ต่อยอดความสำเร็จซีรีย์ไม้กันสั่นมือถือที่ขายดีที่สุด DJI Osmo Mobile แต่รอบนี้เขาได้เปลี่ยนชื่อมาใช้เป็น ” DJI OM ” เป็นที่เรียบร้อย ในรุ่นนี้เป็นรุ่นที่ 5 แล้ว มาในคอนเซ็ปต์ ” DJI OM 5 Master Every Shot ” โดยเน้นการออกแบบทั้งดีไซน์และฟีเจอร์เพื่อตอบโจทย์คนที่รักการถ่ายวีดีโอด้วยสมาร์ทโฟนทั้ง IOS และ Android จุดเด่นหลักที่น่าสนใจจะมีอะไรบ้าง บทความนี้สรุปมาให้ทุกครนได้อ่านกันแล้วครับ แถมมีคลิปวีดีโอรีวิวให้ชมกันด้วยนะ
DJI OM 5 หรือ จะเรียก DJI Osmo mobile 5 ก็ได้ เป็นกิมบอลมือถือระบบมอเตอร์ 3 แกน ให้ความนิ่งมาก ๆ เวลาใช้งาน มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบาเพียง 324 กรัม รองรับน้ำหนักมือถือได้สูงสุด 230 กรัม มือถือเครื่องใหญ่ ๆ อย่าง Iphone 12 pro max ใส่ได้สบาย หรือ ถ้าใครไม่แน่ใจว่ามือถือเราจะใส่ได้ไหม ใช้งานได้เต็มระบบหรือป่าว สามารถเข้าไปตรวจสอบรุ่นมือถือใช้งานกับ DJI OM 5 ในเว็บไซต์ DJI ได้เลยครับ ที่สำคัญเราไม่ต้องเซ็ตบาลานซ์ของกิมบอลด้วยนะ แค่แปะมือถือเข้ากับตัวกิมบอล ก็ใช้งานได้ทันที สะดวกมาก ในส่วนฟีเจอร์การถ่ายภาพ และ วีดีโอ มีมาให้ครบถ้วนเหมือนรุ่นเดิม ได้แก่ Panorama,CloneMe Pano,Story Mode,Dynamic Zoom,Timelapse,SpinShot ฯลฯ ที่เพิ่มเข้ามาให้จะเป็นตัว ” Shotguide ” ตัวช่วยสอนถ่ายวีดีโอสำหรับมือใหม่
นอกจากนี้การดีไซน์ตัวกิมบอล ก็มีการเพิ่มด้ามจับให้สามารถยืดออกมาได้เป็นไม้เซลฟี่อีกด้วย ซึ่งดีมาก ๆ เลย ยังไม่พอยังมีการออกแบบตัวกริปจับมือถือแบบใหม่ที่มีไฟส่องสว่างสำหรับคนที่ชอบถ่ายวีดีโอกลางคืนคงถูกใจสิ่งนี้
รายละเอียกสเปก DJI OM 5
- ขนาดกระทัดรัดพกพาสะดวก น้ำหนักเบาน้ำหนักเบากว่าเดิมเพียง 290 กรัม พับเก็บใส่กระเป๋าได้สบาย
- กิมบอล 3 แกน ผสานกับอัลกอริทึ่มแบบใหม่ ปรับให้เข้ากับการเคลื่อนไหว นิ่งสมูทกว่ารุ่นก่อน
- ตัวมอเตอร์มีการปรับปรุงใหม่ ให้รองรับสมาร์ทโฟนขนาดใหญ่ ที่น้ำหนักเยอะได้
- สามารถยืดออกเป็นไม้เซลฟี่ได้สูงสุด 21.5 ซม.
- ใส่สมาร์ทโฟนได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน
- ตัวที่จับมือถือยังคงคอนเซ็ปต์แม่เหล็ก Magnetic Clamp อยู่เหมือน DJI OM 4
- ตัวกริป Magnetic clamp มีไฟส่องสว่าง เป็นไฟ Fill light ช่วยให้ถ่ายวีดีโอในที่แสงน้อยได้ดีขึ้น (อุปกรณ์เสริม ซื้อเพิ่ม)
- มีระบบ ActiveTrack 4.0 ติดตามโฟกัสวัตถุที่เคลื่อนไหวได้ดีขึ้น
- ฟีเจอร์ ShotGuides คลัง Template วีดีโอที่จะช่วยให้ถ่ายวีดีโอสวย ๆ ได้เหมือน Content creator มือโปร จบได้ในแอพฯ DJI Mimo
- มีโหมดอัจฉริยะ เพื่อการถ่ายภาพและวิดีโอ เช่น Panorama, CloneMe Pano, Story Mode, Dynamic Zoom, Timelapse, SpinShot
- แบตเตอรี่ใช้งานได้นาน 6.4 ชั่วโมง ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ชาร์จ 1 ครั้ง ใช้เวลาชาร์จเต็ม 1.5 ชม.
- ขนาดโดยรวม 264.5×111.1×92.3 มม.
- น้ำหนักโดยรวม 324 กรัม
- รองรับน้ำหนักมือถือได้สูงสุด 230 กรัม
- ใช้บลูทูธ 5.0
3 การเปลี่ยนแปลงใหม่ที่โดดเด่นน่าสนใจ
Shotguide ฟีเจอร์เด็ด สอนมือใหม่หัดถ่ายวีดีโอด้วยกิมบอลมือถือ ให้สามารถถ่ายวีดีโอออกมาได้เหมือนมืออาชีพ
พูดถึงฟีเจอร์นี้กันแบบละเอียดหน่อยดีกว่า เพราะว่าเป็นตัวชูโรงของรุ่นนี้เลย ฟีเจอร์นี้จะมี Template ให้เราเลือกใช้งาน เช่น Portrait , Landscape , Pet , Freinds ฯลฯ โดยตัวฟีเจอร์จะโชว์คลิปวีดีโอตัวอย่างให้เราดู เพื่อให้ Copy ถ่ายตามได้เลย ซึ่งเป็นตัวช่วยมือใหม่ที่ไม่มีทักษะการวางเฟรม การเคลื่อนกล้อง เคลื่อนกิมบอล ให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น และ ฟีเจอร์ตัวนี้ต้องใช้งานผ่านแอพฯ DJI Mimo เท่านั้น
ด้ามจับสามารถยืดเป็นไม้เซลฟี่ได้ ช่วยเพิ่มความกว้างของตัวกล้องได้
เป็นอีกหนึ่งเทรนที่ถ้า DJI ไม่ทำก็ถือว่าสู้คู่แข่งลำบาก ซึ่ง DJI OM 5 สามารถยืดตัวด้ามจับออกมาเป็นไม้เซลฟี่ได้ยาวถึง 21.5 ซม. มีความแข็งแรงมาก และ การที่ยืดออกแบบนี้ได้ ทำให้เราขยายมุมการรับภาพของกล้องหน้าได้กว้างขึ้น ใครที่ชอบถ่าย Vlog ก็สามารถถ่ายให้เห็นฉากหลังได้ง่าย ไม้ต้องยืดมือออกไปให้เมื่อยอีกแล้ว
Fill Light Magnetic Phone Clamp กริปจับมือถือที่มีไฟส่องสว่าง แต่ต้องซื้อเพิ่ม
เวลาเราถ่ายวีดีโอในที่แสงน้อยก็ทำให้หน้าเรามืดใช่ไหม และ เมื่อหน้ามืดตัวกล้องก็จะดันค่า ISO ให้ภาพสว่างขึ้น Noise ก็จะตามมาในวีดีโอของคุณ แต่ถ้ามีไฟช่วยส่องสว่างในที่แสงน้อยก็จะเป็นการลด Noise ในวีดีโอให้ลดลงไปบ้างได้ประมาณหนึ่ง DJI เลยออกแบบกริปจับที่มีไฟส่องสว่างขึ้นมา เป็นทางเลือกให้ผู้บริโภคอย่างเรา ๆ ได้เลือกซื้อกันไป ตัวนี้เป็นอุปกรณ์เสริมแยกขายนะ ไม่รวมอยู่ในเซ็ต
สรุปเปรียบเทียบ DJI OM 5 กับ DJI OM 4
- มีขนาดเล็กลงกว่ารุ่นเดิม น้ำหนักเบากว่ารุ่นเดิม พกพาสะดวกมากขึ้น ขนาดเล็กเพียงแค่ 1 ฝ่ามือเท่านั้น
- ปรับดีไซน์การออกแบบใหม่ ตัวด้ามยืดออกเป็นไม้เซลฟี่ได้ 21.5 ซม. ตัว Magnetic Clamp มีให้เลือกซื้อเพิ่มเป็นแบบ Fill Light Magnetic Clamp
- ฟีเจอร์ที่เพิ่มเข้ามาจะ Shotguide สอนมือใหม่ถ่ายวีดีโอ , Active Track 4.0 ดีขึ้นกว่าเดิม และ มอเตอร์ที่ปรับจูนให้นิ่งมากขึ้น
- ช่องเสียบ USB Type A หายไป
- รองรับน้ำหนักของมือถือขนาดใหญ่ในตลาดอย่าง Iphone 12 Pro Max ได้สบาย ๆ (Maximum payload 230g)
- ตัว Magnetic Clamp ของรุ่นเดิม DJI OM 4 สามารถใช้กับ DJI OM 5 ได้ แต่ของรุ่น DJI OM 5 ไม่สามารถใช้กับรุ่นเดิมได้
- แบตเตอรี่ของ DJI OM 5 ใช้งานต่อเนื่องได้ยาวนานเพียง 6.4 ชม.เท่านั้น น้อยกว่า DJI OM 4 ที่ทำได้ถึง 15 ชม. แต่ชาร์จได้เร็วกว่ารุ่นเดิม 1 ชม. ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง
รีวิว DJI OM 5 โดย Influencer มากมาย
ขอบคุณคลิปวีดีโอรีวิวจากช่อง Munk TV
ขอบคุณคลิปวีดีโอรีวิวจากช่อง iJustine
ขอบคุณคลิปวีดีโอรีวิวจากช่อง Matti Haapoja
ขอบคุณคลิปวีดีโอรีวิวจากช่อง WetalkUAV [Alex Assenmacher]
DJI OM 5 ราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ณ วันเปิดตัว
มีให้เลือกทั้งหมด 2 สี ได้แก่ Athens Gray (สีเทา) , Sunset White (สีขาวตุ่น ๆ)
- DJI OM 5 ทั้ง 2 สี ราคา 5,099 บาท (สินค้าประกันศูนยไทย)
- DJI OM Fill Light Phone Clamp ราคา 1,599 บาท (สินค้าประกันศูนยไทย)
- DJI OM Magnetic Phone Clamp (ราคาขายแยก) ราคา 699 บาท (สินค้าประกันศูนยไทย)
อุปกรณ์ภายในกล่อง
- ตัวกิมบอล DJI OM 5 จำนวน 1 ชิ้น
- กริปจับมือถือ Magnetic Phone Clamp 2 จำนวน 1 ชิ้น
- ขาตั้ง Grip Tripod จำนวน 1 ชิ้น
- สาย Power Cable USB Type-A to USC Type-C จำนวน 1 เส้น
- ถุงใส่ของ Storage Pouch จำนวน 1 ถุง
- สายคล้องข้อมือ Wrist Strap จำนวน 1 เส้น
บทความเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้อง
- รีวิว DJI Mini 2 โดรน 4K จิ๋วแต่แจ๋ว เล็ก เบา 249 กรัมพร้อมบิน
- DJI MINI SE กับ DJI MINI 2 ต่างกันอย่างไร เปรียบเทียบความแตกต่างอย่างละเอียด
- รีวิว DJI osmo pocket 2 กล้องวีดีโอเล็ก เบา พกพาง่าย มีกันสั่นในตัว ถ่ายวีดีโอ 4K 60 fps ระบบบันทึกเสียงดีกว่าเดิม เหมาะกับคนรักการทำคอนเทนต์
ลูกค้าที่สนใจสั่งซื้อสินค้า สามารถติดต่อสั่งซื้อได้ผ่านช่องทางออนไลน์ของทางร้านได้ตลอด 24 ชม. หรือ โทรเข้ามาโดยตรงผ่านโทรศัพท์
แอดไลน์ ID:@ZoomCamera หรือ หน้าเว็บไซด์ ZoomCamera
083-067-7677 / 02-098-9555 ต่อ 0 (หยุดวันอาทิตย์)