Review : Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art เปิดประสบการณ์ในแดนลอดช่อง Leave a comment

กราบสวัสดีเพื่อนๆที่ติดตาม Content ของ Zoomcamera ผ่านทางช่องทางต่างๆ ทั้งทาง Facebook , Line และ Youtube ทุกท่านด้วยนะครับ หากจะเอ่ยถึงเลนส์ที่มีความคมในระดับต้นๆของวงการกล้อง หากไม่นับเลนส์ Zeiss หรือ Leica แล้ว เชื่อว่าเพื่อนๆคงจะนึกถึง Sigma กันอย่างแน่นอนครับ ซึ่ง Sigma เป็นค่ายอิสระที่ออกแบบเลนส์สำหรับใช้งานให้กับกล้อง DSLR และ กล้อง Mirrorless ในปัจจุบัน โดยทาง Sigma ได้มีการแบ่ง Serie ออกเป็นทั้งหมด 3 Series ด้วย คือ Art ( A ) , Sport ( Sport ) และ Contemporary ( C ) โดยเฉพาะ Art Series นั้น สร้างชื่อเสียงให้กับทาง Sigma เป็นอย่างมากครับ เพราะ ทาง Sigma ได้มีการเคลมว่าเลนส์ Art รองรับ Pixel ที่ละเอียดมากถึง 50 Megapixels กันเลยทีเดียว ซึ่งในวันนี้ทีมงาน Zoomcamera จะมาแนะนำประสบการณ์การใช้เลนส์ Art รุ่นหนึ่ง ที่ทีมงานได้นำมาใช้ระยหนึ่ง เลนส์รุ่นนั้นก็คือ Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art ครับ ซึ่งคุณภาพของภาพที่ได้จะเป็นอย่างไรนั้น ไปชมรายละเอียดกันเลยครับ

 

Review : Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art

 

ภาพรวม  :  Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art

Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art จัดเป็นเลนส์ใน Art Series ที่เปิดตัวตั้งแต่ปี 2013 หรือ 5 ปีผ่านมาแล้วนั่นเอง มีทางยาวโฟกัสอยู่ในช่วงระยะ Normal Zoom ครับ ออกแบบมาสำหรับใช้งานกับกล้องตัวคูณ ฉะนั้น หากนำไปใส่กับกล้อง Fullframe จะติดขอบดำในภาพนะครับ

Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art

Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art แม้ว่าในช่วงแรกที่ผลิตออกมานั้น จะมีให้เลือกใช้งานบนกล้อง DSLR อย่าง Canon,Nikon,Sigma แต่ในปัจจุบันทาง Sigma ก็มีอุปกรณ์เสริมอย่าง Sigma MC-11 ที่เป็น Adapter ที่ออกแบบมาให้สามารถนำเลนส์ Sigma หรือ Canon มาใช้งานบนกล้อง Sony Mirrorless Fullframe / Sony Mirrorless APS-C ได้อย่างลงตัว พร้อมรองรับ Autofocus และ Eye AF ( เลนส์บางรุ่นไม่รองรับ )

Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art

สำหรับการใช้งาน อย่างที่บอกไปว่าเราสามารถใช้ Sigma MC-11 เพื่อนำเจ้า Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art มาใช้งานบนกล้อง Sony Mirrorless Fullframe / Sony Mirrorless APS-C ได้เต็มระบบ โดยนายแบบรับเชิญนั้น ทีมงานได้เลือกเจ้า Sony A6300 มาประกอบการรีวิวในครั้งนี้ครับ

Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art

เมื่อลองประกอบ Sony A6300 เข้ากับ Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art แล้ว จะเห็นว่ามีขนาดที่ใหญ่พอสมควรครับ เนื่องจากมี Sigma MC-11 เป็นตัวเชื่อมการใช้งานก่อนนั่นเองครับ

Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art

รหัส DC บน Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art นั้น บ่งบอกว่ารองรับการใช้งานบนกล้องตัวคูณ ดังนั้นหากเราใช้งานบนกล้อง APS-C เราจะได้ระยะทำการดทียบเท่า 27-52.5mm. บนตัวคูณ *1.5 ( Sony E / Nikon ) และ เทียบเท่า 28.8 – 56mm. บนตัวคูณ *1.6 ( Canon )

Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art

แม้ว่า Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art จะเป็นเลนส์ Zoom แต่เป็นการ Zoom ในลักษณะ Internal Zoom ทำให้ตัวกระบอกไม่มีการยืดหดแต่อย่างใดครับ สำหรับโครงสร้างชิ้นเลนส์ มาพร้อมชิ้นเลนส์ 17 ชิ้น จัดเป็น 12 กลุ่ม มาพร้อมชิ้นเลนส์พิเศษอย่าง Aspherical 4 ชิ้น ,  SLD 5 ชิ้น นอกจากนี้ยัง Diaphragm blades 9 กลีบ ขับเคลื่อนระบบโฟกัสด้วย Motor แบบ Ring-type Ultrasonic Motor พร้อมกับ Full time manual focus

Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art

Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art

ระยะ Closeup ใกล้สุดของ Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art ที่ 28 cm. จาก Subject ถึงหน้า Sensors กำลังขยาย 0.23x โดยคงระยะ 28 cm. ที่ทุกทางยาวโฟกัสไม่มีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด รวมถึงหน้าเลนส์ไม่มีการหมุนเมื่อมีการโฟกัสครับ นอกจากนี้เจ้า Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art ยังมาพร้อม Filter ขนาด 72mm.

Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art

Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art

ภายใน Package มาพร้อมกับ Hood ทรงกลีบดอกไม้ เมื่อประกอบเข้ากับตัวเลนส์แล้ว ดูเท่เป็นอย่างมากครับ รวมถึงทำให้เลนส์ดูมีขนาดใหญ่ขึ้นตามไปด้วยครับ

Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art

ประสบการณ์การใช้งาน  :  Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art

** ปล. มีการตกแต่งภาพผ่านโปรแกรม Lightroom ตามแบบการถ่ายท่องเที่ยว **

สำหรับในภาคการใช้งานนั้น ทีมงานได้นำ Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art มาใช้งานร่วมกับ Sony A6300 ซึ่งเป็นกล้อง Mirrorless ที่ไว้ใจเรื่องระบบ Focus ได้หายห่วงครับ แม้จะเป็นรุ่นรองจาก Sony A6500 ก็ตาม ทั้งนี้ที่น่าสนใจ คือ เมื่อนำ Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art มาใช้งานร่วมกับกล้อง Mirrorless แล้ว ปัญหาเรื่องอาการ Back / Front Focus จะไม่ตามมากวนใจแน่นอน เนื่องจากกล้อง Mirrorless ได้ทำการตัดชุดกระจกสะท้อนภาพออกไปแล้วนั่นเองครับ

Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art

และเป็นโชคดีของเจ้า Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art เพราะ ทีมงานได้มาช่วงมีไปทริปของบริษัทพอดี โดยได้มีโอกาสบินไปแดนลอดช่อง ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งได้เตรียมตัวกันตั้งแต่ช่วงเช้าตรู่ เพื่อเตรียมขึ้นเครื่องเดินทางครับ

Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art

หลังจากเครื่อง Landing ถึงประเทศสิงคโปร์ ก็เป็นเวลาเกือบเที่ยงแล้ว ทีมงานก็ได้หาอาหารมื้อแรกรับประทานกันก่อน และแน่นอนต้องไม่พลาด ข้าวมันไก่สิงคโปร์ ซึ่งต้องบอกว่าสมคำร่ำลือ เนื้อไก่แน่นๆ เนื้อสัมผัสฉ่ำมากครับ และก่อนรับประทานธรรมเนียมปฏิบัติ คือ ต้องถ่ายภาพก่อนนั่นเองครับ แฮร่

Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art

Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art

รับประทานของคาวเสร็จแล้ว ก็ต่อด้วยของหวานครับ ซึ่งเสิร์ฟมาแบบอุ่นๆ เนื้อสัมผัสนุ่ม มีไส้เป็นงาดำรสกลมกล่อมดีครับ

หลังจากเติมพลังเสร็จแล้ว ได้เวลาไปตะลุยถ่ายภาพกันละครับ ซึ่งต้องบอกว่าการพาเจ้า Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art มาตะลุยสิงคโปร์รอบนี้นั้น ไม่ได้มีการใช้งานเลนส์อื่นร่วมแต่อย่างใด หรือ กล่าวง่ายๆ มาเที่ยวด้วยเลนส์ตัวเดียวนั่นเองครับ

Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art

ที่แรกที่เรามากันนั้น คือ วัดพระเขี้ยวแก้ว หรือ Buddha Tooth Relic Temple Museum ซึ่งเป็นวัดจีนในศาสนาพุทธที่สร้างขึ้นในรูปแบบสถาปัตยกรรมสมัยราชวงศ์ถัง โดยตั้งอยู่ในย่าน Chinatown ในประเทศสิงคโปร์ ตั้งชื่อตามพระบรมสารีริกธาตุ พระเขี้ยวแก้วอันศักดิ์สิทธิ์และเป็นที่เคารพสักการะ

Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art

 วัดจีนในพุทธศาสนาที่สร้างขึ้นในรูปแบบศิลปกรรมสมัยราชวงศ์ถังนี้ ได้รับการออกแบบและวางแนวคิดโดยพระอาจารย์ Shi Fa Zhao ท่านเจ้าอาวาสของวัด โดยความช่วยเหลือของที่ปรึกษาทั้งในประเทศและต่างประเทศ วัดนี้สร้างขึ้นโดยใช้เงินทุนจำนวน 75 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ และอิงตามสถาปัตยกรรมสมัยราชวงศ์ถังและพุทธมณฑล ซึ่งแสดงถึงจักรวาลตามคติพุทธ

Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art

สำหรับการนำเจ้า Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art มาถ่ายภาพเชิง interior หรือ ภาพแนวสถาปัตยกรรม อาจจะลำบากซักเล็กน้อย เนื่องจากช่วงการใช้งานอาจจะ Wide ไม่มากพอที่จะเก็บมาทั้งหมดได้ แต่เรายังสามารถพลิกแพลงหามุมในการถ่ายได้อยู่ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพื้นที่บริเวณนั้นด้วยครับ

Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art

ภายในจะมีจัดแสดงพระพุทธรูปและสิ่งล้ำค่าต่าง ๆ ทางพุทธศาสนา เช่น พระบรมสารีริกธาตุ พระชิวหา เป็นต้น แม้ว่าจะอยู่ท่ามกลางย่าน Chinatown ที่ขึ้นชื่อว่ามีคนพลกพล่านก็ตามทีครับ

Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art หลังจากที่ทีมงานเดินชมบรรยากาศภายในของวัดพระเขี้ยวแก้ว โจทย์แรกที่เจอเลยก็คือ สภาพแสงน้อย เพราะ ภายในแม้ว่าจะมีการแสงไว้โดยรอบ แต่แสงเหล่านั้นก็ไม่ได้สว่างมากเท่าไรนัก ซึ่งเจ้า Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art ก็ยังทำงานได้ดี ไม่ขาดตกบกพร่องแต่อย่างใดครับ

Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art

ด้วยความโชคดีที่เจ้า Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art มาพร้อมค่า F1.8 ตลอดช่วงการใช้งาน ทำให้เราได้ Speed Shutter ที่สูงขึ้นบ้าง แม้ว่าสภาพแสงอาจจะไม่เอื้ออำนวยเท่าไรนัก ทั้งนี้ที่ F 1.8 นั้น ความคมบอกได้แค่ว่าคมไม่บันยะบันยังกันเลยทีเดียวครับ ซึ่งทีมงานขอแนบ Chart ทดสอบมาให้เพื่อนๆได้ดูกันด้วยครับ

Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art

ในส่วนของความคมและรายละเอียดทีไ่ด้จาก Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art นั้น แม้ว่าที่ F1.8 จะคมสุดๆแล้ว แต่ด้วยการถ่ายภาพเชิงท่องเที่ยวการเบลอฉากบางส่วนไป อาจทำให้เสียรายละเอียดของฉากหลังไปบ้าง เราก็ลองหรี่ค่า F มาที่ F2.8 หรือ F4 ก็เพียงพอในการถ่ายทอดผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมละครับ

Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art

Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art

Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art

หลังจากเสร็จภารกิจที่วัดพระเขี้ยวแก้วแล้วนั้น ทีมงานได้เบนเข็มไปที่ Landmark สำคัญอย่าง Merlion Park หรือ ที่เรารู้จักในชื่อของสิงโตพ่นน้ำนั่นเองครับ เมื่อมาถึง Merlion Park เราจะเปลี่ยนแนวถ่ายภาพกันละครับ จากก่อนหน้านี้ที่เป็นการถ่าย interior มาเป็นแนว Landscape / Cityscape กันบ้างครับ ซึ่งก่อนที่ทีมงานจะมาสิงคโปร์ ก็ได้มีการทำการบ้านมาบ้างแล้ว ว่า เจ้า Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art พร้อมจะท้าทายสภาวะดังกล่าวไหวหรือไม่

Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art

จากจุดที่ทีมงานตั้งขาตั้งกล้อง จะสามารถมองเห็น Marina Bay Sands รีสอร์ทแบบครบวงจรแห่งนี้ถือเป็นสัญลักษณ์สำคัญ ที่มีทั้งโรงแรมสุดหรู ห้างสรรพสินค้าระดับพรีเมี่ยม และสระว่ายน้ำแบบไร้ขอบสระ พร้อมด้วยวิวทิวทัศน์อันงดงามของเมืองสิงคโปร์ครับ ซึ่งเจ้า Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art ก็เพียงพอต่อการเก็บเฟรมภาพดังกล่าวได้อย่างสบายๆSigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art

 

ครั้นมาถึงสิงคโปร์แล้ว แต่ดันลืมพก ND Filter มา ทำให้การต้มน้ำ หรือ ต้มทะเล อาจจะสะดุดกันอย่างดื้อๆ แต่ โชคดีที่เจ้า Sony A6300 สามารถติดตั้ง Application ภายในตัวกล้องได้ โดยแต่ละ App นั้น จะมีความสามารถที่แตกต่างกัน รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพให้กับภาพถ่ายของเราได้เป็นอย่างดีครับ ซึ่งทีมงานได้ติดตั้ง Application ที่ชื่อ Smooth Reflex ไว้ ซึ่งมีคุณสมบัติในการซ้อน Layer ภาพหลายๆภาพจากการถ่ายด้วย App ดังกล่าวให้เกิดเป็นภาพใหม่ได้ ซึ่งหากเราใช้ค่า Speed Shutter ที่ต่ำ ก็สามารถทำให้เราสร้างภาพที่มี Effect เหมือนกับการใช้ ND Filter ได้โดยง่ายครับ แม้ว่าช่วงที่ทีมงานไปสิงคโปร์ ท้องฟ้าจะหม่นไปซักหน่อย แต่โชคดีที่ช่วงหลัง Twilight ฟ้าค่อนข้างเคลียร์ จึงต้องขอเก็บภาพ Marina Bay Sands อีกซักเฟรม โดยยังคงใช้งาน App : Smooth Reflex ร่วมด้วยเช่นกันครับ

Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art

จุดที่ที่มงานยืนนั้น เราสามารถถ่ายภาพ Cityscape โดยมีฉากหน้าเป็นพื้นน้ำติดมาในเฟรมได้อย่างลงตัวครับ ซึ่งตอนแรกทีมงานกังวลเล็กน้อยว่าเจ้า Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art จะไม่สามารถเก็บผลงานได้ แต่ผิดคาดครับ เพราะ บางสถานการณ์เลนส์ที่มีองศากว้างจนเกินไป จะทำให้ตึกอาคารที่อยู่ไกลๆนั้น มีขนาดเล็กตามไปด้วยนั่นเองครับ

Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art

จากมุมที่ทีมงานยืน ยังสามารถหันมาถ่าย Merlion ที่มีเมืองเป็นฉากหลังติดมาบ้าง ต้องยอมรับว่าเจ้า Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art มุมอาจจะไม่ได้กว้างเหมือนเลนส์ Wide / Ultrawide แต่ก็เพียงพอในการเก็บภาพเชิงท่องเที่ยวได้อย่างสบายครับ

Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art

Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art กับการถ่าย Cityscape ก็ยังพอถ่ายทอดผลงานออกมาได้อย่างน่าพอใจ โดยเฉพาะรายละเอียดตามอาคารเรียกได้ว่าคมสุดๆครับ

Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art

ยังอยู่ที่ Marina Bay Sands แต่คราวนี้ไฟตามตัวอาคารได้มีการเปิดจนเต็มเรียบร้อย แต่ด้วยความที่ต้องการให้ความชัดลึกเท่าทั่วทั้งภาพ จึงจำเป็นต้องหรี่ค่า F ลงมาซัก F8 – F13 ก็เพียงพอละครับ ซึ่งใน Shots นี้ โชคดีที่มีเรือท่้องเที่ยวผ่านเข้าเฟรมมาพอดี จึงเกิด Effect Long Exposure ในพื้นน้ำด้วยนั่ันเองครับ

Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art

ในช่วงค่ำบริเวณ Marina Bay Sands จะมีการจัดแสดงแสงสีให้ได้ชมกันด้วยครับ โดยที่ตัวอาคารจะมีการเปลี่ยนสี พร้อมกับการแสดง Laser ไปพร้อมๆกันครับ

Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art

Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art

ทริคอีกอย่าง สำหรับเพื่อนๆที่ต้องการเก็บภาพ Marina Bay Sands และ Merlion ให้อยู่ในเฟรมเดียวกัน แนะนำว่าให้ตั้งยิงแบบ Panorama หรือ ใช้เลนส์ Wide ในการถ่ายครับ ซึ่งในภาพเจ้า Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art เก็บมุมดังกล่าวได้ประมาณนี้ครับ

Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art

Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art

วันถัดมา ฟ้าฝนไม่ค่อยเต็มใจเท่าไรนัก เพราะ มีฝนถล่มครึ่งค่อนวันกันเลยทีเดียว ทำให้ต้องแพลนจุดหมายที่จะไปเก็บภาพกันยกใหญ่ แต่ในความโชคร้ายยังมีความโชคดีอยู่ เพราะ น้ำที่นองจากฝนนั้น สามารถทำให้เราถ่ายภาพสะท้อนน้ำ หรือ Reflex ได้อย่างลงตัวสุดๆครับ

Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art

สำหรับการถ่ายภาพแนว Reflex จะคล้ายๆกับการถ่าย Landscape คือ ควบคุมความชัดลึกทั่วทั้งภาพนั่นเองครับ โดยใน Shots นี้ ทีมงานวางกล้องแนบกับพื้น โดย Hood ของ Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art จุ่มน้ำลงไปเล็กน้อยด้วยครับ

Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art

ทีมงานออกเดินทางจากที่พัก ตั้งต้นที่ The Shoppes เพื่อเตรียมไปเก็บมุมมหาชนอีกมุมหนึ่ง โดยจำเป็นต้องเดินผ่านสะพาน Helix ซึ่งสะพานนี้ในช่วงกลางวันจะมีเหมือนสะพานปกติทั่วๆไป แต่เมื่อเข้ายามค่ำคืนจะมีการเปิดไฟที่ประดับไว้ทั่วสะพาน ซึ่งถือเป็นอีกจุดที่ใครมาสิงคโปร์ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่งครับ

Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art

มุมจากบนสะพาน Helix ทีมงานใช้ Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art ถ่ายเก็บ Marina Bay Sands ได้อย่างสบายๆครับ

Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art

ระหว่างเดินทางไปมุมมหาชนนั้น สะพานข้ามแม่น้ำ มีความถึง 1.5 km. นอกจากจะยาวแล้ว ยังมีความชันด้วยครับ แต่มุมจากบนสะพานนี้ ทีมงานยกนิ้วให้เลยครับ

Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art

จากบนสะพานลองถ่ายย้อนเข้าหาเมือง ภาพเดิมๆนี่ ทีมงานบอกได้เลยว่า ทั้งหมอก ทั้งฝุ่นละอองในอากาศค่อนข้างจะหนาทีเดียว ต้องมีการ Process ให้กับภาพซักเล็กน้อยครับ

Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art

และแล้วทีมงานก็มาถึงมุมหาชน โดยมุมนี้เราจะสามารถเก็บภาพที่มีทั้ง Super Tree Grove , ArtScience Museum , Marina Bay Sands ได้ครบภายในเฟรม ( ถ้าเลนส์เราสามารถเก็บได้ ) ซึ่งต้องบอกว่ามีระยะการเดินรวมไปกลับประมาณ 5 km. เลยทีเดียวครับ

Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art

ไหนๆก็เดินทางมาไกล ก็ขอเก็บภาพจาก Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art อย่างเมามันกันละครับ แม้ว่าอาจจะไม่ใช่เลนส์ Wide ก็จริง แต่ก็พร้อมที่จะถ่ายทอดผลงานออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพเช่นกันครับ

Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art

ภาพที่เห็นตรงนี้ จะเป็นบริเวณสันเขื่อนครับ ซึ่งจะมีหญ้าขึ้นปกคลุมค่อนข้างจะสูง ซึ่งในเฟรมนี้ ทีมงานได้ลองใช้ Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art ถ่ายที่ระยะ 18mm. เพื่อให้เห็นเฟรมภาพว่าเพียงพอต่อการใช้งานมากน้อยแค่ไหนกันครับ ส่วนตัวทีมงานค่อนข้างจะพอใจมากครับ เนื่องจากหากได้ใช้ระยะที่กว้างกว่า 18mm. เราอาาจะได้เห็นกอหญ้าหลุดเข้ามาในเฟรมมากกว่านี้ครับ

Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art

มุมมหาชนแค่ไหน เพียงแค่เบี่ยงตัวกล้องมาทางซ้ายมือ เราก็จะได้เห็น Marina Bay Sands คู่กับ Super Tree Grove จากระยะไกล โดย Shot นี้ทีมงานหมุน Zoom ไปที่ระยะ 28mm. ของ Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art ครับ

Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art

หรือ ใครจะเบี่ยงมุม เพื่อเลือกเก็บเฉพาะ ArtScience Museum กับ ชิงช้าสวรรค์ ก็สามารถทำได้เช่นกันครับ ดย Shot นี้ทีมงานหมุน Zoom ไปที่ระยะ 25mm. ของ Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art ครับ

Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art

อำลามุมมหาชนที่ถ่ายด้วย Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art ซึ่งทีมงานเห็นภาพจากหลังกล้อง รู้สึกหายเหนื่อยทันทีหลังจากเดินทางมาระยะไกล

Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art

กลับเข้าเมืองแวะหาร้านอาหารสำหรับมื้อเย็นกันครับ โดยร้านที่ทีมงานไปนั้น ชื่อร้าน Song Fa ซึ่งเป็นร้านที่ได้รับการ Recommend ว่าควรมาลอง โดยเมนูที่แนะนำ คือ บักกุ๊ดเต๋ ครับ ซึ่งเสิร์ฟมาตามภาพเลย โดยที่เด็ดอยู่ที่ตัวน้ำซุปนั้น มีความหอมกลมกล่อมมากครับ และ จะมีการรีฟิลให้เรื่อยๆ ฉะนั้น สายบักกุ๊ดเต๋ ไม่ควรพลาดอย่างยิ่งครับ

Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art

สำหรับการรีวิวของ Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art ก็มาถึงจุดที่ต้องร่ำลากันแล้ว ทีมงานก็ขอฝากอาหารอีกจานหนึ่งไว้ครับ ซึ่งนั่นก็คือ ขาหมู นั่นเองครับ รสชาติอาจจะอ่อนกว่าบ้านเราไปซักหน่อย แต่โดยรวมถือว่าอาหารของสิงคโปร์ค่อนข้างจะใกล้เคียงบ้านเรามากครับ

Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art

ข้อสังเกต  :  Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art

Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art

– น้ำหนักค่อนข้างมาก เนื่องจากเจ้า Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art แม้จะเป็นเลนส์ที่มีทางยาวโฟกัสในช่วง Normal Zoom แต่มีน้ำหนักมากถึง 811 กรัม แม้ว่าดูจากภายนอกอาจจะดูว่าน้ำหนักไม่มากเท่าไรก็ตามที ส่วนหนึ่งมาจากงานประกอบที่เรียกได้ว่าค่อนข้างแข็งแรงเลยทีเดียวครับ

– ไม่มี Weather Seal หรือ ซีลป้องกันละอองน้ำ ละอองฝุ่น ยามที่เราต้องนำไปใช้งานในสถานการณ์ที่ย่ำแย่ เช่น ฝนตก ตะลุยป่าเขา เป็นต้น แต่ยังดีที่เจ้า Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art เวลา Zoom ตัวกระบอกจะไม่มีการยืดหดแต่อย่างใด ทำให้สบายใจเรื่องฝุ่นได้ในระดับหนึ่งครับ

– สามารถหมุนแหวน MF ได้ตลอดเวลา แม้ว่าเราจะอยู่ใน Mode AF ก็ตามที ซึ่งปกติแล้วทีมงานเคยชินกับการใช้งานเลนส์ Mirrorless มาก่อน ซึ่งเจ้าแหวน MF จะใช้งานได้เมื่ออยู่ใน Mode MF เท่านั้นครับ พอได้มาลองสัมผัสเจ้า Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art ทุกครั้งต้องระวังไม่เผลอหมุนแหวน MF เล่นกันเลยทีเดียวครับ

– เมื่อใช้งานร่วมกับ Sigma MC-11 บน Mode Video จะมีเสียง Motor ทำงาน ซึ่งจะมีเสียงเข้าไปรบกวนในงาน Video ด้วยครับ ทั้งนี้หากเป็นงาน Video ที่มีการตัดเสียงทั้งหมดออก แล้ว Insert เสียงใหม่ ปัญหาดังกล่าวจะไม่มีผลใดๆครับ

 

สรุปการใช้งาน :  Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art

Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art

Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art ถือว่าเป็นเลนส์ในช่วง Normal Zoom ที่เป็นมิติใหม่ของเลนส์ช่วงนี้ก็ว่าได้ครับ เพราะ มาพร้อมกับค่ารูรับแสงที่กว้างถึง F1.8 ตลอดช่วงการใช้งาน และ ความที่ถูกจัดอยู่ใน Art Series ด้วยแล้วนั้น Optic ต่างๆก็พร้อมมอบ Output ที่เปี่ยมไปด้วย Performance ที่ทรงประสิทธิภาพได้อย่างหายห่วง โดยเฉพาะในเรื่องความคม และ รายละเอียด ที่สามารถถ่ายทอดผลงานออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมสมกับความเป็น Art Lense ครับ

Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art

สำหรับราคาของ Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art นั้น ปัจจุบันราคาอยู่ที่ 27,900.- พร้อม Promotion ผ่อนผ่านบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ 0% ได้สูงสุด 10 เดือนครับ สินค้าประกันศูนย์ไทย พิเศษสามารถลงทะเบียนเพื่อยืดระยะประกันเพิ่มเป็น 3 ปี ได้ด้วยนะครับ

พิเศษในตอนนี้ Sigma 18-35mm f/1.8 DC HSM Art มี Promotion ส่วนลด 3,000.- จากราคาปกติ 27,900.- เหลือเพียง 24,900.- ถึงวันที่ 31/7/61 เท่านั้นครับ

Price  :  Sigma 18-35 F1.8 DC Art 

บทความนี้เขียนเมื่อ วันที่ 13/07/2018

inbox : http://www.facebook.com/zoomcamera

02-635-2330 ต่อ 0 / 083-067-7677 (หยุดวันอาทิตย์)

สาขาสีลม 02-635-2330-1 / 080-271-2772

สาขาเดอะมอลล์งามวงศ์วาน 02-951-8597 / 085-937-0123

สาขาเมกาบางนา 02-105-1926 / 086-554-1919

สาขาเดอะมอลล์บางแค 02-454-9598 / 084-033-0498

สาขาฟอร์จูนทาวน์ 02-642-1291 / 083-068-2775

สาขา Central Festival เชียงใหม่ 052-068-787 / 096-878-4896

สาขา Central Westgate 02-060-4362 / 097-063-4328

สาขาแฟชั่นไอส์แลนด์ 02-002-3894 / 096-901-7825

 

Leave a Reply

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

Save