ในที่สุดผู้ท้าชนไมค์ไวเลส Saramonic Blink 500 pro ก็ถือกำเนิดขึ้น ตัวที่ผมจะเอามาพรีวิวในวันนี้คือ Hollyland Lark 150 ไมค์ไวเลสคุณภาพดี สัญญาณเสถียร ไม่มีสะดุด ในขนาดที่เล็กที่สุด และ เบาที่สุด ในตลาดไมค์ไวเลส
- ตัวส่งสัญญาณ ที่ออกแบบมาพร้อมไมโครที่รับเสียงรอบทิศทางในตัวและยังสามารถใช้เป็นไมค์ลาวาเลียร์ได้อีกด้วย
- ตัวรับสัญญาณ มาพร้อมกับจอแสดงผล OLED แสดงสถานะแบตเตอรี่ ระดับเสียง และความแรงของสัญญาณและอื่น ๆ มีระยะการใช้งานไกลถึง 100เมตร พร้อม Latencyที่ตํ่าเป็นแค่ 5ms
- มีโหมดการบันทึกเสียง 3 โหมด คือ Mono,stereo saftety mode รองรับอุปกรณ์ได้หลากหลาย เช่น กล้องDSLR Mirrorless คอมพิวเตอร์และอื่นๆอีกมากมาย ที่รองรับ 3.5mm
- การออกแบบเคสที่รองรับการชาร์จที่ง่ายดายและ มี Auto-Paring ที่ช่วยทำให้สะดวกสบายในการเชื่อมต่อไมค์นั้นง่ายขึ้น , ตัวรับ สามารถใช้งานสูงสูดได้ถึง 7.5ชม .และตัวส่ง ใช้งานได้ถึง 4.5ชม. ด้วยกัน

สรุปจุดเด่น Hollyland Lark 150
1. ส่งสัญญาณแบบไร้สายได้ไกลถึง 100 เมตร แบบไม่มีสะดุด ดีเลย์น้อยมาก
สิ่งสำคัญของไมค์เวเลสคือการส่งสัญญาณ คู่แข่งในท้องตลาดหลายเจ้าก็แข่งขันกันเรื่องของการส่งสัญญาณได้ไกล แต่จริง ๆ แล้ว เราใช้จริง ๆ ต้องยืนห่างไกลขนาดนั้นหรือป่าวก็อาจจะไม่ใช่ ลองหันมาดูในเรื่องของความเสถียรของสัญญาณดีกว่า โดยปัญหาหนึ่งของผู้ใช้ไมค์ไวเลส คือ เวลาเราหันหลังเสียงที่ส่งไปยังตัวรับจะถูกรบกวน ติด ๆ ดับ ๆ แต่สำหรับตัวนี้บอกเลยว่านิ่งมาก ความเสถียรช่วง 100 เมตร ทำงานได้ดี และ ยังมีการดีเลย์ของเสียงที่ต่ำอีกด้วย เพียง 5 ms

2. ฟีเจอร์การรับเสียงระดับมืออาชีพ สามารถเอาไปใช้ทำงานวีดีโอทั้งแบบเล่น ๆ และ จริงจังได้สบาย
ไมโครโฟนไร้สาย Hollyland Lark 150 มีฟีเจอร์ High Sensitivity Omni mic ช่วยในเรื่องการรับเสียงได้ดีเวลาเราเนียบที่ปกเสื้อ ทำให้เสียงพูดชัดเจน และ ยังเก็บเสียงโดยรอบได้ดูเป็นธรรมชาติไม่ดังจนเกินไป

มีระบบ DSP intelligent Noise-cancellation ช่วยตัดเสียงรบกวนเวลาเราอยู่ในพื้นที่เสียงดังมาก ๆ

มี Ultra Hight SNR (Signal to noise ratio) ช่วยควบคุม noise ที่เกิดขึ้นระหว่างการรับเสียงได้ดี

รองรับย่านความถี่ทุกย่าน ตั้งแต่ 20HZ – 20KHz ซึ่งมีความกว้างครอบคลุมการรับเสียงทุก สูง กลาง ต่ำ และ สามารถขับเสียงทุกย่านให้ออกมาได้อย่างชัดเจน

3. เชื่อมต่อรวดเร็วเพียงแค่ 3 วินาที แบบอัตโนมัติ ไม่ต้องกดปุ่มเปิด-ปิด
ความดีงามของไมค์ตัวนี้คือเราไม่ต้องมากดเปิด-ปิดให้เสียเวลาอีกต่อไปแล้ว แค่เปิดกล่อง หยิบตัวไมค์ออกมา ตัวส่งกับตัวรับจะทำการเปิดเครื่องและเชื่อมต่อกันแบบอัตโนมัติทันที เหมือนกับพวกหูฟัง Airpod ของ apple ประมาณนั้นเลย แต่ถึงจะอัตโนมัติแบบนี้ แต่ก็มีปุ่ม power มาให้อยู่ เผื่อใครอยากจะ manual ก็ทำได้

4. มีกล่องชาร์จมาให้ด้วยเพิ่มความสะดวกสบายไม่ต้องพกสายให้เกะกะ
ตัวกล่องชาร์จที่ให้มาดีไซน์สวย มีการจัดวางตำแหน่งภายในกล่องดูเป็นไมโครโฟนระดับ Professional มาก ๆ โดยภายในกล่องจะมีการแบ่งสัดส่วนที่สามารถใส่ตัวส่งสัญญาณได้ 2 ชิ้น ตัวรับสัญญาณ 1 ชิ้น และ ยังมีแบ่งช่องไว้สำหรับใส่สายแจ็คต่อกล้องอีกด้วย
ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ตัวรับสัญญาณสามารถใช้งานสูงสูดได้ถึง 7.5ชม .และ ตัวส่งสัญญาณใช้งานได้ถึง 4.5ชม.

นอกจากนี้ ตัวกล่องดีไซน์ให้ใช้งานง่ายตัวไมค์ทั้งตัวส่งและตัวรับออกแบบให้มีขนาดเล็กที่สุด และ มีน้ำหนักเบาที่สุดในตลาดไมค์ไวเลส เพียงแค่ 21 กรัมเท่านั้น ตัวปุ่มต่าง ๆ ใช้งานง่าย

5. มีการรับเสียงที่ยืดหยุ่นรองรับการนำไฟล์ไปทำ Post-Process ในงานระดับมืออาชีพ
ตัวไมค์มีโหมดการรับเสียงทั้งหมด 3 แบบ ได้แก่ Mono,Stereo,Safety Tracks
ซึ่งทั้ง 3 โหมดนี้สามารปรับใช้งานได้ตามใจ โดยโหมดที่น่าสนใจที่ต่างจากคู่แข่งในท้องตลาดคือโหมด Safety Tracks โหมดนี้จะใช้ในสถานการณ์ที่เราอยู่ในพื้นที่ที่มีเสียงรบกวน และ เสียงดังมาก ๆ แล้วตัวไมค์จะทำการรับเสียงในลักษณะคล้าย ๆ กับ Stereo แต่จะมีความแตกต่างตรงที่รับเสียงซ้ายความมาพร้อมกัน แต่รับในระดับความดังที่ต่างกัน

นอกจากนี้ตัวรับสัญญาณยังมีปุ่มควบคุมตัวส่งสัญญาณได้ ข้อดีคือทำให้ผู้ใช้งานสามารถปรับจูนเสียง หรือ mute เสียง ของผู้พูดได้แบบ Real time

6. Hollyland Lark 150 ตอบโจทย์สาย Content Creator / Filmmaker และ Video Production มืออาชีพ
เทรนการทำวีดีโอมาแรงมากในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ไมค์ไวเลสเป็นอุปกรณ์ที่ตอบโจทย์คนทำงานวีดีโอมาก ทั้งสะดวก ไม่มีสายให้เกะกะ ถ้าชื่นชอบการถ่ายวีดีโอแบบ Run and Gun เปิดปั๊บถ่ายปุ๊บ ไมค์ตัวนี้ตอบโจทย์ครับ ด้วยฟีเจอร์ที่

สายท่องเที่ยวทำคลิปลง youtube หรือ จะคนทำงานสตูดิโอ ถ่ายรายการ สัมภาษณ์คน Hollyland Lark 150 ตอบโจทย์การทำงานทุกรูปแบบ

สรุปจุดแตกต่างที่ทำให้ไมค์ไวเลส Hollyland Lark 150 โดดเด่นกว่าคู่แข่งในตลาด ณ ปัจจุบัน
ทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมาข้างต้นถ้ามองคู่แข่งโดยตรงของไมค์ตัวนี้ก็คงหนีไม่พ้น Saramonic Blink 500 pro ที่เปิดตัวทำตลาดในไทยก่อนซักพักใหญ่ ๆ แต่ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดเลยคือเรื่องของขนาด ที่ Hollyland Lark 150 จะมีขนาดเล็กกว่าอย่างเห็นได้ชัด อุปกรณ์เสริมที่ให้มามีครบถ้วนเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็น Winf muff , ไมค์ Lavalier , สายชาร์จ เป็นต้น แต่ส่วนที่ Hollyland ได้เปรียบคือการออกแบบตัวกล่องให้สามารถเก็บสายอุปกรณ์เสริมได้ และ ตัวรับที่มีการพัฒนาให้มีความใช้งานง่ายมากกว่า สามารถปรับจูนเสียงของตัวส่งได้ที่ตัวรับเลย และ ยังเสริมจุดเด่นเอาใจคนทำงานระดับมืออาชีพด้วยโหมด Safety Tracks อีกด้วย
Hollyland Lark 150 ราคาจำหน่าย ณ วันเปิดตัว
- Hollyland Lark 150 ราคา 9,990 บาท (สินค้าประกันศูนย์ไทย)

อ่านบทความเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้อง
ลูกค้าที่สนใจสั่งซื้อสินค้า สามารถติดต่อสั่งซื้อได้ผ่านช่องทางออนไลน์ของทางร้านได้ตลอด 24 ชม. หรือ โทรเข้ามาโดยตรงผ่านโทรศัพท์
แอดไลน์ ID:@ZoomCamera หรือ หน้าเว็บไซด์ ZoomCamera
083-067-7677 / 02-098-9555 ต่อ 0 (หยุดวันอาทิตย์)



