รีวิว DJI Air 2S โดรนเซ็นเซอร์ 1 นิ้ว ถ่ายวิดีโอสูงสุด 5.4K ระบบเซนเซอร์ 4 ทิศทางที่ฉลาดขึ้นกว่าเดิม คุ้มค่าสุด ถ่ายวิดีโอสวยระดับโปร Leave a comment

โดรนถ่ายภาพเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์สำคัญที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับคนชอบเดินทางท่องเที่ยว หรือ เหล่าคอนเทนต์ครีเอเตอร์ ที่ต้องการถ่ายทอดเรื่องราวผ่านภาพถ่าย วีดีโอ มุมสวย ๆ จากมุมมองบนท้องฟ้า ที่ใครเห็นก็ต้องร้อง ว้าว ! ล่าสุด DJI แบรนด์ชั้นนำด้านการผลิตโดรนถ่ายภาพ ถ่ายวีดีโอ ได้ปล่อยโดรนรุ่นใหม่ ” DJI Air 2S ” เป็นโดรนรุ่นที่ผมต้องบอกเลยว่าไม่กั๊กสเปก แบบรุ่นอื่น ๆ ที่เคยมีมา จะเป็นยังไง วันนี้ผมมารีวิวให้ทุกคนแล้วครับ

ก่อนหน้านี้ DJI ก็ได้ปล่อยโดรนรุ่นเล็กอย่าง DJI MINI 2 และ DJI Air 2 มาแล้ว ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ซึ่งทั้ง 2 ตัวมีความโดดเด่นที่แตกต่างกันโดย DJI MINI 2 เป็นรุ่นเล็ก เน้นพกพา น้ำหนักเบา ถ่ายภาพ ถ่ายวีดีโอ คุณภาพสูงได้ประมาณหนึ่งแต่ไม่สุด โดดเด่นในเรื่องของราคาที่จับต้องได้ หลังจากนั้นต่อมาก็ปล่อย DJI Air 2 โดรนระดับกลางที่จัดเต็มฟังก์ชั่นการทำงาน โหมดการบินหลากหลาย ระบบรักษาความปลอดภัย เซนเซอร์จัดเต็มมาก ราคาก็สูงประมาณหนึ่ง แต่แอบกั๊กสเปคบางอย่างเอาไว้ และ ในที่สุดเขาก็ปล่อยออกมาแบบไม่กั๊กกับรุ่นใหม่นี้ DJI Air 2S

ทาง DJI ได้นำเอาสเปคของโดรนรุ่นท็อปอย่าง DJI Mavic 2 Pro และ DJI Phantom 4 pro มาใส่ในรุ่น Air 2S นี้ ได้แก่ เซนเซอร์ขนาด 1 นิ้ว ทำให้ถ่ายภาพได้ดีขึ้นมาก เก็บแสง เก็บรายละเอียด จัดการ Noise ได้ดีขึ้น , โหมดถ่ายภาพ ถ่ายวีดีโอ ครบแบบโดรนระดับโปร , ระบบเซนเซอร์ตรวจจับสิ่งกีดขวาง หน้า หลัง บน และ ปรับปรุงระบบ Active Track 4.0 , spotlight 2.0 , Point of interest 3.0 ให้เก่งขึ้น ฉลาดขึ้นเหมือนโดรนเรือธง ฯลฯ

สำหรับคนที่สนใจ หรือ ซื้อมาแล้ว ได้เปิดใช้งานครั้งแรกก็ลองดูคลิปวีดีโอสอนใช้งานนี้ดูกันก่อนได้ครับ หรือ จะเข้าไปหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของ DJI โดยตรงได้เลย

จุดเด่นที่น่าสนใจของ DJI Air 2S

• เซ็นเซอร์ใหญ่ 1 นิ้ว พัฒนามาใหม่ทำให้ถ่ายภาพและวีดีโอได้ความละเอียดและ ทำ Dynamic range 12.6 Stop ได้ , จัดการ Noise ได้ดีมากขึ้น
• ภ่ายภาพได้ความละเอียดสูงสุด 20 ล้านพิกเซล ถ่ายไฟล์ RAW ได้ ให้ Dynamic Range 12.6 Stop แบบกล้องถ่ายภาพมืออาชีพ
• เลนส์มุมกว้าง ระยะเลนส์ 22mm F2.8
• ถ่ายวิดีโอสูงสุด 5.4K 30fps , 4K 60fps และ FullHD 1080p
• คุณภาพไฟล์วิดีโอสูงสุดที่บิตเรท 150Mbps และ สามารถถ่าย 10bit Dlog-M Color Profile ได้
• มีโหมดถ่ายภาพ HDR, Panorama, Wide Angle, 180 Degree, Sphere
• ระบบกันสั่นแบบ 3 แกนที่ตัวกล้อง
• บินได้นานสูงสุด 31 นาที
• ระบบหลบหลีกสิ่งกีดขวางด้วยเซนเซอร์ 3 จุดสำคัญ Upward, Forward, Backward
• ระบบใหม่ Active Track 4.0 ปรับปรุงใหม่ ให้ติดตามวัตถุแม่นยำขึ้นกว่าเดิม และ เพิ่มระบบ Tracking อื่น ๆ เช่น Spotlight 2.0, Point of Interest 3.0 
• บินได้ไกลสูงสุด 12 กิโลเมตร ควบคุมด้วย Ocusync 3.0 Transmission
• ซูมดิจิตอลได้สูงสุด 8 เท่า
• พื้นที่เก็บข้อมูลภายในตัวเครื่อง 8GB
• น้ำหนักตัวเครื่อง 595 กรัม

เปรียบเทียบความแตกต่างของโดรนแต่ละรุ่น

ทำไมโดรนรุ่นนี้ถึงน่าสนใจกว่าโดรนรุ่นอื่น ๆ

เซนเซอร์ขนาดใหญ่ 1 นิ้ว เหมือน โดรนเรือธง เก็บรายละเอียดของภาพได้ดีขึ้น

DJI Mavic Air 2S ได้เปลี่ยนมาใช้เซ็นเซอร์ขนาด 1 นิ้ว ซึ่งเป็นเซ็นเซอร์เดียวกับโดรนเรือธงอย่าง DJI Mavic 2 Pro และ DJI Phantom 4 Pro ในราคาค่าตัวระดับกลาง คุ้มค่าสุด ๆ ซึ่งทำให้ภาพที่ได้จากโดรน Mavic Air 2S นี้ มีรายละเอียดดีมากขึ้นกว่ารุ่น Air 2 ปกติ และการถ่ายวิดีโอก็ได้ภาพที่ดีขึ้น เก็บแสง เก็บรายละเอียด จัดการ noise ดีขึ้นด้วยเช่นกัน

รองรับการถ่ายไฟล์ RAW ได้ ซึ่งให้ Dynamic Range สูงถึง 12.6 สต็อป เอาไป Post process ได้สบาย

การที่โดรนมี Dynamic Range ที่สูงขนาดนี้ทำให้เอาไปปรับแต่งภาพได้ยืดหยุ่นมากขึ้น แม้ว่าจะถ่ายมาแล้ว Under Exposure หรือ Over Exposure ก็ตาม เราก็ดึงกลับเอารายละเอียดที่ดีกลับมาได้ ช่วยแก้ไขปัญหาหน้างานได้ดี สะดวกในการถ่ายมากขึ้น ซึ่งปกติแล้ว โดรนระดับกลาง และ ระดับเริ่มต้นจะไม่สามารถทำได้แบบนี้

เลนส์มุมกว้าง ระยะ 22mm F2.8 ถ่ายทอดเริ่มราวได้ครบถ้วน เก็บรายละเอียดได้ดีขึ้นเพราะมี ND Filter มาให้ในชุด (เฉพาะชุด Combo Package)

ระยะเลนส์ของ DJI Mavic Air 2S จะอยู่ที่ 22mm ค่ารูรับแสงที่ 2.8 เมื่อเทียบกับกล้อง Full Frame ซึ่งเป็นมุมมองที่กว้างกำลังดี ไม่แคบไป และ ไม่กว้างจนมี Distortion หากต้องการถ่ายมุมกว้างกว่านี้ตัวโดรนก็มีซอฟแวร์ภายในช่วย จะเป็นโหมดการถ่ายแบบ Panorama, Wide Angle, 180 Degree และ Sphere ครับ

รองรับการถ่ายวิดีโอสูงสุดที่ 5.4K 30fps , 4K 60fps และ FullHD 1080p

เนื่องจากขนาดเซนเซอร์ที่ใหญ่ขึ้นจึงทำให้สามารถถ่ายวีดีโอที่มีความละเอียดสูงขึ้นได้ ซึ่งถ้าใครต้องการภาพที่มีความละเอียดสูงก็แนะนำให้ถ่ายเป็น 5.4K แต่ถ้าต้องการถ่ายแล้วไหลลื่น ภาพสมูท แนะนำเป็น 4K 60 fps จะดีกว่าครับ แค่นี้ก็เพียงพอกับการใช้งานในปัจจุบันแล้ว จะสังเกตได้ว่า ขนาดใน Youtube ดูวีดีโอ 4K ยังต้องใช้เวลาในการโหลดประมาณหนึ่ง ถ้าเป็น 5.4K คงต้องใช้ในงานที่เน้นภาพสวย และ ดูผ่านอุปกรณ์ที่รองรับ ซึ่งในปัจจุบันยังใช้กันเป็นส่วนน้อย ถือว่าโดรนรุ่นนี้ให้เทคโนโลยีอนาคตมารองรับไว้ สามารถใช้กันได้ยาว ๆ อีกหลายปีไม่ต้องเปลี่ยนกันเลย

ถ่ายวีดีโอด้วยบิตเรทที่ 150Mbps ได้ และ มี 10bit Dlog-M Color Profile ช่วยให้ทำสีวีดีโอได้ยืดหยุ่นมากขึ้น

บิตเรทยิ่งเยอะ ยิ่งดีส่งผลทำให้คุณภาพวีดีโอดีมากขึ้น เสริมด้วยการใส่ 10 bit DLog-M Color profile มาให้ด้วย ใครที่ชอบเกรดสีต้องถูกใจโปรไฟล์สีแบบนี้แน่นอน

มีระบบกันสั่น 3 แกนมาให้ ช่วยให้การถ่ายวีดีโอนิ่งมากขึ้นเวลาขึ้นบิน

ระบบกันสั่น 3 แกนกลายเป็นมาตรฐานที่โดรนทุกรุ่นระดับท็อปต้องมีให้มาแล้ว ถ้าไม่มีคงน้อยหน้าโดรนรุ่นน้องแย่เลย การมีระบบกันสั่นเมื่อใช้งานกับกล้องเวลาบินโดรนจะทำให้ภาพนิ่ง สมูท ไม่สั่นไหว ไม่ทำให้ผู้ชมวีดีโอรู้สึกรำคาญเวลารับชม

ระบบเซ็นเซอร์หลบสิ่งกีดขวาง 3 จุด Upward, Forward, Backward ถูกปรับปรุงพัฒนามาใหม่ ฉลาดกว่าเดิม

ในรุ่นนี้ได้ใส่เซ็นเซอร์มาให้ 3 จุด ได้แก่ ด้านหน้า ด้านบน และด้านหลัง ครอบคลุมตำแหน่งสำคัญที่โดรนจะมองเห็นเพื่อหลบสิ่งกีดขวางอยู่ตรงไหน ขณะบินด้วยโหมดอัตโนมัติไม่ต้องกลัวชนแน่นอน

โฟกัสจับวัตถุแม่นยำด้วยระบบ Active Track 4.0 , Spotlight 2.0 และ Point of Interest 3.0

DJI Air 2S ใส่ระบบติดตามมาทุกแบบเหมือนโดรน Mavic 2 Pro และ Phantom 4 pro ได้แก่ Active Track 4.0 ทำให้โดรนบินติดตามวัตถุที่เรากดล็อคไว้ได้ และ มีระบบ Spotlight 2.0 ทำให้โดรนสามารถบิน เข้าใกล้วัตถุที่เราโฟกัสได้ และ ยังให้ภาพคมชัดอยู่ สุดท้าย Point of Interest 3.0 ทำให้โดรนบินรอบวัตถุที่เราโฟกัสได้โดยมีสิ่งที่เราโฟกัสเป็นจุดศูนย์กลาง

ใช้งานร่วมกับแอพฯ DJI Fly เพื่อใช้งานฟีเจอร์ตัดต่อพิเศษ ” Master Shots ” ให้คุณได้วีดีโอสวย ๆ แบบมือโปร

Master Shot เป็นฟีเจอร์พิเศษที่เพิ่มเข้ามาในแอพ DJI Fly ช่วยให้เราถ่าย และ ตัดต่อวีดีโอแบบง่าย ๆ โดยที่มี Guideline และ template วีดีโอมาให้ แค่เรากดปุ่มถ่าย และ ควบคุมโดรนอีกนิดหน่อย ก็ได้ Footage video สวย ๆ แบบมือโปร และ Export หรือ Share วีดีโอส่งต่อให้เพื่อน และ แชร์ขึ้นบนโซเชียลได้ทันที

รีวิวจาก Influencer ต่างประเทศ

ขอบคุณคลิปวีดีโอจากช่อง The Verge

ขอบคุณคลิปวีดีโอจากช่อง FlytPath

ขอบคุณคลิปวีดีโอจากช่อง Drone Film Guide

มีจำหน่ายด้วยกัน 2 ชุด ได้แก่ DJI Air 2S single และ DJI Air 2S combo

ตัวเครื่องมีความเหมือนกันทุกประการแต่จะแตกต่างกันในส่วนของอุปกรณ์ที่ให้มาในชุด ถ้าเป็นชุด Combo จะมีอุปกรณ์เพิ่มเข้ามาให้อีก 4 ชิ้น ได้แก่ ND Filter set , Battery Charger Hub , Battery Power bank adapter , Shoulder Bag และ spare part แบตเตอรี่เป็น 3 ก้อน ใบพัดเป็น 6 ชิ้น จะเห็นได้ว่าชุด Combo คุ้มกว่ามาก แต่ก็ต้องดูเรื่องของการใช้งานด้วย ถ้าคุณเป็นคนที่บินโดรนแบบมือสมัครเล่น ไม่ได้จะจริงจังอะไร บินแปปเดียวก็เก็บ ไม่ได้พกออกไปท่องเที่ยวแบบลุยหนัก ๆ แบตเตอรี่ 3 ก้อน กับ อุปกรณ์เสริมอีกมากมาย ก็คงไม่ได้จำเป็นขนาดนั้น ถ้าให้แนะนำเพื่อความยืดหยุ่นในการใช้งาน ลองหาซื้อเป็นแบตเตอรี่เพิ่มอีก 1 ก้อน ไว้สำรอง ก็จะประหยัดกว่า

ราคาจำหน่าย ณ วันเปิดตัว

• DJI Air2S single ราคา 33,990 บาท (สินค้าประกันศูนย์ไทย)
• DJI Air2S combo ราคา 42,990 บาท (สินค้าประกันศูนย์ไทย)
• DJI Air2S single+service plus ราคา 35,990 บาท (สินค้าประกันศูนย์ไทย)
• DJI Air2S combo+service plus ราคา 44,990 บาท (สินค้าประกันศูนย์ไทย)

บทความเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้อง

• รีวิว DJI Mini 2 โดรน 4K จิ๋วแต่แจ๋ว เล็ก เบา 249 กรัมพร้อมบิน
• รีวิว DJI osmo pocket 2 กล้องวีดีโอเล็ก เบา พกพาง่าย มีกันสั่นในตัว ถ่ายวีดีโอ 4K 60 fps ระบบบันทึกเสียงดีกว่าเดิม เหมาะกับคนรักการทำคอนเทนต์
• DJI FPV รุกตลาดโดรนความเร็วสูง มือใหม่ มือเก่าใช้งานง่าย ถ่ายวีดีโอ 4K 60fps ระบบควบคุม Motion Control บินได้เร็วถึง 140 กิโลเมตร/ชั่วโมง
• พรีวิว DJI OM 4 ไม้กันสั่นมือถือที่ใช้งานง่ายที่สุด ” ติด-แปะ-บิด ” ไม่ต้องเซ็ตบาลานซ์ พร้อมใช้งานทันที

ลูกค้าที่สนใจสั่งซื้อสินค้า สามารถติดต่อสั่งซื้อได้ผ่านช่องทางออนไลน์ของทางร้านได้ตลอด 24 ชม. หรือ โทรเข้ามาโดยตรงผ่านโทรศัพท์

แอดไลน์ ID:@ZoomCamera หรือ หน้าเว็บไซด์ ZoomCamera
083-067-7677 / 02-098-9555 ต่อ 0 (หยุดวันอาทิตย์)