เปรียบเทียบ Fujifilm X-E4

เปรียบเทียบ Fujifilm X-E4 vs EOS M50 II vs A6300 ใครดี ใครเด่น ต้องดู Leave a comment

เปรียบเทียบ Fujifilm X-E4 vs EOS M50 II vs A6300 ทาง Fujifilm ได้มีการเปิดตัวกล้อง Mirrorless รุ่นใหม่อย่าง Fujifilm X-E4 ซึ่งเป็นกล้องทรง Rangefinder ใน X-E Series ซึ่งทีมงานได้มีบทวิเคราะห์ที่เป็นการเปรียบเทียบ Fujifilm X-E4 มาฝากเพื่อนๆด้วยเช่นกันครับ

Content ที่เกี่ยวข้องกับ พรีวิว X-E4

Gallery ฟูจิฟิล์ม X-E4 ( Silver )

Gallery ฟูจิฟิล์ม X-E4 ( Black )

Fujifilm X-E4 กล้อง Mirrorless ทรง Rangefinder Gen 4 กับการอัพเกรดครั้งใหญ่

เมื่อวันที่ 27/1/2021 ทางฟูจิฟิล์ม ได้มีการจัดงาน X-Summit ที่เสมือนเป็น Event เปิดตัวนวัตกรรมและสินค้าใหม่ ที่จะถูกวางจำหน่ายในช่วงปี 2021 นี้นั่นเอง และ ฟูจิฟิล์ม X-E4 ก็เป็น 1 ในสินค้าที่ทางฟูจิเปิดตัวในงานด้วยเช่นกัน

สำหรับ ฟูจิฟิล์ม X-E4 ยังคงคอนเซปความเป็นกล้อง Mirrorless ทรง Rangefinder ไว้ได้อย่างเหนียวแน่น นับตั้งแต่ X-E1 , X-E2 , X-E2s และ X-E3 เรียกได้ว่า หากมองแบบผิวเผิน แทบจะแกะออกมาจากแม่พิมพ์เดียวกันเลยทีเดียวครับ

จุดเด่นที่ทางฟูจิ ชูขึ้นมานั้น เห็นจะเป็นเรื่องการพกพาที่สะดวกยิ่งขึ้น ด้วยการออกแบบให้มีความเล็ก กะทัดรัด แต่ยังคงไว้ซึ่งโครงสร้างที่แข็งแรงทนทานเฉกเช่นเดียวกันกับ X-E Series รุ่นอื่นๆก่อนหน้านี้ โดยเคลมน้ำหนักสูงสุดเพียง 365 กรัมเท่านั้น ซึ่งถือว่าเบามากๆ เมื่อเทียบกับความเป็นกล้อง Mirrorless ที่ใช้ Sensor ขนาด APS-C ด้วยกันในท้องตลาด

Fujifilm X-E4 introduction
Fujifilm X-E4 introduction

การเดินทางของ ฟูจิฟิล์ม X-E4 ก็มาถึง Generation ที่ 4 เรียบร้อย และแน่นอนว่า Sensor รับภาพที่ใช้งานนั้น มีการเปลี่ยนแปลงด้วยเช่นกัน โดยเปลี่ยนมาใช้ Sensor X-Trans cmos IV พร้อมความละเอียด 26 megapixels ด้วยกัน ซึ่งจากเดิมใน X-E3 ที่ใช้ Sensor X-Trans cmos III นั่นเอง

จอแสดงผล ที่พูดได้เต็มปากว่า เป็นการพลิกดีไซน์ของ X-E Series ที่เคยมีมาทั้งหมดทุกรุ่นเลยทีเดียวครับ เพราะ กล้อง Mirrorless ใน X-E Series ไม่ว่าจะเป็น X-E1 จวบจนถึง X-E3 ต่างใช้จอ LCD แบบ Fix ซึ่ง Fix ในที่นี้ ไม่สามารถงัดจอ หรือ ฟลิบจอ ออกมาได้นั่นเองครับ

ทั้งนี้ ฟูจิฟิล์ม X-E4 นั้น ได้เปลี่ยนโฉมจอแสดงผลใหม่ เป็นในลักษณะ Tilt-up หรือ Flip ขึ้นด้านบนนั่นเอง ซึ่งจอ LCD ในลักษณะแบบนี้ จะช่วยตอบโจทย์การทำงานของชาว VLOG และ Youtuber ได้เป็นอย่างดี รวมถึงใครที่เป็นสายเซลฟี่ ก็สามารถใช้งานได้อย่างสบายๆเลยทีเดียว อีกทั้งยังรองรับระบบ Touchscreen ด้วยครับ

ด้านฟีเจอร์ไม้ตายของ Fujifilm อย่าง Film Simulation นั้น ใน Fujifilm X-E4 ก็ได้รับความสามารถใหม่จากรุ่นพี่ติดมาด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะ Film Simulation อย่าง Classic Neg. และ Etherna Beach Bypass ที่ผู้เขียนเชื่อว่า User ชาว Fujinon หลายๆท่านต่างรอคอยฟีเจอร์ดังกล่าว import ลงมาในกล้องฟูจิรุ่นที่ไม่ไช่ flagship นั่นเอง

ความสามารถด้าน Video ก็ได้รับการอัพเกรดเพิ่มเติมเช่นกัน โดย Fujifilm X-E4 รองรับการถ่าย Video สูงสุดที่ DCI 4K ที่ระดับ 30p และ DCI 2K ที่ระดับ 30p ด้วยเช่นกันครับ ซึ่งเมื่อเทียบกับกล้อง Mirrorless ใน Segment เดียวกันในท้องตลาด ต้องยอมรับว่า หาได้น้อยรุ่นมากที่จะรองรับ DCI 4K

หรือจะเป็น Video FHD จะถ่ายได้สูงสุดที่ 120p และยังรองรับ Video Slowmtion สูงสุดที่ 240p ที่ระดับความเอียด FHD ด้วยเช่นกันครับ เรียกได้ว่าตอบโจทย์ชาว VLOG และ Youtube ได้อย่างแน่นอน อย่าลืมว่า จอ LCD ของ Fujifilm X-E4 นั้น ออกมาในลักษณะ Tilt-up ด้วยนั่นเอง

Fujifilm X-E4 ตอบโจทย์การทำงานใครมากที่สุด

สำหรับ Fujifilm X-E4 ด้วยจุดเด่นที่มีความเล็ก กะทัดรัด พกพาสะดวก แม้ว่าจะเป็นกล้อง Mirrorless ขนาด APS-C ที่เปลี่ยนเลนส์ด้วย ซึ่งการที่เปลี่ยนได้ด้วยนั่น ทำให้เป็นข้อดีที่ชัดเจนอย่างหนึ่ง คือ กล้อง Mirrorless สำหรับสาย Street ครับ อย่าลืมว่าการถ่ายภ่ายแนว Street ยิ่งกล้องเล็กมากเท่าไร ยิ่งทำให้ Subject ไม่ตกใจ หรือ รู้สึกว่าถูกคุกคามด้วยนั่นเองครับ

Set ที่เริ่มวางจำหน่ายในต่างประเทศ Fujifilm X-E4 ก็มาพร้อมกับเลนส์รุ่นใหม่อย่าง Fujinon XF 27 F2.8 WR ที่เคลมว่าเป็นเลนส์ Fix ทรงแพนเค้กที่เบาที่สุดในระบบเลนส์ X-Mount เลยทีเดียว ประกอบกับทางยาวโฟกัสเทียบเท่ากับ 40mm. บน Fullframe จึงตอบโจทย์การถ่าย Street ได้อย่างไม่ยากเย็นนัก

มือใหม่ที่ต้องการกล้องเล็ก แต่ทรงประสิทธิภาพ Fujifilm X-E4 คือ คำตอบ

FUJIFILM X-E4 Mirrorless Digital Camera with XF 27mm f/2.8 R WR Lens Black

มือใหม่ที่กำลังมองหากล้อง Mirrorless ขนาดเล็ก แต่ทรงประสิทธิภาพ เจ้า Fujifilm X-E4 ก็พร้อมตอบโจทย์ได้อย่างไม่ยากเย็นนัก ด้วย Sensor ขนาด APS-C ความละเอียด 26 mp ซึ่งเพียงพอต่อการใช้งานได้อย่างสบาย ประกอบกับระบบเลนส์ X-Mount ที่ครอบคลุมการใช้งาน ทั้ง Wide , Normal , Telephoto รวมถึง Macro ที่มีให้เลือกใช้งานตาม Lifestyle ของแต่ละคนได้อย่างลงตัวทีเดียวครับ

คนที่ต้องการหากล้อง VLOG พร้อมโทนสีฟิล์มสวย จบงานได้ตั้งแต่หลังกล้องทันที

fujifilm-x-e4

สาย VLOG เจ้า Fujifilm X-E4 ก็ตอบโจทย์ได้ไม่น้อยหน้า เพราะ ด้วยดีไซน์ของจอ LCD ที่สามารถ Tilt – up ขึ้นมาด้านบน เพื่อใช้งานในลักษณะเซลฟี่ก็ได้ หรือ VLOG ก็ดี ซึ่งถือเป็นกล้อง Mirrorless รุ่นแรกใน X-E Series ที่สามารถทำงานในลักษณะได้นั่นเอง

สรุปสเปค X-E4

  • ปรับเปลี่ยนรูปโฉมใหม่ เน้นความ Compact และ กะทัดรัดมากยิ่งขึ้น
  • Sensor X-Trans CMOS IV ความละเอียด 26 megapixels
  • รองรับสกุลไฟล์ JPG , RAW และ TIFF
  • จอ LCD แบบใหม่ รองรับการพับ 180 องศา รองรับระบบ Touchscreen
  • ช่องมองภาพแบบ EVF ชนิด OLED ขนาด 0.39″ ความละเอียด 2.36 m.dot
  • เพิ่ม Film Simulation ใหม่อย่าง Classinc Neg. และ Etherna Beach Bypass
  • ควบคุมสั่งการผ่าน Joy Stick
  • รองรับการถ่าย Video DCI 4K ระดับ 30p ที่ bitrate สูงสุด 200 mbps.
  • รองรับการถ่าย Video 4K ระดับ 30p ที่ bitrate สูงสุด 200 mbps.
  • รองรับการถ่าย Video FHD ระดับ 60p ที่ bitrate สูงสุด 200 mbps.
  • Video Slowmotion ที่ความละเอียด FHD ระดับ 240p
  • สกุลไฟล์ Video รองรับ MP4 และ MOV
  • Mechanic Shutter ได้สูงสุดที่ 1/4000 sec.
  • Electronic Shutter ได้สูงสุดที่ 1/3200 sec.
  • อัตราการถ่ายภาพต่อเนื่อง 8fps ( Mechanic Shutter )
  • อัตราการถ่ายภาพต่อเนื่อง 20fps ( Electronic Shutter )
  • แบตเตอรี่รุ่น NP-W126S รองรับการใช้งานต่อเนื่อง 350 เฟรม
  • น้ำหนักสุทธิ 365 กรัม

เปรียบเทียบ X-E4 vs X-E3 แตกต่างกันมากน้อยเพียงใด

X-E4 vs X-E3

ธรรมเนียมปกติ เมื่อมีการเปิดตัวกล้องรุ่นใหม่ มักจะต้องมีการพูดถึง อ้างอิง และ/หรือ เปรียบเทียบกับกล้องรุ่นก่อนหน้านี้ เช่นเดียวกันกับ Fujifilm X-E4 ที่ถือว่าเป็น น้องใหม่ใน X-E Series ที่หลายๆท่านน่าจะคำถามในใจว่า ” แล้วต่างกับ Fujifilm X-E3 ยังไงบ้าง ” ทีมงานได้ทำการสรุปและรวบรวมมาให้เพื่อนๆได้ชมกันครับ

สิ่งที่แตกต่างไปจาก Fujifilm X-E3

เปรียบเทียบ สเปค & ฟีเจอร์Fujifilm X-E4Fujifilm X-E3
ราคาวางจำหน่าย850 us
Sensor รับภาพX-Trans cmos IV
26 megapixels
APS-C Size
X-Trans cmos III
24 megapixels
APS-C Size
สกุลไฟล์JPG
RAW
TIFF
JPG
RAW
จอแสดงผลLCD ขนาด 3.0″
1.62 millions dots
Tilt- up 180
Touchscreen
LCD ขนาด 3.0″
1040K dot
Fix Screen
Touchscreen
ช่องมองภาพEVF แบบ OLED
0.39 inch
2.36 millions dots
EVF แบบ OLED
0.39 inch
2.36 millions dots
ระบบ Focus / Eye – AFHybrid AF ( PDAF + CDAF )
AF 425 points
Eye AF support
Hybrid AF ( PDAF + CDAF )
AF 425 points
Eye AF support
Film Simulation18 Films
– Add on Classic Neg.
– Add on Etherna Beach Bypass
15 Films
อัตราการถ่าย Burst Shot8 fps ( mechanic )
20 fps ( electronic )
30 fps ( mode sport )
8 fps ( mechanic )
14 fps ( electronic )
Shutter Speed1/4000 ( mechanic )
1/32000 ( electronic )
1/4000 ( mechanic )
1/32000 ( electronic )
Base ISOmin 160
max 12800
extended 50 – 51200
min 200
max 12800
extended 100 – 51200
ระบบกันสั่นLens OISLens OIS
ฟีเจอร์ VideoDCI 4K 30p
4K 30p
DCI 2K 30p
FHD 120p
Slow-motion 240p
4K 30p
FHD 60p
Port เชื่อมต่อmic. 3.5mm.
USB type-c
micro HDMI
Bluetooth Ver. 4.2
mic. 2.5mm.
USB type-c
micro HDMI
Bluetooth Ver. 4.0
Weather Sealnonenone
แบตเตอรี่np-w126s / 380 shotsnp-w126s / 380 shots
ช่องใส่การ์ด1 Slot / SD Card
SD UHS-II
1 Slot / SD Card
SD UHS-II
น้ำหนักสุทธิ364 กรัม337 กรัม
ตารางเปรียบเทียบสเปค X-E4 vs X-E3
  • Sensor รับภาพใหม่ ใน Generation 4
fujifilm-x-e4

จัดเป็นกล้อง Mirrorless X-E Series ใน Generation 4 เป็นที่เรียบร้อยแล้วนั่นเอง ซึ่งนั่นทำให้ได้รับอานิสงค์ในส่วนของ Sensor X-Trans IV มาด้วย

แม้ว่าจะมีจำนวน pixel ที่มากกว่า X-Trans III อยู่ 2 pixel แต่ประสิทธิภาพด้านอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น Noise , Dynamic Range ต่างทำได้ดีกว่านั่นเอง

  • จอ LCD ที่ถูกออกแบบใหม่ ในลักษณะ Tilt – up

สิ่งที่ชาว Fujinon หลายคนเฝ้ารอก็มาถึง เพราะเดิมที Fujifilm X-E3 และ/หรือ X-E Series ในรุ่นอื่นๆนั้น ต่างมาพร้อมกับจอ LCD แบบ Fix ซึ่งการที่จอ Fix ทำให่เวลานำไปใช้งานจริง จะขาดความยืดหยุ่นไปอย่างมาก

ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายมุมงัด มุมเสย หรือ การถ่ายตัวเองในลักษณะเซลฟี่ ที่ยุคสมัยนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก

ด้วย กระแสการทำ VLOG , Youtube ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นแบบทวีคูณทุกวัน หรือ การทำ Live Stream จากตัวกล้อง Mirrorless โดยตรง

ทำให้การมาของ Fujifilm X-E4 เสมือนเป็นการเติมเต็มในส่วนที่ขาดหายไปในจุดนี้ของ X-E3 ได้เป็นอย่างดี

ที่สำคัญรองรับฟีเจอร์ Clean HDMI ที่จะช่วยอำนวยความสะดวก ได้อย่างลงตัว

  • Film Simulation ใหม่อย่าง Classic Neg. เอาใจชาวรักฟิล์ม

ฟีเจอร์ Film Simulation หากใครที่ใช้งานกล้อง Mirrorless ของ Fujifilm น่าจะคุ้นเคยกันเป็นอย่าง เพราะ ถือเป็นฟีเจอร์ไม้ตายประจำค่าย ที่เป็นการจำลองสีโทนฟิล์มในอดีตให้กลับมาโลดแล่นในยุคดิจิตอลอีกครั้งนั่นเองครับ

fujifilm x-e4 classic neg.

ด้วยผลพวงของการเป็นกล้อง Mirrorless ใน Generation 4 ทำให้ Fujifilm X-E4 มาพร้อมกับ Film Simulation ใหม่ ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก อย่าง Classic Neg. และ Etherna Beach Bypass ที่ก่อนหน้านี้ถูกบรรจุอยู่ใน Fujifilm X-Pro3 เท่านั้นนั่นเอง และแน่นอนว่า การที่ Fujifilm X-E3 เป็นกล้อง Mirrorless ที่อยู่คนละ Gen กัน อาจจะไม่ได้รับการอัพเกรดฟีเจอร์นี้เป็นที่ค่อนข้างแน่ชัดแล้วนั่นเองครับ

  • ฟีเจอร์ Video เทียบเคียงกับ Flagship

ปฏิเสธไม่ได้ ในยุคปัจจุบันการถ่าย Video ถูกมองว่าเป็นฟีเจอร์พื้นฐานที่ควรได้รับการอัพเกรดเทียบเคียงหรือสูงกว่าภาพนิ่งด้วยเช่นกัน อันจะเห็นได้จากการเติบโตในสายงาน Online , Content Creator รวมไปถึง Youtuber ที่ปัจจุบัน มีอัตราที่ทวีคูณเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆนั่นเอง

ซึ่งใน Fujifilm X-E4 ก็ได้มีการเพิ่มฟีเจอร์ที่เกี่ยวข้องกับการถ่าย Video ให้มีสมรรถนะที่โดดเด่นขึ้นกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นการรองรับ DCI 4K , DCI 2K ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่เทียบเคียงกับกล้องระดับ Flagship ของค่าย รวมไปถึงการ Video Slowmotion ได้สูงถึง 240p ที่ตอบโจทย์การทำงานของสาย Video ได้เป็นอย่างดี อย่าลืมว่า จอของ Fujifilm X-E4 สามารถ Flip แบบ Tilt-Up ได้ จึงสามารถนำทำ VLOG และ Youtube ได้ด้วยเช่นกันครับ

อีกทั้ง Port mic. ของ Fujifilm ก็ถูกเปลี่ยนมาใช้เป็นขนาด 3.5mm. ซึ่งเป็นขนาดมาตรฐานไม่จำเป็นต้องให้ Adapter มาแปลงเพื่อใช้งานให้วุ่นวายอีกต่อไปแล้วนั่นเอง

เปรียบเทียบ X-E4 vs Sony A6400 vs EOS M50 II กล้องระดับเดียวกัน ใครเจ๋งที่สุด

X-E4 vs Sony A6400 vs EOS M50 II

ดีไซน์ที่มีความ Compact ลงตัว สำหรับกล้อง Mirrorless ระดับเริ่มต้น

หากว่ากันเรื่องดีไซน์ของกล้อง Mirrorless ทั้ง 3 รุ่น ไม่ว่าจะเป็น Fujifilm X-E4 , Sony A6400 และ Canon EOS M50 II ถือว่ายังคงจุดเด่นของกล้อง Mirrorless ไว้ได้เป็นอย่างดี

โดยในกลุ่มการเปรียบเทียบกล้อง Mirrorless นี้ จะมีเพียง Fujifilm X-E4 และ Sony A6400 ที่มีดีไซน์ลักษณะ Rangefinder ที่มีความโฉบเฉี่ยว กะทัดรัด โดยเฉพาะ Fujifilm X-E4 จะมีความ minimal ที่สูง พร้อมกับสีสันที่เลือกเฉด สีเงินตัดดำ ยิ่งเสริมความ Classic ได้เป็นอย่างดี ส่วน Sony A6400 จะยังคงอิงดีไซน์เดิมที่มีมาตั้งแต่ Sony Nex 7 นั่นเอง

ในขณะที่ Canon EOS M50 II เป็นกล้อง Mirrorless ในกลุ่มเปรียบเทียบนี้เพียงรุ่นเดียว ที่มีการออกแบบในลักษณะ SLR Style แต่ยังมีขนาดที่เล็กกว่า กล้อง DSLR ด้วยกันอย่างชัดเจนครับ

ด้านน้ำหนักของกล้อง Mirrorless ทั้ง 3 รุ่นนี้ จะมีความแตกต่างกันอยู่เล็กน้อยครับ โดย X-E4 จะมีน้ำหนัก 364 กรัม , Sony A6400 มีน้ำหนัก 403 กรัม และ Canon EOS M50 II มีน้ำหนักสุทธิ ที่ 387 กรัม ซึ่งถือว่ามีน้ำหนักที่ไม่เป็นอุปสรรคในการพกพาอย่างแน่นอนครับ

ในแง่ดีไซน์และน้ำหนัก เจ้า Fujifilm X-E4 มีภาษีดีสุดในกลุ่มนี้ครับ

จอแสดงผล แบบ Flip ตอบโจทย์งานภาพนิ่งและวิดิโอ อย่างยืดหยุ่นลงตัว

กระแสการทำ VLOG , Youtube ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นแบบทวีคูณทุกวัน ทำให้การมาของ Fujifilm X-E4 เสมือนเป็นการเติมเต็มในส่วนที่ขาดหายไปในจุดนี้ได้เป็นอย่างดี ซึ่ง เป็นครั้งแรกของกล้องในตระกูล X-E Series ที่มีการเปลี่ยนจอแสดงผลเป็นแบบ Tilt-up ที่จากเดิม จะเป็นจอในลักษณะ Fix ที่อาจจะนำไปใช้งานแล้วขาดความยืดหยุ่นไปซักหน่อย

เฉกเช่นเดียวกันกับ Sony A6400 ที่มาพร้อมจอแสดงผลขนาด 3.0″ แบบ Tilt-up เป็นครั้งแรกของกล้องในตระกูล Alpha ที่เป็น APS-C E-Mount ซึ่งออกมาตอบโจทย์งาน Video และ VLOG เช่นกัน

จะมีเพียง Canon EOS M50 II เพียงรุ่นเดียว ที่มีจอ LCD ในลักษณะ Vari-Angle หรือ ที่เรารู้จัก จอพับ & จอหมุน นั่นเอง ความพิเศษของจอ LCD แบบนี้ จะมีความยืดหยุ่นในการใช้งานมากกว่า จอ LCD แบบ Tilt-up เพราะ สามารถมองตัวเองผ่าน LCD เพื่อจัด Composition ได้อย่างสบาย หรือ ในลักษณะ One Man Operate ได้เป็นอย่างดีครับ

จอ LCD แบบ Vari-Angle ของ Canon EOS M50 II มีความยืดหยุ่นในการใช้งานมากกว่า ทั้งงานภาพนิ่งและวิดิโอ

Sensor ขนาด APS-C ถ่ายทอดผลงานอย่างมีประสิทธิภาพ

จุดแข็งของกล้อง Mirrorless นั้น คือ งานดีไซน์ ที่มีขนาดเล็ก กะทัดรัด พกพาสะดวก แต่ยังคงไว้ซึ่งคุณภาพเฉกเช่นเดียวกันกับ กล้อง DSLR ในใระดับเดียวกันครับ

สำหรับในการเปรียบเทียบของกล้องทั้ง 3 รุ่นนี้ มาพร้อมกับ Sensor ขนาด APS-C เหมือนกันทั้ง 3 รุ่นด้วยกัน แม้จะเหมือนกัน แต่จะมีรายละเอียดที่แตกต่างกันอยู่บ้าง

X-E4 จะมาพร้อม Sensor แบบ X-Trans IV ความละเอียด 26 megapixels คาดว่าจะเป็น Sensor เดียวกันกับ Fujifilm X-T4 ซึ่ง Performance ต่างๆ น่าจะหายห่วงได้อย่างแน่นอน อีกทั้งยังมาพร้อมกับ Crop Factor 1.5x ด้วยครับ

Sony A6300 มาพร้อม Sensor CMOS ความละเอียด 24 megapixels ซึ่งเป็น Sensor มาตรฐานของกล้อง Mirrorless E-Mount ใน Generation เดียวกัน พร้อม Crop Factor 1.5x

ทางด้าน Canon EOS M50 II แม้จะมาพร้อมกับ Sensor ขนาด APS-C เช่นเดียวกัน แต่ต่างกันที่ ตัว Sensor ยังคงใช้ Sensor เดิมของ EOS M50 ที่วางจำหน่ายมาเป็นระยะเวลาที่นานแล้วนั่นเอง ประกอบกับ Crop Factor ที่ได้จะอยู่ที่ 1.6x ครับ ทำให้ระยะเลนส์ที่ใช้งานคู่กัน จะแคบลงไปด้วยนั่นเอง

ในแง่ของ Sensor รับภาพ Fujifilm X-E4 ได้ประโยชน์จาก Sensor ใหม่ ระดับ Flagship ทำให้ Performance ไม่เป็นรองใครแน่นอน

ระบบ Focus แบบ Hybrid AF พร้อม Eye AF ตอบสนองการทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ

กล้อง Mirrorless ในปัจจุบัน ปฏิเสธไม่ได้ว่า ระบบ Focus มีการพัฒนามาค่อนข้างมากทีเดียวครับ ซึ่งมีความรวดเร็วที่เทียบเคียงกับกล้อง DSLR ในระดับเดียวกันเลยครับ

Fujifilm X-E4 มาพร้อมระบบ Focus แบบ Hybrid AF ที่เป็นการทำงานร่วมกันระหว่าง Phase Detection และ Contrast Detection จึงทำให้มีความรวดเร็ว แม่นยำเป็นอย่างมาก พร้อมกับจำนวนจุด Focus 425 จุด กระจายอยู่รอบๆ Sensor

Sony A6400 ก็ใช้ระบบโฟกัสแบบ Hybrid เช่นกัน โดยมีจำนวนจุด Focus ที่รวมกันของ PDAF และ CDAF อยู่ที่ 425 จุด พร้อมความสามารถด้าน Tracking AF ที่ตอบสนองการทำงาน ทั้งภาพนิ่งและวิดิโอ ได้ไม่แพ้รุ่นพี่เลยทีเดียว ซึ่งถือว่าเป็นจุดแข็งของ Sony มาโดยตลอดนั่นเองครับ

ทางด้าน Canon EOS M50 II แม้ว่าจะใช้ระบบโฟกัสแบบ Dual Pixel AF หรือก็คือ Hybrid AF นั่นเองครับ แต่จะมีจำนวนจุดโฟกัสเพียง 143 จุด ซึ่งน้อยกว่าทั้ง X-E4 และ A6300 อยู่พอสมควรเลยทีเดียวครับ

นอกจากนี้ กล้อง Mirrorless ทั้ง 3 รุ่น ก็รองรับการทำงานของ Eye AF อย่างเต็มระบบเช่นกัน ทั้งในงานภาพนิ่งและวิดิโอ ทำให้การถ่าย Portrait ที่ให้ความสำคัญกับตัวบุคคลนั้น ไม่พลาดเป้า หรือ หลุด Focus อย่างแน่นอนครับ

Sony A6400 จะมีภาษีดีที่สุดในเรื่องระบบ Focus เมื่อเทียบกับกล้องอีก 2 รุ่น

ฟีเจอร์ Video ตอบโจทย์งานระดับเริ่มต้น จนถึงระดับมืออาชีพ

ชม.นี้ กล้อง Mirrorless ที่เปิดตัววางจำหน่ายในท้องตลาด ต่างต้องมีการอัพเกรดฟีเจอร์ด้าน Video ควบคู่ไปกันกับภาพนิ่งด้วยเช่นกัน ซึ่งเป็นผลมาจากกระแสการถ่าย VLOG จวบจนถึงการนำไป Stream ที่เรียกว่า ฟีเจอร์ Video ไม่ดี บารมีไม่เกิดแน่นอนครับ

มาเริ่มที่ฟีเจอร์ Video ใน Fujifilm X-E4 กันก่อนครับ รองรับการถ่าย Video 4K สูงสูงในระดับ DCI 4K 30p เลยทีเดียวครับ ส่วนถ้าเป็น Video 4K ก็จะได้สูงสุด 30p เช่นกันครับ

นอกเหนือจาก Video ระดับ 4K แล้ว เจ้า X-E4 ยังรองรับ Video DCI ระดับ 2K ด้วยเช่นกันครับ ซึ่งสามารถถ่าย Video DCI 2K ได้สูงสุดที่ 30p ด้วยเช่นกัน

ส่วนหากเป็น Video ระดับ FHD ก็สามารถถ่ายได้สูงสุดถึง 120p ด้วยกัน เหมาะสำหรับนำไป Process เป็น Video Slowmotion ในภายหลังได้เช่นกัน หรือ ถ้าหากใครคิดว่า 120p ยังน้อยไป ในกล้อง X-E4 ก็สามารถทำ Video Slowmotion สูงสุด 240p ซึ่งเป็นการทำแบบจบจากในกล้องทันทีครับ

ราคาจับต้องได้ สำหรับกล้อง Mirrorless ระดับเริ่มต้น

สำหรับ ราคา Fujifilm X-E4 เริ่มต้นที่ 850 us หรือ ประมาณ 25,000.- ( อ้างอิง BHphoto ) ตามอัตราแลกเปลี่ยน ทั้งนี้ราคาวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยนั้น อาจจะต้องรอการอัพเดทอีกครั้งจากทาง Fujifilm Thailand นะครับ

ลูกค้าที่สนใจสั่งซื้อสินค้า สามารถติดต่อสั่งซื้อได้ผ่านช่องทางออนไลน์ของทางร้านได้ตลอด 24 ชม. หรือ โทรเข้ามาโดยตรงผ่านโทรศัพท์

แอดไลน์ ID:@ZoomCamera หรือ หน้าเว็บไซด์ ZoomCamera
083-067-7677 / 02-098-9555 ต่อ 0 (หยุดวันอาทิตย์)

วิธีการสั่งซื้อ

Leave a Reply

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

Save