AF-C)
• จอแสดงผล Touchscreen ขนาด 3 นิ้วแบบพับออกด้านข้าง พลิกมาถ่ายภาพ Selfie ได้ความละเอียด 1.04 ล้านพิกเซล
• ช่องมองภาพ EVF OLED ความละเอียด 2.36 ล้านพิกเซล
• วิดีโอ 4K/25p, 1080/60p, 720/120p
• ฟังก์ชั่น 4K Frame Grab ดึงภาพนิ่งออกจากวิดีโอ 4K
• ถ่ายวิดีโอแบบ Time-Lapse ได้
• สามารถใช้ระบบกันสั่นไหวในเลนส์ร่วมกับระบบกันสั่นแบบดิจิตอลในกล้องได้
• มีโหมด Silent Shooting
• มีโหมดทำหน้าเนียน Smooth Skin Effect
• ใช้ไฟล์ RAW แบบใหม่ .CR3 และเป็นตัวแรกที่มี C-RAW ขนาดเล็กลงกว่าเดิม 40%
• มีเมนูภาษาไทย
• มีแฟลชในตัว
• มี Wi-Fi, Bluetooth, และ NFC ในตัว
• ฟีเจอร์ Auto Transfer ส่งไปภาพไปยัง Smartphone, Mac, PC ได้โดยอัตโนมัติ
• พอร์ตต่อไมโครโฟน 3.5mm
• พอร์ตเชื่อมต่อ microUSB, microHDMI(ไม่ Clean แต่มีวิธีให้ Live ได้)
• ใช้แบตเตอรี่ LP-E12 ชาร์จเต็มถ่ายได้ 235 ภาพ(CIPA)หรือ 370 ถ้าเปิด Eco Mode
• บอดี้ Made in Japan
• น้ำหนักกล้อง 390 กรัม
• มี 2 สีให้เลือกขาว, ดำ

หลังจากอ่านสเปคหลายคนอาจจะรู้สึกเหมือนที่ผมรู้สึกคือ ก็…โอเคนะ กลาง ๆ ให้มาครบอยู่แต่ไม่ถึงขนาดโดดเด่นเกินใคร เพราะไม่ได้เขียนส่วนสำคัญคือ Canon EOS M50 ราคา 25,990 บาท(รวมเลนส์ 15-45mm) นี่แหละครับประเด็นที่ทำให้ M50 เพราะหากจะซื้อตัวอื่นในสเปคใกล้เคียงกันอาจต้องใช้งบ 30,000-35,000 บาทเลย

รีวิว Canon EOS M50 – บอดี้ภายนอก

Canon EOS M50 วางตัวเป็นกล้องระดับเริ่มต้นถึงระดับกลางอยู่ระหว่าง Canon EOS M100 และ Canon EOS M5 บอดี้จึงมีขนาดที่ไม่ใหญ่โตและไม่ใช่ประเภทปุ่มยุ่บยั่บเต็มตัวสำหรับใครที่เริ่มเล่นกล้องใหม่ ๆ M50 จะเป็นกล้องที่เข้าถึงได้ไม่ยากเลย

บอดี้ทำจากพลาสติกทั้งตัวแต่โดยรวมให้สัมผัสที่ดีรู้สึกแข็งแน่น ไม่รู้สึกว่าถูกหรือแย่เลย ผมเองชอบกล้องบอดี้พลาสติกตรงที่มักจะมีน้ำหนักเบาถือแล้วสบายมือดี พวกแมกนีเซียมอัลลอยด์ที่มักจะอยู่ในกล้องระดับสูงนั้นจะได้ประโยชน์เรื่องความแข็งแรงถ้ากล้องคุณตกกระแทกพื้น(ถ้าไม่แรงมากนะ)บอดี้มันแข็งแรงพอที่จะไม่แตกหักแล้วหยิบมากดชัตเตอร์ถ่ายงานต่อได้เลย(แต่ใจเจ้าของกล้องแตกสลายไปแล้ว)

บอดี้ของ Canon EOS M50 เป็น Made in Japan ซะด้วยไม่รู้ว่าทำไมรุ่นนี้ Canon ถึงเลือกให้ผลิตในญี่ปุ่นแต่แน่นอนว่าคุณภาพงานประกอบของญี่ปุ่นนั้นไว้ใจได้

Canon EOS M50 มีปุ่มหมุน Dial แค่อันเดียวเท่านั้นอยู่ตำแหน่งเดียวกับปุ่มชัตเตอร์ สำหรับผู้ใช้ทั่วไปที่ไม่ได้ปรับค่าอะไรมากปุ่มหมุนปรับค่าอันเดียวเพียงพอต่อการใช้งานได้สบาย ๆ แต่ถ้าคุณใช้งาน Manual เพียว ๆ และเคยชินกับการใช้กล้องปุ่มยุ่บยั่บบอกเลยว่า Dial เดียวนี่ขัดใจพอสมควร

ปุ่มเปิด-ปิดเครื่องอยู่ในตำแหน่งที่ดีใช้งานสะดวกใช้นิ้วโป้งเปิดเครื่องได้เร็ว

ปุ่มอัดวิดีโอเริ่มแรกมันขัดใจผมนิดหน่อย มันอยู่ในตำแหน่งที่ดูไม่น่าจะมีปัญหาอะไรแต่เวลาใช้งานจริงมันคลำหาไม่เจอ ปกติกล้องส่วนใหญ่จะวางปุ่มอัดวิดีโอลึกเข้าไปด้านในแต่ตัวนี้เยื้องออกมาด้านนอกแทน 

แต่ใช้ไปซักพักก็ชินครับและหลังจากใช้มาพักใหญ่ผมเดาว่าเหตุผลที่เขาวางปุ่มอัดวิดีโอแบบนี้เพราะเวลาถือถ่าย Vlog(ถ่ายวิดีโอแบบหันเข้าหาตัวเอง) มันเห็นปุ่มชัดเจนและกดง่ายด้วย ยืนยันจากที่ผมเอาไปเดินถ่ายอยู่นานจากวิดีโอรีวิวด้านบน สมแล้วที่ออกแบบมาตอบโจทย์ Vlogger

ด้านบนมีปุ่ม M-Fn ใช้ตั้งเป็นอะไรก็ได้มีให้เลือก 25 ฟังก์ชั่น

ปุ่มควบคุมด้านหลังแต่ละปุ่มม่ีสัญลักษณ์บอกฟังก์ชั่นชัดเจนดูง่ายไม่ซับซ้อน ปุ่มควบคุม 4 ทิศทางด้านหลังเราสามารถตั้งค่าใหม่เป็นฟังก์ชั่นอื่นได้แต่ละปุ่มมีให้เลือก 25 ฟังก์ชั่นเช่นเดียวกับปุ่ม M-Fn แต่ตั้งอะไรไว้ต้องจำให้ได้ด้วยนะเพราะสัญลักษณ์บนปุ่มมันเปลี่ยนตามไม่ได้ 555

ปุ่มเดียวที่อยู่ตรงนี้คือ Wi-Fi สำหรับเปิดการเชื่อมต่อกล้องกับมือถือ

รีวิว Canon EOS M50 ควบคุมได้ด้วยมือข้างเดียว!

สังเกตว่าปุ่มควบคุมของ Canon EOS M50 เวลาเราถือจะกระจุกกันอยู่ทางด้านขวาทั้งหมดเลยผมมาสังเกตตอนหลังจากใช้งานไปซักพักว่ามันทำให้เราคุมกล้องด้วยมือขวาข้างเดียวได้สบาย ๆ เลย

ด้านหลังจะมีจอแสดงผล Touchscreen ขนาด 3 นิ้วความละเอียด 1.04 ล้านพิกเซลสามารถพับออกด้านข้างได้หมุนองศาจอได้รอบประมาณ 270 องศาสามารถพลิกถ่าย Selfie ตัวเองได้เลย สายถ่ายวิดีโอ Vlog น่าจะถูกใจจอแบบนี้มากเพราะมันใช้งานสะดวกและไม่ติดปัญหาพับจอแล้วติดไมค์แบบกล้องจอพับขึ้นและไม่มีปัญหาติดขาตั้งแล้วบังจอแบบพวกพับจอลงด้านล่าง

ถึงแม้ M50 จะไม่ได้มีปุ่มเยอะแต่โชคดีที่มีระบบ Touchscreen ที่ดีมาก จิ้มได้แทบจะทุกปุ่มบนจอ และจิ้มปรับได้สะดวก ใช้งานได้เต็มระบบทั้งในหน้า Live View และ Menu (ลองดูตัวอย่างได้จากในวิดีโอรีวิวด้านบน)ซึ่งจริง ๆ ไม่ใช่เฉพาะ M50 หรอกครับคุณจะเจอระบบ Touchscreen ดี ๆ แบบนี้ได้ใน Canon แทบทุกตัว ต้องยอมรับว่าในตลาด Mirrorless ระบบ Touch ของ Canon มาเป็นอันดับไม่ 1 ก็ 2 ของตลาดแน่นอน(อีกเจ้านึงใครน่ะหรือ ลองไปจิ้มของ Panasonic ดูครับ อิอิ)

Canon EOS M50 มีช่องมองภาพ OLED ความละเอียด 2.36 ล้านพิกเซลในระดับราคานี้จะหากล้อง Mirrorless ที่มีช่องมองภาพนี่ยากมากเลย และไม่ได้ให้มาแบบแย่ ๆ คุณภาพดีใช้ได้เลยทีเดียว รีเฟรชเรทดูลื่นไหลดี มีขนาดกลาง ๆ ไม่ได้เล็กจนมองยากแต่ก็ไม่ได้ใหญ่จนมองสบายตาเหมือนกัน

ช่องมองภาพจะเป็นประโยชน์มากหากเราถ่ายภาพกลางแดดจัด ๆ เพราะจอหลังกล้องมันสู้แดดไม่ไหวทำให้เรามองจอไม่เห็นหรือมองเห็นก็อาจจะมองไม่ถนัดทำให้เราดูค่าแสงต่าง ๆ ไม่ถูกต้อง เอาตาส่องช่องมองภาพซะเราก็จะไม่ต้องปวดหัวกับเรื่องพวกนี้เลย

Canon EOS M50 มีแฟลชในตัวอยู่ตรงหัวกล้องใช้ระบบดึงขึ้น คือ…ดึงขึ้นมาเลย ไม่ต้องกดปุ่ม สับก้านโยกใด ๆ ทั้งสิ้นใช้มือดึงขึ้นมาตรง ๆ นี่แหละครับ แอบรู้สึกเป็นการลดต้นทุนอยู่หน่อย ๆ แต่ก็สามารถใช้งานจริงได้ เข้าใจง่าย ผมว่าก็ไม่มีปัญหาอะไร

Hotshoe สำหรับต่อแฟลชนอกหรืออุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ก็มีมาให้

ไมโครโฟนติดกล้องวางตำแหน่งอยุ่ด้านหน้าของกล้องทั้งสองตัว ค่อนข้างเหมาะกับการถ่ายวิดีโอแบบ Vlog เพราะเรามักยืนอยู่ด้านหน้ากล้องอยู่แล้ว

รีวิว Canon EOS M50 กับพอร์ตเชื่อมต่อต่าง ๆ

Canon EOS M50 มีพอร์ตไมโครโฟนแบบ 3.5mm มาให้ซึ่งเป็นอะไรที่ดีมากกก และหายากสำหรับกล้อง Mirrorless ราคาเท่านี้อีกตัวที่มีก็เห็นจะเป็น Fujifilm X-A5 ที่ราคาถูกกว่าประมาณ 4 พันแต่สเปคจะไม่ได้เท่า M50 เป็นอีกข้อดีที่ทำให้ M50 เหมาะจะใช้ถ่ายวิดีโอมาก ๆ นี่ถ้าให้พอร์ตหูฟังมาด้วยจะกราบแบบงาม ๆ เลย

สังเกตว่าใต้พอร์ตไมโครโฟนจะมีสัญลักษณ์ NFC ด้วยเพราะกล้องตัวนี้มี NFC มาในตัวหากมือถือใครมี NFC ก็สามารถนะมาแตะบริเวณนี้เพื่อเชื่อมต่อได้ครับ

พอร์ต microHDMI สำหรับต่อภาพจากกล้องไปโชว์ที่จออื่น ซึ่งเวลาต่อ microHDMI จอแสดงผลด้านหลังกล้องจะถูกปิดครับเราจะต้องไปมองที่อีกจอหนึ่งแทน

พอร์ต microUSB สำหรับเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ที่น่าเสียดายคือให้ microUSB มาแล้วแต่ไม่สามารถชาร์จแบตเตอรี่ผ่าน Powerbank ได้ ในขณะที่ยี่ห้ออื่นเขาชาร์จ USB ได้กันเกือบหมดแล้ว

ความน่าเสียดายต่อมาคือหากใส่ไมโครโฟนแล้วจอหลังจะไม่สามารถหมุนอย่างอิสระได้เพราะมันติดไมค์อย่างที่เห็น แต่เวลาใช้งานมันก็ไม่เป็นปัญหาเท่าไหร่หรอกครับเป็นเรื่องของความสะดวกมากกว่า เวลาพลิกจอเราก็พับจอเข้ามาก่อนแล้วค่อยพลิกด้านก็ได้

Canon EOS M50 ใช้แบตเตอรี่ Canon LP-E12 แบตฯมีความจุค่อนข้างน้อย 875mAh ทำให้ชาร์จเต็มหนึ่งครั้งถ่ายได้แค่ 235 ภาพเท่านั้น(ทดสอบตามมาตราฐาน CIPA)และหากเปิดโหมด Eco ช่วยจะถ่ายได้ 370 ภาพ

นั่นเป็นตัวเลขจากการทดสอบแต่ในการใช้งานจริงเราจะถ่ายได้มากกว่านี้อยู่แล้วครับ จากที่ผมใช้มาเฉลี่ยแล้วก้อนนึงได้ประมาณ 600-800 ภาพเลย(เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานของแต่ละคนด้วยนะครับ)

รีวิว Canon EOS M50 – สเปคภายในและการทดสอบ

หัวใจหลักของ Canon EOS M50 และยังเป็นสิ่งทำให้เจ้าตัวนี้เป็นกล้อง Mirrorless ที่น่าสนใจคือเซนเซอร์ขนาด APS-C ขนาดเดียวกับกล้อง DSLR ของ Canon อย่าง Canon EOS 80D, Canon EOS 7D Mark II ผลที่ได้คือคุณภาพไฟล์ที่ Canon เคยทำไว้ดียังไง M50 มันก็ดีอย่างนั้น ไม่มีอะไรต้องห่วงในด้านคุณภาพไฟล์เลย

และเราสามารถใช้ Mount Adapter ของ Canon เพื่อแปลงเมาท์เอาเลนส์ Canon DSLR ตัวใหญ่มาใส่ M50 ได้ด้วยราคาตัวแปลงเมาท์ประมาณไม่เกิน 5,000 บาทใช้งานได้เต็มระบบเลย

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง Canon EOS M50 ผมถ่ายโดยใช้เลนส์ 15-45mm ที่มากับตัวกล้องและ Canon 50mm F1.8 II (เจ้าเลนส์กระป๋องราคาประหยัดอดีตขวัญใจชาว Canon)ผ่านการต่อเมาท์แปลง ไฟล์เป็น JPEG เดิม ๆ ออกจากกล้องไม่แต่งใด ๆ หรือถ้าอันไหนแต่งจะแค่เพิ่ม-ลดแสงนิด ๆ เท่านั้น ย่อภาพผ่านโปรแกรม Lightroom

รีวิว Canon EOS M50 – ทดสอบ ISO

Canon EOS M50 มีช่วง ISO ตั้งแต่ 100-25600 และเราขยายได้ถึง 51200 ตัวกล้องมีไฟล์ ISO สูงที่ดีฉะนั้นแทบจะตลอดเวลาที่ผมปล่อย ISO ไว้ในตำแหน่ง Auto ไม่ว่าจะในโหมดไหน แต่ใช้วิธีไปตั้ง Limit ไว้ให้ไม่เกิน ISO6400 

จากที่ใช้มาระหว่างรีวิว Canon EOS M50 ตัวนี้ผมรับได้กับไฟล์ ISO สูงสุดแถว ๆ ISO3200-6400 ส่วน 12800 นี่จะเริ่มยับละ 25600 นี่ก็แตกเห็นเม็ด ๆ เหมือนรูปบนหน้าหนังสือพิมพ์เลยส่วน ISO51200 มันก็จะยับ ๆ หน่อย 555

ในภาพตัวอย่างที่ผมถ่ายคอนเสิร์ตจำเป็นต้องดัน ISO ไปอยู่ในช่วง 12800 แม้ว่าจะทำให้ภาพเสียรายละเอียดแต่สถานการณ์มันจำเป็นจริง ๆ ก็ต้องดันแต่อยากจะบอกว่าถ้าคุณถ่ายเป็น JPEG ผมว่า ISO12800 นี่ก็ยังไหวนะครับตัวกล้องมันมีระบบลด Noise ที่ดีใช้ได้เลยแต่ตัวไฟล์ RAW ที่ผมใช้มันตัดระบบช่วยลด Noise ออกไป

ในสถานการณ์ส่วนใหญ่เวลาเราท่องเที่ยวหรือในงานสำคัญ ๆ ในชีวิตอย่างงานแต่ง งานบวช ISO3200-6400 นี่ก็เพียงพอแล้วครับ ISO12800-25600 เราไม่ค่อยได้ใช้เท่าไหร่นัก

รีวิว Canon EOS M50 – ระบบ Dual Pixel CMOS AF ของดีที่ต้องบอกต่อ

Dual Pixel CMOS AF ถือว่าเป็นตัวเชิดหน้าชูตาของ Canon เลยครับทุกคนสามารถไปดูตัวอย่างความเร็วและแม่นยำในการโฟกัสจากวิดีโอรีวิว Canon EOS M50 ด้านบนได้เลย รวมถึงตัวอย่างการทดสอบอีกมากมายในยูทูปว่ามันดีขนาดไหน

ข่าวดีคือ Canon EOS M50 ของเรามี Dual Pixel CMOS AF ที่เพิ่มจุดโฟกัสเป็น 99 จุดจากเดิม EOS M Series จะมีกันแค่ 49 เท่านั้นซึ่งครอบคลุมพื้นที่ในแนวตั้ง 80% และแนวนอน 80% ของเฟรมภาพบอกได้เลยว่าแค่นี้ก็เพียงพอต่อการใช้งานแล้วครับ พื้นที่ ๆ ไม่ครอบคลุมจะเป็นแค่ขอบ ๆ ภาพที่ปกติเราคงไม่วางตัวแบบไว้ตรงนั้นอยู่แล้ว

และหากเราใช้กล้อง Canon EOS M50 กับเลนส์ที่รองรับอย่าง 18-150mm, 28mm Macro, และ 55-200mm เราจะได้จุดโฟกัสเพิ่มมาเป็น 143 จุดซึ่งจะครอบคลุมพื้นที่ในเฟรมภาพแนวนอน 80% และแนวตั้ง 100% เลย

รีวิว Canon EOS M50 ความเห็นจากการใช้งานจริง

จากที่ผมใช้งานยอมรับว่ามันดีอย่างที่หลาย ๆ คนว่าไว้จริง ๆ แม่นยำและเร็วมากในการ Tracking ติดตามวัตถุ แต่เวลาแสงน้อยนี่ก็แอบช้าลงอยู่เหมือนกันแต่จัดอยู่ในระดับที่ดีมากไม่เป็นปัญหาในการใช้งานเลย แต่จะมีจังหวะที่แสงมันน้อยมากจริง ๆ อย่างในภาพตัวอย่างที่ผมเอาไปถ่ายคอนเสิร์ตตอนมืดถ้าจังหวะไหนไม่มีแสงไฟส่องหน้านักร้องเลยจะโฟกัสได้ช้าลงอย่างชัดเจนจนมีอาการโฟกัสเข้าบ้างหลุดบ้าง ส่วนตัวผมว่ามันก็เข้าใจได้เพราะมืดจริง ๆ จะไม่ได้ก็ไม่แปลกและบางครั้งเราต้องช่วยมันหน่อยในการเลือกตัวแบบกับฉากหลังหากแบบดูกลมกลืนกับฉากหลังมากไปบางทีก็มีหลุด ๆ บ้าง(ซึ่งอันนี้ผมเชื่อว่ากล้องไหน ๆ ก็เป็นเช่นกัน) 

การจับโฟกัสใบหน้านั้นทำได้ดีมาก ๆ แต่ยังแพ้ Sony นิดหน่อยค่ายนั้นเค้าหันข้างมายังรู้เลยว่าเป็นหน้าแต่กับ M50 อาจจะต้องให้หันมาซัก 45 องศาก่อนถึงจะจับได้ดี ผมทดสอบถ่ายภาพต่อเนื่อง(7.4 ภาพต่อวินาทีเพื่อให้กล้องโฟกัสต่อเนื่องตามแบบตลอด) จังหวะไหนแบบก้มหน้า หรือเห็นหน้าไม่ชัดจะมีอาการโฟกัสหลุดให้เห็นชัดเจนแต่ถ้าเห็นหน้าชัดเมื่อไหร่นี่แทบไม่มีหลุด

ผมใช้ระบบโฟกัสใบหน้าซึ่งจะเป็นการเปิดใช้งานระบบโฟกัสทั้ง 99 จุดด้วยในรอบแรกตัวแบบวิ่งตรงเข้าหาอย่างเดียวเห็นหน้าชัดเจนอาการหลุดโฟกัสแทบไม่มีให้เห็น แต่พอรอบถัดมามีการวิ่งสลับซ้ายขวามีจังหวะที่เห็นหน้าไม่ชัดเจนมีผมบังบ้าง หันข้างบ้าง อาการหลุดโฟกัสเริ่มีมากขึ้นอย่างชัดเจน

รีวิว Canon EOS M50 กับ ของเล่นใหม่ Eye Detection AF

การโฟกัสที่ดวงตานั้นเป็นพื้นฐานสำคัญในการถ่าย Portrait ไม่ว่าคุณจะวางองค์ประกอบศิลป์อะไรสำคัญคือตาต้องชัด Canon EOS M50 มีระบบโฟกัสที่จะจับโฟกัสที่ดวงตามาให้ แต่เงื่อนไขคือเราจะต้องเปิดระบบโฟกัสใบหน้าถึงจะทำงานได้ซึ่งโหมดโฟกัสใบหน้ามันเป็นการเปิดใช้งานจุดโฟกัสทั่วจอทั้ง 99 จุดไปด้วย ถ้าปกติคุณใช้แบบนี้อยู่แล้วก็ไม่มีปัญหาแต่กับผมหรือใครที่ชอบใช้แบบจุดเดียวแล้วเลือกจุดโฟกัสเอง มันต้องมาคอยกดเปลี่ยนอยู่เรื่อย ๆ ถ่ายคนก็เปลี่ยนมาใช้โฟกัสใบหน้า พอจะหันไปถ่ายวิว เอ้า ต้องมาเปลี่ยนใหม่เป็นจุดเดียวกลายเป็นไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่

รีวิว Canon EOS M50 กับ การสั่งโฟกัสตาข้างที่ถูกใจได้เลยทันที

จุดที่ผมถูกใจคือมันสามารถย้ายได้ว่าจะให้โฟกัสตาไหน ปกติกล้องยี่ห้ออื่นจะมีให้ตั้งค่าว่าจะให้กล้องจับตาข้างไหนเป็นหลักแต่ไม่มียี่ห้อไหนเลยที่สั่งย้ายตาระหว่างถ่ายอยู่ได้แบบ Canon EOS M50 ซึ่งการย้ายตาทำได้ผ่านการกดปุ่ม AF Point Selection ซ้ำสองครั้ง

รีวิว Canon EOS M50 กับ ระบบกันสั่นไหว

Canon EOS M50 ใช้ระบบกันสั่นจากเลนส์ครับ ไม่มีระบบกันสั่นที่เซนเซอร์เหมือนกล้องรุ่นใหม่ ๆ หลายตัว แต่ Canon ได้ใช้วิธีการให้ Gyro Sensor ในกล้อง M50 ส่งข้อมูลการเคลื่อนไหวของกล้องไปให้ระบบกันสั่นที่เลนส์ประมวลผลเพื่อให้ลดการสั่นไหวของกล้องได้ดีขึ้นซึ่ง Canon เองกล่าวว่าวิธีนี้ช่วยให้ระบบกันสั่นทำงานได้ดีขึ้น 0.5 สตอป

ถ้าถามว่าระบบกันสั่นดีไหม ขอตอบตามตรงว่าดีแบบกลาง ๆ ถ้าคะแนนเต็ม 10 ผมก็ให้ประมาณ 6-7 คะแนนครับ เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป ถ่ายภาพหรือถ่ายวิดีโอท่องเที่ยวได้สังเกตจากในวิดีโอรีวิวว่าผมเดินถือกล้องถ่ายวิดีโอไปด้วยระบบกันสั่นก็ยังช่วยลดการสั่นไหวได้พอใช้คงเหลืออาการสั่นบ้างแต่ก็พอจะดูได้แบบไม่ปวดหัว ถ้าอยากได้ระบบกันสั่นที่ดีกว่านี้อาจจะต้องไปเล่นพวก Olympus OM-D E-M10 Mark III ที่มีระบบกันสั่น 5 แกนแทน อันนี้ดีกว่าแน่ ๆ ลองดูจากในรีวิวได้ครับ รีวิว Olympus OM-D E-M10 Mark III ทดสอบใช้งานจริง 

https://www.youtube.com/watch?v=mpXWXQdMzDU

รีวิว Canon EOS M50 กับวิดีโอ 4K ครั้งแรกใน EOS M

เรื่อง 4K มีประเด็นให้เราต้องพูดถึงกันเยอะมาก ถ้าขี้เกียจอ่านผมแนะนำให้เปิดในวิดีโอฟังแทนนะครับ 555 แต่ถ้าจะอ่านก็ไปต้มมาม่านั่งกินไปด้วยเลย

อันดับแรก Canon EOS M50 สามารถถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียดต่อไปนี้(ทั้งหมดเป็น IPB ไม่มี ALL-I)

Canon EOS M50 เป็นกล้องตัวแรกใน EOS M Series ที่สามารถจะถ่ายวิดีโอ 4K ได้ที่ 24fps และยังถ่าย Full HD ได้ถึง 60fps มีฟีเจอร์ 4K Frame Grab ที่สามารถดึงภาพนิ่งออกจากวิดีโอ 4K ได้ด้วย ผมรู้สึกว้าวกับเจ้าตัวนี้ไม่น้อยในตอนแรกเพราะราคาเท่านี้แต่ได้สเปควิดีโอมาดีใช้ได้เลย แต่ต้องเศร้าใจไม่น้อยที่รู้ว่า 4K ของตัวนี้ Dual Pixel CMOS AF จะไม่ทำงานและจะถูก Crop เพิ่มขึ้นอีก 1.7x เรามาค่อย ๆ ดูกันทีละประเด็นนะครับ

รีวิว Canon EOS M50 กับ Dual Pixel CMOS AF ไม่ทำงานในวิดีโอ 4K

เป็นอะไรที่น่าเสียดายมาก ผมไม่รู้ว่าด้วยพลังของชิปประมวลผลมันไม่พอหรือปัญหาเรื่องการใช้พลังงานหรือปัญหาเรื่องความร้อนสะสมไม่ว่าสาเหตุจะมาจากอะไรมันน่าเสียดายมากที่เราไม่สามารถใช้ระบบโฟกัสดี ๆ แบบนี้ในโหมด 4K ได้ หากถ่าย 4K เราจะต้องใช้ Contrast Detection ในการโฟกัสซึ่งมันก็พอใช้ได้แต่ความเร็วและความแม่นเมื่อเทียบกับ Dual Pixel CMOS AF มันต่างกันมาก แต่โอเคถ้าเราเลือกที่จะถ่ายวัตถุที่ไม่ขยับมากนักมันก็ใช้งานได้ดี

https://www.youtube.com/watch?v=SYAngp9Nr6Y

4K ที่จะ Crop มากขึ้นอีก 1.7x

ปกติเซนเซอร์ APS-C จะมีตัวคูณอยู่ที่ 1.5x หรือ 1.6x ในกล้อง Canon และหากเราใช้โหมดวิดีโอ 4K มันจะ Crop เราอีก 1.7x บนระยะที่ผ่านการ Crop 1.6x มาแล้ว! อื้อหือออ Crop กันกระจาย คิดในแง่ดีคือเราได้ช่วง Tele เพิ่ม 555 แต่เราก็จะเสียช่วงกว้างของเลนส์ไปเช่นกัน สมมติเลนส์ติดกล้องมาเป็น 15-45mm หลังจากคูณระยะ 1.6x แล้วจะเป็น 24-72mm หากถ่ายวิดีโอ 4K จะคูณอีก 1.7x เป็น 41-122mm เลยทีเดียว

4K สำคัญกับเรามากแค่ไหน

คำถามนึงที่คุณต้องตอบตัวเองให้ได้ก่อนซื้อกล้องตัวนี้คือ 4K จำเป็นกับเรามากแค่ไหน จริงอยู่ว่าปัจจุบันกระแส 4K กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วแต่ Full HD นั้นก็ยังคงใช้งานได้สบาย ๆ หลายบ้านยังคงใช้จอ Full HD การดู Youtube ด้วยความละเอียด Full HD ก็มีความคมชัดที่เพียงพอ Facebook เองส่วนใหญ่ก็ยังใช้วิดีโอ HD 720 กันอยู่ อีกทั้ง 4K เองยังกินพื้นที่ใน SD Card และ HDD ของเราเยอะกว่ามาก เวลาตัดต่อก็จำเป็นต้องใช้คอมฯที่แรงมากพอระยะเวลาในการเรนเดอร์ไฟล์ 4K ก็นานกว่าพอสมควรเลย

ถ้าการใช้งานเราคือถ่ายวิดีโอสนุก ๆ ทำคลิปทำรายการลง Social Network กับเพื่อน ๆ อวดบรรยากาศทริปท่องเที่ยวต่าง ๆ ถ่ายวิดีโอลูกสาวลูกชายเก็บไว้ดู Full HD 1080 นั้นเหลือเฟือ Canon EOS M50 เป็นคำตอบที่ดีของคุณและยังประหยัดเงินไปได้เยอะอีกด้วย

แต่ถ้า 4K จำเป็นกับคุณก็ต้องยอมรับข้อจำกัดว่าเราไม่มี Dual Pixel AF และช่วงเลนส์ถูก Crop เยอะหน่อยต้องหาเลนส์กว้าง ๆ มาใส่อย่าง EF-M 11-22mm เองก็มีราคาไม่แพง และพยายามคุมระยะชัดให้ดีถ่ายวัตถุที่ไม่เคลื่อนไหวเร็วมากนัก

คุณภาพไฟล์วิดีโอไม่ธรรมดา

เห็นเป็นกล้องเล็ก ๆ แบบนี้ราคา 25,990 บาทแต่คุณดูถูกไฟล์วิดีโอของเจ้าตัวเล็กนี้ไม่ได้เลย ถ้าเป็นเรื่องวิดีโอมีหรือคนทำกล้องถ่ายวิดีโอระดับ Cinema อย่าง Canon เขาจะยอมน้อยหน้าใคร หากเราลืมเรื่องประเด็น Dual Pixel AF กับการ Crop มหาศาลเมื่อกี้ไป คุณภาพไฟล์วิดีโอของ Canon EOS M50 นั้นดีมากเลยทีเดียว ทุกคนดูกันได้จากวิดีโอรีวิวด้านบนว่ามันเพียงพอเหลือเฟือที่จะใช้ทำงานได้หรือทำคลิปอัพลง Youtube ได้สบาย ๆ 

ถึงแม้จะมีประเด็นเรื่อง 4K นิดหน่อยแต่ผมเองก็ยังตัดสินใจซื้อมาใช้เพราะมันใช้งานได้ดีคุ้มราคาค่าตัวมาก วันนึงถ้าคุณเล่นวิดีโอมานานจนอยากไปไกลกว่านี้ก็ค่อยอัพขึ้นไปรุ่นสูง ๆ ก็ยังได้ สำหรับตัวเลือกแบบทางผ่าน(ฟังดูน่าน้อยใจยังไงไม่รู้ 555) M50 ก็ยังเป็นตัวเลือกที่ดีในการฝึกฝีมือ

Rolling Shutter

อธิบายแบบง่าย ๆ มันเป็นอาการที่ภาพมันโย้ ๆ ครับ จะเป็นกับอะไรที่เคลื่อนไหวเร็ว ๆ สังเกตง่าย ๆ ถ้ากล้องไหนมีอาการ Rolling Shutter เยอะหากเราเหวี่ยงหรือแพนกล้องผ่านเสาซักต้น เสาที่เคยตรงมันจะโค้ง ๆ โย้ ๆ ให้เห็นในวิดีโอ ซึ่งเจ้า Canon EOS M50 มีอาการ Rolling Shutter ใน 4K เยอะพอสมควรเลยก็เดาไม่ยากว่าคงเกิดจาก 4K มีจำนวนพิกเซลเยอะมากจนอ่านข้อมูลจากเซนเซอร์ไม่ทันนั่นเองกล้อง Sony A6300, Sony A6500 เองก็เจอปัญหานี้เยอะเวลาถ่าย 4K เช่นกัน ทางแก้คือเราลดไปใช้ Full HD อาการ Rolling Shutter จะน้อยลงไปมากเลยครับ

รีวิว Canon EOS M50 กับการถ่าย Time-Lapse ได้จบในตัวกล้อง

Canon EOS M50 สามารถถ่ายวิดีโอแบบ Time-Lapse ได้แบบจบในตัวกล้องเลย โดย Canon จะมี Preset ให้เราเลือกแบบง่าย ๆ อย่างเช่นแบบที่ 1 สำหรับถ่ายคน แบบที่ 2 ถ่ายเมฆเคลื่อน อะไรแบบนี้หรือจะ Custom ตั้งเองทุกอย่างก็ได้

ตอนตั้งค่ากล้องจะบอกเวลาว่าตั้งค่าแบบนี้จะใช้เวลาถ่ายเท่าไหร่ และจะได้วิดีโอความยาวเท่าไหร่ ความละเอียดตั้งได้ทั้ง Full HD และ 4K เฟรมเรต 25fps ทั้งสองความละเอียด เมื่อถ่าย Time-Lapse จบตามที่ตั้งไว้เราจะได้วิดีโอ Time-Lapse มาหนึ่งอันเลยไม่มีภาพนิ่งมาให้ ข้อเสียคือสำหรับคนที่อยากได้ภาพนิ่งไปทำต่อจะหมดสิทธิเลย ส่วนข้อดีคือสำหรับคนที่อยากจบในกล้องและไม่อยากให้มีภาพ Time-Lapse เป็นร้อยเป็นพันใบมาเปลืองพื้นที่ในการ์ด

https://www.youtube.com/watch?v=XhSdZ1T6AqA

สุดท้ายที่ไม่บอกไม่ได้คือจากที่ผมใช้มาด้วยความเป็นคนชอบถ่าย Time-Lapse ไฟรถวิ่งเป็นเส้น ๆ ซึ่งจำเป็นต้องใช้ความเร็วชัตเตอร์ที่ช้าเป็นวินาทีแต่เจ้า Canon EOS M50 กลับทำไม่ได้ซะอย่างงั้น ความเร็วชัตเตอร์ต่ำสุดที่เจ้าตัวนี้ทำได้คล้ายกับในโหมดถ่ายวิดีโอคือ 1/25 วินาที เป็นเรื่องน่าเสียดาย(อีกแล้ว)ไฟรถยังไม่ยืดยาวมากพอ เฉพาะในโหมดถ่าย Time-Lapse นะครับ ถ้าถ่ายภาพปกติก็ลากกันได้ยาวสุด 30 วินาทีหรือจะชัตเตอร์ B กดยาวไปเป็นนาทีเลยก็ยังได้

เพิ่มเติมในการสั่งถ่าย Time-Lapse ของกล้องตัวนี้ใช้วิธีเริ่มโดยการกดปุ่มอัดวิดีโอนะครับไม่ได้ใช้ปุ่มชัตเตอร์เหมือนกล้องอื่น ๆ และผมไม่ได้ยินเสียงการทำงานของม่านชัตเตอร์เลยซึ่งกล้องคงจะใช้ Electronic Shutter ไม่ก็คงอาศัยการอัดวิดีโอเฟรมเรตต่ำผมยังไม่ทราบเหมือนกันว่าเป็นวิธีไหนแต่เราไม่สามารถเลือกปรับมันได้ครับ

รีวิว Canon EOS M50 กับการเชื่อมต่อไร้สาย

Canon EOS M50 รุ่นนี้ Canon จัดเต็มเรื่องเชื่อมต่อไร้สายแบบสุด ๆ มีมาให้ทั้ง Wi-Fi, NFC, และ Bluetooth นี่ถ้าจัด GPS มาด้วยจะแจ่มเลย 555 

M50 มีฟังก์ชั่น Auto Transfer ที่จะส่งภาพมาเข้ามือถือให้เราแบบอัตโนมัติอย่างผมลองทดสอบคู่กับ iPhone คือถ่ายปุ๊บภาพเด้งเข้า Camera Roll มาให้เลย ส่วน Bluetooth นั้นหากเราเชื่อมต่อทิ้งเอาไว้เราสามารถใช้มือถือเป็นรีโมทชัตเตอร์แบบไร้สายผ่าน Bluetooth ได้รวมทั้งยังช่วยให้การเชื่อมต่อ Wi-Fi ทำได้เร็วขึ้นเพราะกล้องกับมือถือคุยกันอยู่ก่อนแล้วพอกดเชื่อม Wi-Fi เขาจะเชื่อมกันให้เองอัตโนมัติเลย

ข้อดีอย่างหนึ่งที่ผมชอบการเชื่อมต่อ Wi-Fi ของ Canon คือเราสามารถใช้กล้องไปด้วยระหว่างเชื่อมต่อได้ครับ หากเราถ่ายรูปให้เพื่อนหรือถ่ายให้ลูกค้าเราสามารถให้เขาถือโทรศัพท์เอาไว้พร้อม ๆ กับเราถ่ายภาพไปด้วยรูปที่เราถ่ายจะเด้งให้เขาเห็นใน App บนโทรศัพท์ทันทีเลย

รีวิว Canon EOS M50 กับ ข้อสังเกตที่เจอจากการใช้งาน

เท่าที่ผมใช้งาน Canon EOS M50 มาผมเจอข้อสังเกตหลายอย่างแต่ส่วนใหญ่เป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ก็แชร์กันเผื่อใครสนใจนะครับ

บัฟเฟอร์มันน้อยมาก

บัฟเฟอร์เป็นพื้นที่รองรับรูปถ่ายของเราก่อนจะส่งไปเขียนลงการ์ดเพราะปกติกล้องมันเขียนลงการ์ดได้ไม่เร็วมาก แต่เขียนลงบัฟเฟอร์ได้เร็วกว่ายิ่งมีบัฟเฟอร์ใหญ่เราก็จะถ่ายภาพต่อเนื่องได้นานขึ้นยิ่งเป็นกล้องที่ถ่ายภาพต่อเนื่องได้เร็วยิ่งต้องการบัฟเฟอร์ที่ใหญ่ แต่เจ้า Canon EOS M50 นี่มีน้อยใช้ได้เลย ผมไม่รู้ว่าบัฟเฟอร์เขากี่ภาพแต่ทุกคนลองดูจากในวิดีโอรีวิวจะเห็นว่ามันเต็มอย่างไวเมื่อถ่าย RAW แต่ถ้าถ่าย JPEG ก็พอจะได้นานอยู่

Silent Shooting ที่ต้องเข้า Scene Mode เท่านั้น

Silent Shooting เป็นโหมดที่กล้องจะทำตัวเงียบ ๆ ปิดเสียงปิดไฟตามตัวรวมถึงใช้ Electronic Shutter ที่เวลาถ่ายภาพจะไม่เกิดเสียงใด ๆ เลย แต่โหมดนี้มันดันอยู่ใน Scene Mode ซึ่งพอเข้าไปแล้ว…โอเคเงียบจริง แต่มันบังคับใช้โหมด Auto อย่างเดียวเท่านั้นบอกลาโหมด P, Av, Tv, M ได้เลย

ขีดบอกระดับเสียงไมโครโฟน

ประเด็นคืนมันไม่โชว์ในหน้าจอ Live View ครับ แต่ต้องเข้าไปในหน้าที่บอกค่า INFO ต่าง ๆ ซึ่งมันไม่มี Live View ในหน้านั้น อารมณ์ได้อย่างเสียอย่างทำให้เวลาถ่ายวิดีโอเราไม่สามารถดูกราฟเสียงไปพร้อม ๆ กันได้ ต้องอาศัยเข้ามาเช็คเป็นระยะ ๆ เอาว่าเสียงเข้ามั้ย

4K จะถ่ายต้องเข้าโหมดวิดีโอเท่านั้น

การจะถ่ายวิดีโอ 4K คุณจะต้องอยู่ในโหมดวิดีโอเท่านั้นถ้ากดปุ่มอัดวิดีโอจากโหมดอื่นเราจะได้ Full HD มาแทนเป็นเรื่องจุกจิกเล็กน้อยที่ผมก็ไม่เข้าใจเหตุผลเหมือนกัน 555

ภาพกลับหัวในการ Selfie แนวตั้ง

หากใครกำลังคิดว่าจะซื้อ M50 ไว้ถ่าย Selfie ผมว่าคุณมาถูกทางอยู่ครับเพราะโทนสีผิว Canon มันออกไปทางขาวอมชมพูมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ให้ผิวคนที่ค่อนข้างสวยทีเดียวและมีโหมดทำผิวเนียนด้วย ส่วนที่คุณต้องรู้ไว้คือหากจะ Selfie แนวตั้งภาพมันจะกลับหัวอย่างที่เห็นในวิดีโอช่วยท้ายๆ การแก้ไขคือต้องไปเปิด Reverse Display ในเมนูประแจหมายเลข 4 แล้วเราจะเห็นภาพตามปกติ แต่ในจอเราจะเห็นภาพแบบกลับซ้าย-ขวาเหมือนการส่องกระจก(แต่รูปถ่ายที่ได้มาปกตินะครับไม่กลับด้าน)

แบตฯยังไม่อึดเท่าไหร่

แบตเตอรี่ LP-E12 บอกตามตรงว่ายังไม่อึดเท่าไหร่ดูจากผลทดสอบ CIPA ตอนตารางสเปคก็น่าจะพอเดากันได้นะครับ ในการใช้งานจริง 1 ก้อนผมถ่ายแบบตลอดเวลาแทบไม่หยุดภาพนิ่งสลับกับวิดีโอบ้างจะอยู่ได้ประมาณ 3.5-4 ชั่วโมงได้รูปประมาณ 600-800 ภาพ แล้วแต่ว่าวันนั้นถ่ายวิดีโอเยอะแค่ไหนถ้าถ่ายวิดีโอเยอะก็จะหมดไวขึ้น

ถ้าคุณใช้งานแบบท่องเที่ยวไม่ได้ถ่ายต่อเนื่องตลอดเวลาแบบผมแบตฯ 1 ก้อนเริ่มจากเช้าน่าจะไปหมดประมาณตอน 4-5 โมงเย็น ฉะนั้นถ้า 1 วันเต็ม ๆ ผมแนะนำให้หาแบตฯเพิ่มอีกซัก 1-2 ก้อนจะดีมาก

Rรีวิว Canon EOS M50 – บทสรุป

Canon EOS M50 ถ้าจะมีอะไรที่กล้องตัวนี้โดดเด่นที่สุดคงเป็นความคุ้มค่า สเปคที่ได้กับราคาที่ต้องจ่ายสมเหตุสมผล ผมว่า Canon มาถูกทางแล้วสำหรับตัวนี้

คุณอาจมองว่าเหยยย 4K มันมีแต่มีเงื่อนไขขาดนู่นติดนี่เยอะแยะ แบตฯก็ไม่อึด หรืออาจจะมีประเด็นอื่นนอกจากนี้ที่เรามองแตกต่างกันไปแต่อย่าลืมว่า Canon EOS M50 เป็นกล้องในระดับเริ่มต้นเท่านั้นนะครับ ลองคิดว่ากล้องระดับเริ่มต้นกึ่งจะกลาง ๆ หน่อยราคาพร้อมเลนส์ 25,990 บาทแต่ได้…

• เซนเซอร์ใหญ่ APS-C
• 4K 24p, Full HD 60p
• โฟกัส Dual Pixel CMOS AF โคตรดี
• จอพลิกมาด้านหน้าได้
• ระบบ Touchscreen เยี่ยม
• มีช่องต่อไมโครโฟน 3.5mm
• ช่องมองภาพ

ได้ระดับนี้ผมก็ว่าเยี่ยมแล้วครับ แบตฯหมดเร็วนี่ผมแทบไม่สนใจเลยตอนตัดสินใจซื้อ เราก็เปย์ซื้อแบตฯเพิ่มเข้าไปหลาย ๆ ก้อน 555 

กล้อง Canon EOS M50 ตัวนี้เหมาะกับใคร?

เหมาะสำหรับใครที่กำลังมองหากล้อง Mirrorless ตัวแรกหรือเป็นกล้องสำรองตัวที่สองไว้ถือสบาย ๆ ถ่ายชิล ๆ และอีกกลุ่มนึงที่เห็นได้ชัดว่า Canon เล็งหาลูกค้ากลุ่มนี้ด้วยแน่ ๆ คือคนที่ชอบถ่ายวิดีโอ Vlog เพราะสเปคมันเอื้อต่อการถ่าย Vlog มาก ๆ 

ส่วนกลุ่มที่อาจจะไม่เหมาะกับ Canon EOS M50 คือถ้าคุณถ่ายวิดีโอ(หรือภาพนิ่ง)อย่างจริงจัง ต้องการฟังก์ชั่นแบบที่ Custom ได้และปรับรวดเร็วแบบมืออาชีพเจ้าตัวนี้คงตอบโจทย์ได้ไม่ดีนักผมว่ามันยังมีข้อจำกัดอีกหลายอย่างเลยที่ทำให้คุณไปได้ไม่สุดอาจจะต้องมองพวกที่ราคาสูงกว่าอย่าง Panasonic DMC-G85, GH5 หรือ Sony A6300, A6500, A7 Series อะไรพวกนั้นจะดีกว่า