ในแทบจะทุกๆวัน ตลาดกล้องมักจะตากล้องเกิดใหม่เพิ่มขึ้นทุกวัน รวมถึงการออกจากวงการกล้องในทุกๆวันเช่นกัน ซึ่งวัฏจักรดังกล่าวส่งผลให้มีตลาดกล้อง / ตลาดเลนส์มือสอง เกิดขึ้นสำหรับการซื้อขายซึ่งกันและกัน ระหว่างตากล้องที่กำลังตามหากล้อง – เลนส์ที่ต้องการ กับ ตากล้องที่นำของที่ตัวเองไม่ได้ใช้ออกวางขาย รวมถึงเหล่าพ่อค้าที่พร้อมนำเสนอสินค้าทั้งมือ 1 และ มือ 2 ให้กับผู้บริโภคเช่นกัน ซึ่งในวันนี้ทางทีมงาน Zoomcamera จะมาแนะเพื่อนๆในแง่มุมของตลาดกล้องมือ 2 กันครับ เพื่อเป็นแนวทางให้กับเพื่อนๆที่มีงบน้อย แต่ต้องการหาอุปกรณ์ชิ้นนั้นๆมาใช้งานต่อไปครับ
*** Buyer Tips : 9 Tips สำหรับการเลือกซื้อกล้อง & เลนส์มือ 2 ***
1. พิจารณาอย่างถี่ถ้วน ก่อนตัดสินใจ
เพื่อนๆหลายๆคนมักจะเจออาการ ” หน้ามืด ” ” อารมณ์ชั่ววูบ ” อยู่บ่อยๆ เมื่อต้องพบเจอกับกล้อง – เลนส์ที่ต้องการในราคาที่ถูกกว่าปกติทั่วไป แต่สำหรับสินค้าที่เป็นของมือสองนั้น อย่าพิจารณาด้วยราคาเพียงอย่างเดียว ควรพิจารณาจากการใช้งานของชิ้นนั้นๆให้ละเอียดถี่ถ้วน หากเป็นเลนส์ ควรเช็คระบบ Focus / ระบบ Zoom ว่าทำงานเป็นปกติหรือไม่อย่างไร เพราะ ราคาที่ถูกจนเกินไป มักมีของแถมที่ไม่พึงประสงค์ตามมาเช่นกัน
2. การต่อรองไม่ใช่เรื่องน่าอาย แต่ควรสมเหตุ สมผล
ในการซื้อขาย เป็นเรื่องปกติที่จะมีการต่อเรื่องก่อนการแลกเปลี่ยนเสมอไป แต่มักจะเกิดขึ้นกับสินค้าที่มีอายุการใช้งานที่นาน , ผ่านการใช้งานมาหนัก และ/หรือ ตามดุลยพินิจของผู้ขาย อาทิเช่น ผู้ขายลงขายกล้องรุ่นๆนึง ราคา 1xxxx บ. สามารถต่อรองได้ตามสมควร ในกรณีควรสอบถามกับทางผู้ขายอย่างชัดเจนและตรงไปตรงมา ว่าสามารถต่อรองได้มากน้อยเท่าไรอย่างไร เพื่อป้องกันการเสียมารยาทจากการต่อรองด้วยนั่นเองครับ
3. ทดลอง – ทดสอบ เพื่อความมั่นใจ
นอกจากพิจารณาจากรูปลักษณ์ภายนอกแล้ว หากเราสามารถทำการทดสอบเบื้องต้นกับอุปกรณ์ที่เราหมายมั่นจะซื้อขายด้วยแล้ว จะเป็นการดีที่สุด เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับเราว่า กล้อง/เลนส์ที่เราซื้อมานั้นไม่ได้มีปัญหาใดๆ ซึ่งหากผู้ขายเป็นผู้ขายที่ดี เขาก็พร้อมให้เราทำการทดสอบการใช้งานเช่นกัน
4. เวลา และ ราคา มีความสัมพันธ์กัน
โดยปกติ เมื่อมีกล้อง และ/หรือ เลนส์รุ่นใหม่ เปิดตัวออกมา สิ่งแรกที่ตากล้องแทบจะทุกคนต้องถามถึง คือ เรื่องของราคารุ่นเก่า เนื่องจากรุ่นใหม่ มักจะออกมาทดแทนรุ่นเดิมเสมอ ประกอบกับแบรนด์มักจัดราคาพิเศษ หรือ โปรโมชั่นให้กับรุ่นเก่า ทั้งในส่วนของราคาที่ถูกลง หรือ การผันผวนของราคาอันมาจากตลาดมือสอง ซึ่งเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ตากล้องส่วนใหญ่ เลือกที่จะบริการกล้องและเลนส์มือสอง มากกว่า การซื้อกล้องและเลนส์มือหนึ่ง นั่นเอง
5. Filter หลักฐานการป้องกันเลนส์
ด้วยความที่ผิวหน้าเลนส์ ที่มีความโล่งๆ เรียบๆ ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดริ้วรอยต่างๆ อันมาจากปัจจัยแวดล้อมรอบข้าง ทั้งรอยขนแมว รอยขีดข่วน ฝุ่นละอองทราย ต่างๆ ที่พร้อมจะทำปฏิกริยากับหน้าเลนส์ ซึ่งในการเลือกซื้อเลนส์นั้น ควรเลือกเลนส์ที่มีการใส่ Filter ป้องกันผิวหน้าเลนส์ไว้ และทางที่ดีควรหมุน Filter ออก เพื่อเช็ครายละเอียดบนหน้าเลนส์เพิ่มเติมด้วยครับ
6. หลีกการซื้อ Battery ที่ผ่านการใช้งานแล้ว
แม้บางท่าน อาจจะแย้งว่า Battery มีอายุการใช้งานที่นาน แต่กลับกัน ลักษณะการใช้งานของแต่ละบุคคลล้วนแตกต่างกันออกไป บางก็ชาร์จตลอดเวลา บ้างก็ชาร์จผิดวิธี บ้างก็เก็บรักษาไม่ถูกวิธี ซึ่งแนะนำว่าควรซื้อแบตเตอรี่ก้อนใหม่จะเป็นวิธีการที่ดีที่สุด
7. เลี่ยงซื้อ Flash ที่มีอายุนาน
สาเหตุหลักๆ เนื่องจากวงจรอิเล็คทรอนิคภายใน เมื่อถึงอายุขัย หรือ อายุที่เสื่อมสลายแล้ว ก็พร้อมที่จะเปลี่ยนจาก Flash เป็นที่ทับกระดาษได้ โดยค่าใช้จ่ายในการซ่อมนั้น บางเคสราคาซ่อมเหมือนได้ราคาของใหม่เลยก็มีเช่นกัน
8. ตรวจเช็ค Insert ของกระเป๋ากล้องเสมอ
แม้สินค้ามือสองจำพวกกระเป๋านั้น มักจะไม่เจออาการผิดปกติใดๆเหมือนในกล้องกับเลนส์ แต่ซึ่งหนึ่งที่ควรเช็ค คือ ภายในของตัวกระเป๋าว่ามีรอยฉีกขาดที่รุนแรงหรือไม่ รวมถึงแผ่น Insert ที่เสมือนเป็นช่องกันสำหรับใส่อุปกรณ์ต่างๆลงไปนั้น ว่าให้มาครบถ้วนเหมือนแต่แรกหรือไม่ เพราะบางครั้งเจ้าของเดิมมีการสลับ Insert ไปมา เพื่อปรับรูปแบบให้เข้ากับการใช้ส่วนตัวนั่นเอง
9. อุปกรณ์เคสเฉพาะทาง ควรเทสจนแน่ใจ
โดยเฉพาะกับ เคสดำน้สำหรับกล้องรุ่นต่างๆ ซึ่งเราจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการทดลอง และ ทดสอบเพื่อความมั่นใจว่า ตัวเคสดังกล่าวจะสามารถใช้งานได้ 100% ไม่ส่งผลเสียต่อกล้อง / เลนส์ของเรา ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้ไม่ค่อยพบเห็นในตลาดมือสองเท่าไรนัก เหตุเพราะเป็นอุปกรณ์เฉพาะทางมากๆ ดังนั้นแนะนำซื้อเป็นมือ 1 จะดีที่สุดครับ
*** ตาดกล้องมือ 2 ที่เป็นที่นิยม และ ไว้ใจได้ในระดับหนึ่ง ***
Credit >>> iso.500px
inbox : http://www.facebook.com/messages/zoomcamera
02-635-2330 ต่อ 0 / 083-067-7677 (หยุดวันอาทิตย์)
สาขาสีลม 02-635-2330-1 / 080-271-2772
สาขาเดอะมอลล์งามวงศ์วาน 02-951-8597 / 085-937-0123
สาขาเมกาบางนา 02-105-1926 / 086-554-1919
สาขาเดอะมอลล์บางแค 02-454-9598 / 084-033-0498
สาขาฟอร์จูนทาวน์ 02-642-1291 / 083-068-2775
สาขา Central Festival เชียงใหม่ 052-068-787 / 096-878-4896
สาขา Central Westgate 02-060-4362 / 097-063-4328
บทความนี้เขียนเมื่อวันที่ 22/06/2017