กราบสวัสดีเพื่อนๆที่ติดตาม Content ของ Zoomcamera ผ่านทางช่องทาง Facebook และ Youtube ด้วยนะครับ สำหรับ Content ในวันนี้จะเป็นการมาแนะนำเกี่ยวกับกล้อง Mirrorless Fullframe รุ่นใหม่ล่าสุดจากค่าย Panasonic อย่าง Panasonic Lumix S1 และ Lumix S1R ที่รอบนี้ได้มีการเปลี่ยนจากกล้อง Mirrorless Micro Fourthirds มาเป็นกล้อง Mirrorless Fullframe ตามเทรนด์ในตลาดเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งแน่นอนว่าก่อนที่เราจะกำบัตรไปซื้อนั้น เรามาทำความรู้จักกับ Panasonic Lumix S1 และ Lumix S1R ว่ามีอะไรที่น่าสนใจบ้าง และ ต้องระวังกันก่อน ใน ” Guide : 9 เรื่องควรรู้ก่อนซื้อ Panasonic Lumix S1 / Lumix S1R “

9 เรื่องควรรู้ก่อนซื้อ Panasonic Lumix S1 / Lumix S1R

1. ขนาด / น้ำหนัก กล้อง+เลนส์

เชื่อว่ามีเพื่อนๆหลายท่านยังคงนึกถึงภาพกล้อง Mirrorless จากค่าย Panasonic ที่มีขนาดเล็ก กะทัดรัด พกพาสะดวก แต่นั่นคือภาพเดิมของกล้อง Mirrorless ที่ใช้ Sensor ขนาด Micro Fourthirds จากการมาของ Panasonic Lumix S1 และ Panasonic Lumix S1R นั้น จะบลภาพเดิมๆทิ้งแทบจะทั้งหมดครับ ไม่ว่าจะเป็นเการเปลี่ยน Sensor มาใช้ Sensor ขนาด Fullframe เป็นครั้งแรกของค่าย แน่นอนว่าเมื่อขนาด Sensor มีขนาดที่ใหญ่ขึ้น ทำให้การออกแบบตัว Body นั้น เป็นอันต้องมีการขยายเพิ่มเติมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นอกเหนือจากขนาดของ Sensor แล้ว ทาง Panasonic ได้บรรจุ Feature สำคัญที่เหมาะสำหรับการถ่ายภาพนิ่งและงาน Video เข้ามา ไม่ว่าจะเป็นระบบกันสั่นภายในตัวกล้อง , แผงระบบระบายความร้อน เป็นต้น นอกจากนี้น้ำหนักรวม เฉพาะ Body เปล่านั้นอยู่ที่ 900 kg. ยังไม่ได้รวมเลนส์เพิ่มเติมแต่อย่างใด ฉะนั้นต้องถามตัวเราว่ารับกับน้ำหนักได้มั้ย แลกกับ Feature ที่จะได้ด้วยเช่นกัน

2. ยังมีเลนส์ให้เลือกใช้ค่อนข้างจำกัด

แม้เจ้า Panasonic Lumix S1 และ Panasonic Lumix S1R จะเป็นกล้อง Mirrorless Fullframe ที่พร้อมออกมาตอบโจทย์ของกลุ่มช่างภาพระดับ Professional แต่ทั้งนี้ด้วยความที่เป็นกล้อง Mirrorless Fullframe ทำให้จำเป็นต้องเปิด Lineup ใหม่ที่แยกออกมาจาก Lineup ของ Micro Fourthirds เดิม แน่นอนว่ากลุ่มเลนส์ที่ใช้งานบนกล้อง Mirrorless ระบบ Micro Fourthirds นั้น จะไม่สามารถนำมาใช้งานร่วมกับเจ้า Panasonic Lumix S1 และ Panasonic Lumix S1R ได้ค่อนข้างจะแน่นอน เพราะ Mount Lens ได้เปลี่ยนใหม่เป็น L-Mount ซึ่ง Mount ดังกล่าวเกิดจากความร่วมมือกันระหว่าง 3 แบรนด์ยักษ์ใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น Panasonic , Leica และ Sigma ที่พร้อมจะ R&D เลนส์ต่างๆให้ออกมาใช้งานบน L-Mount ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

แม้ว่าในช่วงแรก Panasonic Lumix S1 และ Panasonic Lumix S1R จะเปิดตัวมาพร้อมกับเลนส์อีก 3 รุ่น และ เลนส์จาก Leica ที่ถูกใช้งานบนกล้อง Leica SL ก่อนหน้านี้นั่นเอง รวมถึง Roadmap ของระบบเลนส์ L-Mount ที่มีการแพลนล่วงหน้าไว้แล้วนั่นเองครับ

3. S1 ให้คุณภาพวีดีโอดีกว่า ส่วน S1R ให้รายละเอียดภาพนิ่งสูงกว่า

Panasonic Lumix S1 และ Panasonic Lumix S1R แม้จะเป็นกล้อง Mirrorless Fullframe ที่วาง Position ในระดับ Top สุดเท่าที่กล้อง Mirrorless จากค่าย Panasonic เคยมีมาก่อนหน้านี้ แต่เพื่อนๆทราบหรือไม่ว่า ทั้ง Panasonic Lumix S1 และ Panasonic Lumix S1R มีความแตกต่างในด้าน Peformance แม้รูปร่าง หน้าตาจะเหมือนกันครับ เริ่มจากงานภาพนิ่ง แม้ทั้งคู่จะเป็น Mirrorless Fullframe เหมือนกัน แต่เจ้า Panasonic Lumix S1R ดูจะโดดเด่นกว่าด้วยความละเอียดของ Sensor ที่มีมากถึง 47 Megapixels ลำพังแค่ถ่ายมาแบบเผื่อๆ แล้วนำมา Crop ยังสามารถใช้งานได้อย่าสบาย ซึ่งหากเพื่อนๆคิดว่า 47 Megapixels ยังไม่สะใจละก็ ยังมี Feature อย่าง HighRes Shot ที่จะเพิ่มความละเอียดเข้าไปอีก จาก 47 Megapixels เป็น 168 Megapixels กันเลยครับ ถือว่าโหดมากๆโดยเฉพาะกับช่างภาพสาย Landscape น่าจะชื่นชอบ Feature ดังกล่าวเป็นพิเศษ

นอกเหนือจากงานภาพนิ่งแล้ว งาน Video ก็ถือว่าเป็น Key Feature ที่โดดเด่นของทาง Panasonic นับตั้งแต่ลงสู้ศึกในตลาดกล้อง Mirrorless และ เมื่ออยู่บนกล้อง Panasonic Lumix S1 และ Panasonic Lumix S1R ยิ่งได้รับอานิสงค์เรื่อง DR , Noise ที่เนียนมากยิ่งขึ้น แต่เพื่อนๆรู้หรือไม่ว่า งาน Video ของ Panasonic Lumix S1 จะมีคุณภาพที่สูงกว่า Panasonic Lumix S1R เนื่องจากเป็นเนื้อไฟล์ Video ที่ได้จาก Panasonic Lumix S1 จะเป็นในลักษณะ Full Readout ทำให้ตัวกล้องจะบันทึกข้อมูลมาได้อย่างละเอียดครบถ้วน แม้ว่าทั้งคู่จะรองรับการถ่าย Video แบบ 4:2:0 8-bit แบบในตัวเหมือนกันก็ตามทีครับ ส่วนถ้าหากต้องการงาน Video ที่มีคุณภาพสูงกว่านี้ เพื่อนๆอาจจะต้องต่อ HDMI Output เพื่อให้ได้มาซึ่ง Video 4:2:2 10-bit ครับ

ฉะนั้น เพื่อนๆที่กำลังใจจดใจจ่อกับการเลือก Panasonic Lumix S1 และ Panasonic Lumix S1R ละก็ อาจต้องดูจากลักษณะงานที่เรา Focus ด้วยนะครับ ว่าเรา Focus ภาพนิ่งเป็นหลัก หรือ Focus งาน Video เป็นหลักครับ

4. Mirrorless Fullframe รุ่นแรกที่รองรับการถ่าย Video แบบ Unlimited

หากพูดถึงกล้อง Mirrorless ที่สามารถถ่าย Video ได้อย่างต่อเนื่องแล้วละก็ เชื่อว่า Panasonic Lumix GH5 และ Panasonic Lumix GH5s น่าจะเป็นชื่อในลำดับแรกๆที่เพื่อนๆน่าจะคิดถึง เพราะ โดยปกติ Feature การถ่าย Video มักจะสามารถถ่ายต่อเนื่องได้สูงสุดที่ 29.59 นาที เพราะ ถ้ามากกว่านั้นจะโดนค่าภาษีในเรทของกล้อง Video นั่นเองครับ ทำให้เพื่อนๆที่ต้องการหากล้องสำหรับถ่ายงาน Video แบบ Unlimites นั้น มีตัวเลือกที่ค่อนข้างจะจำกัดไปบ้าง แต่ ณ ตอนนี้ Panasonic Lumix S1 ก็พร้อมจะเป็นตัวเลือกเพิ่มเติมด้วยเช่นกันครับ เพราะ เจ้า Panasonic Lumix S1 สามารถถ่าย Video แบบ Unlimited ได้อย่างสบายๆ โดยมีข้อแม้เล็กๆว่า จะต้อง Setting งาน Video ให้เป็น 30p เท่านั้นนะครับ ซึ่งจากเหตุผลข้อนี้ทำให้สอดคล้องกับข้อด้านบนที่ว่าเจ้า Panasonic Lumix S1 มีความสามารถด้าน Video ที่ยืดหยุ่นกว่า Panasonic Lumix S1R นั่นเองครับ

5. Mirrorless Fullframe ที่ถ่าย Video 4K 60p ภายในกล้องทันที

Feature Video 4K ในยุคปัจจุบันนั้นถือว่าเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้จริงๆครับ ไม่เว้นแม้แต่กล้องจาก Smartphone ก็สามารถถ่าย Video 4K ได้เช่นกันครับ แม้ว่าคุณภาพและความจุของ Video 4K จะกินทรัพยากรมากก็ตามที แต่การได้มาซึ่งคุณภาพที่สูงย่อมดีกว่าแน่นอน ซึ่งในตลาดกล้อง Mirrorless ปัจจุบันนั้น ต่างก็มี Feature รองรับการถ่าย Video 4K เช่นกัน แต่จะมีกล้อง Mirrorless เพียงบางุร่นเท่านั้นที่รองรับการถ่าย Video 4K ในระดับ hi-end อย่าง 4K 60p ซึ่งเจ้า Panasonic Lumix S1 และ Panasonic Lumix S1R ต่างก็ถูกบรรจุ Feature ดังกล่าวมาตั้งแต่โรงงาน แน่นอนว่าประสิทธิภาพในงาน Video นั้นคงไม่ต้องถามถึง และ เป็นกล้องลำดับแรกๆในกลุ่ม Mirrorless Fullframe ด้วยกันที่สามารถถ่าย Video 4K 60p

6. ใช้ระบบ Focus แบบ Contrast Detection เท่านั้น

หากจะพูดถึงเรื่องระบบ Focus ของ กล้อง Mirrorless จากค่าย Panasonic นั้น เชื่อว่าเพื่อนๆน่าจะนึกถึงการ Focus ที่รวดเร็ว ว่องไวของกล้อง Mirrorless ในระบบ Micro Fourthirds แต่ทั้งนี้แม้ว่า Panasonic Lumix S1 และ Panasonic Lumix S1R จะเป็น Lineup ใหม่ก็ตามที่ แต่ยังคงใช้ระบบ Focus แบบเดิม คือ Contrast Detection เพียงอย่างเดียวเท่านั้นครับ ซึ่งถ้าหากพิจารณากล้อง Mirrorless Fullframe ด้วยกัน ค่ายอื่นๆจะใช้ระบบ Focus แบบ Hybrid ที่ผสานการร่วมมือระหว่าง Contrast Detection และ Phase Detection เพื่อเพิ่มความรวดเร็ว ควาแม่นยำที่สูงกว่าการใช้ Contrast Detection เพียงอย่างเดียวนั่นเอง

ทั้งนี้แม้ว่าเจ้า Panasonic Lumix S1 และ Panasonic Lumix S1R จะใช้ระบบ Focus แบบ Contrast Detection เพียงอย่างเดียว แต่ทาง Panasonic เองก็มี Feature เฉพาะค่ายอย่างระบบ DFD Focus ( Depth From Defocus ) ที่ถูกนำมาใช้งานบนกล้อง Mirrorless Fullframe เฉกเช่นเดียวกับกล้องในระบบ Micro Fourthirds โดย Feature จะเข้ามาช่วยคำนวณจุด Focus ที่กระจายอยู่รอบๆทั้งหมด 225 จุดด้วยกัน ซึ่งสามารถทำความไว Focus ได้สูงสุดที่ 0.07 sec. ครับ

นอกเหนือจาก Feature DFD Focus แล้ว เจ้า Panasonic Lumix S1 และ Panasonic Lumix S1R ยังมาพร้อมกับปัญญาประดิษฐ์ หรือ ระบบ Ai นั่นเองครับ โดยระบบ Ai ดังกล่าวทาง Panasonic ได้นำมาประยุกต์ใช้กับการเลือกรูปแบบ Focus ครับ โดย Ai สามารถวิเคราะห์สิ่งที่กล้องเห็นภายในเฟรม อาทิเช่น หากถ่าย Portrait รูปแบบ Focus Ai จะทำการเลือกกรอบ Focus แบบคลุมทั้งร่างของแบบให้ทันที หรือ ถ้าในเฟรมเห็นเป็นสัตว์ ก็จะเลือกกรอบ Focus แบบสัตว์ให้ทันทีนั่นเองครับ ซึ่งถือว่าเป็นอีก Feature ที่น่าจับตามอง เพราะ กล้อง Mirrorless Fullframe ในปัจจุบันยังไม่มีค่ายใดที่บรรจุ Feature นี้ครับ

7. Lumix S1 และ S1R เป็นกล้อง Mirrorless Fullframe ที่มีระบบกันสั่นดีที่สุดตอนนี้

โดยปกติแล้ว เราจะพึ่งพาระบบกันสั่นที่ตัวเลนส์มาโดยตลอด จนกระทั่งทางค่ายกล้องเริ่มมีการพัฒนากลไกภายในตัวกล้อง เพื่อลดอัตราการสั่นไหวจากภายในโดยไม่จำเป็นต้องอาศัยระบบกันสั่นที่ตัวเลนส์ ทั้งนี้ระบบกันสั่นภายในกล้องส่วนมากเราจะรู้จักในชื่อของ 5 Axis หรือ กันสั่น 5 แกน นั่นเองครับ ซึ่ง Feature ดังกล่าวนี่ กล้อง Mirrorless ในตลาดปัจจุบันแทบจะถูกบรรจุกันเกือบทุกรุ่นเลยครับ เพราะ สามารถทำงานทั้งในภาพนิ่ง และ/หรือ งาน Video และ แน่นอนว่า Panasonic Lumix S1 และ S1R ที่เป็นกล้อง Mirrorless Fullframe ก็มี 5 Axis เช่นกันครับ แต่มีความโดดเด่นกว่าระบบ 5 Axis ของค่ายอื่นๆตรงที่เจ้า Panasonic Lumix S1 และ S1R มี Feature อย่าง Dual IS 2 โดยคุณสมบัติเพิ่มเติม คือ จะทำให้ระบบกันสั่นภายในตัวกล้อง และ ระบบกันสั่นในตัวเลนส์ สามารถทำงานไปพร้อมๆกัน โดยทาง Panasonic เคลมว่า Panasonic Lumix S1 และ S1R สามารถลดกันสั่นไหวได้สูงสุดที่ 5.5 Stops เลยครับ

8. แบตรุ่นใหม่ ประจุไฟมากขึ้น

การมาของ Panasonic Lumix S1 และ Panasonic Lumix S1R ได้สร้างสีสันให้กับวงการกล้อง Mirrorless Fullframe ในหลายๆด้านก็ว่าได้ครับ ไม่ว่าจะเป็นด้าน Video , ด้านภาพนิ่ง , ด้านความคงทนแข็งแรง หรือ ที่ดูจะเด่นที่สุดนั้น คงจะเป็น แบตเตอรี่ ครับ เพราะ กล้อง Mirrorless ส่วนมากจะมีประจุแบตเตอรี่ที่ค่อนข้างจะน้อย เมื่อออกใช้งานแบบจริงจัวส่วนมากจะอยู่ไม่ครบวัน ทำให้ต้องมองหาแบตเตอรี่เพิ่มเติมไว้ในกระเป๋าอีก 1-2 ก้อน แล้วแต่ลักษณะการใช้งานของแต่ละบุคคล แต่สำหรับ Panasonic Lumix S1 และ Panasonic Lumix S1R เหมือนจะทำการบ้านข้อนี้มาได้เป็นอย่างดี เนื่องจากแบตเตอรี่มีขนาดความจุถึง 3000 mAh กันเลยทีเดียวครับ ซึ่งถ้าพิจารณาเฉพาะกล้อง Mirrorless Fullframe ด้วยกัน จะถือว่าเจ้า Panasonic Lumix S1 และ Panasonic Lumix S1R มีแบตที่เยอะที่สุดในกลุ่มเลยครับ ทั้งนี้แบตรุ่นดังกล่าวเป็นรุ่นใหม่ ที่ออกแบบเฉพาะ Panasonic Lumix S1 และ Panasonic Lumix S1R เท่านั้นนะครับ ฉะนั้นไม่สามารถนำแบตเตอรี่ดังกล่าวไปใช้งานร่วมกันกับกล้อง Mirrorless รุ่นอื่นๆของ Panasonic ครับ

9. รองรับ Dual Slot แต่คนละชนิด

กระแสกล้อง Mirrorless ที่รองรับ Dual Slot เริ่มมาแรงครับ อันจะเห็นได้จากกล้องในระดับ Flagship ที่มักจะใส่ Feature นี้ลงมาด้วย โดยข้อดูของ Dual Slot นั้น จะช่วยเพิ่มทางเลือกในการบันทึกไฟล์ของเราได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นกำหนดให้ Slot 1 เป็น RAW อย่างเดียว , Slot 2 เป็น JPG ก็สามารถทำได้เช่นกัน ซึ่งความยืดหยุ่นดังกล่าว ทำให้ขณะใช้งานในสถานการณ์แม้จะเกิด Card Error ซัก Slot หนึ่ง เราก็ยังมีสำรองเพิ่มเติมอยู่นั่นเอง

ทั้งนี้ Dual Slot ของ Panasonic Lumix S1 และ Panasonic Lumix S1R นั้นจะแปลกกว่า Dual Slot ที่มีอยู่ในตลาดกล้อง Mirrorless กล่าวคือ กล้อง Mirrorless ทั่วๆไป จะรองรับ Dual Slot แบบ SD Card ทั้ง 2 Slots ส่วน Dual Slot ใน Panasonic Lumix S1 และ Panasonic Lumix S1R นั้น จะมาในรูปแบบ 1 XQD และ 1 SD ครับ โดยช่อง SD จะรองรับแบบ SDXC UHS-II ด้วยเช่นกัน แต่ทั้งนี้ Slot ทั้งนี้จะแยกรูปแบบการ์ดอย่างชัดเจนนะครับ