Body – รูปลักษณ์ภายนอก
บอดี้ภายนอกเป็นจุดที่ทำให้เราแบ่งแยก Panasonic GF7 กับ GF6 ได้อย่างชัดเจน ในรุ่นนี้มีการออกแบบให้มีกลิ่นอายความ Retro มากขึ้นรวมถึงขนาดที่เล็กลงกว่าเดิมมากจนเกือบจะไปเท่ากับ GM1 เลยเพียงแค่ใหญ่กว่าอยู่ 20% เท่านั้น ในการใช้งานจริงผมจึงเจอปัญหาเดียวกับตอนที่ใช้ GM1 ครั้งแรกคือ”ไม่ถนัด”เพราะมันเล็กมากสำหรับมือผู้ชายเลยถือได้ไม่ค่อยเต็มไม้เต็มมือนักแต่ก็รู้สึกติดมือกว่าตอนถือ GM1 นิดหน่อยอาจจะเพราะผมถือกล้องใหญ่ๆซะส่วนมากด้วย แต่เป็นแค่ช่วงแรกๆครับหลังจากลูบๆคลำๆอยู่ระยะเวลาหนึ่งก็เริ่มปรับตัวได้ครับ ปรับเปลี่ยนท่าถือที่เหมาะสม หลังจากนั้นตลอดเวลาที่เอาไปใช้งานก้ไม่มีปัญหาเรื่องจับถืออีกเลย ถือได้สบายมือมากๆ
จอหลังพับถ่าย Selfie ไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับ GF Series ครับเพราะ GF6 เดิมเองก็สามารถพับขึ้น 180 องศาเพื่อถ่าย Selfie ได้เช่นกัน จริงๆมันออกจะเสียเปรียบ GF6 อยู่เล็กน้อยด้วยตรงที่มันไม่สามารถพับลงได้แบบ GF6 ทำได้เพียงพับขึ้นเท่านั้น เหตุผลหนึ่งก็คงเพราะจำเป็นจะต้องทำให้มีขนาดเล็กเพราะจอแบบานพับใน GF6 คงต้องการพื้นที่พอสมควรถ้าใช้จอลักษณะเดียวกันน่าจะทำให้ GF7 ขนาดตัวหนากว่านี้จึงจำเป็นต้องต้องต่อกระโหลกขึ้นไปเพื่อติดตั้งจอในลักษณะนี้ สำหรับจอที่พับลงได้นั้นจะเป็นประโยชน์มากเวลาที่เราต้องการถ่ายภาพจากมุมสูงอย่างเช่นไปถ่ายคอนเสิร์ตที่คนเยอะๆ เป็นต้น แต่ข้อเสียนี้มันแก้ไขได้ครับไม่ใช่เรื่องยากเย็นเพียงแค่เราจับกล้องกลับหัวซะ…เราก็จะได้จอพับลงถ่ายมุมสูงได้สบายแถมพับลงได้ 180 องศาเลยด้วย ฮ่า ฮ่า งั้นภาพก็กลับหัวสิ? ใช่แล้วครับ ภาพที่ได้จะกลับหัวแต่เราปรับมุนกลับได้ง่ายมากแค่อาศัยโปรแกรมดูภาพธรรมดาๆที่ติดมากับระบบ Windows คลิ๊กหมุนภาพซัก 2 ทีเราก็จะได้ภาพตั้งตรงตามปกติแล้วเกือบลืมพูดถึงไปว่าจอหลังเป็นแบบ Touchsceen ครับ เดี๋ยวนี้เกือบทุกค่ายก็ใส่จอ Touchscreen กันหมดเลย ใน GF7 เราก็สามารถจิ้มหน้าจอเพื่อปรับค่าต่างๆได้เลยครับอย่างเช่น เลือกจุดโฟกัส รวมถึงความเร็วชัตเตอร์ รูรับแสง ฯลฯ
เมื่อพับจอขึ้นเราจะสังเกตเห็นปุ่มๆหนึ่งที่ซ่อนไว้บริเวณด้านใต้หน้าจอแสดงผล ใช้สำหรับรีเซ็ตการตั้งค่าถ่ายภาพต่างๆที่เราเซ็ตเอาไว้ครับ มันจะมีประโยชน์ในกรณีเช่น เราเซ็ตค่าถ่ายภาพต่างๆไว้แล้วจะส่งกล้องให้เพื่อนไปถ่ายภาพให้ ถ้ากังวลว่าเพื่อนอาจจะเซ็ตค่าต่างๆให้เหมาะสมไม่เป็นก็ให้กดปุ่มนี้เลยแล้วมันจะรีเซ็ตค่าทุกอย่างที่เราตั้งไว้ให้
เมื่อพับจอขึ้นเราจะสังเกตเห็นปุ่มๆหนึ่งที่ซ่อนไว้บริเวณด้านใต้หน้าจอแสดงผล ใช้สำหรับรีเซ็ตการตั้งค่าถ่ายภาพต่างๆที่เราเซ็ตเอาไว้ครับ มันจะมีประโยชน์ในกรณีเช่น เราเซ็ตค่าถ่ายภาพต่างๆไว้แล้วจะส่งกล้องให้เพื่อนไปถ่ายภาพให้ ถ้ากังวลว่าเพื่อนอาจจะเซ็ตค่าต่างๆให้เหมาะสมไม่เป็นก็ให้กดปุ่มนี้เลยแล้วมันจะรีเซ็ตค่าทุกอย่างที่เราตั้งไว้ให้
ปุ่มควบคุมด้านหลังของ Panasonic GF7 มีไม่เยอะครับเพราะมันเน้นความเล็กและใช้งานง่าย ถ้าคุณเป็นคนชอบปรับค่าต่างๆอย่างรวดเร็ว GF7 คงจะไม่ตอบโจทย์อย่างแน่นอน ถ้าชอบความเล็กแบบนี้จริงๆอาจจะต้องเปลี่ยนไปมอง GM5 ซึ่งจะมี Dial และปุ่มมาให้เยอะกว่านี้
แต่ยังดีที่พานาเค้าให้ปุ่มหมุน Dial มาอันหนึ่ง เราสามารถใช้ปรับค่าความเร็วชัตเตอร์ รูรับแสง ชดเชยเสง ISO ฯลฯ ได้ เพียงแต่เนื่องจากมีวงเดียวเลยต้องผลัดกันทีละค่าจึงปรับได้ไม่รวดเร็ว แต่ดีกว่าต้องมาไล่กดขึ้น ลง ซ้าย ขวาปรับทีละค่าแน่นอน
ด้านบนตรงนี้ก็มีปุ่มที่เราคุ้นเคยกันครับ Mode Dial, ชัตเตอร์พร้อมสวิตซ์เปิด-ปิดเครื่องที่อยู่รอบๆ และปุ่ม iA ที่เป็นเอกลักษณ์ของค่ายนี้ ใช้สำหรับเข้าโหมดอัตโนมัติทันทีที่กด จากการนำไปใช้งานผมค่อนข้างชอบปุ่มนี้ครับอย่างในบางครั้งที่เราปรับค่าไม่ทันสถานการณ์ก็สามารถกดปุ่มนี้แล้วให้กล้องคำนวณค่าทุกอย่างให้ทันทีเมื่อใช้เสร็จก็แค่กดอีกครั้งเพื่อกลับโหมดเดิมเป็นอะไรที่สะดวกดีทีเดียว
ปุ่ม Fn1 ถ้ามองเผินๆก็ไม่แปลกอะไรครับเพราะกล้องหลายรุ่นก็มี Fn1 เหมือนกันให้เราได้เซ็ตเป็นปุ่มอะไรก็ได้ตามใจ ซึ่งในค่ามาตราฐานปุ่มนี้จะใช้เข้าสู่เมนู Wi-Fi แต่ในการถ่าย Selfie เราสามารถใช้มันเป็นปุ่มชัตเตอร์ที่สองได้ด้วยครับเท่ากับเราจะมีชัตเตอร์ 2 ปุ่มให้เลือกใช้ตามแต่จะถนัดซึ่งช่วยได้มากเลยครับสำหรับการถือ Selfie ด้วยมือขวา แต่ปุ่มชัตเตอร์ปุ่มนี้จะไม่ได้เป็น 2 จังหวะแบบปุ่มชัตเตอร์หลักครับ
Panasonic GF7 มีแฟลชในตัวมาให้ครับความแรง Guide Number 4(ISO100) มีความเร็ว Flash X Sync Speed ที่ 1/50 วินาทีและเป็นแฟลชที่เราสามารถใช้นิ้วเกี่ยวให้มันเงยหัวขึ้นเพื่อใช้เทคนิค Bounce แฟลชกับเพดานได้
ถ้าใช้แฟลชพร้อมกับการพับจอขึ้น แฟลชจะบังจออยู่บ้างครับยังสามารถมองจอได้อยู่ๆ
ด้านล่างก็ตามปกติเลยครับ เมาท์เกลียวสำหรับเสียบขาตั้งกล้อง ช่องใส่แบตเตอรี่และการ์ด SDพอร์ตเชื่อมต่อที่ด้านข้างมีแค่ 2 พอร์ตนี้ครับ HDMI และ AV Out
เลนส์ LUMIX G VARIO 12-32mm F3.5-5.6 ASPH. MEGA O.I.S. เป็นเลนส์ที่เป็นชุดคู่กับ GF7 ครับผม มีขนาดเล็กน้ำหนักเบาเป็นคู่ที่สมกันมากๆ
กล้อง | DMC-GF7 | DMC-GF6 | DMC-GM1 |
ขนาดเซนเซอร์ | Four Third | Four Third | Four Third |
ความละเอียดเซนเซอร์ | 16 ล้านพิกเซล | 16 ล้านพิกเซล | 16 ล้านพิกเซล |
ชิปประมวลผล | Venus Engine | Venus Engine | Venus Engine |
ISO | 200-25600 | 160-12800 | 200-25600 |
ขยายช่วง ISO | 100-25600 | 160-25600 | 125-25600 |
ถ่ายภาพต่อเนื่อง AF-S | 5.8fps | 4.2fps | 5fps |
ถ่ายภาพต่อเนื่อง AF-C | 5fps | 4fps | |
ความเร็วชัตเตอร์ | 1/16000 วินาที | 1/4000 วินาที | 1/16000 วินาที |
ขนาดจอแสดงผล | 3.0″ | 3.0″ | 3.0″ |
จอแสดงผลแบบพับ | ได้ | ได้ | ไม่ได้ |
ความละเอียดจอแสดงผล | 1,040,000 พิกเซล | 1,040,000 พิกเซล | 1,040,000 พิกเซล |
จอแสดงผลแบบสัมผัส | มี | มี | มี |
แฟลชในตัว | มี | มี | มี |
ความแรงแฟลช (ISO200) | GN 5.6 | GN 6.3 (ISO160) | GN 5.6 |
ความเร็ว X Sync Speed | 1/50 วินาที | 1/160 วินาที | 1/50 วินาที |
ความละเอียดวิดีโอ | Full HD 1080p | Full HD 1080i | Full HD 1080i |
เฟรมเรตวิดีโอ(PAL) | 50fps | 50fps | 50fps |
ฟอร์แมตวิดีโอ | MP4, AVCHD | MP4, AVCHD | MP4, AVCHD |
Wi-Fi | IEEE 802.11b/g/n | IEEE 802.11b/g/n | IEEE 802.11b/g/n |
NFC | ไม่มี | มี | ไม่มี |
แบตเตอรี่(CIPA) | 230 ภาพ | 330 ภาพ | 230 ภาพ |
น้ำหนัก | 266 กรัม | 323 กรัม | 204 กรัม |
Specification – รายละเอียดสเปค
ด้านสเปคภายในนั้นถ้าวางตารางเทียบระหว่าง Panasonic DMC-GF7 และ GF6 แล้วเปลี่ยนไปไม่มากครับหรือถ้าเทียบสเปคกับ GM1 ก็จะคล้ายกันมากๆด้วยเช่นกันสิ่งที่เปลี่ยนไปส่วนมากเป็นสิ่งที่มองไม่เห็นในตารางอย่าง รูปลักษณ์ภายนอก หรือลูกเล่นทางด้าน Software
Panasonic Lumix DMC-GF7 Specification
- เซนเซอร์ Live MOS ขนาด Four Third ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล
- ชิปประมวลผล Venus Engine
- ISO200-25600 ขยายได้ถึง ISO100
- ระบบ Autofocus แบบ Contrast Detection ทำงานได้แม้แสงน้อยถึง -4EV
- ระบบวัดแสงแบ่งเป็น 1,728 โซน
- ความเร็วชัตเตอร์แบบอิเล็กทรอนิกส์ 1/16000 วินาที
- ถ่ายภาพต่อเนื่อง 5.8 ภาพต่อวินาที(AF-S)และ 5 ภาพต่อวินาที(AF-C)
- ถ่ายภาพต่อเนื่อง 40 ภาพต่อวินาทีสำหรับชัตเตอร์แบบอิเล็กทรอนิกส์
- จอแสดงผล Touchscreen TFT-LCD ขนาด 3.0″ ความละเอียด 1,040,000 พิกเซล
- จอแสดงผลอัตราส่วนภาพแบบ 3:2 ครอบคลุมการมองเห็น 100% ของเฟรมภาพ
- ถ่ายวิดีโอ Full HD 1920×1080 50p ฟอร์แมต MP4 และ AVCHD บิตเรตสูงสุด 28Mbps
- มีแฟลชในตัว GN4(ISO100) ความเร็ว X Sync Speed 1/50 วินาที
- มีโหมด iA+ และ iA
- Fn1 สามารถเป็นปุ่มชัตเตอร์ที่ 2 ได้
- ฟังก์ชั่น Face และ Buddy Shutter
- รองรับไฟล์ภาพ MPO ที่จะใช้เมื่อต่อกับเลนส์ 3D
- มี Wi-Fi ในตัว IEEE 802.11b/g/n, 2412 MHz – 2462 MHz (1-11 ch)
- เชื่อมต่อ Wi-Fi ได้โดยไม่ต้องใช้ Password
- มีเซนเซอร์วัดระดับน้ำ, Real-time Histogram, Zebra pattern, ฯลฯ
- มีโหมดถ่าย Time Lapse และ Stop Motion Animation
- มี Beauty Effect ต่างๆสำหรับแต่งหน้า Soft Skin, Slimming Mode, Defocus
- ฟีเจอร์ Jump Snap ใช้ Smartphone ตรวจจับตำแหน่งที่กระโดดสูงสุดเพื่อสั่งถ่ายภาพ
- แบตเตอรี่ Li-ion(7.2V, 680mAh, 4.9Wh) ถ่ายได้ 230 ภาพ
- ขนาด 106.5 x 64.6 x 33.3 mm(W x H x D)
- น้ำหนัก 266 กรัมและ 336 กรัมสำหรับ Body+12-32mm
เซนเซอร์และโฟกัสในที่มืด -4EV
GF7 ใช้เซนเซอร์ Four Third 16 ล้านพิกเซลเป็นตัวเดียวกับที่อยู่ใน GM1, GM5 รวมถึงรุ่นใหญ่กว่าอย่าง GX7 ด้วยเพราะงั้นเดาได้เลยครับว่าภาพที่ได้จะพอๆกันด้วยเช่นกัน สำหรับระบบ Autofocus ยังคงใช้แบบ Contrast Detection อย่างเดียวเช่นเคยแต่มีการพัฒนาให้สามารถโฟกัสได้เร็วโดยการที่เลนส์จะส่งข้อมูลมาให้กล้องประมวลผลอย่างรวดเร็วถึง 240 ภาพต่อวินาทีเพื่อให้ประมวลผลหาตำแหน่งโฟกัสที่ถูกต้อง(จำเป็นต้องใช้กับเลนส์ที่รองรับ 240fps) และเป็นระบบโฟกัสที่ Panasonic กล้าเคลมว่าสามารถโฟกัสได้ในที่แสงน้อยถึง -4EV ซึ่งมืดมากทีเดียวครับผมเองยังไม่ได้ลองโฟกัสในที่แสงน้อยขนาดนั้นแต่ถ้า GF7 ทำได้จริงก็นับเป็นความสามารถที่โดดเด่น
ชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ 1/16000 วินาที
GF7 มีชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถทำความเร็วได้สูง 1/16000 วินาทีเท่ากับที่ GM1 ทำได้แต่เร็วกว่า GF6 เดิมที่ทำได้แค่ 1/4000 วินาที(ชัตเตอร์แบบกลไก) ข้อดีอย่างหนึ่งของชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์คือมัน”เงียบมาก”ครับ เรียกว่าแทบจะไม่มีเสียงเลย ทำให้เราสามารถใช้ถ่ายในที่ประชุม แอบถ่าย หรือสถานการณ์อื่นๆที่ต้องอาศัยความเงียบ และยังถ่ายต่อเนื่องได้เร็วเพราะว่าไม่ต้องรอให้ระบบกลไกทำงานมีเพียงแค่เซนเซอร์ทำการรับภาพเท่านั้น ถ้าเราเปิดใช้ชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ล้วนๆ GF7 จะถ่ายต่อเนื่องได้เร็วสุด 40 ภาพต่อวินาทีจากปกติ 5.8 ภาพต่อวินาที(GF6 ถ่ายต่อเนื่องได้ 4.2 ภาพต่อวินาที)
หน้าจอและการถ่าย Selfie
ในส่วนนี้มีการพัฒนามากที่สุดเลยครับ อันดับแรกคือจอพับที่เปลี่ยนไปจากที่ผมได้พูดถึงแล้วด้านบน ยังมีปุ่ม Fn1 ที่สามารถทำหน้าที่เป็นปุ่มชัตเตอร์ที่ 2 ได้ช่วยให้ถือถ่าย Selfie ได้สะดวกทั้งมือซ้ายและขวา นอกจากนี้ด้าน Software ในการถ่าย Selfie ก็มีการเพิ่ม Beauty Effect ต่างๆ
- Soft Skin สำหรับแต่งผิวให้ดูเนียน สามารถปรับได้ 3 ระดับ Low / Medium / High
- Slimming Mode สำหรับปรับหน้าให้ดูผอมยาวขึ้น โดยกล้องจะทำการดึงภาพให้ดูยาวขึ้น แต่การใช้งานโหมดนี้ต้องระวังเรื่องฉากหลังด้วยนะครับเพราะมันไม่ได้ดึงเฉพาะใบหน้าแต่จะดึงทั้งภาพเลย แต่เท่าที่ผมลองใช้งานไม่ค่อยเจอปัญหาเรื่องดึงภาพจนเพี้ยนซักเท่าไหร่เพราะกล้องดึงภาพไม่มากนัก ปรับได้ 2 ระดับคือ Low / High
- Defocus ใช้ทำหน้าชัดหลังเบลอครับ แต่ยังไม่ถึงกับเหมือนหน้าชัดหลังเบลอแท้ๆ กล้องจะทำการเบลอภาพส่วนอื่นๆให้ละลายหายไปโดยยกเว้นส่วนใบหน้าเราเอาไว้
นอกจาก Beauty Effect ต่างๆแล้วยังได้เพิ่มฟังก์ชั่นในการลั่นชัตเตอร์ด้วยอย่างเช่น Face Shutter และ Buddy Shutter
- Face Shutter ใช้สั่งลั่นชัตเตอร์โดยการให้เรานำมือปิดหน้าเอาไว้และพอเอาออกกล้องก็จะสั่งลั่นชัตเตอร์(สามารถตั้งให้หน่วงเวลาก่อนจะถ่ายได้)
- Buddy Shutter ฟังก์ชั่นนี้ต้องมี 2 คนครับผมวิธีการคือให้คนสองคนเอนหัวเข้ามาใกล้กันแล้วกล้องก็จะสั่งถ่ายภาพ
ปุ่ม Fn มีเพียบถึง 6 ปุ่ม
จริงๆ Fn ที่เป็นปุ่มจริงๆก็มีอยู่อันเดียวด้านบนนั่นแหละครับ เพียงแต่ว่าในหน้าจอ Touchscreen เราจะมีปุ่ม Fn อยู่ด้านข้างถึง 6 ปุ่มให้จิ้มใช้ ซึ่งใช้สะดวกดีทีเดียวครับและสามารถตั้งค่าแต่ละ Fn เป็นฟังก์ชั่นได้หลากหลายมากๆ ใน GF6 เดิมจะมี Fn ให้ใช้แค่ 4 ปุ่มครับ
Silent Mode เงียบสนิทไร้เสียง
GF7 มี Silent Mode สำหรับให้กล้องทำตัวเองให้เงียบที่สุด โดยเมื่อเราเปิดโหมดนี้ชัตเตอร์จะถูกปรับเป็นอิเล้กทรอนิกส์ทั้งหมดเพื่อลดเสียง ไฟช่วยโฟกัสรวมถึงแฟลชจะถูกปิด กล้องจะพยายามทำตัวเองให้เงียบและเป็นจุดเด่นน้อยที่สุด เป็นฟังก์ชั่นที่สะดวกดีครับเพราะบางครั้งเราเข้าไปถ่ายในที่เงียบๆหรืออยากจะแอบถ่ายโดยไม่ให้รู้ตัวเราแค่กดเปิดโหมดนี้ทั้งเสียงและไฟของกล้องก็ปิดหมดพร้อมให้เราเก็บภาพได้เลย
ถ่ายวิดีโอได้ดีขึ้น
GF7 สามารถถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียด Full HD 1920×1080 50p(PAL) จากเดิมใน GF6 ถ่ายได้ที่ 50i มีบิตเรตสูงสุดที่ 28Mbps ฟอร์แมตสามารถเลือกได้ว่าจะถ่ายเป็น MP4 หรือ AVCHD ส่วนใครที่หวังเรื่อง 4K ในกล้องซีรี่ย์นี้ของ Panasonic คงต้องผิดหวังเพราะมันไม่ได้มีมาให้และน่าจะทำได้ยากพอสมควรเลยครับเนื่องจากขนาดที่เล็กทำให้มีปัญหาเรื่องความร้อนอีกทั้งยังมีปัญหาเรื่องการใช้พลังงานมาก
นอกจากนี้วิดีโอใน GF7 ยังมีฟังก์ชั่นเพื่อความสะดวกต่างๆอย่าง Zebra Pattern, ตัววัดระดับน้ำแบบ Real-Time, Guide Line, และ Focus Peaking ให้มาด้วย
การเชื่อมต่อ Wi-Fi ไม่ต้องใช้ Password
เดิมทีใน GF6 กล้องจะมี Wi-Fi และ NFC ในตัวเพื่อให้เชื่อมต่อกับมือถือได้สะดวกขึ้นเพราะไม่ต้องใส่ Password โดยอาศัยการสื่อสารด้วย NFC แทนแต่ในรุ่น GF7 NFC ถูกนำออกแล้วครับเหลือแต่ Wi-Fi อย่างเดียว ปกติแล้วเราก็คงต้องกลับไปใส่ Password หลายๆหลักกันเหมือนเดิมแต่ Panasonic ปรับให้ผู้ใช้สามารถยกเลิก Password ออกได้ทำให้การเชื่อมต่อสามารถทได้เร็วเพระาไม่ต้องใส่ Password
ประเด็นเรื่องความปลอดภัย GF7 นั้นสามารถเชื่อมต่อมือถือได้ทีละเครื่องเท่านั้นครับ ดังนั้นถ้าเราทำการเชื่อมต่อแล้วจะไม่มีใครเข้ามาเชื่อมต่อเพิ่มได้จึงไม่ต้องกัวลว่าใครจะมาโหลดภาพของเราไปและในการเชื่อมต่อครั้งแรกกล้องจะมีการถามก่อนว่าจะเชื่อมต่อกับมือถือเครื่องนี้มั้ย(ในครั้งต่อไปจะไม่ถาม)จึงมั่นใจได้ระดับหนึ่งว่าจะไม่มีใครเข้ามาแย่งการเชื่อมต่อได้
นอกจาก Beauty Effect ต่างๆแล้วยังได้เพิ่มฟังก์ชั่นในการลั่นชัตเตอร์ด้วยอย่างเช่น Face Shutter และ Buddy Shutter
- Face Shutter ใช้สั่งลั่นชัตเตอร์โดยการให้เรานำมือปิดหน้าเอาไว้และพอเอาออกกล้องก็จะสั่งลั่นชัตเตอร์(สามารถตั้งให้หน่วงเวลาก่อนจะถ่ายได้)
- Buddy Shutter ฟังก์ชั่นนี้ต้องมี 2 คนครับผมวิธีการคือให้คนสองคนเอนหัวเข้ามาใกล้กันแล้วกล้องก็จะสั่งถ่ายภาพ
ปุ่ม Fn มีเพียบถึง 6 ปุ่ม
จริงๆ Fn ที่เป็นปุ่มจริงๆก็มีอยู่อันเดียวด้านบนนั่นแหละครับ เพียงแต่ว่าในหน้าจอ Touchscreen เราจะมีปุ่ม Fn อยู่ด้านข้างถึง 6 ปุ่มให้จิ้มใช้ ซึ่งใช้สะดวกดีทีเดียวครับและสามารถตั้งค่าแต่ละ Fn เป็นฟังก์ชั่นได้หลากหลายมากๆ ใน GF6 เดิมจะมี Fn ให้ใช้แค่ 4 ปุ่มครับ
Silent Mode เงียบสนิทไร้เสียง
GF7 มี Silent Mode สำหรับให้กล้องทำตัวเองให้เงียบที่สุด โดยเมื่อเราเปิดโหมดนี้ชัตเตอร์จะถูกปรับเป็นอิเล้กทรอนิกส์ทั้งหมดเพื่อลดเสียง ไฟช่วยโฟกัสรวมถึงแฟลชจะถูกปิด กล้องจะพยายามทำตัวเองให้เงียบและเป็นจุดเด่นน้อยที่สุด เป็นฟังก์ชั่นที่สะดวกดีครับเพราะบางครั้งเราเข้าไปถ่ายในที่เงียบๆหรืออยากจะแอบถ่ายโดยไม่ให้รู้ตัวเราแค่กดเปิดโหมดนี้ทั้งเสียงและไฟของกล้องก็ปิดหมดพร้อมให้เราเก็บภาพได้เลย
ถ่ายวิดีโอได้ดีขึ้น
GF7 สามารถถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียด Full HD 1920×1080 50p(PAL) จากเดิมใน GF6 ถ่ายได้ที่ 50i มีบิตเรตสูงสุดที่ 28Mbps ฟอร์แมตสามารถเลือกได้ว่าจะถ่ายเป็น MP4 หรือ AVCHD ส่วนใครที่หวังเรื่อง 4K ในกล้องซีรี่ย์นี้ของ Panasonic คงต้องผิดหวังเพราะมันไม่ได้มีมาให้และน่าจะทำได้ยากพอสมควรเลยครับเนื่องจากขนาดที่เล็กทำให้มีปัญหาเรื่องความร้อนอีกทั้งยังมีปัญหาเรื่องการใช้พลังงานมาก
นอกจากนี้วิดีโอใน GF7 ยังมีฟังก์ชั่นเพื่อความสะดวกต่างๆอย่าง Zebra Pattern, ตัววัดระดับน้ำแบบ Real-Time, Guide Line, และ Focus Peaking ให้มาด้วย
การเชื่อมต่อ Wi-Fi ไม่ต้องใช้ Password
เดิมทีใน GF6 กล้องจะมี Wi-Fi และ NFC ในตัวเพื่อให้เชื่อมต่อกับมือถือได้สะดวกขึ้นเพราะไม่ต้องใส่ Password โดยอาศัยการสื่อสารด้วย NFC แทนแต่ในรุ่น GF7 NFC ถูกนำออกแล้วครับเหลือแต่ Wi-Fi อย่างเดียว ปกติแล้วเราก็คงต้องกลับไปใส่ Password หลายๆหลักกันเหมือนเดิมแต่ Panasonic ปรับให้ผู้ใช้สามารถยกเลิก Password ออกได้ทำให้การเชื่อมต่อสามารถทได้เร็วเพระาไม่ต้องใส่ Password
ประเด็นเรื่องความปลอดภัย GF7 นั้นสามารถเชื่อมต่อมือถือได้ทีละเครื่องเท่านั้นครับ ดังนั้นถ้าเราทำการเชื่อมต่อแล้วจะไม่มีใครเข้ามาเชื่อมต่อเพิ่มได้จึงไม่ต้องกัวลว่าใครจะมาโหลดภาพของเราไปและในการเชื่อมต่อครั้งแรกกล้องจะมีการถามก่อนว่าจะเชื่อมต่อกับมือถือเครื่องนี้มั้ย(ในครั้งต่อไปจะไม่ถาม)จึงมั่นใจได้ระดับหนึ่งว่าจะไม่มีใครเข้ามาแย่งการเชื่อมต่อได้
Jump Snap ฟังก์ชั่นใหม่ ใช้งานได้ดี
โดยส่วนตัวผมชอบฟังก์ชั่นใหม่นี้มาก ใช้สำหรับถ่ายภาพกระโดดโดยจะมีการตรวจจับและสั่งถ่ายภาพในจังหวะที่เราลอยอยู่กลางอากาศพอดี ฟังก์ชั่น Jump Snap นี้ไม่ได้อยู่ในกล้องนะครับเพียงแค่กล้องมีสเปคที่ทำมาให้รองรับคำสั่งจากฟังก์ชั่นนี้ได้ ตัวหลักสำคัญจริงๆคือแอปพลิเคชั่นในมือถือ Panasonic Image App วิธีใช้งาน Jump Snap คือให้เราเชื่อมต่อ Wi-Fi ระหว่างกล้องกับมือถือเอาไว้ หลังจากนั้นเปิดใช้งาน Jump Snap จากในแอปฯ ในตอนกระโดดให้เราถือไว้หรือใส่มือถือเอาไว้ในกระเป๋าพอกระโดดแอปฯจะอาศัยการตรวจจับจากเซนเซอร์ในมือถือแล้วสั่งถ่ายภาพในจังหวะที่เราลอยอยู่กลางอากาศพอดี
ผมได้เอาไปทดลองใช้จริงดูแล้ว ถือว่าทำงานได้ดีมากเลยครับ ภาพที่ได้เป็นจังหวะลอยอยู่กลางอากาศพอดี เพียงแต่เราอาจจะต้องคอยระวังด้วยว่าการเขย่าเครื่องหรือแกว่งไปมาอาจทำให้เป็นการสั่งลั่นชัตเตอร์ได้ด้วย แต่โดยรวมค่อนข้างถูกใจกับฟังก์ชั่นนี้มากเลยครับ ทำให้เราไม่ต้องกระโดดหลายรอบและไม่จำเป็นต้องตั้งให้ถ่ายภาพแบบต่อเนื่องเลยด้วย
และเวลาตั้งถ่ายช็อตกระโดด เราสามารถตั้งกับพื้นแล้วใช้จอหลังพับเป็นขาตั้งในลักษณะนี้ได้ครับผม
ทดสอบไฟล์ภาพ ISO สูง Panasonic DMC-GF7
การถ่ายผมตั้งกล้องไว้บนขาตั้งครับซูมสุดที่ระยะ 64mm ใช้ค่ารูรับแสงที่ f/8 ทุกภาพ Crop 100% ครับ และย่อภาพลงมาแบบไม่ USM จำนวน Noise ในภาพจริงอาจจะมากกว่าที่เห็นอีกเล็กน้อย
จากการทดสอบส่วนตัวผมเองมองว่าที่ ISO200-800 รายละเอียดภาพยังดีอยู่ครับ แต่ที่ ISO1600 รายละเอียดภาพจะเริ่มเสียไปและที่ ISO3200 จะเริ่มเสียรายละเอียดไปมากหลังจากนั้นไปก็จะยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆจนรายละเอียดบนพื้นผิวบางส่วนหายไปเลย ถือว่าไม่ใช่กล้องที่เก่งด้าน ISO แต่ก็ทำผลงานได้อยู่ในระดับพอใช้ถึงระดับดี
Reallife Image Test – ทดสอบถ่ายภาพ
เหมือนเช่นทุกครั้งที่ผมมีเวลาอยู่กับกล้องแต่ละตัวน้อย T^T ทำให้ลองถ่ายอะไรมาได้นิดเดียวเท่านั้น ในรอบนี้ก็เลยเป็นวิวแถวๆ ZoomCamera สาขาสีลมเช่นเคย ทุกภาพใช้โหมด A ตลอด White Balance Auto ให้กล้องคิดให้อย่างเดียว ผ่านการย่อภาพ USM แต่ไม่มีการปรับแก้สี หรือแสงเงาใดๆเลย สำหรับภาพที่ถ่ายในเวลากลางคืนจะใช้ ISO1600 ทุกภาพครับ ยกเว้นภาพไฟรถวิ่งที่ใช้ ISO200
ข้อดีของกล้องเล็กๆอีกอย่างคือการถ่าย Long Exposure แบบไม่มีขาตั้งกล้องเพราะเราสามารถนะไปวางเกาะตามราวตามขอบต่างๆให้กล้องนิ่งได้สบายๆ อย่างเช่น 2 ภาพนี้ใช้ความเร็วชัตเตอร์ 4 และ 6 วินาทีครับ
Conclusion – สรุป
ข้อดี
- ขนาดเล็กลงพกง่ายกว่ารุ่นเดิมมาก
- การจับถือถนัดมือกว่า GM1 เล็กน้อย
- จอหลังพับถ่าย Selfie ได้
- การถ่าย Selfie ทำได้ง่ายทั้งมือซ้ายและขวา
- ความสามารถด้านวิดีโอดีขึ้นมี Focus Peaking, Zebra Pattern, ฯลฯ
- มีชัตเตอร์อิเล็กทรอนิกส์ 1/16000 วินาที
- ถ่ายภาพต่อเนื่องเร็วกว่ารุ่นเดิม
- มีปุ่ม Fn ให้ตั้งค่าเยอะถึง 6 ปุ่ม
- แฟลชในตัวสามารถ Bounce เพดานได้
- เชื่อมต่อ Wi-Fi ได้ไม่ต้องใส่ Password
- มี Beauty Effect ให้เล่นเยอะกว่ารุ่นเดิม
- ฟังก์ชั่น Jump Snap ใช้งานได้ดี
- มี Silent Mode ให้ใช้
- มีโหมดถ่าย Time Lapse และ Stop Motion Animation
ข้อ(อาจจะ)ไม่ดี
- ขนาดเล็กทำให้บางคนอาจจับถือไม่ถนัด
- แฟลชในตัวความแรงน้อยกว่ารุ่นเดิม
สรุป…สุดท้ายสิ่งที่ผมถูกใจมากที่สุดใน Panasonic DMC-GF7 คือสิ่งที่ผมไม่ชอบในตอนแรก”ความเล็ก”ครับ มันเป็นกล้องที่พกง่าย น้ำหนักเบา ไม่เป็นภาระเราที่พาไปไหนต่อไหน และนำไปถ่ายได้ทุกที่อย่างเวลาที่ใช้ DSLR บางสถานที่เค้าก็ไม่ให้เราถ่าย ยามมาไล่กันตลอด ฮ่า ฮ่า แต่อย่างตัวนี้ไม่มีปัญหานี้เลยเพราะกล้องเราเล็กจนคนทั่วไปไม่สนใจมันเพราะคิดว่าเป็นกล้องคอมแพคธรรมดาหารู้ไม่ข้างในเรา Four Third เลยทีเดียว และการที่กล้องดูไม่โปรฯแบบนี้ทำให้ตัวแบบไม่กังวลมากอีกด้วย
สำหรับคุณผู้หญิงที่ชอบ Selfie น่าจะถูกใจกล้องตัวนี้กันนะครับเพราะเล็กดีมากๆ จอหลังก็พับถ่ายตัวเองได้สบายๆ พร้อมฟังก์ชั่น Beauty Effect แต่งหน้าเนียน หน้าผอม บลาๆๆๆด้านคุณภาพไฟล์ก็ไม่ได้แย่สูสีไล่ๆมากับ GM1, GM5, และ GX7 สำหรับราคานั้น GF7+12-32mm ราคา 19,990 บาทครับ