เปิดโลกกว้าง ณ แดนอุทิตอุทัย กับ Panasonic Leica DG Vario 8-18 F2.8-4 Leave a comment

กราบสวัสดีเพื่อนๆที่ติดตาม Page Zoomcamera ทุกท่าน วันนี้ทีมงาน Zoomcamera ได้จะมาเล่าประสบการณ์การใช้งาน ” เปิดโลกกว้าง ณ แดนอุทิตอุทัย กับ Panasonic Leica DG Vario 8-18 F2.8-4 “ ซึ่งเจ้า Panasonic Leica DG Vario 8-18 F2.8-4 เป็นเลนส์ Ultra Wide รุ่นล่าสุดจากค่าย Panasonic สำหรับกล้องในระบบ Micro Fourthirds ซึ่งก่อนหน้านี้ทีมงาน Zoomcamera ได้นำเจ้า Panasonic Leica DG Vario 8-18 F2.8-4 ทำรีวิวใช้งานในสถานที่จริงรอบๆกรุงเทพไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับในคราวนี้ ทีมงานมีโอกาสได้ไปประเทศญี่ปุ่น ประเทศที่ใครหลายๆคนอยากที่จะไปสัมผัสซักครั้งหนึ่ง สำหรับเพื่อนๆที่ยังสงสัยว่าเจ้า Panasonic Leica DG Vario 8-18 F2.8-4 นั้น มีรูปร่างหน้าตาอย่างไร และ เหมาะกับการใช้งานแบบไหน ทีมงานได้นำข้อมูลส่วนนี้มาแนะนำเพื่อนๆด้วยครับ

 

Panasonic Leica DG Vario 8-18mm. F 2.8-4

” Leica Ultra Wide Zoom ” ที่สุดของเลนส์มุมกว้างจาก Leica ที่เพิ่งวางจำหน่ายไปเมื่อไม่นานมานี้ มาพร้อมทางยาวโฟกัส 16-36mm. เมื่อเทียบกับกล้อง Fullframe จัดว่าเป็นเลนส์ Ultra Wide Zoom รุ่นที่ 2 ต่อจาก Lumix G 7-14 F4 APSH ที่ทำตลาดมาอย่างยาวนานนั่นเอง ความพิเศษเฉพาะ คือ เป็นเลนส์ Wide ที่สามารถใส่ Filter ได้ นอกจากนี้เลนส์รุ่นนี้มาพร้อม Weather Seal ที่ช่วยปกป้องเลนส์ของคุณจากละอองน้ำ ละอองฝุ่นด้วยนั่นเอง 

 

*** เหมาะสำหรับ : การถ่ายภาพแนว Snap / Street / Food / Landscape / Nightscape ***

 

สำหรับเพื่อนๆที่ยังไม่ได้รับชมรีวิว Panasonic Leica DG Vario 8-18 F2.8-4 ก่อนหน้านี้ละก็สามารถรับชมได้ผ่านทาง Link ด้านล่างนี้เลยครับ

Review : Panasonic Leica DG Vario 8-18 F2.8-4

 

Wide View : ญี่ปุ่นในมุมกว้างๆ กับ Panasonic Leica DG Vario 8-18 F2.8-4

 

ตลอดทริปญี่ปุ่นนี้ ทีมงานได้ใช้ Panasonic Lumix GX85 และ Panasonic Leica DG Vario 8-18 F2.8-4 ในการเก็บภาพเป็นหลัก ซึ่งหลังจากที่เครื่องบินลงเทียบสนามบินนาริตะ ซึ่งเป็นเวลา 6.30 ตามเวลาท้องถิ่น ( หรือ 4.30 ตามเวลาประเทศไทย ) ทีมงานก็ไม่พลาดที่จะเก็บบรรยากาศแสงแรกโดยทันทีครับ

ข้อดีของการพก Panasonic Leica DG Vario 8-18 F2.8-4 คือ เป็นเลนส์ Ultra Wide Zoom ที่มีขนาดเล็ก กะทัดรัด น้ำหนักเบา ที่สำคัญ Zoom แล้วกระบอกไม่ยืดออกมาทำให้ไม่เป็นที่สังเกตของคนรอบข้างเรานั่นเองครับ

บรรยากาศแสงเช้าที่ประเทศญี่ปุ่นนั้น บอกได้เลยว่า มีความสวยงามมากครับ โดยเฉพาะการเล่นกับแสงเงา ที่เกิดจากการตกกระทบของแสงนั่นเอง ซึ่งในภาพนี้ทีมงานใช้ Panasonic Leica DG Vario 8-18 F2.8-4 ยกขึ้นมาถ่ายจะทันทีเลยก็ว่าได้ครับ เรียกได้ว่า ระยะทำการเหมาะสมมากๆ

หลังจากผ่านด่าน ตม. เป็นที่เรียบร้อยแล้ว Landmark ที่ผมจะไป คือ สวนใบไม้เปลี่ยนสีในย่านคาวาคูจิ เพื่อเตรียมเก็บใบไม้เปลี่ยนสีในช่วงค่ำคืนนั่นเองครับ ซึ่งระหว่างเส้นทางจากสนามบินนาริตะมานั้น จะผ่านย่านชิสึโอกะซึ่งมี Landmark ลับๆซ่อนตัวอยู่ครับ โดย Landmark แห่งนี้จะเป็นพื้นที่ติดริมแม่น้ำ ที่ซึ่งมีชินกันเซ็น หรือ รถไฟฟ้าความเร็วสูงวิ่งตัดผ่านพอดี ซึ่ง Landmark แห่งนี้เหมาะกับเจ้า Panasonic Leica DG Vario 8-18 F2.8-4 เป็นอย่างยิ่งครับ โดยผมเลือกใช้ Feature 4K Photo ที่อยู่ใน Panasonic Lumix GX85 ที่มีอัตราการเก็บภาพอยู่ที่ 30 Frame / Sec. ซึ่งทำให้ผมไม่พลาดที่จะเก็บ Movement ของรถไฟชินกันเซ็นในเสี้ยววิได้เป็นอย่างดีครับ

หลังจากเดินทางจนมาถึงจุดหมายแรก ด้วยช่วงเวลาหัวค่ำเลยหาร้านสำหรับมื้อเย็นเติมพลังงานกันก่อน เมนูที่ผมเลือกมานัั้น เป็น อุด้งเส้นแบน เสิร์ฟพร้อมซุปเนื้อ ที่รสชาติจัดว่าเด็ดทีเดียวครับ ซึ่ง Panasonic Leica DG Vario 8-18 F2.8-4 ก็สามารถใช้ถ่ายอาหารได้ดี นอกเหนือจากถ่าย Landscape / Cityscape ครับ

เครื่องเคียงที่เสิร์ฟพร้อมจานหลัก เห็นว่าเป็นเต้าหู้ชนิดหนึ่ง รสสัมผัสคล้ายเต้าหู้ผสมงาดำ ครับ

หลังจากเติมพลังเสร็จสรรพแล้ว ผมได้พาเจ้า Panasonic Leica DG Vario 8-18 F2.8-4 มาที่สวนที่มีใบไม้เปลี่ยนสี โดยจุดแรกที่ผมมาถ่ายนั้น บอกได้ว่าเป็นจุดยุทธศาสตร์ก็ว่าได้ครับ เพราะ เป็นจุดเริ่มของสะพานทางเดินที่ห้อมล้อมไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสีครับ และ โชคดีมากๆที่ได้เลือกใช้ Panasonic Leica DG Vario 8-18 F2.8-4 เพราะ ที่ระยะ 8mm. สามารถเก็บเฟรมภาพ เท่ากับภาพที่ถ่ายนี้ได้อย่างสบายๆ หากใช้เลนส์ที่มีทางยาวโฟกัสยาวกว่านี้ อาจจะลำบากกว่านี้ครับ

ที่สวนแห่งนี้ จะคล้ายๆกับสวนแป๊ะก๊วย คือ ตลอดทางเดินจะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวมากหน้าหลายตา ซึ่งวันที่ผมมาเก็บภาพนั้น เจอคนไทยปะปนมาซะส่วนใหญ่ด้วยครับ แม้ว่าเจ้า Panasonic Leica DG Vario 8-18 F2.8-4 จะไม่มีระบบกันสั่นไหวที่ตัวเลนส์ แต่ด้วยการใช้งานบน Panasonic Lumix GX85 ที่มาพร้อมระบบกันสั่นไหว 5 ทิศทาง ทำให้แม้จะใช้งาน Panasonic Leica DG Vario 8-18 F2.8-4 ในสภาพแสงน้อย ระบบกันสั่นไหว ก็ยังช่วยให้การเก็บภาพนั้น ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี

อีกซักมุมนึงของสวนใบไม้เปลี่ยนสียามค่ำคืน ผมนี่รู้สึกอิจฉาคนญี่ปุ่นเป็นอย่างมากครับ มีทั้งธรรมชาติที่สมบูรณ์และทัศนียภาพที่สวยงามลงตัวครับ แนะนำสำหรับเพื่อนๆที่จะมาช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ ให้เตรียมเสื้อกันหนาวมาด้วยนะครับ เพราะอุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ยอยู่ที่ 8 – 15 องศากันเลยทีเดียวครับ หลังจากที่ผมเดินเก็บบรรยากาศจนพอใจแล้ว ก็เดินทางกลับที่พัก เพื่อเติมพลังก่อนจะไปลุยในวันถัดไปครับ

หลังจากนอนพักเอาแรงมาตลอดคืน ยามเช้าก็รีบไปเก็บ Landmark ที่เป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญอีกที่ คือ Chureito Pagoda หรือ เจดีย์แดง นั่นเองครับ สถานที่นี้แนะนำว่าควรรีบมาแต่เช้าครับ เพราะ ไม่งั้นคณะทัวร์จะเต็มทุกพื้นที่ครับ และจะอดเก็บมุมมหาชนกันนะครับ

ยามเช้าของ Chureito Pagoda นั้น จัดได้ว่ามีความเงียบสงบมากครับ ผสมกับบรรยากาศจากธรรมชาติรอบข้าง เรียกได้ว่าสดชื่นตลอดเส้นทางก็ว่าได้ครับ ซึ่งด้วยอาณาเขตที่กว้างนั้น เจ้า Panasonic Leica DG Vario 8-18 F2.8-4 ตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี เพราะ สามารถเก็บบรรยากาศโดยรอบได้เต็มๆเฟรมนั่นเอง

ที่ Chureito Pagoda จะมีมุมที่น่าสนใจอยู่ด้วยกันหลายๆมุม โดยพระเอกในสถานที่นี้ ต้องยกให้ Panasonic Leica DG Vario 8-18 F2.8-4 ครับ เพราะ ด้วยองศารับภาพที่กว้าง จึงทำให้การเดินเก็บทัศนียภาพโดยรอบนั้น ทำได้โดยง่าย

ธรรมชาติโดยรอบของ Chureito Pagoda ในวันที่ผมมาเยือน ใบไม้เริ่มมีการเปลี่ยนสีจาก เขียว – เหลือง – แดง – ส้ม บ้างแล้ว ถือเป็นความสวยงามของธรรมชาติ แม้ว่าฉากหลังที่เป็นท้องฟ้าจะฟ้าขาว ฟ้าปิดก็ตามที่ครับ

มุมด้านข้างของ Chureito Pagoda ซึ่งเป็นอีกสถานที่ที่มีความสำคัญของประเทศญี่ปุ่น รวมถึงเป็นจุดสามารถรับชมวิวภูเขาไฟฟูจิได้ด้วยเช่นกันครับ

และแล้ว ผมก็มาถึง Landmark สำคัญที่สุดของ Chureito Pagoda เพราะเป็นมุม ที่สามารถเห็น Chureito Pagoda โดยมีภูเขาไฟฟูจิอยู่เบื้องหลัง ซึ่งมุมดังกล่าวควรใช้เลนส์มุมกว้าง หรือ เลนส์ Ultra Wide ในการเก็บภาพ ซึ่งในจุดนี้เจ้า Panasonic Leica DG Vario 8-18 F2.8-4 นั้น ตอบโจทย์ได้อย่างเต็มๆแบบไม่มีข้อกังขาใดๆครับ นอกจากนี้มุมดังกล่าว สามารถใช้ประโยชน์จาก Feature ต่างๆภายในกล้องได้อย่างหลากหลาย อาทิเช่น Timelapse / Panorama เป็นต้นครับ

จาก Chureito Pagoda ผมก็ได้ย้าย Location อีกครั้งมาที่ Kitaguchi Hongu Fuji Sengen Jinja Shrine ซึ่งเป็นสถานที่ที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ มีต้นไม้ห้อมล้อมอยู่โดยรอบ ผสมกับความงามจากใบไม้เปลี่ยนสี ซึ่งถือว่ามีความสวยงามอย่างลงตัวครับ

ที่ Kitaguchi Hongu Fuji Sengen Jinja Shrine นี้ สภาพอากาศไม่ค่อยเป็นใจเท่าไรนัก เพราะ ฟ้าปิด แถมด้วยมีฝนลงเม็ดสลับหยุด แต่ก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะ เจ้า Panasonic Leica DG Vario 8-18 F2.8-4 มาพร้อมกับความสามารถ Weather Seal ที่ช่วยปกป้องตัวเลนส์จากสภาพอากาศที่ย่ำแย่ ไม่ว่าจะมาจากฝุ่นละออง / ละอองน้ำ / ละอองฝุ่น ทำให้สามารถใช้งานในสถานการณ์ดังกล่าวได้อย่างสบายใจครับ

หลังจากเห็นสภาพอากาศแล้ว ทีมงานจึงเปลี่ยนเส้นทางเข้าย่านโตเกียว เนื่องจากหากสภาพอากาศยังเป็นเช่นนี้ ไม่ส่งผลดีต่อภาพที่ได้ จาก Panasonic Leica DG Vario 8-18 F2.8-4 ตลอดทริปนี้แน่นอนครับ ซึ่งการติด Panasonic Leica DG Vario 8-18 F2.8-4 คากล้องเสมือนเป็นเลนส์คิตนั้น ทำให้เราแทบไม่ต้องเปลี่ยนเลนส์เลยก็ว่าได้ครับ เพราะ ด้วยระยะ 18-36mm. เทียบเท่า Fullframe ก็เพียงพอต่อการยก Snapshot ในพื้นที่ๆจำกัดนั่นเอง

เมื่อมาถึง Tokyo เป็นที่เรียบร้อย ผมเลือกที่จะไปย่านที่อยู่ใกล้ที่สุดอย่าง Asakusa โดยจุดที่ผมถ่ายภาพมานั้น เป็นบริเวณทางเดินเข้าวัด Asakusa หากมาในช่วงกลางวัน ณ จุดนี้จะเต็มไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตา แต่เมื่อยามค่ำคืนทุกอย่างจะดูสงบ ซึ่งผมตั้งใจให้เป็นเช่นนั้น และเจ้า Panasonic Leica DG Vario 8-18 F2.8-4 ก็พร้อมจะเก็บเฟรมภาพดังกล่าวได้อย่างสบายๆไร้กังวลใดๆครับ

แม้จะเป็นช่วงค่ำคืน แต่ผู้คนไม่ว่าจะเป็นชาวญี่ปุ่นเอง หรือ นักท่องเที่ยวต่างยังคงออกมาเดินตามท้องถนนให้เห็นจนชินตา แม้ว่าร้านค้าส่วนใหญ่จะปิดบริการ และ มีอากาศที่เริ่มเย็นแล้วก็ตามที

หลังจากเดินมาซักพัก ผมก็พ้นจากอาณาเขตของวัด Asakusa เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งในแต่ละสถานที่ของประเทศญี่ปุ่น มักจะสัญลักษณ์แสดงบ่งบอกอย่างชัดเจนครับ ซึ่งส่วนตัวผมมองว่าเป็นเรื่องที่ดีสำหรับนักท่องเที่ยว เพราะ ถนนแต่ละสายของประเทศญี่ปุ่นนั้น สามารถเดินทะลุไปยังเส้นทางต่างๆได้อย่างมากมาย ซึ่งมากมายกว่าประเทศไทยเราอีกครับ ฉะนั้นหากเพื่อนๆที่มาเที่ยวประเทศญี่ปุ่นแล้วกลัวหลงละก็ แผนที่ + Google Map เป็นตัวช่วยชั้นดีเลยครับ

ที่นี่คือห้าง Don.Quijote เป็นห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ที่รวบรวมสินค้าต่างๆเอาไว้อย่างมากมาย หลากหลายรูปแบบ ให้เหล่านักช๊อปได้เลือกเสียทรัพย์กันอย่างอิ่มหนำ โดยไม้เด็ดของห้าง Don.Quijote แห่งนี้ คือ เปิดบริการตลอด 24 ชม. และ สามารถทำเรื่องขอคืน Tax – Refund ได้ที่นี่ทันที โดยไม่จำเป็นต้องไปถึงสนามบินแต่อย่างใด เรียกได้ว่าถูกใจขา Shopping เป็นอย่างมากครับ

สำหรับเช้าวันถัดไป ผมได้เดินทางด้วยรถไฟฟ้าเพื่อไปเตรียมตัวไปยัง Showa Kinen Park สำหรับธรรมเนียมปฏิบัติเมื่อใช้บริการรถไฟฟ้าในประเทศญี่ปุ่น คือ จะต้องปิดเสียง Smartphone ให้เหลือเพียง Vibration เท่านั้น ในส่วนของกล้องนั้น ก็จำเป็นจะต้องปิดเสียง Beep แทน เพื่อป้องกันการรบกวนบุคคลรอบข้างนั่นเองครับ โดยใน Panasonic Lumix GX85 ก็มี Feature E-Shutter และ Silent Mode ที่ตัดเสียงการทำงานของกล้องให้เงียบสนิทที่สุดนั่นเองครับ

หลังจากออกจากรถไฟฟ้าแล้ว จุดหมายที่ทีมงานจะไปกัน คือ สวนแป๊ะก๊วย หรือ Showa Kinen Park นั่นเองครับ โดยระหว่างทางเดินไปนั้นพบว่าสภาพอากาศค่อนข้างกลับมาเป็นใจให้กับทีมงานอีกครั้งครับ ซึ่งแน่นอนเจ้า Panasonic Leica DG Vario 8-18 F2.8-4 ก็พร้อมทำหน้าที่ทันที ในส่วนของ Cityscape นั้น ทีมงานเลือกใช้ค่ารูรับแสงที่ F4 ส่วนทางยาว Focus นั้น ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ตรงหน้าครับ

ผมเห็นตึกนี้ นึกว่ากลับมายืนที่หน้า Central World ราชประสงค์ อีกครั้งเลยก็ว่าได้ครับ แต่สำหรับตึก ISETAN ที่นี่ จะเป็นห้างสรรพสินค้าที่แยกออกมาโดดๆเลยครับ

สำหรับเจ้า Panasonic Leica DG Vario 8-18 F2.8-4 แม้จะเป็นเลนส์ Ultra Wide แต่ด้วยช่วงการใช้งาน รวมถึงตัวเลนส์สามารถ Zoom ได้ ทำให้สามารถยกกล้องขึ้นมาบริเวณหน้าอก แล้วกด Snap โดยที่ตัวแบบไม่รู้ตัวด้วยซ้ำครับ แต่ทั้งนี้ในประเทศญี่ปุ่น หลีกเลี่ยงการ Snap ภาพกับเด็กเล็ก เพราะ ทางประเทศญี่ปุ่นค่อนข้างจะ Safety ในเรื่องของความปลอดภัยและสิทธิส่วนบุคคลเช่นกันครับ

ภายในเมืองของประเทศญี่ปุ่น นอกจากจะเต็มไปด้วยอาคารสูงแล้ว ยังมีรถไฟฟ้าที่ตัดผ่านย่านธุรกิจที่สำคัญ ที่พร้อมอำนวยความสะดวกในการเดินทางจากสถานที่หนึ่ง ไปอีกสถานทีหนึ่งได้อย่างรวดเร็วครับ

อีกสิ่งหนึ่งที่ชวนให้ผมประหลาดใจ คือ แม้ประเทศญี่ปุ่น จะเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว แต่กลับกันประชาชนส่วนใหญ่เลือกที่จะใช้จักรยานเป็นพาหนะหลัก ซึ่งมีจำนวนที่มากกว่ารถยนต์ในท้องถนนนั่นเองครับ โดยในเฟรมนี้ เจ้า Panasonic Leica DG Vario 8-18 F2.8-4 ที่ระยะ 8mm. ก็สามารถเก็บทั้งถนน ทั้งอาคารได้ตามอย่างที่ต้องการครับ

เท่าที่ผมเดินสังเกต จะพบว่าในแต่ละอาคารนั้น มักจะมีสะพานส่วนกลางที่สามารถใช้เดินเชื่อมต่อกันได้อย่างสะดวกมากครับ ซึ่งทางเชื่อมดังกล่าว มักจะเป็นเส้นทางที่ยาวตั้งแต่ 100 เมตร จนถึง 500 เมตรกันเลยทีเดียวครับ

และแล้ว ก็มาถึงจุดหมายที่ถัดไปแล้วนั่นคือ สวนแป๊ะก๊วย หรือ Showa Kinen Park นั่นเอง โดยเป็นสวนสาธารณะที่ห้อมล้อมไปด้วยต้นไม้ใหญ่ ที่มีอากาศร่มรื่นสุดๆ นอกจากนี้ที่สวนแห่งนี้จะเต็มไปด้วยใบไม้ที่มีการผลัดใบ และ เปลี่ยนสีเองตามธรรมชาติครับ โดยจะมีทั้ง เขียว – เหลือง – แดง – ส้ม ซึ่งเป็นความงามตามธรรมชาติที่ลงตัวสุดๆครับ ซึ่งผมใช้ Panasonic Leica DG Vario 8-18 F2.8-4 ปรับค่ารูรับแสงมาที่ F5 เพื่อใช้ในการเก็บภาพในส่วนของ สวนแป๊ะก๊วย หรือ Showa Kinen Park เพื่อเป็นการควบคุมความชัดลึก และ ความคมของภาพนั่นเองครับ

ที่ สวนแป๊ะก๊วย หรือ Showa Kinen Park จะเต็มไปด้วยคณะทัวร์มากหน้าหลายตา รวมถึงคนญี่ปุ่นเอง ที่ส่วนใหญ่นิยมมาเก็บภาพ , มาเก็บบรรยากาศ รวมถึงมีการถ่าย Pre – Wedding ที่นี่ก็มีเช่นกัน เนื่อง Location ที่มีความสวยงามลงตัว คงปฏิเสธไม่ได้ที่ Showa Kinen Park จะได้รับความนิยมนั่นเองครับ

ด้วยเวลาที่ค่อนข้างจำกัด ผมจึงรีบเดินเก็บบรรยากาศโดยรอบๆผ่านเจ้า Panasonic Leica DG Vario 8-18 F2.8-4 ซึ่งจะหมุนมาใช้ที่ระยะ 10 – 13mm. เป็นหลัก เพราะ เลนส์มุมกว้างหากนำมาถ่ายในสถานที่ที่กว้าง ภาพที่ได้อาจจะดูโหลงเหลงจนเกินไปนั่นเองครับ ซึ่งการใช้ Panasonic Leica DG Vario 8-18 F2.8-4 บางครั้งจำเป็นต้องวาดภาพในหัวไว้ก่อน แล้วทำการวาง Composition เท่าที่ตัวเลนส์จะให้เราได้ครับ

จาก สวนแป๊ะก๊วย หรือ Showa Kinen Park ก็ได้เปลี่ยน Location กลับมาที่ย่าน Shopping กันบ้างอย่าง Shibuya โดย Shibuya เป็นย่าน Shopping อีกย่านที่ได้รับความนิยมไม่แพ้ย่านอื่นๆ โดยมีความพิเศษตรงที่ ทางแยก – สัญญาณไฟจราจรจะสัมพันธ์กัน กล่าวคือ ยามใดที่ไฟจราจรเป็นไฟเขียว ผู้คนจะยืนต่อคิวเพื่อรอข้ามถนนอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย กลับกันยามใดที่ไฟจราจรเป็นไฟแดง ผู้คนที่ยืรอข้ามถนน จะพร้อมใจกันเดินข้ามถนน ซึ่งที่ย่านแห่งนี้ จะเต็มไปด้วยแยกต่างๆ ไม่น้อยกว่า 5 แยก ซึ่งการพกเจ้า Panasonic Leica DG Vario 8-18 F2.8-4 มานั้น ก็ไม่ทำให้ผิดหวังแต่อย่างใดครับ เพราะ สามารถเก็บบรรยากาศต่างๆของย่าน Shibuya ได้เป็นอย่างดีครับ

ย่าน Shibuya ในยามที่ไฟจราจรเป็นสีแดง จะเห็นว่ามีเพียงรถโดยสารต่างๆ วิ่งผ่านไปมาหน้าเฟรมกล้องเราเท่านั้นครับ ซึ่ง Panasonic Leica DG Vario 8-18 F2.8-4 ที่ระยะ 8mm. ก็เก็บเฟรมดังกล่าวมาได้อย่างไม่ยากเย็นครับ

ก่อนที่จะจากย่าน Shibuya ไป ผมได้เดินหาร้าน ABC-Mart ซึ่งเป็นร้านขายรองเท้าชื่อดัง เฉพาะในย่าน Shibuya มีร้านดังกล่าวกระจายอยู่ทั่วๆไม่ต่ำกว่า 2 ร้านครับ ที่สำคัญอาจจะต้องเผื่อใจเล็กน้อยสำหรับการหา Size รองเท้า เพราะเท่าที่ผมเดินสำรวจ เบอร์รองเท้าที่มากกว่า เบอร์ 6 ขึ้นไป ค่อนข้างจะไม่มีสินค้าครับให้เลือกซักเท่าไรครับ

หลังจากภารกิจเก็บใบไม้เปลี่ยนสีสำเร็จลุล่วง ผมก็ได้โดยสารรถไฟฟ้าใต้ดินเพื่อเดินทางไปยังย่านชินจูกุครับ ซึ่งผมก็ทำการทดสอบระบบกันสั่นของ Panasonic Lumix GX85 เมื่อใช้งานคู่กับ Panasonic Leica DG Vario 8-18 F2.8-4 ซึ่งระบบกันสั่นก็ให้ Output ที่ออกมาเป็นที่น่าพอใจในระดับนึงเลยครับ

และแล้ว ผมก็มาถึงย่านชินจูกุ ย่าน Shopping ชื่อดังอีกย่านหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น หากจะเทียบกับประเทศเรา คงจะอารมณ์เหมือนจับเอาสยามรวมกับสุขุมวิท กันเลยทีเดียว ซึ่งย่านชินจูกุนี้มีทั้ง Shopping Mall ทั้งขนาดกลาง / ขนาดใหญ่ รวมถึงแหล่งอะโคจรก็อยู่ในย่านชินจูกุด้วยเช่นกันครับ

สำหรับเจ้า Panasonic Leica DG Vario 8-18 F2.8-4 เมื่อถ่ายย้อนแสง และ/หรือ เจอแสงรอบข้างเข้าปะทะหน้าเลนส์จังๆ จะเห็นว่ามีการเกิด Ghost / Flare ให้เห็นบ้างเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้เสียหายมาก จนไม่สามารถนำรูปไปใช้งานได้นั่นเองครับ ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ครับ

ย่านชินจูกุ มีขนาดที่ค่อนข้างจะกว้าง ซึ่งตัวผมเองเดินจนเมื่อยน่องกันเลยทีเดียวครับ ก็ขอสั่งลาย่านชินจูกุด้วยภาพนี้ โดยการใช้ Panasonic Leica DG Vario 8-18 F2.8-4 ลงไปยืนอยู่บนถนนถ่ายเลยครับ

หลังจากกลับจากย่านชินจูกุ ผมเลือกเดินตามทางจากย่าน Asakusa มาเรื่อยๆเพือที่จะกลับที่พัก จากภาพจะเห็นฉากหลังเป็น Tokyo Sky Tree ตั้งตะหง่านอยู่ทามกลางตัวเมืองที่ยังสว่างสไวอยู่ครับ ก่อนที่กลับเข้าที่พัก เพื่อพักฟื้นเติมพลังเตรียมตัวกลับประเทศไทยครับ

เนื่องจากเป็นทริปที่จำเป็นต้องแข่งกับเวลา ยามเช้าหลังจากเก็บของจากที่พักแล้ว ผมได้มุ่งหน้าไปที่วัด Asakusa อีกครั้ง หลังจากที่เมื่อคืนผมได้เดินผ่าน Location มาแล้วนั่นเอง ซึ่งระหว่างทางเดินนั้น ทีมงานได้พบกับ Tokyo Sky Tree ซึ่งเป็น Landmark ที่สำคัญอีกที่หนึ่ง ตั้งเด่นสง่าโดยมีแม่น้ำเป็นฉากหน้า

สำหรับสภาพอากาศของประเทศญี่ปุ่นในช่วงเดือนพฤศจิกายน อากาศช่วงเช้าจะค่อนข้างเย็นสบาย แต่ในบางครั้งธรรมชาติก็พร้อมจะกลั่นแกล้งตากล้องเช่นกัน เพราะ หลังจากที่ทีมงานเก็บภาพ Tokyo Sky Tree ไป 1 ภาพ หันหามุมใหม่อีกมุม ปรากฏว่าเมฆได้เข้ามาบดบังทัศนีภาพเป็นที่เรียบร้อยครับ

จุดหมายสุดท้าย เราไปกันที่วัด Asakusa วัดเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น ชนิดที่นักท่องเที่ยวที่มาประเทศญี่ปุ่นต่างต้องแวะมาที่นี่ เพื่อสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์นั่นเองครับ ทีมงานเดินหามุมถ่ายอยู่นาน ข้อสังเกตสำหรับที่วัด Asakusa นี้ จะมีผู้คนจำนวนมาก มากชนิดจำเป็นต้องให้หลุดเข้ามาในเฟรมของเราด้วย ซึ่งไม่ใช่ปัญหา เพราะ เจ้า Panasonic Leica DG Vario 8-18 F2.8-4 ก็ยังสามารถเก็บทั้งตัววัดพร้อมกับบุคคลได้อย่างหมดจด โดยทีมงานเลือกใช้ค่ารูรับแสงที่ F4 เพื่อคุมความชัดลึกของภาพ ซึ่งผมขอลาท่านผู้ชมไปด้วยภาพนี้เลยครับผม

 

*** กล่าวส่งท้าย ***

 

เป็นอย่างไรกันบ้าง สำหรับบทความ ” เปิดโลกกว้าง ณ แดนอุทิตอุทัย กับ Panasonic Leica DG Vario 8-18 F2.8-4 “ เลนส์ Ultra Wide รุ่นล่าสุดสำหรับกล้องในระบบ Micro Fourthirds ที่มาพร้อมความสามารถในหลายๆด้าน ไม่ว่าจะเป็น Weather Seal / สดวมใส่ Filter ได้ ทำให้สามารถประยุกต์ใช้งานได้หลากหลายไม่ว่าจะเป็น Landscape / Long Exposure เป็นต้น นอกจากนี้ยังเป็นเลนส์ Ultra Wide Zoom รุุ่นแรกที่ตีตรา Leica ทำให้มั่นใจในคุณภาพของภาพที่ได้เมื่อนำไปใช้งานจริง สำหรับเพื่อนๆที่ใช้งานกล้อง Mirrorless ในระบบ Micro Fourthirds อยู่ละก็เจ้า Panasonic Leica DG Vario 8-18 F2.8-4 จึงเป็นเลนส์อีก 1 รุ่นที่ควรมีไว้ครอบครองครับ

 

*** ราคาและโปรโมชั่น ***

 

สำหรับราคาของเจ้า Panasonic Leica DG Vario 8-18 F2.8-4 จะอยู่ที่ 42,990 บ. มาพร้อมโปรโมชั่นร่วมกับบัตรเครดิต สามารถผ่อนชำระ 0% นานสูงสุด 12 เดือน ( ขึ้นอยู่กับบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ ) เพื่อนๆที่สนใจสามารถ Walk-In มาที่หน้าสาขาของ Zoomcamera ทั้ง 7 สาขา เพื่อทดลองสินค้าประกอบการตัดสินใจ และ/หรือ สามารถสั่งสินค้าผ่านทางช่องทาง Online อย่าง Facebook Chat Messenger หรือ Line Zoomcamera ได้เช่นกันครับ

 

Click : Panasonic Leica DG Vario 8-18 F2.8-4

 

 

*** สอบถามเพิ่มเติม ***

inbox : http://www.facebook.com/messages/zoomcamera

02-635-2330 ต่อ 0 / 083-067-7677 (หยุดวันอาทิตย์)

สาขาสีลม 02-635-2330-1 / 080-271-2772

สาขาเดอะมอลล์งามวงศ์วาน 02-951-8597 / 085-937-0123

สาขาเมกาบางนา 02-105-1926 / 086-554-1919

สาขาเดอะมอลล์บางแค 02-454-9598 / 084-033-0498

สาขาฟอร์จูนทาวน์ 02-642-1291 / 083-068-2775

สาขา Central Festival เชียงใหม่ 052-068-787 / 096-878-4896

สาขา Central Westgate 02-060-4362 / 097-063-4328

 

 

Leave a Reply

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

Save